ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2791

ตอนที่ 2791 ข้าอยู่สงบใต้หล้าสันติสุข

ในเวลานี้ทุกคนมองดูยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต และผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางที่ถูกฝังเลี่ยมเอาไว้บนพื้นดินเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่ไรที่รู้สึกหนาวสะท้านที่สันหลัง ไม่รู้ว่าผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกเย็นยะเยือกไปทั่วร่าง เหมือนกระดูกถูกทิ่มแทงด้วยเข็มน้ำแข็งอย่างนั้น ทำให้หนาวจนเจ็บปวด ที่รับไม่ได้ยิ่งกว่าก็คือ การตายของยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต และผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางเสมือนหนึ่งเป็นวิชามารมากดทับอยู่กลางใจของคนทุกคน

ทั้งยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต และผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางพวกเขาต่างก็เป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลนะเนี่ย ด้วยกำลังความสามารถเช่นนี้ ได้รับโชคขนาดนี้ ระดับขนาดนี้ เป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะผู้คนจำนวนเท่าไรต้องเงยหน้ามอง ในทัศนะของผู้คนจำนวนเท่าไรนี่คือระดับที่พวกเขาต้องการเอื้อมถึง กล่าวสำหรับผู้คนจำนวนเท่าไรแล้ว ที่ชั่วชีวิตของพวกเขาก็ไม่สามารถก้าวไปให้ถึงระดับของยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต และผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางได้

ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลถือเป็นขั้นสูงสุดในความคิดของระดับเทพแท้จริงไม่รู้จำนวนเท่าไร เว้นแต่ปฐมบรรพบุรุษแล้ว ยากจะมีผู้ต่อกรได้อีกแล้วในโลกนี้ ในความคิดผู้คนจำนวนเท่าไรระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลบ่งบอกถึงความปราศจากผู้ต่อกร

แต่ว่า เวลาล่วงเลยมาถึงวันนี้ เฉกเช่นยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต และผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางที่แข็งแกร่งปานนี้ล้วนแล้วแต่ตายอย่างอนาถด้วยน้ำมือของหลี่ชิเย่ อีกทั้งหาใช่เป็นการต่อสู้อย่างดุเดือดที่โหดร้ายทารุณยิ่งของพวกเขา เป็นการสังหารที่เป็นผู้ถูกกระทำฝ่ายเดียว กำลังความสามารถของหลี่ชิเย่นั้นเรียกได้ว่าห่างชั้นเหนือกว่าพวกเขามากอย่างแน่นอน เขาอาศัยมือข้างเดียวก็สามารถกวาดล้างยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต และผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางพวกเขาจนสิ้น

เมื่อเปรียบเทียบช่วงห่างของกำลังความสามารถเช่นนี้แล้วก็จะพบว่า ระดับของหลี่ชิเย่นั้นเรียกว่าน่ากลัวจนถึงขั้นไม่สามารถจินตนาการได้แล้ว สูงเด่นจนเป็นที่ใฝ่ฝันว่าจะก้าวไปให้ถึง กระทั่งทำให้ผู้คนมองไม่เห็นที่สุดของเขา ทำให้ผู้คนไม่สามารถมองเห็นตื้นลึกหนาบางของเขา

“หรือว่าในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารจะให้กำเนิดระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาล ขั้นหย่วนเต้าอีกคนอย่างนั้นรึ? ” ระดับเทพแท้จริงมองด้วยความหวาดหวั่น และเกิดความรู้สึกนับถือขึ้นมา ขณะมองดูหลี่ชิเย่ที่ยืนอยู่ตรงนั้นถึงกับต้องเงยหน้ามอง

คำพูดลักษณะเช่นนี้ได้ทำให้ผู้คนจำนวนเท่าไรต้องหวั่นไหวในใจ และถึงกับเกิดความรู้สึกนับถือขึ้นมา ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาล ขั้นหย่วนเต้าเรียกว่าเป็นชั้นสูงสุดของสูงสุดแล้ว

เรียกได้ว่าระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาล ขั้นหย่วนเต้าก็คือขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงแล้ว นับแต่อดีตกาลเป็นต้นมา มันเปรียบเสมือนป้ายบอกระดับที่ปักอยู่บนเส้นทาง และยืนหยัดอยู่ตรงนั้นตลอดมา ผู้ที่สามารถก้าวมาจนถึงตรงนี้ได้นั้นมีอยู่ไม่มาก

ในเวลานี้ ระดับบรรพบุรุษ ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะจำนวนไม่น้อยต่างแอบมองตากันและกัน แววตาเปี่ยมด้วยความเคารพยำเกรง หากจะกล่าวว่าแม้ทั่วทั้งแดนลัทธิเซียน ผู้ดำรงอยู่ในฐานะระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาล ขั้นหย่วนเต้าก็มีอยู่ไม่กี่คน สำหรับในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารนั้น เล่าลือกันว่าหนึ่งเดียวที่ก้าวมาถึงระดับนี้ได้ก็มีเพียงผู้เดียวเท่านั้น นั่นก็คือเจียงฉางฉุน

ชั่วชีวิตของเจียงฉางฉุนมีความปราดเปรื่องน่าทึ่ง กระทั่งถูกผู้คนบนโลกยกย่องว่าเป็นบุคคลคนแรกสืบต่อจากปฐมบรรพบุรุษของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร ปราศจากผู้เทียบเทียม สัจธรรมปราศจากผู้ต่อกร

ถ้าหากจะกล่าวว่าวันนี้หลี่ชิเย่กลายเป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาล ขั้นหย่วนเต้าแล้วล่ะก็ มันช่างเป็นเรื่องที่สร้างความหวั่นไหวจิตใจเพียงใด ไม่เพียงสะเทือนหวั่นไหวต่อระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารทั้งหมด กระทั่งหวั่นไหวต่อแดนลัทธิเซียนทั้งหมด

ถ้าหากระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารมีผู้ดำรงอยู่ในฐานะระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาล ขั้นหย่วนเต้าถึงสองคน ย่อมบ่งบอกว่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารสามารถเทียบเคียงด้านกำลังความสามรถกับทุกๆ ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิได้ ไม่ว่าจะเป็นหลงถิง หรือเขาเซียนถงซาน และหรือหอจรัสศักดิ์สิทธิ์

“ต่อให้ไม่ใช่ระดับชั้นคงความอมตะตลอดกาล ขั้นหย่วนเต้าก็คงไม่ไกลแล้ว เกรงว่าเขาคงเป็นระดับชั้นคงความอมตะตลอดกาล ขั้นสูงสุดแล้ว กระทั่งเป็นขั้นสูงสุดในชั้นของขั้นสมบูรณ์แล้ว ห่างจาก ชั้นคงความอมตะตลอดกาล ขั้นหย่วนเต้าแค่ก้าวเดียวเท่านั้น” ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะที่ผ่านอุปสรรคมานับไม่ถ้วนถึงกับคาดเดาถึงระดับความสามารถของหลี่ชิเย่

ไม่ ไม่ นี่ นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้..ในขณะนี้ ในเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขาได้ปรากฎเสียงร้องด้วยความโศกเศร้าขึ้นมาเป็นระลอก

ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต และผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางสู้จนตัวตายอยู่ตรงนั้น ศพของพวกเขาสองคนถูกฝังเลี่ยมอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่กับพื้นดิน ผลเช่นนี้ได้กระทบต่อศิษย์ของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ และดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางอย่างรุนแรง

กล่าวสำหรับพวกเขาแล้วยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต กับผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางล้วนแล้วแต่เป็นระดับบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักพวกเขา กระทั่งเป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะสูงสุด ในความคิดของพวกเขา ทั้งยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต และผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางล้วนแล้วแต่เป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะปราศจากผู้ต่อกร ไร้เทียมทาน ปราศจากผู้ใดสามารถต้านทานได้

มาวันนี้ พวกเขากลับตายอนาถในมือของหลี่ชิเย่ สิ่งนี้กล่าวสำหรับพวกเขาแล้วเป็นความจริงที่ยากจะยอมรับได้ ในเวลานี้ทำให้ศิษย์แคว้นโบราณยันต์แปดทิศ และดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างร้องด้วยความโศกเศร้าขึ้นมา ในเวลานี้ภายในใจของพวกเขาล้วนแล้วแต่เปี่ยมด้วยความสิ้นหวัง กระทั้งไม่มีความกล้าแม้แต่จะจ้องมองไปยังหลี่ชิเย่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องแก้แค้นแล้ว

ในความคิดของพวกเขานั้น ทั้งยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต และผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางต่างก็เป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะไร้เทียมทานแล้ว ล้วนแล้วแต่ผู้อยู่ในฐานะสูงสุดที่สามารถบดขยี้สังหารเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน มาวันนี้พวกเขาล้วนตายอนาภด้วยน้ำมือของหลี่ชิเย่ ขณะที่ศิษย์ธรรมดาอย่างพวกเขาเกรงว่าไม่เท่ากระทั่งมดปลวกในมือของหลี่ชิเย่

ต่อให้พวกเขาอยากจะแก้แค้นก็ใจสู้แต่กำลังไม่เป็นใจ มันก็เหมือนเป็นการทำให้สั่นคลอนโดยมดปลวก ช่างเป็นอะไรที่ไร้เรี่ยวแรงเหลือเกิน และช่างเล็กจิ๋วจนน่าขัน ดังนั้น ในเวลานี้ ศิษย์ของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ และดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางต่างร้องเสียงดังด้วยความโศกเศร้า ซึ่งไม่เพียงเพราะการตายอนาถของยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต และผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลาง สิ่งนี้ยังเกี่ยวพันถึงชะตาของพวกเขา เกี่ยวพันถึงการอยู่รอดปลอดภัยของสำนักพวกเขา

สำหรับการร้องเสียงดังด้วยความโศกเศร้าของบรรดาศิษย์ของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ และดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลาง คนส่วนใหญ่มองเหตุการณ์นี้ด้วยท่าทีเย็นชา ไม่มีใครมีคำพูดมากไปกว่านี้ และไม่ได้มีคนสักเท่าไรที่มีใจคิดสงสาร

ปลาใหญ่กินปลาเล็ก เรื่องนี้กล่าวสำหรับโลกของผู้บำเพ็ญตนแล้วนับว่าพบเห็นได้บ่อยมากเหลือเกิน ต่อให้เป็นแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ และดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางถูกผู้อื่นทำลายไป กล่าวสำหรับคนนอกจำนวนมากแล้ว ก็ยากที่จะไปให้ความสงสาร

จะอย่างไรเสีย ในรอบพันล้านปีมานี้ พวกของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ และดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางเคยทำลายล้างสำนักมาแล้วเท่าไร เคยกลืนและผนวกแคว้นเจ้าลัทธิมาแล้วเท่าใด ดังนั้น จึงกล่าวได้วว่าการรุ่งเรืองตกต่ำเป็นวัฏจักร มันก็แค่เรื่องปรกติธรรมดาเท่านั้นเอง

อย่างไรก็ตาม เฉกเช่นฮ่องเต้วิหารอมตะสามารถลดฐานะที่สูงส่งลงมา สามารถอ่อนน้อมถ่อมตนและให้ความเครารพต่อคนโหดอันดับหนึ่งถึงเพียงนี้ ในขณะที่ชื่อเสียงของเขายังไม่ปรากฏ ย่อมไม่ต้องสงสัยว่านางจะต้องสร้างความรู้สึกที่ดีๆ ให้กับคนโหดอันดับหนึ่งอย่างแน่นอน

ต่อให้คนโหดอันดับหนึ่งไม่นำพาผลประโยชน์ให้กับนางเป็นการส่วนตัวได้มากมาย แต่ว่า กล่าวสำหรับวิหารอมตะโดยรวมแล้ว ต้องได้รับผลประโยชน์ไม่น้อยทีเดียวอย่างไม่ต้องสงสัย

ขณะที่แคว้นโบราณยันต์แปดทิศ และดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางก็คือตัวอย่างของความล้มเหลว พวกเขาได้หักหน้ากับคนโหดอันดับหนึ่งแบบเปิดเผยโดยสิ้นเชิง ต่างฝ่ายต่างเป็นศัตรูแก่กัน วันข้างหน้าขอเพียงคนโหดอันดับหนึ่งไม่สบอารมณ์ เป็นไปได้ว่าเพร้อมที่จะทำลายล้างสิ้นแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ และดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางได้ทุกเวลา

ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกอิจฉา ขณะมองดูฮ่องเต้วิหารอมตะประคองคนโหดอันดับหนึ่งขึ้นสู่งบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษ มาถึงวันนี้ต่อให้พวกเขาคิดจะเลียเพื่อประจบคนโหดอันดับหนึ่งก็ไม่มีโอกาสเสียแล้ว ล้วนแล้วแต่ไม่มีสิทธิ์เสียแล้ว

ในเวลานี้หลี่ชิเย่ได้ขึ้นนั่งบนบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษอย่างช้าๆ ท่าทางของเขาดูหน้าตาเฉย แม้ว่าสิ่งนี้กล่าวสำหรับทุกคนในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารแล้ว มันคือบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษที่สูงเด่น ขณะที่เขานั่งมันก็แค่เป็นที่นั่งที่ธรรมดาๆ จนไม่รู้ว่าจะธรรมดาอย่างไรตัวหนึ่งเท่านั้น

“ยังมีใครจะคัดค้านหรือไม่? ” หลี่ชิเย่นั่งอยู่บนบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษ กวาดสายตามองไปและเอ่ยขึ้นช้าๆ

เมื่อหลี่ชิเย่กวาดสายตามองมานั้น ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกสั่นเทาในใจ โดยเฉพาะยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่ก่อนหน้านั้นคัดค้านหลี่ชิเย่ขึ้นนั่งบัลลังก์ปฐมบรรพบุรุษ นาทีนี้ยิ่งปรากฎเหงื่อเย็นไหลโทรม ขาทั้งสองข้างสั่นเทาตลอดเวลา

ในเวลานี้ พวกเขาหวาดกลัวหลี่ชิเย่จะฝังแค้นเหลือเกิน หากหลี่ชิเย่ฝังแค้นและต้องการทำลายสำนักของพวกเขาก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างยิ่ง

“ชื่อเสียงของคุณชายย่อมมากับความรู้ความสามารถที่แท้จริง พวกเรายอมรับทั้งกายและใจ” มีผู้ที่ร้องเสียงดังขึ้นมาทันที

“ชื่อเสียงของคุณชายย่อมมากับความรู้ความสามารถที่แท้จริง” คนอื่นๆ ต่างทยอยกันคล้อยตาม โดยเฉพาะบรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่คัดค้านหลี่ชิเย่ก่อนหน้านั้น ในเวลานี้เสียงที่ร้องออกมายิ่งดังมากกว่า ด้วยเกรงว่าจะถูกหลี่ชิเย่แค้นฝังใจ

………………………………………………………………………………………..