ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2775

สรุปบท ตอนที่ 2775 ท้ารบ: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

อ่านสรุป ตอนที่ 2775 ท้ารบ จาก ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 2775 ท้ารบ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายAction ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 2775 ท้ารบ

จานเซียนอมตะลอยอยู่เหนือท้องฟ้าสูงของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร ครั้นจานเซียนอมตะถูกจุดติดห้าในสิบแปดแล้ว ภายในใจของทุกคนถึงกับรู้สึกอึดอัดขึ้นมา ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกเหมือนมีกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เล่มหนึ่งที่แขวนอยู่เหนือหัวใจของตนสูงขึ้นไป กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ลักษณะเช่นนี้มีความเป็นไปได้ที่จะไหลลงมา และตัดเอาศีรษะของตนได้ทุกเมื่อ

“นี่เป็นการริเริ่มที่ไม่ดีเอามากๆ เลยทีเดียวนะเนี่ย” ระดับบรรพบุรุษเก่ากะลาบางส่วนอดที่จะเป็นกังวลต่อสิ่งนี้ไม่ได้

“เมื่อใดที่มีการเปิดศักราชเช่นนี้แล้ว ต่อไปนี้จานเซียนอมตะก็จะกลายเป็นอาวุธที่อาศัยส่วนรวมแก้แค้นส่วนตัว เท่ากับว่าผู้ที่กุมจานเซียนอมตะจะสามารถทำได้ทุกอย่างตามอำเภอใจ สามารถตั้งตนเป็นจ้าวใต้หล้าได้ตามอารมณ์ อาละวาดเป็นทุกแห่งหน” ระดับบรรพบุรุษที่เก่ากะลายิ่งถึงกับกล่าวด้วยความกังวล

อย่างไรก็ตาม ความกังวลเช่นนี้ไร้ประโยชน์ เวลานี้ผู้ที่ควบคุมสถานการณ์ทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารทั้งหมดก็คือพวกแคว้นโบราณยันต์แปดทิศซึ่งเป็นสำนักที่มีกำลังกล้าแข็งเหล่านั้น

ตึง ตึง ตึงเสียงคำรามดังขึ้นเป็นระลอก ขณะที่ผู้คนจำนวนไม่น้อยเป็นกังวลกับสิ่งนี้อยู่นั้น บนท้องฟ้าปรากฏประกายที่สว่างไสวขึ้นมาอีกครั้ง มองเห็นจานเซียนอมตะที่อยู่บนท้องฟ้ามีอักขระยันต์ที่ถูกจุดติดขึ้นมาอีกแล้ว

“หกในสิบแปด! เท่ากับจำนวนหนึ่งในสามของจานเซียนอมตะแล้ว” มีผู้ที่ร้องเสียงดังขึ้นมาเมื่อเห็นอักขระยันต์ที่ถูกจุดติดขึ้นมา

“เป็นสำนักไหนกันนะที่นำเอาอักขระยันต์ของจานตนเองใส่ลงไป?” ถูกคนต่างตระหนักได้ว่า มีสำนักที่นำเอาอักขระยันต์ที่ตนมีอยู่ใส่ลงไป เมื่อเห็นจานเซียนอมตะได้สว่างไสวขึ้นอีกครั้งด้วยจำนวนอักขระยันต์หนึ่งในสามจากสิบแปด

แต่ว่า สำนักที่นำอักขระยันต์ของตนใส่ลงไปไม่ได้แสดงตัว และไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆ ออกมา เพื่อแค่นำอักขระยันต์ใส่ลงไปเท่านั้น เพื่อกระตุ้นจานเซียนอมตะในส่วนที่เป็นของพวกเขาเท่านั้น ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าสำนักนี้ได้ขานรับการร้องขอของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ และดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางแล้ว

“เกรงว่าสำนักแห่งนี้คงมีการบรรลุข้อตกลงเป็นการลับกับแคว้นโบราณยันต์แปดทิศและดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางแล้ว ไม่แน่นัก อาจได้รับผลประโยชน์แล้วล่ะ” หลังจากที่สำนักเจ้าลัทธิและแคว้นโบราณจำนวนไม่น้อยเห็นว่ามีสำนักที่นำเอาอักขระยันต์ของตนใส่ลงไปแล้ว กลับไม่ได้มีการแสดงตน ทำให้พวกเขารู้แล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“สิ่งนี้นับเป็นการเริ่มต้นที่ไม่ดีแลย เป็นการทำให้กฎที่ยอมรับกันมาเป็นพันล้านปีของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารต้องสับสนวุ่นวาย” มีระดับบรรพบุรุษไม่อาจไม่กังวลกับสิ่งนี้

เดิมที่จานเซียนอมตะมีไว้สำหรับต่อต้านกับศัตรูภายนอก สังหารมารผดุงคุณธรรม แต่ไม่ใช่นำมาเข่นฆ่ากันเอง ยิ่งไม่ควรจะเป็นเหมือนเช่นเวลานี้ ถึงกับไม่มีคำแถลงการณ์ใดๆ ด้วยการปิดบังฐานะของตนแล้วนำอักขระยันต์ที่ตนมีอยู่ใส่ลงไป ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง นี่เป็นการอาศัยอำนาจแอบดำเนินการทางลับ หากการกระทำเช่นนี้สำเร็จเป็นรูปเป็นร่างขึ้น ดีไม่ดีอนาคตทุกคนในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่อยู่ไม่เป็นสุข

เสียงตึง ตึง ตึงดังขึ้นมา ในเวลานี้จานเซียนอมตะที่อยู่บนท้องฟ้ามีอักขระยันต์ที่ถูกจุดติดขึ้นมาอีก

เจ็ดในสิบแปด ไม่สิ แปดในสิบแปด…มีผู้ที่ร้องเสียงดังขึ้นมา

“แย่แล้วมีผู้ที่เอาอักขระยันต์ใส่ลงไปอีกแล้ว เก้าในสิบแปดแล้ว…” เวลานี้ จิตใจของผู้คนภายในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารหวั่นไหว สำนักเจ้าลัทธิแคว้นโบราณจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกกังวลขึ้นมา โดยเฉพาะบรรดาสำนักที่ไม่สามารถมีอักขระยันต์ไว้ในครอบครองยิ่งรู้สึกเป็นกังวลอย่างยิ่ง เนื่องจากนี้เป็นการเริ่มต้นที่เลวร้ายยิ่ง และจะนำพาลักษณะประเพณีที่เลวร้ายอย่างยิ่งมาให้กับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร

“เป็นสำนักใดกันนะที่เอาอักขระยันต์ของตนใส่ลงไป” ผู้คนจำนวนมากต่างติดตามถามหาเมื่อเห็นว่าเพียงแค่เวลาสั้นๆ ก็มีอักขระยันต์ถูกใส่ลงไปอีกสาม

แต่ว่า ไม่มีใครทราบ ทุกคนต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน บรรดาผู้ที่มีอักขระยันต์อยู่ในครอบครองไม่ประกาศหรือแถลงใดๆ ทั้งสิ้น ใส่ลงไปโดยการปกปิดชื่อของตน

ในเวลานี้ บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตน และสำนักเจ้าลัทธิแคว้นโบราณทั้งหมดจึงได้ตระหนักแล้วว่า มาถึงวันนี้ ทางแคว้นโบราณยันต์แปดทิศได้บรรลุข้อตกลงกับบรรดาสำนักที่มีอักขระยันต์ในครอบครองเรียบร้อยแล้ว

“ในครั้งนี้ แคว้นโบราณยันต์แปดทิศไม่เพียงต้องการแก้แค้นเท่านั้น พวกเขาก็ต้องการยืนยันฐานะในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารของตน! แคว้นโบราณยันต์แปดทิศต้องการเป็นผู้นำใต้หล้า” ผู้มีปัญญามองออกถึงความนัยดังกล่าว

“มาคราวนี้ แคว้นโบราณยันต์แปดทิศต้องการฉวยโอกาสเกี่ยวกับวิธีการเปิดใช้จานเซียนอมตะมาบัญชาการใต้หล้า ทำให้บรรดาแคว้นเจ้าลัทธิใต้หล้าล้วนแล้วแต่ต้องฟังคำบัญชาของเขา เมื่อใดที่ทำได้สำเร็จ ย่อมเป็นการบ่งบอกว่าแคว้นโบราณยันต์แปดทิศจะได้เป็นผู้ครองอำนาจปกครองระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร” ผู้มีปัญญาผู้นี้อดที่จะรู้สึกกลัดกลุ้มใจยิ่งนัก

ผู้ยิ่งใหญ่จำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกตระหนกในใจ หลังจากที่เข้าใจความหมายที่ลึกซึ้งในการกระทำของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศแล้ว สำนักของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารที่มีอักขระยันต์อยู่ในครอบครองล้วนแล้วแต่เป็นสำนักที่มีกำลังแข็งแกร่งมากที่สุดทั้งสิ้น

ถ้าหากว่าบรรดาสำนักที่มีอักขระยันต์อยู่ในครอบครองล้วนแล้วแต่ฟังคำบัญชาของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ นั่นย่อมบ่งบอกว่าบรรดาสำนักเหล่านี้ล้วนแล้วแต่สนับสนุนฐานะของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็จะเป็นการสร้างฐานะของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศได้อย่างมั่นคง หลังจากนี้แคว้นโบราณยันต์แปดทิศจะต้องได้ครองอำนาจการปกครองระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารแน่นอน

เมื่อถึงขั้นนั้นแล้ว แคว้นโบราณยันต์แปดทิศแค่ส่งเสียงร้องขอออกมา ก็ต้องมีผู้ที่ติดตามมาทันที

ตึง ตึง ตึงเพียงไม่นานนักตามติดด้วยเสียงที่ดังขึ้น และจานเซียนอมตะบนท้องฟ้าก็ได้สว่างไสวขึ้นมาอีกครั้ง จานเซียนอมตะได้ปรากฏอักขระยันต์ที่ถูกจุดติดไปแล้วกว่าครึ่ง

“สิบในสิบแปด สิบเอ็ดในสิบแปด สิบสองในสิบแปด!” สุดท้าย เมื่ออักขระยันต์ถูกสลักเอาไว้บนท้องฟ้าแล้ว แม้แต่ระดับบรรพบุรุษยังต้องใจหายใจคว่ำอยู่ในใจ

“นี่คือกำลังความสามารถสองในสามแล้ว” ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกหวั่นไหวในใจ เมื่อมองเห็นผลเช่นนี้

“เอาล่ะ ไม่ต้องคุยโม้อยู่ตรงนั้นแล้ว” ขณะที่รัชทายาทแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ อีจ้าวเหว่ยพูดยังไม่ทันจบ เสียงที่เอ้อระเหยของหลี่ชิเย่ได้ดังขึ้น และกล่าวว่า “พรุ่งนี้ข้าจะไปที่เมืองจู่เฉิง สังหารสิ้นพวกไร้สมองอย่างพวกเจ้า จะเป็นเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลอะไร ผู้ดำรงอยู่ในฐานะปราศจากผู้ต่อกรอะไรนั่น ล้วนแล้วแต่รีบๆ มากัน ข้าจะได้สังหารพวกเจ้าทั้งหมดในคราเดียว เพื่อไม่ให้ข้าต้องลงมือมาก”

ร้องเอ็ดตะโรท้าทายต่อยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต และเฒ่าเซียนแห่งดินแดนภาคกลาง ท่าทางที่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ของหลี่ชิเย่ทำให้ผู้คนจำนวนมากตาค้างพูดอะไรไม่ออกในเวลานี้

“พาลอย่างบ้าระห่ำ คนโหดอันดับหนึ่งไม่เสียทีที่เป็นอันดับหนึ่ง” ยอดฝีมือถึงกับยกนิ้วโป้งให้เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ชิเย่

“พรุ่งนี้ ณ เมืองจู่เฉิง ไม่ตายไม่เลิกรา!” ในเวลานี้บนท้องฟ้าได้ปรากฏคาถาที่ทิ้งตัวลงมา ขณะที่คาถาดังกล่าวทิ้งตัวลงมาเสมือนดั่งฟ้าร้องระเบิดขึ้นกลางใจของทุกคน นี่เป็นเสียงของยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตนั่นเอง

“ตกลง พรุ่งนี้แหละ พวกเจ้าล้างคอให้สะอาด เพื่อสะดวกต่อข้าที่จะตัดหัวพวกเจ้า” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวด้วยท่าทีตามอารมณ์ยิ่ง

ฮึ…ฮึ…บนท้องฟ้าปรากฎเสียงฮึน่าเกรงขามขึ้นสองคำ เสมือนหนึ่งฟ้าผ่าที่ระเบิดขึ้นมา

ย่อมไม่ต้องสงสัย ทั้งสองเสียงเป็นของยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต และเฒ่าเซียนแห่งดินแดนภาคกลางนั่นเอง จากเสียงที่เปล่งออกมา ทำให้รับรู้ได้ถึงอารมณ์โกรธของพวกเขาได้

“สุดยอดศึกใหญ่แห่งยุคอยู่ที่พรุ่งนี้แล้ว” ในเวลานี้ สร้างความฮือฮาไปทั่วเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขา ข่าวที่สะเทือนเลื่อนลั่นพลันแพร่สะพัดไปทั่วระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร

“ศึกวันพรุ่งนี้ ใครชนะใครแพ้?” ในเวลานี้เอง กระทั่งมีผู้เปิดรับแทงเดิมพันขึ้นมา

“พวกเราพนันว่าแคว้นโบราณยันต์แปดทิศเป็นฝ่ายชนะ” หลังจากเกมพนันได้เปิดขึ้น ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่มั่นใจในแคว้นโบราณยันต์แปดทิศทยอยกันเดิมพันทรัพย์สินข้างฝ่ายแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ

“เป็นความจริงที่แคว้นโบราณยันต์แปดทิศมีโอกาสชนะสูง เทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลสองคน บวกกับจานอมตะสวรรค์ โอกาสที่นิกายหู้ซานจงจะชนะนั้นริบรี่ นิกายหู้ซานจงมีเพียงคนโหดอันดับหนึ่งเพียงคนเดียว นี่มันเสาต้นเดียวหรือจะค้ำยันตึกหลังใหญ่ได้” มีผู้ที่เอ่ยขึ้นด้วยความเสียใจ

…………………………………………………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล