ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2778

สรุปบท ตอนที่ 2778 ฮ่องเต้วิหารอมตะ: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2778 ฮ่องเต้วิหารอมตะ – ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet

บท ตอนที่ 2778 ฮ่องเต้วิหารอมตะ ของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 2778 ฮ่องเต้วิหารอมตะ

จันไถเมี่ยว คือฮ่องเต้วิหารอมตะในยุคปัจจุบัน และคือฮ่องเต้วิหารอมตะในยุคก่อนหน้า

เพียงแต่ปัจจุบันไม่มีใครรู้จักชื่อของนางอีกแล้ว ทุกคนรู้แต่เพียงว่านางคือฮ่องเต้วิหารอมตะ เจ้าของวิหารอมตะ เป็นฮ่องเต้มาสองยุคสมัย

ฮ่องเต้วิหารอมตะนางไม่เพียงเป็นฮ่องเต้มาสองยุคสมัยเท่านั้น ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ นางคือระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลตั้งแต่ยุคสมัยที่แล้ว เคยเป็นถึงอัจฉริยะบุคคลผู้ปราดเปรื่องน่าทึ่งแห่งยุค เคยเป็นชั้นคงความอมตะตลอดกาลที่มีอายุน้อยที่สุดของแดนลัทธิเซียน

ฮ่องเต้วิหารอมตะเคยได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดอัจฉริยะบุคคลที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดของวิหารอมตะสืบต่อจากเจียงฉางฉุนในขณะนั้น

เพียงแต่ในยุคสมัยนี้ ฮ่องเต้วิหารอมตะปลีกวิเวกไม่ปรากฏตัว เก็บตัวเงียบไม่เผยโฉมออกมาอีกเลย กระทั่งมีผู้กล่าวว่า นางได้กักตนโดยไม่กลับออกมาอีก แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม วิหารอมตะยังคงมีความเป็นระเบียบเหมือนเดิม

มาวันนี้ฮ่องเต้วิหารอมตะปรากฏตัวขึ้น ทำให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารถึงกับหวั่นไหวกับสิ่งนี้ สามารถได้เห็นรูปโฉมผู้หญิงที่งดงามที่สุด อัจฉริยบุคคลที่ปราดเปรื่องน่าทึ่งที่สุด สำหรับผู้คนจำนวนมากแล้วนับว่าไม่เสียใจอีกแล้ว

ภายในใจของระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะที่เคยอยู่ร่วมสมัยเดียวกันกับฮ่องเต้วิหารอมตะรู้สึกสะอื้นเบาๆ เมื่อมองเห็นฮ่องเต้วิหารอมตะยังคงมีท่วงทีที่งดงามเหมือนเดิม ขณะที่ตนเองนั้นดูจะอยู่ในวัยชราไปแล้ว

เคยมียอดฝีมือรุ่นอาวุโสที่เข้าสู่ยุทธภพพร้อมๆ กับฮ่องเต้วิหารอมตะ เมื่อเห็นโชควาสนาของฮ่องเต้วิหารอมตะแล้ว หันมองดูตนเองอีกที ทำให้ภายในใจยิ่งรู้สึกเศร้าเสียใจยิ่ง จะอย่างไรเสียฮ่องเต้วิหารอมตะในวันนี้คือชั้นคงความอมตะตลอดกาลมานานแล้ว ขณะที่ตนเองยังคงดิ้นร้นด้วยความยากลำบากอยู่กับระดับเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์อยู่เลย

เข้าสู่ยุทธภพพร้อมๆ กัน กลับต่างกันราวฟ้ากับดิน มันช่างเป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกน่าผิดหวังอย่างยิ่ง

ฮ่องเต้วิหารอมตะมีบุคลิกลักษณะที่สุดยอดในหล้า มีเสน่ห์ความเป็นหญิงที่เป็นผู้ใหญ่ มีกลิ่นอายความเป็นทายาทผู้สูงศักดิ์ ทำให้บุรุษจำนวนเท่าไรที่ต้องอึดอัดจนหายใจไม่ออก

เวลานี้ฮ่องเต้วิหารอมตะก้าวเดินเข้ามาช้าๆ มีดอกบัวที่ผุดขึ้นรับกับฝ่าเท้าของนาง ร่างที่พริ้วไหวด้วยบุคลิกลักษณะอันมีเสน่ห์ที่ ระหว่างที่เหลียวซ้ายเลขวา ทำให้ผู้คนที่มองเห็นแล้วไม่อาจลืมเลือน

“หากคุณชายต้องการขึ้นนั่งบนบัลลังก์ วิหารอมตะของข้าสนับสนุนเป็นคนแรก” ฮ่องเต้วิหารอมตะก้าวเดินมาจนหยุดอยู่ตรงหน้าหลี่ชิเย่อย่างช้าๆ โค้งคำนับกึ่งคุกเข่าแสดงคารวะต่อหลี่ชิเย่ และทักทายปราศรัยว่า “จันไถเมี่ยวขอแสดงคารวะสูงสุดต่อคุณชายในฐานะตัวแทนของวิหารอมตะ”

“ลุกขึ้น” หลี่ชิเย่เรียบเฉยยิ่ง เหมือนว่าที่ย่อตัวคุกเข่าอยู่ตรงหน้านั้นเป็นเพียงศิษย์ธรรมดาคนหนึ่งของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารเท่านั้น

ภาพเช่นนี้ได้ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตาค้างลิ้นจุกปากพูดอะไรไม่ออก ผู้คนจำนวนมากอ้าปากกว้างมาก เวลานี้สมองเหมือนพันตูกันไปหมดไม่สามารถตอบสนองได้ทัน

ฮ่องเต้วิหารอมตะคือเจ้าแห่งวิหารอมตะ มีอำนาจชี้เป็นชี้ตายอยู่ในมือ มีฐานะที่สูงส่งอย่างยิ่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลคนหนึ่ง นางที่ดำรงอยู่ในฐานะเช่นนี้เมื่อเทียบกับผู้เฒ่าเซียนแห่งดินแดนภาคกลาง ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตแล้ว เรียกได้ว่ามีแต่สูงส่งกว่าไม่มีต้อยต่ำกว่าอยู่แล้ว

มาวันนี้ เฉกเช่นฮ่องเต้วิหารอมตะที่สูงส่งมีความเป็นทายาทกษัตริย์ถึงกับแสดงคารวะถึงเพียงนี้ เรื่องเช่นนี้สร้างความรู้สึกแก่ผู้คนว่าเหลือเชื่อ และไม่อาจจินตนาการได้

สมควรทราบว่า ใต้หล้าทุกวันนี้ ผู้ที่คู่ควรให้ฮ่องเต้วิหารอมตะต้องแสดงคารวะเต็มรูปแบบขนาดนี้ได้ เกรงว่าคงมีเจียงฉางฉุนที่อยู่ในตำนานแล้วล่ะ!

“นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ” แม้แต่ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะก็ไม่สามารถเข้าใจเรื่องนี้ได้

ต่อให้หลี่ชิเย่เป็นถึงปรมาจารย์ของนิกายหู้ซานจง ก็คงไม่ถึงกับต้องให้ฮ่องเต้วิหารอมตะแสดงคารวะเต็มรูปแบบถึงเพียงนี้ จะอย่างไรเสียฐานะของวิหารอมตะกระทั่งสูงกว่านิกายหู้ซานจงเสียอีก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงนิกายหู้ซานจงที่ได้ตกต่ำลงแล้วในวันนี้

“วิหารอมตะสนับสนุนคุณชายขึ้นนั่งบนบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษ! ” เวลานี้ท่าทีของวิหารอมตะชัดเจนมาก หลี่ชิเย่ต้องการก้าวขึ้นนั่งบนบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษ วิหารอมตะของพวกเขาสนับสนุนเต็มที่

ฮ่องเต้วิหารอมตะ ทำเช่นนี้เกรงว่าจะไม่เหมาะ” มีระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะที่มีชื่อเสียงและบารมีสูงกล่าวด้วยท่าทีจริงจังขึ้นช้าๆ ว่า “บัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษเกี่ยวพันกับเกียรติยศของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร ใช่ว่าใครก็สามารถขึ้นนั่งบนบัลลังก์ได้ ขอฮ่องเต้วิหารอมตะโปรดไตร่ตรองให้รอบคอบ! ”

“วิหารอมตะยินดีแบกรับความรับผิดชอบทุกอย่าง! ” ฮ่องเต้วิหารอมตะไม่หวั่นไหวต่อสิ่งนี้ เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “หากบรรดาผู้อาวุโสมีข้อซักถามใดๆ วิหารอมตะของข้าให้การต้อนรับทุกเมื่อ”

ท่าทีลักษณะเช่นนี้ของฮ่องเต้วิหารอมตะนับว่าแข็งกร้าวมากแล้ว ทุกคนต่างมองออกว่า ฮ่องเต้วิหารอมตะให้การสนับสนุนต่อหลี่ชิเย่ขึ้นนั่งบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าใครก็ขวางไม่อยู่

ในเวลานี้ ทุกคนต่างเจ้ามองดูข้า ข้ามองดูเจ้า ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่รู้ว่าระหว่างหลี่ชิเย่กับฮ่องเต้วิหารอมตะมีความสัมพันธ์เช่นใดกันแน่ ยิ่งไม่ชัดเจนว่าหลี่ชิเย่กับวิหารอมตะมีความสัมพันธ์อย่างไร

ทุกคนต่างไม่เข้าใจว่า เพราะอะไรวิหารอมตะถึงได้ให้การสนับสนุนหลี่ชิเย่อย่างแข็งขันขนาดนี้

ต่อให้วิหารอมตะมีความคิดที่จะจัดการกับแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางก็ไม่จำเป็นต้องแสดงคารวะต่อหลี่ชิเย่ถึงเพียงนี้ ยิ่งไม่จำเป็นต้องพูดว่าจะประคองหลี่ชิเย่ขึ้นไปยังบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษ

แม้แต่พวกเฉินเหวยเจิ้งก็มองดูจนตาค้างพูดอะไรไม่ออก พวกเขาเองก็นึกไม่ถึงว่าวิหารอมตะผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะสูงเด่น กลับให้ความเคารพนอบน้อมต่อปรมาจารย์ของพวกเขาขนาดนี้

“คุณชายขึ้นไปยังบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษได้หรือไม่? ” เวลานี้ ฮ่องเต้วิหารอมตะได้โค้งคำนับเพื่อขอความเห็นจากหลี่ชิเย่

“ประคองข้าขึ้นไป” หลี่ชิเย่ท่าทางตามอารมณ์ยิ่ง เพียงสั่งการไปเบาๆ เท่านั้น แม้ว่าจะเป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะฮ่องเต้วิหารอมตะ เขาก็ใช้เหมือนเป็นสาวใช้คนหนึ่ง

ด้วยท่าทีลักษณะเช่นนี้เ ทำให้ภายในใจของผู้คนถึงกับสะดุ้งทีหนึ่ง นี่มันเป็นท่าทีของเผด็จการเพียงใด สมควรทราบว่า ฮ่องเต้วิหารอมตะคือผู้ที่กุมอำนาจสั่งเป็นสั่งตายของผู้คน ยิ่งกว่านั้นยังเป็นผู้อยู่ในระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาล จะมีสักกี่คนกล้าเรียกใช้ฮ่องเต้วิหารอมตะเสมือนดั่งสาวใช้คนหนึ่ง

“ฮ่องเต้วิหารอมตะ โปรดไตร่ตรองให้รอบคอบ บรรพบุรุษทั้งสองท่านไม่ได้มาร้าย” ในเวลานี้อ๋องเทพฉีฟงรีบเร่งก้าวเดินเข้ามาด้วยท่าทีรอมชอม และกล่าวว่า “บัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษเกี่ยวพันถึงเกียรติยศสูงสุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารพวกเรา ใครสามารถขึ้นนั่งบัลลังก์ดังกล่าว สมควรปรึกษาให้รอบคอบ”

“ฮ่องเต้วิหารอมตะ ท่านสมควรเข้าใจได้ว่า ผู้ที่สามารถขึ้นนั่งบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษล้วนแล้วแต่เป็นปรัชญาเมธีของพวกเรา มนุษย์ปุถุชนธรรมดามีคุณธรรมมีความสามารถใด สามารถขึ้นนั่งบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษได้” เวลานี้ผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางก็เอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “ขอฮ่องเต้วิหารอมตะคำนึงถึงวิหารอมตะ อย่าได้ใช้แต่อารมณ์ ทำให้ชื่อเสียงนับพันล้านปีของวิหารอมตะต้องเสียหาย”

“นั่นสิ ขอฮ่องเต้วิหารอมตะโปรดไตร่ตรองให้รอบคอบ” ในเวลานี้ มีระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในยุคสมัยเดียวกันกับฮ่องเต้วิหารอมตะทยอยกันออกปากกล่าวเตือน

“ปล่อยข้าลงเถอะ” หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง จังหวะที่ผู้คนจำนวนมากกำลังตำหนิติเตียน

ฮ่องเต้วิหารอมตะทำท่าลังเลนิดหนึ่ง และปล่อยวางหลี่ชิเย่ลง เพียงจ้องมองพวกของยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตท่าทีเย็นชานิดหนึ่ง กล่าวเรียบเฉยว่า “นี่เป็นการรนหาที่พินาศของตัวเอง ไม่ว่าใครก็ช่วยพวกเจ้าไม่ได้” กล่าวจบ ถอยไปอยู่ด้านข้างช้าๆ

ครั้นฮ่องเต้วิหารอมตะปล่อยหลี่ชิเย่ลงแล้ว หลี่ชิเย่ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างมั่นคง พลันทำให้ทุกคนต่างมองดูด้วยความเหม่อลอย

เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหลี่ชิเย่ล้วนแล้วแต่นอนอยู่บนเก้าอี้ล้อเลื่อน ทุกคนรวมทั้งพวกของเฉินเหวยเจิ้งต่างเข้าใจว่าหลี่ชิเย่นั้นมีร่างกายที่พิการไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ ไม่นึกไม่ฝันเลยว่า หลี่ชิเย่ไม่ได้รับผลกระทบอะไรอยู่แล้ว

มาคราวนี้พลันทำให้ทุกคนยืนเหม่ออยู่ตรงนั้น ในเมื่อหลี่ชิเย่สามารถยื่นและเดินได้ด้วยตัวเอง เพราะอะไรจึงต้องนั่งอยู่บนเก้าอี้ล้อเลื่อน

“ก็ดี ผู้ที่คิดว่าข้าไม่สามารถนั่งบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษได้ให้ก้าวออกมาทั้งหมด” หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่ง ท่าทางอ่อนโยน และกล่าวว่า “แน่นอน ข้าเป็นผู้ที่ใจกว้างและมีความเมตตาสำหรับผู้ที่คัดค้านเสมอมา”

ในเวลานี้ บรรดาผู้อยู่ในเหตุการณ์ต่างเจ้ามองข้า ข้ามองเจ้า หากเป็นก่อนหน้านั้น เกรงว่าผู้คนจำนวนมากล้วนแล้วแต่เลือกที่จะยืนอยู่ข้างฝ่ายของพวกแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ จะอย่างไรเสียทุกคนย่อมสามารถมองออกว่า แคว้นโบราณยันต์แปดทิศยังครองความได้เปรียบอยู่

ยิ่งไปกว่านั้น มาถึงวันนี้แล้วแคว้นโบราณยันต์แปดทิศมีท่าทีที่จะได้บัญชาการใต้หล้า ขณะที่หลี่ชิเย่ต่อให้แข็งแกร่งมากกว่านี้ก็เป็นเพียงหัวเดียวกระเทียมลีบเท่านั้นเอง

แต่ว่า เวลานี้เหตุการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว เมื่อวิหารอมตะให้การสนับสนุนหลี่ชิเย่เต็มที่ คราวนี้พลันทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยลังเลขึ้นมา

“ข้าแคว้นฉีฟงไม่เห็นด้วยเป็นคนแรก” ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า อ๋องเทพฉีฟงเป็นคนแรกที่ยืนอยู่ในฝั่งของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ ก่อนหน้านั้นหลี่ชิเย่ก็ได้สังหารเทพกระบี่ฉีฟงไป ยิ่งไปกว่านั้น แคว้นฉีฟงเป็นมิตรประเทศกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางตลอดมา

เวลานี้หากแคว้นฉีฟงจะยืนอยู่ข้างฝ่ายของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศก็ไม่มีอะไรจะต้องพะวงอยู่แล้ว

……………………………………………………………………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล