ตอนที่ 2838 เดิมพันด้วยของกิน
เดิมพันด้วยการกินผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ แนวความคิดเช่นนี้นับว่าอำมหิตมากโดยแท้ ใครๆ ก็ทราบว่าเป็นความจริงที่ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์นั้นคือสุดยอดสิ่งบำรุง โดยเฉพาะกับศิษย์ของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดและเติบที่นี่แล้ว ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์สูงสุด จะอย่างไรเสียผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ทุกลูกล้วนแล้วแต่อุดมไปด้วยแก่นจรัสที่บริสุทธิ์ซื่อสัตย์ การได้กินผลไม้ศักดิ์สิทธิ์สักลูก ไม่เพียงช่วยชำระล้างจิตวิญญาณเท่านั้น ยิ่งกว่านั้นยังช่วยในการเสริมเพิ่มพลังวัตร ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่มีขั้นยิ่งสูงมากขึ้นเท่าไร พลังวัตรที่จะเพิ่มขึ้นก็มีมากยิ่งขึ้น
แต่ทว่า ทุกสรรพสิ่งล้วนมีบวกและลบ ถ้าหากพลังวัตรมีไม่เพียงพอ และได้กินผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่มีขั้นสูงเข้าไปก็จะไม่ใช่เรื่องดีแล้ว
เฉกเช่นจ้าวชิวสืออย่างนั้น ให้เขากินผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าเข้าไปทั้งลูกรวดเดียว เกรงว่าจะทำให้ร่างกายของเขาระเบิดขึ้นในทันที
แม้จะกล่าวว่าหลี่ชิเย่มีกระบี่ล้างบาปที่เป็นกระบี่ของปฐมบรรพบุรุษที่สุดยอดยากจะหาใดเทียมในหล้าอยู่ในครอบครอง แต่ว่า ไม่ว่าใครก็ดูออกว่า ทักษะยุทธของหลี่ชิเย่นั้นไม่เท่าไร ให้เขากินผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปดไปสักลูกยังพอจะรับได้ แต่หากให้เขากินผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปดเข้าไปรวดเดียวแปดลูกสิบลูกล่ะก็ ผู้คนจำนวนมากต่างคาดเดาว่า เกรงจะทำให้ร่างกายของเขาระเบิดในทันที
เนื่องจากลำพังกำลังความสามารถของเขาไม่สามารถสยบพลังที่แข็งแกร่งยิ่งของผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ได้อยู่แล้ว และไม่สามารถไปย่อยสลายพลังจรัสที่ซ่อนอยู่ในผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปดได้ เมื่อถึงเวลานั้น หลี่ชิเย่ก็ต้องตายสถานเดียว
“แนวความคิดนี้ไม่เลว” ราชาพยัคฆ์ก็หัวเราะเยาะและกล่าวทันทีว่า “ทุกคนต่างก็เป็นนักศึกษาด้วยกัน ตีรันฟันแทงทำลายไมตรีต่อกัน เดิมพันด้วยการกินผลไม้ศักดิ์สิทธิ์จะว่าอย่างไร? ถ้าหากเจ้าชนะ ตัวข้าสุดแต่เจ้าจะจัดการ แต่หากเจ้าแพ้ ของล้ำค่ากระบือเป็นของข้า! และข้าก็จะไม่กลั่นแกล้งเจ้า!”
คำพูดของราชาพยัคฆ์ฟังดูแล้วเปิดเผยบริสุทธิ์และยึดมั่นในความเป็นธรรม ไม่ได้รังแกหลี่ชิเย่เลยแม้แต่น้อย กระทั่งกล่าวได้ว่าหลี่ชิเย่เป็นฝ่ายได้เปรียบอีกด้วย
แต่ว่า สมควรทราบว่าหลี่ชิเย่เป็นเพียงศิษย์ของสถาบันศึกษาล้างบาป ขณะที่ราชาพยัคฆ์นั้นเป็นศิษย์ของราชันแท้จริงจินผู่ เช่นนี้แล้วมันเทียบกันได้รึ?
ทุกคนต่างมองไปที่หลี่ชิเย่ เมื่อราชาพยัคฆ์กล่าวขาดคำ
“กินผลไม้ศักดิ์สิทธิ์นะเนี่ย” หลี่ชิเย่เอามือลูบคางทีหนึ่ง ท่าทีเช่นนั้นของเขาคล้ายมีความลังเลอยู่บ้าง
“ทำไม? ไม่กล้าพนันด้วยรึ?” ราชาพยัคฆ์ดูจะมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นหลี่ชิเย่มีท่าทีลังเลนิดหนึ่ง หัวเราะเยาะทีหนึ่งและกล่าวว่า “แน่นอน เจ้ายอมแพ้เสียแต่เดี๋ยวนี้ยังทัน จะอย่างไรเสียข้าก็จะไม่ถือสาหาความกับเจ้า”
“ช่างเถอะ ข้าว่าเจ้ายังคงมอบเป็นน้ำใจให้กับราชาพยัคฆ์ด้วยการขายของล้ำค่ากระบือให้กับราชาพยัคฆ์เสีย ไม่แน่นักสักวันเจ้าอาจได้รับการเอ็นดูจากราชันแท้จริงจินผู่” คนอื่นๆ ต่างออกปากหว่านล้อมเมื่อเห็นหลี่ชิเย่มีท่าทีลังเล พวกเขาต้องการช่วยราชาพยัคฆ์ให้ได้มาซึ่งของล้ำค่ากระบือในมือหลี่ชิเย่
“ตกลง พนันก็พนัน เดิมพันด้วยการกินผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ ขั้นไหน?” หลี่ชิเย่หัวเราะเสียงดังและตบมือทีหนึ่งตัดสินใจเด็ดขาด
หลี่ชิเย่คนเมื่อครู่ที่ยังมีท่าทีที่ลังเลพลันกลับกลายเป็นเด็ดขาดเช่นนี้ สร้างความรู้สึกเหนือความคาดคิดกับผู้คนจำนวนมาก ต่างถึงกับหันไปจ้องมองดูราชาพยัคฆ์
“ขั้นเก้าเป็นอย่างไร?” ราชาพยัคฆ์ตรึกตรองนิดหนึ่ง และจ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่ สุดท้ายกล่าวเสียงทุ้มต่ำขึ้นว่า “พวกเราเดิมพันด้วยการกินผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า”
“ขั้นเก้า…” ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกตระหนกในใจเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ ผู้ที่สามารถกินผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้ารวดเดียวได้ นักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์เกรงว่าคงมีอยู่ไม่มาก
“ขั้นเก้าก็ขั้นเก้า น้อมรับ” หลี่ชิเย่หัวเราะขึ้นมา เด็ดขาดมาก
มาคราวนี้หลี่ชิเย่เด็ดขาดถึงเพียงนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกเหนือความคาดคิด ทุกคนล้วนนึกไม่ถึงว่าหลี่ชิเย่จะตอบตกลงทันที จะอย่างไรเสียผู้ที่สามารถกินผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้ารวดเดียวได้นั้นเกรงว่าคงมีไม่มาก หลี่ชิเย่สามารถกินผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้ารวดเดียวได้หรือไม่?
“ดี พวกเราเดิมพันด้วยการกินสามลูก” เวลานี้ราชาพยัคฆ์ได้หยิบเอาถุงจักรวาลออกมา เห็นข้างในนั้นมีผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าอยู่สามลูก ประกายศักดิ์สิทธิ์ที่ลอยขึ้นมาจากผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้านั้น มีความศักดิ์สิทธิ์ยากจะหาใดเทียม ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ทุกๆ ลูกเสมือนหนึ่งแกะสลักขึ้นมาจากอัญมณีอย่างนั้น
“พี่พยัคฆ์ถึงกับมีผลไม้ศักดิ์สิทธิ์สามลูก” เมื่อเห็นว่าราชาพยัคฆ์ถึงกับมีผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าถึงสามลูก ทำเอาผู้คนจำนวนไม่น้อยตกใจยิ่งนัก ผู้คนจำนวนเท่าไรต้องการให้ได้มาซึ่งผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าสักลูกแล้วไม่ได้ ต่อให้เป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะบางคนก็สามารถเก็บผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าได้เพียงลูกเดียวเท่านั้นเอง
“ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าทั้งสามลูกยังเป็นผลไป๋ลู่ตันกั่วเสียด้วย ยอดเยี่ยมมากเลย ชั้นเลิศของผลไม้ศักดิ์สิทธิ์เลยนะ” มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่กล่าวชื่นชมเมื่อมองเห็นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าของราชาพยัคฆ์ด้วยความอิจฉาอย่างยิ่ง
“น่าละอาย” ราชาพยัคฆ์กล่าวว่า “เป็นเพราะได้รับคำชี้แนะจากท่านอาจารย์ ข้าจึงฝืนเคาะเอาผลไป๋ลู่ตันลงมาได้ลูกหนึ่ง ท่านอาจารย์ได้เคาะลงมาอีกสองลูกและให้ข้าไว้”
แม้ว่าปากของราชาพยัคฆ์จะพูดว่าละอายใจ แต่ ท่าทีนั้นไม่ได้รู้สึกละอายใจแม้แต่น้อยนิด ตรงกันข้ามกลับมีความลำพองใจอยู่บ้าง จะอย่างไรเสียใช่ว่าใครก็มีอาจารย์ดีเช่นนี้ได้อยู่แล้ว
ไม่รู้ว่ามีผู้คนกี่มากน้อยรู้สึกอิจฉากับสิ่งนี้เมื่อได้ฟังคำจากราชาพยัคฆ์ มีอาจารย์ที่เป็นราชันแท้จริงแปดลัคนานี้แตกต่างจริงๆ พวกเขาจำนวนมากมายเท่าไรที่ต้องการผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าสักลูกแต่ไม่ได้มา ตรงกันข้าม ราชันแท้จริงจินผู่กลับมอบผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าให้กับศิษย์ของตนถึงสองลูกตามอารมณ์
นี่แหละคือข้อแตกต่างระหว่างการมีอาจารย์ที่เป็นราชันแท้จริงกับอาจารย์ที่ไม่ได้เป็นราชันแท้จริง
“ถ้าหากพวกเราต่างกินผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าไปสามลูก ใครยังปลอดภัยไม่เป็นอะไร ใครก็เป็นฝ่ายชนะ” ราชาพยัคฆ์จ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่ เขาได้ประเมินกำลังของตนแล้วว่า ตัวเขาเองก็ต้านไม่ไหวอยู่บ้างหากกินผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าเข้าไปรวดเดียวสามลูก แต่ว่า เพื่ออาจารย์ เพื่อของล้ำค่ากระบือชิ้นนี้แล้ว เขาได้ทุ่มสุดตัวแล้ว
“ตกลง สามลูกก็สามลูก” หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง เด็ดขาดอย่างยิ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...