ตอนที่ 2829 ราชันแท้จริงเคอะสือ
เมื่ออนุภาคแสงปลิวกระจายคล้ายดั่งเป็นความฝัน ดุจดั่งจินตภาพ แลดูเสมือนหนึ่งเศษของดวงดาวท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างนั้น งดงามยิ่งนัก เป็นที่สะเทือนอารมณ์อย่างยิ่ง แต่ว่า เมื่อนึกถึงได้ว่านี่คืออนุภาคแสงที่เกิดจากคนกว่าสิบคน และสัตว์ประหลาดกว่าสิบตัวแล้ว ก็ทำให้ผู้คนต้องตัวสั่นดั่งลูกนก
แม้จะกล่าวว่านี่คือการทำให้บริสุทธิ์อย่างหนึ่ง แต่ว่า การจัดการทำให้คนแต่ละคน สัตว์ประหลาดแต่ละตัวทำให้บริสุทธิ์โดยกลายเป็นอนุภาคแสงในพริบตาเดียวนั้น ไม่ว่าสิ่งนี้จะมีความศักดิ์สิทธิ์ มีความสว่าง มีความงดงามอย่างไรก็ตาม ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่สร้างความหวาดหวั่นพรั่นพรึงให้กับผู้คน
เมื่ออนุภาคแสงปลิวกระจายออกไปทุกคนจึงได้พบว่า ยังคงมีคนผู้หนึ่งที่มีชีวิตอยู่ คนผู้นั้นก็คืออู๋เคอ
อู๋เคอในเวลานี้ล้มนอนอยู่บนพื้น กล่าวให้ถูกต้องก็คือเขาถูกตรึงอยู่บนพื้น เห็นเพียงกระบี่ล้างบาปได้ตรึงตัวเขาอยู่กับพื้นจนกระดิกตัวไม่ได้
อู๋เคอที่ถูกตรึงไว้บนพื้นนั้นมีคู่ดวงตาที่เบิกกว้างมาก เขายังไม่เสียชีวิต แต่ว่า ร่างกายของเขาสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนถึงความตาย สิ่งนี้ได้สร้างความหวาดกลัวกับเขาอย่างยิ่ง
ในเวลานี้อู๋เคอรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่ามีประกายกระบี่แต่ละสายที่มุดเข้าไปภายในร่างกายของเขา ขณะที่ประกายกระบี่แต่ละสายที่เสมือนหนึ่งเป็นประกายศักดิ์สิทธิ์ที่มุดเข้าภายในร่างกายของเขานั้น เขาไม่ได้รู้สึกว่ามีความเจ็บปวด และกระบี่ล้างบาปที่ตรึงอยู่บนตัวของเขานั้น บาดแผลที่บริเวณอกของเขาก็ไม่ได้มีเลือดที่หยดลงมาแม้แต่หยดเดียว
ในขณะนี้ ร่างกายของเขาเหมือนว่ามีเพียงความสว่างและความมืดเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนของร่างกายที่เป็นเลือดเนื้อแต่อย่างใด เขารู้สึกว่าทุกๆ อณูของร่างกาย ทุกๆ อณูของเลือดเนื้อตนเอง ล้วนแล้วแต่ทยอยกันกลายเป็นประกายศักดิ์สิทธิ์ กลายเป็นอนุภาคแสงเม็ดแล้วเม็ดเล่า ในเวลานี้ร่างทั้งร่างของเขากำลังจะกลายเป็นอนุภาคแสง
ความคิดชั่วร้ายที่อยู่ภายในใจ และความมืดที่อยู่ภายในร่างกายของเขา ล้วนแล้วแต่ถูกประกายศักดิ์สิทธิ์ทำให้บริสุทธิ์ทีละนิ้วๆ
แม้ว่าในเวลานี้อู๋เคอยังคงมีความรู้สึก แต่ว่าเขากลับรู้สึกได้ว่าร่างกายของตนไม่ใช้ร่างกายที่เป็นเลือดเนื้ออีกต่อไปแล้ว ได้กลายเป็นร่างประกายศักดิ์สิทธิ์ที่เปี่ยมด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้น
พลังศักดิ์สิทธิ์ลักษณะเช่นนี้ไม่สามารถทำให้อู๋เคอรู้สึกตื่นเต้นดีใจ เนื่องจากเขารู้ว่าหลังจากนี้อีกครู่เดียว ร่างกายของเขาก็จะเป็นเหมือนเช่นพวกของจางติงยวี่กลายเป็นอนุภาคแสง และปลิวกระจายไปเช่นกัน
“เจ้าแพ้แล้ว น่าเสียดายดูไปแล้วเจ้ากับกระบี่ล้างบาปไม่มีวาสนาเสียแล้ว” หลี่ชิเย่มองดูอู๋เคอที่ถูกตรึงอยู่บนพื้นแวบหนึ่ง และยิ้มกล่าวด้วยท่าทีเรียบเฉย
“เจ้า เจ้า เจ้าฆ่าข้า ข้า ข้าไม่ได้นะ ข้าคือนักศึกษาสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพ ข้า ข้าคือสมาชิกของกองทัพสัตว์เทพเทียนหรง ถ้าหากเจ้าฆ่าข้า กองทัพสัตว์เทพเทียนหรงต้องมาแก้แค้นกับเจ้า ราชันหญิงจื่อหลงก็จะไม่ปล่อยเจ้าเอาไว้แน่!” ในเวลานี้ อู๋เคอถูกทำให้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ ร้องกล่าวเสียงแหลมขึ้นมา
“เจ้าพูดกับข้าไม่มีประโยชน์ เจ้าควรพูดกับกระบี่ล้างบาป” หลี่ชิเย่หัวเราะ ส่ายหน้า และกล่าวว่า “ถ้าหากกระบี่ล้างบาปคิดว่าในใจของเจ้าไม่มีความคิดชั่วร้าย มันย่อมปล่อยเจ้าไปเอง”
“เจ้า เจ้า เจ้ารีบเอากระบี่นี้ออกไป” อู๋เคอที่ขวัญหนีดีฝ่อได้สูญเสียความคิดไปแล้ว ร้องเสียงดังด้วยความหวาดผวา
ทุกคนล้วนแล้วแต่กลั้นลมหายใจมองดูภาพเหตุการณ์ตรงหน้า มองดูกระบี่ล้างบาปที่ตรึงอยู่บนตัวของอู๋เคอ ทุกคนต่างเข้าใจได้ว่า นี่คือกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ที่ยอดเยี่ยมปราศจากผู้เทียบเทียมแห่งยุค อาวุธปฐมบรรพบุรุษ นับว่าเป็นที่ต้องการยิ่งของผู้คน
ลองนึกดู หลี่ชิเย่เป็นเพียงศิษย์ธรรมดาของสถาบันศึกษาล้างบาป เขาไม่จำเป็นต้องบังคับควบคุมกระบี่ล้างบาป ตัวของกระบี่ล้างบาปเองก็สามารถสำแดงพลังที่แข็งแกร่งปราศจากผู้เทียบเทียมเช่นนี้ สามารถสังหารพวกอู๋เคอที่เป็นระดับเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ได้ ลองนึกดู ถ้าหากหลี่ชิเย่มีกำลังความสามารถอย่างแท้จริงที่จะสำแดงอานุภาพของกระบี่เล่มนี้ได้อย่างแท้จริง กระบี่เล่มนี้ช่างน่ากลัวอะไรอย่างนั้น
“พลังที่แข็งแกร่งมาก…” จังหวะที่ทุกคนต่างเข้าใจว่าอู๋เคอต้องตายแน่นอนแล้วนั้น เสียงที่ทุ้มและหนักแน่นเสียงหนึ่งดังขึ้น นักศึกษาที่แข็งแกร่งมากผู้หนึ่งถูกพลังของกระบี่ล้างบาปที่ระเบิดออกมาดึงดูดให้เหินฟ้าเข้ามา
ยังไม่ทันเห็นตัวตนแต่ได้ยินเสียงมาก่อน อีกทั้งพลังคนผู้นี้ได้พุ่งเข้ามาอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ขณะที่คนผู้นี้ยังมาไม่ถึง กลิ่นอายราชันแท้จริงเสมือนดั่งคลื่นที่โหมสาดซัดเข้ามาในพริบตาเดียว ปะทะกับฟ้าดิน ชะล้างผืนแผ่นดิน
ในพริบตาเดียวนั้นเอง ผู้คนจำนวนมากต่างรับรู้ถึงกลิ่นอายราชันแท้จริงที่เสมือนดั่งคลื่นที่โหมสาดซัด ซัดใส่อกของตนเองจนรู้สึกว่าตัวเองถูกซัดจนกระเด็นไปอย่างนั้น และถึงกับรู้สึกหายใจไม่ออ
พริบตาเดียวกับจังหวะที่นักศึกษาจำนวนมากซึ่งดูชมอยู่รู้สึกหายใจไม่ออกนั้น มีร่างเงาคนผู้หนึ่งเหินฟ้าลงมา
ขณะที่เขามาถึงนั้น มองเห็นลวดลายของยันต์ตลบอบอวล คล้ายทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นทะเลเต๋าอย่างนั้น
นี่คือราชันแท้จริงคนหนึ่ง ทั้งยังเป็นราชันแท้จริงที่มีอายุน้อยมาก ขณะที่เขามาถึง ปรากฎกฎเกณฑ์ราชันแท้จริงแต่ละสายได้ลงมาจากท้องฟ้าเหมือนน้ำตกสวรรค์อย่างนั้น แลดูอลังการยิ่งนัก
“ราชันแท้จริง…” ภายในใจของนักศึกษาทุกคนถึงกับหวั่นไหวขณะยังไม่ทันได้มองเห็นหน้าคนที่มาได้อย่างชัดเจน กลิ่นอายราชันแท้จริงพลันทำให้ผู้คนมีจิตพลุ่งพล่านต้องการกราบไหว้ทันที
เมื่อทุกคนเพ่งมองไป เห็นชายหนุ่มผุ้หนึ่งยืนอยู่ที่ตรงนั้น ชายหนุ่มผู้นี้มีอายุน้อยมาก แต่ว่า ยามที่เขาลืมตาทั้งสองของเขากลับทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกถึงหนทางที่ยาวไกล ในเวลานี้ก็จะไม่รู้สึกว่าเขามีอายุน้อยอีกต่อไปแล้ว
ชายหนุ่มผู้นี้ไม่ได้มีร่างกายที่ประกอบด้วยเลือดเนื้อ ทั่วทั้งตัวของเขาเปล่งประกายแวบวับ ร่างกายของเขาถึงกับกลับกลายมาจากหิน ร่างกายของเขาดูมันขลับคล้ายดั่งเป็นหินแกร่งหยกวิเศษอย่างนั้น ไม่เพียงแต่มีความแข็งงแกร่งอย่างยิ่ง อีกทั้งยังเป็นมันเหมือนกระเบื้องเคลือบอย่างนั้น
ร่างกายที่มันขลับและแข็งแกร่งของเขาได้สลักอักขระยันต์แต่ละตัวเอาไว้ โดยที่อักขระยันต์นี้คล้ายแกะสลักหิน เหมือนว่าเขาได้รับการสลักโดยสวรรค์ตั้งแต่แรกเริ่มที่ถือกำเนิดขึ้นมาอย่างนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...