ตอนที่ 2813 ละครเรื่องหนึ่ง
พลันที่ใต้เท้าเซิ่นตู๋โกรธขึ้นมา ไม่รู้ว่าได้ทำให้ผู้คนจำนวนเท่าไรสั่นเทาในใจ นักศึกษาจำนวนมากถึงกับเข่าอ่อนทั้งสองข้าง
ตำแหน่งเช่นใต้เท้าเซิ่นตู๋เป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะที่พิเศษมากในหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ เขาจะไม่ก้าวก่ายสถาบันศึกษาแห่งใดแห่งหนึ่งของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ และไม่ก้าวก่ายข้อขัดแย้งใดๆ แต่ว่า เขาดำรงอยู่ตลอดเวลา ทำการตรวจตราทั่วหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด เมื่อใดที่เขาคิดว่าจะต้องออกหน้า เขาก็จะปรากฏตัว
กล่าวสำหรับหอจรัสศักดิ์สิทธิ์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นสถาบันศึกษาใดก็ตาม เมื่อใดที่ใต้เท้าเซิ่นตู๋ออกหน้าย่อมจะต้องเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก แม้แต่เรื่องที่นักศึกษาบางส่วนก่อเรื่อง กระทั่งทรยศต่อสถาบันศึกษา ใต้เท้าเซิ่นตู๋มักจะไม่แน่เสมอไปว่าจะปรากฏตัวออกมา
แน่นอนที่สุด เมื่อใดที่ใต้เท้าเซิ่นตู๋ออกหน้า ย่อมต้องเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก กระทั่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นเรื่องใหญ่เกี่ยวกับการฝ่าฝืนกฎเหล็กของปฐมบรรพบุรุษ
เวลานี้ ใต้เท้าเซิ่นตู๋พลันปรากฏตัวขึ้นที่สถาบันศึกษาล้างบาปของพวกเขา แล้วจะไม่ทำให้นักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาปทั้งหมดต้องตกใจจนเข่าอ่อนได้อย่างไร ความจริงแล้วอาจารย์จำนวนไม่น้อยก็รู้สึกขนลุกซู่ในใจ ในความทรงจำของพวกเขานั้น ใต้เท้าเซิ่นตู๋ไม่เคยปรากฏตัวขึ้นที่สถาบันศึกษาล้างบาปมาก่อน
แต่ว่า เมื่อนึกดูอีกที มันก็เป็นเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่ง รูปแกะสลักของปฐมบรรพบุรุษแตกละเอียด กระบี่ล้างบาปซึ่งเป็นของวิเศษประจำสถาบันศึกษาถูกศิษย์ธรรมดาคนหนึ่งได้ไป สองเรื่องนี้ไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่สถาบันศึกษาใดก็ตามล้วนเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก
แต่ว่า พูดไปก็ให้รู้สึกแปลกใจ ใต้เท้าเซิ่นตู๋เพียงถามถึงเรื่องรูปแกะสลักของปฐมบรรพบุรุษแตกละเอียด และกระบี่ล้างบาปหายไปสองเรื่องนี้เท่านั้น โดยไม่ถามถึงเรื่องที่พวกของเติ้งเหรินเซินเสียชีวิต ซึ่งก็ทำให้ภายในใจของนักศึกษาจำนวนไม่น้อยรู้สึกโล่งอก ถ้าหากนำเรื่องสามเรื่องรวมเข้าด้วยกันล่ะก็ เรียกได้ว่าเป็นโทษหนักของโทษหนักแล้วล่ะ
นักศึกษาทั้งหมดต่างตัวสั่นงันงกกับการเดินทางมาทวงถามความผิดของใต้เท้าเซิ่นตู๋ แต่ว่า ตู้เหวินรุ่ยในฐานะที่เป็นอธิการบดีกลับสงบนิ่งเป็นอันมาก
“ใต้เท้าเซิ่นตู๋ อะไรคือความผิดเล่า” ตู้เหวินรุ่ยหัวเราะและกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “นี่คือวาสนา เวลาได้มาถึงแล้ว การทิ้งกระบี่ล้างบาปเอาไว้ที่นี่ในครั้งนั้นของปฐมบรรพบุรุษก็เคยกล่าวเอาไว้ว่า กระบี่เล่มนี้ให้กับผู้มีวาสนา มาวันนี้ นักศึกษาสถาบันศึกษาของข้าได้ไปก็คือวาสนา เป็นการสืบทอดปณิธานของปฐมบรรพบุรุษ”
“ส่วนรูปปฐมบรรพบุรุษแตกละเอียดเป็นเพราะกระบี่ล้างบาปมีเจ้าของแล้วจึงไม่จำเป็นต้องเฝ้าอีกต่อไป ดังนั้นรูปนี้จึงแตกเอง” ตู้เหวินรุ่ยพูดได้น่าฟังและมีเหตุผลเสียเต็มประดา “ในเมื่อผู้ที่ได้กระบี่ล้างบาปเล่มนี้ไป การสูญหายของกระบี่ล้างบาปก็ว่าไม่ได้แล้ว จากเรื่องราวต่างๆ นานา หวังว่าใต้เท้าเซิ่นตู๋ได้ตรวจสอบให้ชัดเจน”
สายตาของใต้เท้าเซิ่นตู๋เพ่งตรงไปข้างหน้า จ้องเขม็งไปที่ตู้เหวินรุ่ย ไม่ได้พูดอะไรออกมาทันที
จังหวะที่ใต้เท้าเซิ่นตู๋จ้องเขม็งไปที่ตู้เหวินรุ่ยนั้น นักศึกษาทั้งหมดของสถาบันศึกษาล้างบาปต่างรู้สึกขนลุกซู่ในใจ ต่างรู้สึกสั่นเทา ด้วยเกรงวว่าใต้เท้าเซิ่นตู๋จะโกรธขึ้นมา แล้วพาลโกรธสถาบันศึกษาล้างบาปทั้งหมด
“ที่ท่านพูดมาก็มีเหตุผลบ้างเหมือนกัน” หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ ใต้เท้าเซิ่นตู๋จึงได้ปริปากพูดขึ้นมาช้าๆ ซึ่งทำให้บรรดานักศึกษาทั้งหมดต่างหายใจด้วยความโล่งอก ยังดีที่ใต้เท้าเซิ่นตู๋ไม่ได้ถือโทษและตำหนิ
“แต่ว่า ข้าได้ข่าวว่านักศึกษาของท่านคือชนเผ่าบาป!” ใต้เท้าเซิ่นตู๋พลันเบี่ยงเบนหัวเรื่อง กล่าวน่าเกรงขามว่า “เรื่องนี้ต้องมีการตรวจสอบ ใช่เป็นเรื่องเล็ก”
พลันที่ใต้เท้าเซิ่นตู๋เปลี่ยนหัวข้อ ทำให้นักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาปถึงกับรู้สึกใจไม่ดีทีเดียว
“ข่าวของใต้เท้าเซิ่นตู๋เร็วมาก” ตู้เหวินรุ่ยไม่เห็นจะตื่นตระหนกแม้แต่น้อย ยิ้มกล่าวว่า “คนอื่นล้วนแล้วแต่พูดว่า นักศึกษาของข้าคือชนเผ่าบาป แต่ว่า เรื่องนี้ยังต้องรอการปรึกษาหารือ โลกนี้ยังมีชนเผ่าบาปหรือไม่ยังรอสรุป การสรุปเวลานี้ยังเร็วเกินไป”
“หรือว่าเรื่องนี้ ท่านคิดจะปล่อยผ่านไปเช่นนี้รึ?” ท่าทางของใต้เท้าเซิ่นตู๋เหมือนไม่พอใจ ส่งเสียงฮึเย็นชาทีหนึ่ง และกล่าวว่า “บางที ควรให้เขามาพบข้า!”
“เรียนใต้เท้าเซิ่นตู๋ นักศึกษาของพวกเราไม่เคยผ่านโลกมาก่อน มีนิสัยซ่อนความรู้สึกและขี้อาย เกรงว่าจะไม่สะดวกนัก” ตู้เหวินรุ่ยหัวเราะและกล่าวว่า “เช่นนี้ดีหรือไม่ วันหน้า นักศึกษาของพวกเราจะต้องไปที่เขาศักดิ์สิทธิ์รับการชำระกายา ข้าเชื่อว่านี่จะเป็นการแสดงตนได้ดีที่สุด และสามารถอุดปากผู้อื่น ใต้เท้าเซิ่นตู๋มีความเห็นเป็นประการใด?”
ใต้เท้าเซิ่นตู๋จ้องเขม็งที่ตู้เหวินรุ่ย ชั่วครู่จึงได้พูดขึ้นมาว่า “ตกลง เช่นนั้นพบกันที่เขาศักดิ์สิทธิ์ รักษาตัวให้ดี”
“ใต้เท้าเซิ่นตู๋มิสู้เข้ามานั่งในสถาบันศึกษาพวกเราสักหน่อย ให้ข้าได้ชงชาเป็นการต้อนรับ” ตู้เหวินรุ่ยให้การรับรองที่อบอุ่นยิ่งนัก
ใต้เท้าเซิ่นตู๋ส่งเสียงฮึเย็นชา จากนั้น เสียงตูมดังขึ้น เห็นเพียงสิงโตตัวผู้สีเหลืองทองใช้ขาหลังยันพื้นทีหนึ่งพลันพุ่งตัวออกไปหายวับไปกับตาในพริบตาเดียวอย่างไร้ร่องรอย
“น้อมส่งใต้เท้าเซิ่นตู๋” ตู้เหวินรุ่ยแสดงคารวะต่อเงาหลังที่จากไปไกลของใต้เท้าเซิ่นตู๋
บรรดานักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาปต่างหายใจด้วยความโล่งอก หลังจากที่เห็นใต้เท้าเซิ่นตู๋ได้จากไปไกลแล้ว ต่างทยอยกันลุกขึ้นยืน การไปจากของใต้เท้าเซิ่นตู๋ทำให้พวกเขาเสมือนหนึ่งได้ปลดภาระหนักอึ้งลงจากบ่า
“พวกเจ้าต่างได้ยินกันแล้ว อีกไม่นานล้วนแล้วแต่มีโอกาสไปที่เขาศักดิ์สิทธิ์ จำนวนมีจำกัด พวกเจ้าพยายามเข้าไว้ก็แล้วกัน” จังหวะที่นักศึกษาทั้งหมดต่างรู้สึกปลดภาระหนักอึ้งออกจากบ่า ตู้เหวินรุ่ยได้กล่าวด้วยท่าทียิ้มแต้
“ไปเขาศักดิ์สิทธิ์…” นักศึกษาทั้งหมดต่างตะลึงนิดหนึ่งเมื่อได้ยินคำพูดของตู้เหวินรุ่ย เมื่อได้สติกลับมารู้สึกตื่นตระหนกตกใจระคนกับความดีใจอย่างยิ่ง
“ใต้เท้าอธิการบดีจงเจริญหมื่นปี หมื่นหมื่นปี” ในเวลานี้ นักศึกษาจำนวนไม่น้อยต่างส่งเสียงร้องดังขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนกตกใจระคนกับความดีใจอย่างยิ่ง
“เวลานี้ยังดีใจเร็วเกินไป” ตู้เหวินรุ่ยยิ้มตาหยีและกล่าวว่า “ใครสามารถได้รับเลือก ยังต้องดูที่ความสามารถของพวกเจ้า”
แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม บรรดานักศึกษายังคงตื่นเต้นยิ่งนัก ส่งเสียงร้องดังว่าใต้เท้าอธิการบดีจงเจริญหมื่นปี
ตู้เหวินรุ่ยได้ใจผู้คนเป็นอันมากในสถาบันศึกษาล้างบาป บางทีอาจเป็นเพราะสถาบันศึกษาล้างบาปของพวกเขาอ่อนแอเกินไป และอาจเป็นเพราะทักษะของใต้เท้าอธิการบดีพวกเขาก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก ดังนั้น ตลอดเวลาที่ผ่านมาจึงเข้ากับคนได้ง่าย ไม่เคยวางมาดในฐานะที่เป็นอธิการบดี ไม่เพียงสามารถเข้ากับอาจารย์ในฐานะอยู่ในระดับเดียวกัน และสามารถเข้ากับนักศึกษาในฐานะอยู่ในระดับเดียวกันเช่นกัน นักศึกษาจำนวนมากต่างก็ชอบเขา
หลังจากที่ตู้เหวินรุ่ยส่งใต้เท้าเซิ่นตู๋ไปแล้วได้มาพบกับหลี่ชิเย่ หลี่ชิเย่นั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้นไม่ได้ให้ความสนใจ ขณะที่ตู้เหวินรุ่ยได้ชงชาเสร็จแล้วและรินเต็มถ้วยให้กับหลี่ชิเย่ถ้วยหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...