สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2789 การโจมตีของจานเซียนอมตะ – ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet
บท ตอนที่ 2789 การโจมตีของจานเซียนอมตะ ของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 2789 การโจมตีของจานเซียนอมตะ
เสียงทุ้มต่ำดังก้องฟ้าดิน หนึ่งหมัดที่ปล่อยออกไป บดขยี้ทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ แตกละเอียดสลายไปในพริบตาเดียวภายใต้หนึ่งหมัดนี้ ทุกอย่างล้วนแล้วแต่กลายเป็นผุยผง แม้แต่ช่องว่าง กาลเวลา สัจธรรมล้วนแล้วแต่ถูกบดขยี้ทำลายไปในพริบตา ล้วนแล้วแต่ถูกทำให้หายวับไปกับตาในพริบตา กลับกลายเป็นว่างเปล่า
ได้ยินเสียงปังดังขึ้นเสียงหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นับล้านล้านเล่ม หรือว่ากระบี่โลหิต และหรือดาบขนาดยักษ์ล้วนแล้วแต่แตกละเอียดทันทีภายใต้หนึ่งหมัดนี้ ท่ามกลางเสียงปังที่ดังขึ้น สามารถมองเห็นเศษชิ้นส่วนจำนวนนับไม่ถ้วนที่ปลิวว่อน กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ก็ดี ดาบขนาดยักษ์ก็ช่าง ล้วนแล้วแต่ถูกพลังกระแทกจนกลายเป็นผง ในพริบตาเดียวนี้เอง บนท้องฟ้าปรากฏผงทองคำที่โปรยปรายลงมา
ขณะที่ผงทองคำนับไม่ถ้วนโปรยปรายลงมานั้น กระทั่งสามารถได้ยินเสียงที่แผ่วเบานั่น ฟังดูรู้สึกไพเราะเพราะพริ้งเหลือเกิน เหมือนว่าบนท้องฟ้าได้โปรยความมั่งคั่งลงมานับไม่ถ้วนอย่างนั้น
แต่ทว่า กล่าวสำหรับในสมรภูมิรบแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างเหล่านี้ล้วนไม่งดงาม ทุกอย่างเหล่านี้ช่างโหดร้ายทารุณและน่าสยองขวัญอะไรอย่างนั้น ท่ามกลางเสียงปังที่ดังขึ้น สัจธรรมถูกทำลาย การเปลี่ยนแปลงของกระบวนท่าทุกอย่าง ความลึกซึ้งยอดเยี่ยมของสัจธรรม ล้วนแล้วแต่หายวับไปกับตาในพริบตาเดียว
ได้ยินเสียงปุที่ดังขึ้น ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต ผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางพวกเขากระอักเลือดออกมาอย่างแรง กระจายบนท้องฟ้าไปทั่ว ย้อมพื้นดินจนแดงฉาน
สุดท้าย ได้ยินเสียงดังปังที่ดังสนั่นหวั่นไหว กระทั่งพื้นดินอย่างสั่นสะเทือน ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตและผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางทั้งสองคนได้พุ่งชนเข้ากับพื้นดินอย่างจังจนพื้นดินแตกละเอียด กลายเป็นหลุมขนาดยักษ์ขึ้นมา
ในเวลานี้ ท่ามกลางเศษหินที่แตกละเอียด และดินที่กระจัดกระจายสามารถมองเห็นรอยเลือดที่น่าสยองขวัญ ทั่วบริเวณเต็มไปด้วยรอยเลือด ก็สามารถมองออกได้ว่ายันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตและผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บสาหัสเพียงใดแล้ว
มองเห็นยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตและผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางทั้งสองคนที่พุ่งเข้าชนกับพื้นดินดั่งอุกาบาตรขนาดยักษ์ เต็มไปด้วยรอยเลือดทั่วทั้งบริเวณ ทำให้ทุกคนมองดูด้วยความรู้สึกสยดสยอง ถึงกับอกสั่นขวัญแขวน
นี่คือระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลนะเนี่ย ภายใต้การโจมตีลักษณะเช่นนี้ก็ถูกยิงถล่มจนเลือดไหลหยดเป็นทาง เสมือนดั่งลูกอุกาบาตรลูกหนึ่งที่ร่วงลงมาจากท้องฟ้าสูง สิ่งนี้คล้ายดั่งเป็นเทพนิยายที่ปราศจากผู้ต่อกรและไม่มีวันพ่ายแพ้ถูกเขาเอาชนะได้อย่างนั้น เหมือนเหล่าเทพที่พลันตกลงมาจากหิ้งอย่างนั้น ช่างเป็นเรื่องที่หวั่นไหวมากเหลือเกิน
กล่าวสำหรับผู้คนจำนวนเท่าไร ภายในใจของผู้คนจำนวนเท่าไรที่มองว่า ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลเป็นการบ่งบอกว่าปราศจากผู้ต่อกร ผู้คนจำนวนเท่าไรที่พยายามมาชั่วชีวิตก็ไม่สามารถบรรลุเป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลได้
แต่แล้ว มาวันนี้ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลร่วมมือกันสองคน ด้วยท่าโจมตีที่ทรงพลังมากที่สุด ล้วนแล้วแต่ถูกหลี่ชิเย่ยิงจนตากลงมาจากท้องฟ้าสูง ที่น่ากลัวยิ่งไปกว่านั้นก็คือ หลี่ชิเย่รับมือศัตรูด้วยมือเพียงข้างเดียว และยังเป็นมือเปล่าอีกด้วย
หนึ่งหมัดลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่เสมือนหนึ่งได้ทุบลงบนอกของทุกคนอย่างแรง ทำให้ทุกคนพลันรู้สึกอึดอัดจนหายใจไม่ออก ไม่สามารถหายใจหอบและกลับสู่ปรกติอยู่เป็นเวลานาน
หนึ่งหมัดของหลี่ชิเย่ไม่เพียงเอาชนะยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตและผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น ยังทำลายภาพลักษณ์ความเป็นผู้ปราศจากผู้ต่อกรในใจของพวกเขาจนแหลกละเอียด
“พ่ายแพ้แล้ว หนึ่งหมัดเอาชนะสองระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาล” ในเวลานี้ไม่รู้ว่ามีระดับบรรพบุรุษจำนวนเท่าไรที่มีสึหน้าขาวซีด ต่างรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง หนาวสะท้านไปทั่วตัว และมีเหงื่อเย็นที่ไหลโทรมตัว
ผู้คนจำนวนเท่าไรที่มองดูหลุมลึกขนาดยักษ์บนพื้นสองหลุมด้วยขาสองข้างที่สั่นเทา สองระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลต้องพ่ายแพ้ในลักษณะเช่นนี้ อีกทั้งพ่ายแพ้ภายใต้หมัดๆ เดียวของหลี่ชิเย่
ช่าาาเสียงหนึ่งดังขึ้น หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ เห็นเศษดินเศษหินปลิวกระจาย ยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตและผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางได้ออกมาจากหลุมลึก ในขณะนี้เนื้อตัวของพวกเขาชุ่มไปด้วยเลือด
ทรวงอกของยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตยุบลงไปโดยตรง บริเวณทรวงอกแตกละเอียดยับเยินมาก ขณะที่ผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางเนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด แม้ว่าเขาจะสวมใส่ชุดเกราะเอาไว้ แต่ป้องกันเขาเอาไว้ไม่ได้ ภายใต้หนึ่งหมัดบดขยี้กระดูกของเขาจนละเอียด เลือดสดๆ ซึมผ่านเสื้อเกราะออกมา ส่งผลให้ตัวของเขาแลดูเหมือนเป็นมนุษย์เลือด
ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลนับว่ามีฝีมืออยู่บ้าง สามารถรับหนึ่งหมัดของข้าได้” หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ท่าทางตามอารมณ์ยิ่งนัก
ทุกคนต่างสงสัยเมื่อเห็นท่าทางเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ หนึ่งหมัดของหลี่ชิเย่ได้ใช้พลังเต็มที่หรือไม่ และหรือนี่ยังคงเป็นเพียงหนึ่งหมัดตามอารมณ์ของเขาเท่านั้น? เมื่อนึกถึงข้อนี้แล้วไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ขนลุกซู่ ชนหัวตั้งชัน
ในเวลานี้ไม่ว่าจะเป็นยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิต หรือว่าผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลาง พลันที่พวกเขามองเห็นหลี่ชิเย่แล้วถึงกับม่านตาดำหดตัวทั้งสองคน และทั้งสองคนต่างมีขาสองข้างที่สั่นเทา
ในเวลานี้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาแล้วจริงๆ หวาดกลัวต่อหลี่ชิเย่! เนื่องจากนี่คือกำลังความสามารถสูงสุดของพวกเขาแล้ว ในทัศนะของพวกเขามองว่า ภายใต้เสภาพการณ์เช่นนี้ต่อให้เป็นระดับปฐมบรรพบุรุษลงมือก็เป็นไปไม่ได้ที่จะอาศัยหนึ่งหมัดเล่นงานพวกเขาจะแตกละเอียด แต่ว่าหลี่ชิเย่กลับทำได้แล้ว อีกทั้งตั้งแต่ต้นจนจบหลี่ชิเย่เหมือนทำไปตามอารมณ์เท่านั้น ไม่ได้อาศัยกระบวนท่าสังหารเด็ดขาดอะไร
ในเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตก็ดี หรือผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลางก็ช่าง พวกเขารุ้สึกหวาดกลัวขึ้นในใจแล้วจริงๆ แม้ว่าพวกเขาเคยใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถช่วยพลิกสถานการณ์ครั้งแล้วครั้งเล่า แม้ว่าพวกเขาเคยเอาชนะภัยพิบัติมาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ว่า มาวันนี้พวกเขารู้แล้วว่าไม่สามารถก้าวข้ามวิบากนี้ไปได้ คนโหดอันดับหนึ่งจะต้องกลายเป็นผู้ปิดเกมสุดท้ายที่น่ากลัวที่สุดของพวกเขา
เสียงแว้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในขณะเดียวกัน จานเซียนอมตะได้ปรากฏลำแสงสายหนึ่งฟาดฟันลงมา เป็นลำแสดงที่มีความเป็นนิรันดร์อย่างยิ่งสายหนึ่ง
นี่แหละคือจุดประสงค์ของยันต์แปดทิศกุมชะตาสรรพชีวิตและผู้เฒ่าเซียนดินแดนภาคกลาง พวกเขากลัวว่าหลี่ชิเย่จะหนีไป ดังนั้น จึงไม่เสียดายค่าตอบแทนทุกอย่างทำการหลอมกลั่นมิติกาลเวลา และสัจธรรม เพื่อให้ความเร็วของหลี่ชิเย่ลดลงไปอยู่ในขีดที่ช้าที่สุด
เมื่อลำแสงสายนั้นของจานเซียนอมตะฟาดฟันลงมา ในเวลานั้น หลี่ชิเย่คิดจะหนีก็เป็นไปไม่ได้แล้ว
แว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น จานเซียนอมตะได้ยิงลำแสงลงมาสายหนึ่ง หาใช่กระบวนท่าการโจมตีสูงสุดของปฐมบรรพบุรุษอย่างที่ทุกคนจินตนาการ หาใช่เคล็ดวิชาสังหารเด็ดขาดของปฐมบรรพบุรุษในจินตนาการของทุกคน เมื่อลำแสงสายนี้ยิงลงมา สิ่งที่ปะทุขึ้นมาหาใช่กลิ่นอายปราศจากผู้ต่อกรของปฐมบรรพบุรุษ
ท่ามกลางเสียงแว้งค์เสียงนี้ ขณะที่ลำแสงสายนี้ยิงลงมานั้น นอกเหนือจากลำแสงสายนี้แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกล้วนแล้วแต่อยู่ท่ามกลางความมืด ไม่ว่าจะเป็นดวงดาวที่เจิดจรัสเพียงใด ไม่ว่าจะเป็นประกายศักดิ์สิทธิ์ที่เจิดจ้าละลานตาเช่นใด ภายใต้ลำแสงสายนี้แล้วพลันดำมืดขึ้นทันที
ลำแสงสายนี้พลันกลายเป็นนิรันดร์ เหมือนว่าในยุคโบราณกาลมันก็คงอยู่แล้ว ขณะที่ฟ้าดินยังไม่ได้แยกออกมันก็อยู่ในความขมุกขมัวแล้ว เมื่อลำแสงเช่นนี้ยิงลงมา ก็เหมือนขณะที่แรกเริ่มฟ้าดินนั้นมันคือลำแสงสายแรก
นี่คืออะไร…ในพริบตาเดียวนั่นเอง มีระดับปฐมบรรพบุรุษของแดนลัทธิเซียนรู้สึกหัวใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น
การต่อสู้ของพวกหลี่ชิเย่อยู่ที่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร ภายใต้พลังครอบงำที่แข็งแกร่งปราศจากผู้เทียบเทียมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร น้อยคนนักสามารถรับรู้ถึงการการกระเพื่อมจากการสู้รบ และพลังภายในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร
แต่ทว่า เมื่อลำแสงสายนี้ยิงลงมานั้น ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ที่ห่างไกลเพียงใดในแดนลัทธิเซียน มีระดับบรรพบุรุษที่หัวใจเต้นแรงทีหนึ่ง เนื่องจากลำแสงสายนี้ที่ยิงลงมาก็เหมือนยิงลงกลางใจของเขาอย่างนั้น พลันทำให้ปฐมบรรพบุรุษไม่อาจอยู่นิ่งเฉย และลุกขึ้นยืนทันทีหวังจะคำนวณผลกรรม
ขณะที่ลำแสงสายนี้ยิงลงมานั้น ทุกคนที่อยู่ท่ามกลางเมืองวัฏสงสารเมืองบนเขาเหมือนตาบอดไปทันที มองทุกอย่างที่อยู่ภายใต้ลำแสงนี้ได้ไม่ชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้น ยังมองเห็นไม่ชัดเจนว่า เมื่อลำแสงสายนี้ยิงลงบนตัวของหลี่ชิเย่แล้วเป็นอย่างไรกันแน่
………………………………………………………………………………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...