ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2774

สรุปบท ตอนที่ 2774 จานเซียนอมตะ: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2774 จานเซียนอมตะ – ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet

บท ตอนที่ 2774 จานเซียนอมตะ ของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 2774 จานเซียนอมตะ

ผู้เฒ่าเซียนแห่งดินแดนภาคกลางมาแล้ว ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตก็มาแล้ว ในวันนี้เทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลมาด้วยตนเอง แม้ว่าผู้เฒ่าเซียนแห่งดินแดนภาคกลางและยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตต่างไม่ได้ระเบิดอานุภาพที่ปราศจากผู้ต่อกรด้วยความจงใจ และไม่ได้อาศัยพลังที่ปราศจากผู้ต่อกรมาสยบทั่วหล้า

แต่ว่าพวกเขาทั้งสองอยู่ในเรือรบลำยักษ์ที่อยู่บนท้องฟ้าของเมืองจู่เฉิง ยังคงทำให้ผู้คนทั้งหมดในเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่ปราศจากผู้เทียบเทียมในหล้า ขณะกลิ่นอายเทพแท้จริงขั้นอมตะชั้นคงความอมตะตลอดกาลที่เหมือนมีเหมือนไม่มีวนเวียนอยู่บนท้องฟ้าของเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขานั้น ได้ทำให้บางคนหายใจหอบไม่ทัน ทำให้ภายในใจของผู้คนรู้สึกอึดอัดยิ่งนัก เหมือนเป็นก้อนหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งที่กดทับอยู่ในใจของทุกคนอย่างนั้น

เมื่อระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะชั้นคงความอมตะตลอดกาลสองท่านมาด้วยตนเอง นาทีนี้ทุกคนต่างรู้สึกเป็นกังวลต่อคนโหดอันดับหนึ่ง ผู้คนจำนวนมากต่างเข้าใจว่า มาคราวนี้เกรงว่าคนโหดอันดับหนึ่งจะสองหมัดยากจะต่อกรสี่มือ แม้ว่าคนโหดอันดับหนึ่งจะแข็งแกร่งมากกว่านี้ เมื่อต้องต่อกรกับระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะชั้นคงความอมตะตลอดกาลพร้อมกันถึงสองท่าน เกรงว่าคงยากจะมีความได้เปรียบอะไร กระทั่งต้องเสียชีวิตด้วยซ้ำ

“มาแล้วก็ดี” ขณะที่ผู้คนจำนวนมากต่างไม่มั่นใจในคนโหดอันดับหนึ่งอยู่นั้น ในเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขาปรากฎเสียงที่เรียบเฉยและเอ้อระเหยของหลี่ชิเย่ดังขึ้น เสียงของเขาดังก้องกังวานอยู่บนท้องฟ้า “สังหารเทพแท้จริงขั้นอมตะชั้นคงความอมตะตลอดกาลสักสามถึงห้าคน พอดีให้ข้าได้อุ่นเครื่องสักหน่อย”

“บ้าระห่ำ บ้าดีเดือด!” ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ต้องตาค้างลิ้นพันกัน เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของหลี่ชิเย่ ทุกคนต่างมองหน้ากันและกันในเวลานี้ ทุกคนล้วนแล้วแต่ได้ยินจนรู้สึกงุนงง

สังหารเทพแท้จริงขั้นอมตะชั้นคงความอมตะตลอดกาลสามถึงห้าคนยังเป็นแค่อุ่นเครื่องเท่านั้นเอง คำพูดที่โอหังถืออำนาจบาตรใหญ่เช่นนี้ เกรงว่าคงมีเพียงระดับปฐมบรรพบุรุษเท่านั้นที่พูดออกมาได้

เกรงว่าผู้ที่พูดว่าสังหารเทพแท้จริงขั้นอมตะชั้นคงความอมตะตลอดกาลสามถึงห้าคนออกจากปากได้ตามอารมณ์นั้น ก็ต้องเป็นระดับปฐมบรรพบุรุษชั้นแดนลัทธิเซียนจึงจะทำได้

“นิสัยที่โอหังอวดดีคุกคามผู้อื่น กระทั่งใช้อำนาจบาตรใหญ่ทำตัวหยิ่ง” ในใจของผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกหวั่นไหว และเสียวสันหลังวาบ และกล่าวว่า “ปรมาจารย์ท่านนี้ของนิกายหู้ซานจงแข็งแกร่งถึงขั้นนี้จริงหรือ?”

ฮึ…ในเวลานี้ เสียงฮึที่น่าเกรงขามดังขึ้น พลันที่เสียงฮึเสียงนี้ดังขึ้นได้ระเบิดฟ้าดินจนแยกออกจากกัน ระเบิดจักรวาลดวงดาวจนละเอียด ระเบิดท้องฟ้านับล้านลี้ ระเบิดทำลายเส้นทางนับหมื่นลี้

แค่เสียงฮึน่าเกรงขามเสียงหนึ่ง เสมือนดั่งฟ้าดินถูกระเบิดจนหายวับไปกับตาในพริบตาเดียว ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกถึงอานุภาพยิ่งใหญ่พลันสยบลงกลางใจของตน ขาทั้งสองข้างสั่นเทา และต้องคุกเข่าลงอยู่ที่ตรงนั้นโดยตรง

“คงความอมตะตลอดกาลพลันโกรธแค้น!” แค่เสียงฮึที่น่าเกรงขามเสียงนี้ก็มีอานุภาพที่น่ากลัวขนาดนี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง แม้แต่เทพแท้จริงขั้นอมตะก็พลันมีสีหน้าที่ขาวซีดในทันที

“พลันที่ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตโกรธแค้น เคยทำให้ท้องฟ้าร้องไห้เป็นฝนเลือด แคว้นโบราณยันต์แปดทิศทั้งหมดตกอยู่ท่ามกลางความมืดมิด ศัตรูผู้แข็งแกร่งหมื่นพันเคยหายวับไปกับตาในพริบตาภายใต้ความโกรธแค้นของเขา” มีระดับบรรพบุรุษที่ได้ยินเสียงฮึน่าเกรงขามนี้ก็รู้ว่านี่คือการโกรธแค้นของยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต ถึงกับสั่นเทาในใจและหนาวสะท้านไปทั่วร่าง เหมือนหนึ่งตกลงไปในถ้ำน้ำแข็งอย่างนั้น

“สมควรฆ่า…” ในเวลานี้ เสียงที่แผ่วเบาเสียงหนึ่งดังขึ้น ซึ่งก็คือเสียงของผู้เฒ่าเซียนแห่งดินแดนภาคกลางนั่นเอง

แม้ว่าผู้เฒ่าเซียนแห่งดินแดนภาคกลางไม่เหมือนเช่นยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตที่พลันโกรธแค้นก็สยบทั่วหล้า แต่ว่า ยามที่เสียงแผ่วเบาของเขาดังขึ้นมานั้น หนาวเหน็บเข้าไปถึงกระดูก ทุกคนที่อยู่ในเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขาล้วนแล้วแต่รู้สึกเหมือนตนเองอยู่ท่ามกลางหิมะอย่างนั้น เหมือนลมหนาวเย็นยะเยือกโชยมา ทำให้ผู้คนจำนวนเท่าไรพลันถูกความเย็นยะเยือกที่น่ากลัวทำให้กลายเป็นน้ำแข็งแกะสลัก

“น่ากลัว…” ผู้คนจำนวนเท่าไรมีสีหน้าที่ขาวซีด รู้สึกเสียวสันหลังวาบเมื่อมองเห็นผู้คนจำนวนไม่น้อยหนาวจนกลายเป็นน้ำแข็งแกะสลักท่ามกลางเสียงนี้ ต่างไม่กล้าเผยตัวออกมาด้วยการหลบอยู่ภายในบ้าน

“หากระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะชั้นคงความอมตะตลอดกาลสองคนลงมือพร้อมกันล่ะก็ มันสามารถค้ำยันท้องฟ้าของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารทั้งหมดได้เลยนะ” มียอดฝีมือที่รู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงในใจ สั่นเทิ้มทีหนึ่งและกล่าวว่า “หากพวกเขาทั้งสองร่วมมือกัน ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารของพวกเรายังจะมีผู้ใดสามารถต่อกรได้รึ?”

“นับว่าน่ากลัวโดยแท้ หากผู้เฒ่าเซียนแห่งดินแดนภาคกลางร่วมมือกับยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต เกรงว่าสามารถต่อสู้กับปฐมบรรพบุรุษ ชั้นแดนลัทธิพรรษ” ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะท่าทางหนักแน่นจริงจัง

“คนโหดอันดับหนึ่งสามารถต่อกรได้จริงรึ?” ทุกคนต่างรับรู้ถึงความน่ากลัวของระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะชั้นคงความอมตะตลอดกาล ในเวลานี้ผู้คนจำนวนมากต่างรู้สึกว่า ภายใต้การร่วมมือระหว่างผู้เฒ่าเซียนแห่งดินแดนภาคกลางและยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต เรียกได้ว่าคงรอดยาก

“การเข่นฆ่ามารสังหารสิ่งชั่วร้ายเป็นสิ่งที่พวกเราสมควรกระทำ” ขณะที่ทุกคนต่างคาดหวังกับศึกในครั้งนี้อยู่นั้น อีจ้าวเหว่ยในฐานะรัชทายาทแคว้นโบราณยันต์แปดทิศได้เป็นตัวแทนของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศประกาศทำศึกปราบปราม

นิกายหู้ซานจงฝ่าฝืนคำสั่งสอนบรรพบุรุษ ตกต่ำเข้าสู่ฝ่ายมาร พึ่งพาอาศัยต่อจอมมาร เข้าเป็นพวกกับคนโหดร้าย เข่นฆ่าศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางนับพันนับหมื่น เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ สังหารคนดี ทำความชั่วในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร แคว้นโบราณยันต์แปดทิศในฐานะผู้เป็นที่คาดหวังของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร ยินดีแบกรับการภารกิจขจัดมารผดุงคุณธรรมที่หนักอึ้ง…มาวันนี้ จ้าวเหว่ยไม่เจียมตนยินดีสู้กับคนโหดมารร้ายถึงที่สุด ดังนั้นจึงขอเชิญชวนผู้กล้า และสำนักใต้หล้าร่วมให้ความช่วยเหลือ ช่วยเหลือจ้าวเหว่ยอีกแรง ร่วมกันเปิดใช้จานเซียนอมตะ

คำประกาศศึกปราบปรามของรัชทายาทอีจ้าวเหว่ยแห่งแคว้นโบราณยันต์แปดทิศพลันส่งตรงไปถึงมือของสำนักเจ้าลัทธิจำนวนนับไม่ถ้วนของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารทันที ระดับบรรพบุรุษจำนวนมากต่างได้รับคำประกาศศึกปราบปรามของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศในลำดับแรก

“ร่วมกันเปิดใช้จานเซียนอมตะ!” ภายในใจของแคว้นเจ้าลัทธิจำนวนมากถึงกับสดุ้งเมื่อได้ยินคำพูดคำนี้ ผู้คนจำนวนมากต่างรู้สึกเสียวสันหลังวาบ รู้สึกว่ากำลังจะเกิดเรื่องใหญ่แล้ว

“มีความจำเป็นจะต้องเปิดใช้จานเซียนอมตะจริงรึ?” แม้แต่ระดับบรรพบุรุษที่เก่ากะลาบางส่วนยังถึงกับลังเลนิดหนึ่ง หลังจากได้ยินคำประกาศศึกปราบปรามลักษณะเช่นนี้แล้ว

“จานเซียนอมตะใช้เพื่อการสังหารมารทำลายศัตรูมาโดยตลอดมิใช่รึ? เวลานี้นำมาใช้กับนิกายหู้ซานจงมันเหมาะสมรึ?” ในขณะนี้ ตระกูลขุนนางโบราณที่เก่าแก่โบราณบางส่วนอดที่จะไตร่ตรองกับสิ่งนี้ไม่ได้

“จานเซียนอมตะน่ะ เมื่อไหร่ที่เปิดใช้เกรงว่านิกายหู้ซานจงจะต้องถูกทำลาย คนโหดอันดับหนึ่งต้องตายแน่นอน” มีผู้ยิ่งใหญ่ท่าทางสะดุ้งกับสิ่งนี้

เมื่ออักขระยันต์แต่ละตัวที่มีลักษณะเช่นนี้ถูกสลักเอาไว้ตรงนั้น ก็จะพบว่าในเวลานี้ภาพรวมของอักขระยันต์ทั้งหมดคล้ายดั่งเป็นจานเซียนที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารใบหนึ่ง ตัวอักขระยันต์ทั้งหมดที่อยู่บนจานเซียนล้วนแล้วแต่ถูกหล่อและเจียรไนอยู่บนจานเซียน เมื่อตัวอักขระยันต์ที่ดูไปแล้วว่าเป็นการสลักเอาไว้ตรงนั้น ความจริงก็คือ ตัวอักขระยันต์ที่เดิมถูกสลักเอาไว้ตรงนั้นเพียงถูกจุดติดให้สว่างขึ้นมาเท่านั้น

“มีอักขระยันต์จำนวนสามในสิบแปดตัวถูกจุดติด เป็นการนำเอาอักขระยันต์สามตัววางลงบนจานเซียนอมตะแล้ว” มีผู้ร้องเสียงดังขึ้นมาเมื่อมองเห็นภาพนี้แล้ว รู้สึกไม่ใช่เรื่องดี

“นั่นมันคืออักขระยันต์สามตัวของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศนั่นเอง” ผู้ยิ่งใหญ่รู้สึกตระหนก เมื่อเห็นอักขระยันต์บนท้องฟ้าถูกจุดติด

ในครั้งนั้น ผู้เฒ่าอมตะได้ทิ้งอักขระยันต์เอาไว้สิบแปดตัว โดยอักขระยันต์ทั้งสิบแปดตัวได้ตกไปอยู่ในมือของแคว้นเจ้าลัทธิสิบแปดแห่ง

ต่อมาภายหลัง จากการที่กาลเวลาเคลื่อนผ่านไป ความรุ่งเรืองและความเสื่อมสลับสับเปลี่ยนเจ้าของไปครั้งแล้วครั้งเล่า อักขระยันต์จานเซียนอมตะที่อยู่ในมือของพวกเขาก็จะถูกสำนักที่แข็งแกร่งมากกว่าเขาแย่งชิงเอาไป

มาถึงวันนี้ แคว้นโบราณยันต์แปดทิศในฐานะที่นับเป็นแคว้นเจ้าลัทธิที่แข็งแกร่งมากที่สุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร ในมือของพวกเขามีอักขระยันต์จานเซียนอมตะอยู่สามตัว

เสียงตึง ตึง ตึงดังขึ้น ในเวลานี้เอง บนท้องฟ้ามีอักขระยันต์สว่างไสวขึ้นมาอีกแล้ว เหมือนเป็นตัวอักขระยันต์ตัวแล้วตัวเล่าที่ถูกสลักเอาไว้บนท้องฟ้าอย่างนั้น มีความสุกใส และประกายสีทองแวบวับ

“ห้าในสิบแปด” ผู้คนจำนวนไม่น้อยจ้องมองไปบนท้องฟ้าอย่างไม่ลดละ เมื่อเห็นตัวอักขระยันต์บนท้องฟ้าได้สว่างไสวขึ้นมาอีกครั้ง

“น่าจะเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลาง อักขระยันต์สองตัวของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางก็ใส่ลงไปแล้ว” เมื่อมองเห็นอักขระยันต์บนท้องฟ้าสว่างไสวขึ้นมาอีกครั้ง

ในมือของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางก็มีอักขระยันต์อยู่สองตัว ในครั้งนี้ แคว้นโบราณยันต์แปดทิศได้ประกาศทำศึกเพื่อเปิดใช้จานเซียนอมตะขึ้น ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางได้ปฏิบัติตามทันที ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่ในความคาดคิดอยู่แล้ว

“แคว้นโบราณยันต์แปดทิศร่วมมือกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลาง มีอักขระยันต์รวมห้าตัวอยู่ในความครอบครอง ซึ่งนั่นเท่ากับมีพลังใกล้เคียงหนึ่งในสามของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร แล้วล่ะ” มียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่รู้สึกตระหนกเมื่อได้เห็นภาพลักษณะเช่นนี้

…………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล