ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2777

ตอนที่ 2777 บัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษ

“เข็นข้าขึ้นไป ข้าต้องการนั่งที่ตรงนั้น” ในเวลานี้เอง หลี่ชิเย่ละสายตากลับมา และชี้ไปที่บัลลังก์ซึ่งตั้งอยู่บนตำหนักปฐมบรรพบุรุษ

“ว่าไงนะ เขาจะนั่งตรงนั้น!” บรรดาผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างส่งเสียงฮือฮาเมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ชิเย่ ทุกคนต่างจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่

เวลานี้ ทุกคนที่ส่งเสียงฮือฮาต่างจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่ แล้วก็มองดูบัลลังก์ที่อยู่ในตำหนักปฐมบรรพบุรุษ ในเวลานี้ทุกคนล้วนแล้วแต่มองไม่ออกว่าหลี่ชิเย่กำลังล้อเล่นหรือพูดจริง

“เขาอวดดีมากเกินไปแล้ว ด้วยตำแหน่งฐานะของเขายังไม่มีสิทธิ์ได้นั่งบนบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษ!” มีผู้อดที่จะพูดขึ้นมาไม่ได้

บัลลังก์ที่อยู่ในตำหนักปฐมบรรพบุรุษมีชื่อเรียกว่าบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษ ตามตำนานเล่าว่า ผู้เฒ่าอมตะเคยนั่งมาก่อนในยุคสมัยที่ดึกดำบรรพมาก ภายหลังก็มีระดับบรรพบุรุษที่เก่ากะลายิ่งหลายคนเคยนั่งกันมาตามลำดับ

แต่ว่า ระดับบรรพบุรุษที่เก่ากะลายิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เคยมีคุณูปการที่ยอดเยี่ยมโดดเด่นกว่าใครๆ ให้กับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารโดยรวม ตำแหน่งฐานะของพวกเขาได้รับการยอมรับเป็นเอกฉันท์จากบรรดาศิษย์ผู้บำเพ็ญตนของสำนักเจ้าลัทธิแคว้นโบราณของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารทั้งหมด

คนล่าสุดที่เคยนั่งบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษตัวนี้ก็คือเจียงฉางฉุนแล้ว แน่นอน กล่าวสำหรับทุกคนที่อยู่ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารแล้ว พวกเขาไม่มีความเห็นกับการนั่งในตำแหน่งนี้ของเจียงฉางฉุน มันเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอยู่แล้ว จะอย่างไรเสีย เจียงฉางฉุนก็คือผู้ที่มีความโดดเด่นยอดเยี่ยมมากที่สุดต่อจากผู้เฒ่าอมตะของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารแล้ว

มาวันนี้ ปรมาจารย์หนุ่มอย่างหลี่ชิเย่ถึงกับต้องการนั่งบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษตัวนี้ จะไม่ให้ทุกคนต้องฮือฮากันขึ้นมาได้อย่างไรเล่า

แม้จะกล่าวว่า หลี่ชิเย่ในวันนี้ได้ผงาดขึ้นมาและไร้เทียมทาน ปราศจากผู้ต่อกร แต่ว่า ในสายตาของทุกคนมองว่า ต่อให้หลี่ชิเย่แข็งแกร่งมากกว่านี้เขายังคงต้องมีการสั่งสม จำเป็นต้องตกผลึก อาศัยฐานะของเขาในขณะนี้ยังห่างไกลไม่มีสิทธิ์ที่จะนั่งบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษตัวนี้

“ฮึเขาคิดว่าตัวเองเป็นใคร ถึงกับกล้านั่งบนบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษ โง่เขลาและอวดดี” ระดับผู้อาวุโสตระกูลขุนนางโบราณส่งเสียงฮึเย็นชาด้วยความไม่พอใจ

“นั่นน่ะสิ เพิ่งเริ่มจะมีผลงานเล็กน้อยก็ลืมตนเสียแล้ว” ยอดฝีมือ ผู้ยิ่งใหญ่จำนวนไม่น้อยต่างไม่พอใจต่อการกระทำเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ กล่าวน้ำเสียงเย็นชาว่า “ไม่เคยสร้างผลงานให้กับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร ถึงกับต้องการนั่งบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษกับเขาบ้าง ไม่ปัสสาวะส่องดูเงาตัวเองเสียบ้าง”

“เจ้าหนูที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ” ระดับบรรพบุรุษสำนักเจ้าลัทธิรู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่งในความต้องการของหลี่ชิเย่ ส่งเสียงฮึเย็นชา และกล่าวว่า “ผู้ที่นั่งบนบัลลังก์ดังกล่าวต้องเป็นผู้มีคุณธรรมและบารมีสูง มีผลงานโดดเด่นดังกึกก้อง เขาอาศัยอะไรมานั่งบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษ!”

เฉินเหวยเจิ้งเองถึงกับขนหัวลุกเมื่อได้ฟังความต้องการของหลี่ชิเย่ เนื่องจากเขารู้ถึงความหมายของบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษ แม้แต่ท่ามกลางปรัชญาเมธีในแต่ละรุ่นของนิกายหู้ซานจงเองก็มีอยู่ไม่กี่คน ที่มีสิทธิ์ได้นั่งบนบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษได้อย่างแท้จริง เวลานี้ปรมาจารย์ถึงกับต้องการนั่งบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษต่อหน้าผู้คนใต้หล้า เหมือนต้องการเป็นศัตรูกับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารทั้งหมด

“ท่านปรมาจารย์ เวลานี้ เวลานี้ เวลานี้ดูจะไม่ถูกเวลากระมัง” เวลานี้เฉินเหวยเจิ้งพูดได้ชาญฉลาดเหลือเกิน

“ไม่ถูกเวลาอะไร” หลี่ชิเย่ไม่นับเป็นอะไรทั้งนั้น กล่าวเรียบเฉยว่า “ข้าอยากนั่ง ก็จะต้องได้นั่ง!”

สิ่งนี้พลันทำให้เฉินเหวยเจิ้งต้องอึ้ง เวลานี้เขารู้สึกปวดหัวอย่างยิ่ง กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เวลานี้เขารู้สึกว่าท่าทีของปรมาจารย์ก็คล้ายดั่งเป็นเด็กที่ไม่หวั่นเกรงต่อสิ่งใด คิดจะทำอะไรก็ทำอย่างนั้น ดื้อรั้นยิ่งนัก

“โง่เขลาอวดดี…” ในเวลานี้เอง เสียงฮึน่าเกรงขามเสียงหนึ่งดังขึ้น เป็นเสียงฮึที่เสมือนดั่งฟ้าผ่าที่ระเบิดลงมา เก่ากะลาผู้หนึ่งก้าวออกมาด้านหน้าผู้คน ประกายตาดั่งอสุนีเย็นยะเยือก ประกายเยือกเย็นแผ่กระจาย พลันจ้องเขม็งหลี่ชิเย่เอาไว้

“บัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษเป็นเกียรติยศสูงสุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารพวกเรา ผู้ไร้ซึ่งคุณูปการ ผู้ไม่ได้มีอำนาจสูงสุด ไม่สามารถนั่งได้ เจ้าเป็นตัวอะไร ถึงกับกล่าววาจาไร้ยางอาย คิดจะนั่งบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษเหมือนกัน ไม่เจียมตัวเสียเลย!” ผู้เฒ่าผู้นี้สวมชุดแพร ด้านหลังศีรษะมีประกาย ทำให้ภาพรวมของเขาแลดูทรงอานุภาพอยากจะหาผู้ใดเทียม แม้ว่าบนตัวของเขาไม่ได้แผ่กลิ่นอายที่สะเทือนเลื่อนลั่นขึ้นมา แต่ว่า พลันที่เขาเคลื่อนไหวก็สามารถทำให้ภูเขาแม่น้ำพรั่งพรูออกมา ควบคุมจักรวาล ให้ความรู้สึกถึงกลิ่นอายที่ปราศจากผู้ต่อกรในหล้า

“ระดับบรรพบุรุษของแคว้นฉีฟงมาแล้ว” มีผู้ที่เป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะเหมือนกันถึงกับมีท่าทีเย็นวาบขึ้นมา

“เจ้าเป็นใครรึ…” หลี่ชิเย่ไม่ได้แสดงอาการโกรธ เมื่อถูกเก่ากะลาผู้นี้ว่ากล่าวด่าทอด้วยเสียงอันดัง เพียงหันศีรษะกลับมาอย่างช้าๆ มองดูเขาตามอารมณ์ไปแวบหนึ่ง ท่าทางไม่ได้ใส่ใจอย่างสิ้นเชิง

ท่าทางที่เอ้อระเหยของหลี่ชิเย่พลันทำให้เก่ากะลาผู้นี้มีท่าทีเปลี่ยนไปทันที สีหน้าดูไม่จืด ท่าทางเย็นชา และกล่าวว่า “เก่ากะลาคืออ๋องเทพแห่งแคว้นฉีฟง!”

เฉินเหวยเจิ้งถึงกับมีท่าทีที่หวาดกลัวขึ้นมา เมื่อได้ยินชื่ออ๋องเทพฉีฟงชื่อนี้

“อ๋องเทพฉีฟง ระดับบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งมากที่สุดของแคว้นฉีฟง ฟังว่าเป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นแสนชาติ กระทั่งมีความเป็นไปได้ว่าได้ก้าวเข้าสู่ชั้นศักราชแล้ว!” ผู้คนจำนวนไม่น้อยมีท่าทีหวาดกลัวเมื่อได้ยินฉายานี้แล้ว

อ๋องเทพฉีฟงมีชื่อเสียงโด่งดังในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร ความโด่งดังด้านชื่อเสียงไม่ได้ด้อยไปกว่าจู่หวังแห่งดินแดนภาคกลาง

“ไม่รู้จัก แค่นายหมูนายหมาเท่านั้นเอง” หลี่ชิเย่ไม่ได้มองหน้าเขาสักแวบหนึ่ง โบกมือเบาๆ และกล่าวว่า “หลบไปข้างๆ เสีย อย่ามารบกวนอารมณ์สุนทรีของข้า”

“เจ้า…” สีหน้าของอ๋องเทพฉีฟงพลันดูไม่จืดถึงขีดสุด

ตัวเขาในฐานะที่เป็นระดับบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งมากที่สุดของแคว้นฉีฟง ปรกติแล้วน้อยครั้งที่จะปรากฎตัวออกมา ขอเพียงเขาปรากฏตัวเรียกได้ว่าชื่อเสียงสะเทือนใต้หล้า ไม่รู้ว่ามีศิษย์รุ่นเยาว์จำนวนเท่าไรที่คุกเข่าก้มกรามแทบเท้าของเขา ยอดฝีมือและผู้มีฝีมือสูงส่งจำนวนเท่าไรใต้หล้าที่ให้ความเคารพนอบน้อมต่อเขาอย่างยิ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล