ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2790

ตอนที่ 2790 สังหาร

เมื่อแสงสว่างบนท้องฟ้าจางหายไปแล้ว ทุกอย่างกลับกลายเป็นเงียบสงัด จานเซียนอมตะบนท้องฟ้าก็หายไปเช่นกัน

ในเวลานี้เอง บนท้องฟ้าเหลือไว้แต่เพียงรอยแยกสวรรค์ที่สยองขวัญเอาไว้ ท้องฟ้าถูกฟันจนแยกออกเป็นสองส่วน รอยแยกสวรรค์แบบนี้ไม่สามารถลบเลือนให้จางหายไปได้อยู่แล้ว เหมือนว่าสามารถคงอยู่ที่ตรงนั้นตราบนานเท่านานอย่างนั้น

นอกเหนือจากบนท้องฟ้าได้คงไว้ซึ่งรอยแยกสวรรค์ที่ไม่สามารถลบเลือนให้หายไปแล้ว บนพื้นดินก็ทิ้งไว้ซึ่งรอยแยกที่น่ากลัวอย่างยิ่งเช่นกัน เหมือนว่าเกิดจากดาบเซียนที่มีความแหลมคมมากที่สุดในโลกฟันเข้าให้จนกลายเป็นรอยดาบเป็นนิรันดร์แผลหนึ่งอย่างนั้น รอยดาบนี้ลึกไม่เห็นที่สุดของมัน เหมือนว่าได้จัดการผ่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารจากหนึ่งแยกเป็นสองส่วนอย่างนั้น

“ช่างน่ากลัวเหลือเกิน” ทุกคนที่มองเห็นรอยแยกสวรรค์และรอยแยกพื้นดินแล้วต่างรู้สึกสะท้านขึ้นมา เนื่องจากทุกคนล้วนแล้วแต่สามารถเข้าใจได้ว่า สำแสงลักษณะเช่นนี้ที่ยิงลงมาสามารถผ่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารทั้งหมดให้แยกออกเป็นสองซีกได้ อีกทั้ง ภายใต้การยิงลงมาของลำแสงสายนี้ ไม่ว่าใครก็ตามต้องถูกสังหารแน่นอน

ภาพเช่นนี้ทำให้ทุกคนถึงกับสั่นเทาขึ้นมา และทำให้ทุกคนได้เข้าใจว่าเพราะอะไรตลอดเวลาที่ผ่านมาจึงไม่เคยได้นำเอาจานเซียนอมตะออกมาใช้เลย อานุภาพของมันนับว่ารุนแรงมากเหลือเกิน และน่าสยองขวัญมากเหลือเกิน เหมือนว่าแม้แต่ระดับปฐมบรรพบุรุษมาก็มีความเป็นไปได้ว่าจะถูกลำแสงสายนี้สังหารได้

กล่าวได้ว่า ทุกคนล้วนแล้วแต่เพิ่งเคยเห็นการยิงลำแสงลักษณะเช่นนี้ของจานเซียนอมตะ แต่ว่า มันก็จะทำให้พวกเขาไม่อาจลืมเลือนไปได้ตลอดชีวิตแล้ว ขณะที่ลำแสงสายนี้ยิงลงมานั้น ได้ยิงให้เกิดเป็นรอยขึ้นกลางจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของพวกเขาเสียแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็ตาม ขอเพียงนึกถึงลำแสงสายนี้เมื่อใด พวกเขาล้วนแล้วแต่รู้สึกสั่นเทาขึ้นมา กระทั่งกล่าวได้ว่า เมื่อนึกถึงลำแสงลักษณะเช่นนี้แล้ว มันจะกลายเป็นฝันร้ายของพวกเขา

น่ากลัว…แม้แต่ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต และผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางก็รู้สึกสั่นเทาเช่นเดียวกัน พวกเขาเองก็ถูกทำให้ตกใจสจนหวาดหวั่นพรั่นพรึง แม้ว่าพวกเขาจะปลุกจานเซียนอมตะให้ตื่นขึ้นมา แต่ว่า พวกเขาเองก็เพิ่งจะได้เห็นกระบวนท่าสังหารเด็ดขาดของจานเซียนอมตะเป็นครั้งแรก พวกเขาเพิ่งจะได้เห็นลำแสงที่น่ากลัวสายหนึ่งเช่นนี้

พวกเขาคิดไปเองว่า พวกเขาเองก็ต้องถูกสังหารภายใต้ลำแสงสายนี้ ไม่น่าเป็นไปได้ที่พวกเขาจะรอดมาได้ด้วยความโชคดี

ตายแล้วรึ…ทุกคนต่างอาศัยสายตาทำการตรวจสอบ เมื่อมองเห็นรอยแยกบนพื้นดินที่ลึกมากสุดจะหยั่งถึงนั่น เนื่องจากทุกคนยังไม่พบเห็นหลี่ชิเย่ เนื่องเพราะลำแสงสายดังกล่าวเมื่อครู่มีประกายเจิดจ้ามากเกินไป ทุกคนล้วนแล้วแต่มองเห็นได้ไม่ชัดเจนภายใต้ลำแสงสายนี้ หลี่ชิเย่ถูกสังหารไปหรือไม่กันแน่

ทุกคนต่างไม่พบกระทั่งเงาของหลี่ชิเย่ หลังจากค้นหาอย่างละเอียดไปรอบหนึ่ง เหมือนว่าภายใต้ลำแสงสายนี้ที่ยิงลงมานั้น หลี่ชิเย่ถูกระเหยโดยตรงไปแล้ว หายวับไปกับตาในพริบตาเดียว และระเหยหายไปจากโลกนับแต่นี้เป็นต้นไป

“ตายไปแล้วกระมัง” ทุกคนต่างรู้สึกว่าคราวนี้หลี่ชิเย่จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อไม่พบกระทั่งเงาของหลี่ชิเย่

“ตายแล้ว ตายแล้วอย่างแน่นอน” ผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง เมื่อไม่พบเงาของหลี่ชิเย่ ในที่สุดก็ได้เผยให้เห็นถึงรอยยิ้มขึ้นมา

“ตายแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย! ”ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตกล่าวน้ำเสียงน่าเกรงขามว่า “ไม่ว่าใครก็ตาม ด้วยกระบวนท่าสังเหารเด็ดขาดปฐมบรรพบุรุษแล้ว ล้วนแล้วแต่ต้องตาย ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารไหนเลยปล่อยให้เขามาท้าทายอำนาจของปฐมบรรพบุรุษได้! ”

คำพูดลักษณะเช่นนี้ของยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตใช่ว่าเป็นการยกตนข่มท่าน ตรงกันข้าม นี่คือการปลอบใจตัวเองอย่างหนึ่ง เป็นการให้กำลังใจกับตนเอง เป็นการสร้างความมั่นใจให้ตนเอง ให้ตนเองมีความเชื่อมั่น

เนื่องจากกล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว หากแม้หนึ่งการโจมตีจากจานเซียนอมตะยังสังหารหลี่ชิเย่ไม่ได้ พวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้ว่ายังจะมีสิ่งใดสามารถสังหารหลี่ชิเย่ได้อีกแล้ว

ดังนั้น คำพูดที่พูดออกมาได้อย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ของยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต และผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลาง พูดดั่งกับว่าได้ตอกตะปูปิดฝาโลงเรียบร้อยแล้วอย่างนั้น ก็เพื่อให้ตนเองนั้นมีความมั่นใจ จะมาปฏิเสธผลเช่นนี้ไม่ได้ มิฉะนั้นแล้ว ตัวของพวกเขาเองกำลังจะพังทลายลงแล้ว

“คราวนี้ตายสนิทแล้วจริงๆ ” ทุกคนต่างรู้สึกว่ามาคราวนี้หลี่ชิเย่จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อมองเห็นร่องรอยที่ลึกมากบนพื้นดิน เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้อีกแล้วว่า ภายใต้ลำแสงลักษณะเช่นนี้ที่ยิงลงมานั้น หากหลี่ชิเย่ยังคงไม่ตายล่ะก็ ยังจะมีสิ่งใดบนโลกนี้สามารถฆ่าเขาให้ตายได้เล่า?

ช่าาา…เสียงหนึ่งดังขึ้น มองเห็นพื้นดินขยับนิดหนึ่ง จากนั้นร่างเงาสายหนึ่งพุ่งขึ้นมา เศษหินและดินแตกกระจาย

คนโหดอันดับหนึ่ง หลี่ชิเย่…มีอผู้ร้องเสียงแหลมขึ้นมา หลังจากมองเห็นร่างเงาที่พุ่งขึ้นมาได้ชัดเจน เสียงร้องที่แหลมของเขาเหมือนฉีกท้องฟ้าจนฉีกขาดได้อย่างนั้น

คนโหดอันดับหนึ่ง…ผู้ที่ร้องเสียงแหลมขึ้นมา เมื่อเห็นผู้ที่พุ่งตัวขึ้นมาไม่ได้มีเพียงคนๆ เดียวเท่านั้น ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรถูกทำให้ตกใจจนร้องเสียงแหลมขึ้นมา พูดคำๆ หนึ่งที่ไม่น่าฟังก็คือ เกรงว่ามีผู้ที่ตกใจจนปัสสาวะรดกางเกงไปแล้วขณะที่มองเห็นหลี่ชิเย่

เวลานี้หลี่ชิเย่ที่พุ่งขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้าได้ยืนอยู่บนท้องฟ้า แม้ว่าบนตัวของหลี่ชิเย่ในเวลานี้จะเปื้อนดินโคลนบ้าง ท่าทางดูกระเซอะกระเซิงบ้าง และบนเสื้อก็มีรอยเลือดอยู่บ้าง แต่ เขายังคงมีท่าทีเหมือนดั่งมังกรแลพยัคฆ์ ยังคงมีบุคลิกที่กระฉับกระเฉง ไม่ได้มีร่องรอยที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอะไร

“ตาเฒ่านับว่ายอดเยี่ยมจริงๆ ”หลี่ชิเย่ในเวลานี้แหงนหน้ามองดูรูปแกะสลักขนาดยักษ์ที่อยู่ด้านหน้าตำหนักบรรพบุรุษ หัวเราะและกล่าวว่า “ลำแสงแรกเริ่มดึกดำบรรพ์สายนี้เลียนแบบได้เหมือนจริงๆ เสียดาย จะอย่างไรเสียก็คือของเลียนแบบไม่ใช่ของจริง ไม่เช่นนั้นล่ะก็สามารถสังหารข้าได้จริงๆ เจ้าไม่ได้สิ่งนี้มา แต่เวลานี้มันกลับอยู่ในมือของข้า”

ลำแสงที่ยิงลงมาจากจานเซียนอมตะเมื่อครู่คือลำแสงแรกเริ่มดึกดำบรรพ์ แน่นอนที่สุดมันหาใช้เป็นลำแสงแรกเริ่มดึกดำบรรพ์ที่แท้จริง เป็นผู้เฒ่าอมตะอาศัยสุดยอดฝีมือที่ฝืนลิขิตสวรรค์ทำเลียนแบบขึ้นมา

ลำแสงแรกเริ่มดึกดำบรรพ์ที่แท้จริงนั้นมีอานุภาพที่น่าหวาดผวาอย่างยิ่งจนไม่สามารถจินตนาการได้ ผู้ที่เคยเห็นลำแสงแรกเริ่มดึกดำบรรพ์อย่างแท้จริงนั้นมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น และหลี่ชิเย่ก็คือหนึ่งในจำนวนนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล