สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2842 กระบือดำที่เกรงว่าจะไม่วุ่นวาย – ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet
บท ตอนที่ 2842 กระบือดำที่เกรงว่าจะไม่วุ่นวาย ของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 2842 กระบือดำที่เกรงว่าจะไม่วุ่นวาย
ในเวลานี้ ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ไม่กล้าพูดอะไร ขณะที่หลี่ชิเย่นั้นดูสบายอกสบายใจและมีอิสระเสรี ไม่ได้รับผลกระทบจากอานุภาพราชันแท้จริงจินผู่แม้แต่น้อย
พวกจ้าวชิวสือต่างพูดอะไรไม่ออกภายใต้การสยบของอานุภาพราชัน สมควรทราบว่านี่คือราชันแท้จริงแปดลัคนาเชียวนะ กำลังความสามารถเช่นนี้ห่างชั้นเกินกว่าที่พวกเขาจะสามารถต้านทานได้ กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว กำลังความสามารถของราชันแท้จริงแปดลัคนานั้น ดำรงอยู่ในสถานะที่สูงเด่นมาก
ราชันแท้จริงจินผู่จ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่ ไม่ได้พูดอะไร สายตาของเขาคล้ายดั่งทะลุผ่านทุกสิ่งทุกอย่าง เหมือนว่าจะมองทะลุผ่านทุกสิ่งทุกอย่าง เหมือนว่าต้องการมองทะลุผ่านหลี่ชิเย่อย่างนั้น
“เป็นการวางแผนให้ร้ายที่ร้ายกาจมาก!” สุดท้าย ราชันแท้จริงจินผู่กล่าวน้ำเสียงเย็นชา
“ไม่นับเป็นการวางแผนให้ร้าย” หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมย และกล่าวว่า “เพียงแต่คนเราโลภมากไม่รู้จักพอเท่านั้นเอง”
ราชาพยัคฆ์กระทั่งตัวตายยังไม่เข้าใจว่าตนเองนั้นตายอย่างไร ความจริงแล้ว เขาถูกกลลวงของหลี่ชิเย่ ไม่แน่นักถ้าหากเขากินผลไป๋ลู่ตันกั่วสามลูกเองอาจจะยังคงรับได้ ต่อให้รับไม่ไหวก็ไม่ถึงกับตาย
แต่ว่า เขากลับกินผลบัวปฐพีเข้าไปเป็นผลที่สาม แม้ว่าฤทธิ์ยาของผลบัวปฐพีจะไม่เท่าผลไป๋ลู่ตันกั่ว แต่ว่า มันกลับมีสัมพรรคภาพกับพลังจรัสอย่างไม่มีขีดจำกัด เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เหมือนดั่งที่ราชันแท้จริงจินผู่ได้พูดเอาไว้ นี่เป็นการเอาน้ำมันราดใส่กองไฟ พลันไปปลดปล่อยพลังจรัสของผลไป๋ลู่ตันกั่วสองลูกที่ราชาพยัคฆ์ได้กินเข้าไปก่อนหน้าออกมาทันที เป็นการจุดติดพลังที่ยิ่งใหญ่มหาศาลปราศจากผู้เทียบเทียมขึ้น และทำให้ราชาพยัคฆ์ถูกระเบิดเสียชีวิตไปทันที แม้ราชันแท้จริงจินผู่ผู้ซึ่งเป็นอาจารย์ของเขาได้ลงมือเข้าช่วยเหลือเขาในนาทีสุดท้าย ก็ไม่สามารถช่วยเขาเอาไว้ได้
“สถาบันศึกษาล้างบาป เยี่ยมมาก” ดวงตาทั้งสองของราชันแท้จริงจินผู่เย็นยะเยือก กล่าวชื่นชมขึ้นมา แต่ว่า คำชื่นชมลักษณะเช่นนี้กลับทำให้ผู้ฟังรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง
หากเป็นช่วงเวลาปรกติ นับว่าเป็นเรื่องที่เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่สามารถได้รับคำชื่นชมจากราชันแท้จริงแปดลัคนา แต่ว่า คำชื่นชมในเวลานี้ดูเหมือนจะได้กลิ่นอายของการฆ่าฟัน พวกนักศึกษาอย่างจ้าวชิวสือถึงกับร่างสั่นเทาทีหนึ่ง และรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง ไม่แน่นักหากเวลานี้ราชันแท้จริงแปดลัคนาโกรธขึ้นมาอาจสังหารพวกเขาจนสิ้นในทันที เมื่อถึงเวลานั้น ไม่ว่าใครก็ช่วยพวกเขาไม่ได้
“อธิการบดีตู้ เห็นทีสถาบันศึกษาล้างบาปยังคงเป็นสถานที่ที่มังกรเร้นกายพยัคฆ์หมอบ” เวลานี้ราชันแท้จริงจินผู่มองหน้าตู้เหวินรุ่ยทีหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้นช้าๆ
ขณะที่ราชันแท้จริงจินผู่พูดคำนี้ออกมานั้น อานุภาพราชันแท้จริงยิ่งใหญ่ไพศาล แม้ว่าเวลานี้เขาดูออกแล้วว่าหลี่ชิเย่มีการซ่อนเร้นกำลังความสามารถที่แท้จริงเอาไว้ แต่ว่า เขายังคงมีสัจธรรมที่ดั่งคลื่นที่โหมสาดซัด โดยไม่มีความเกรงกลัวแต่อย่างใด
จะอย่างไรเสียตัวเขาเองก็คือราชันแท้จริงแปดลัคนาคนหนึ่ง และในฐานะที่เป็นศิษย์ของปราชญ์อัจฉริยะหลันซูมีเหตุการณ์ใดๆ ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน มีผู้ที่มีทักษะยุทธสูงส่งใดที่ไม่เคยพบมาก่อน อาจารย์ของตัวเขาเองก็คือปฐมบรรพบุรุษคนหนึ่ง ลองนึกภาพดู เขาเคยหวั่นเกรงต่อผู้ใดมาก่อน?
ดังนั้น แม้ว่าเขาจะรู้ว่ากำลังความสามารถของหลี่ชิเย่สูงกว่ากันมากทีเดียวกับกำลังความสามารถที่เขาได้สำแดงออกมาในขณะนี้ ราชันแท้จริงจินผู่ยังคงไม่หวั่นเกรง ถ้าหากจำเป็นต้องลงมือต่อสู้ เขายังคงปราศจากความหวั่นเกรงที่จะลงมือต่อสู้
“มิกล้า มิกล้า” ตู้เหวินรุ่ยส่งเสียงไอกระแอมทีหนึ่ง และกล่าวว่า “เหล่านักศึกษาอ่านตำราหลากหลาย แค่พอรู้เรื่องเกี่ยวกับโอสถบ้างเท่านั้นเอง ล้วนแล้วแต่เป็นวิชานอกรีต ยากที่จะนำมาอวดอ้างต่อหน้าฝ่าบาทได้”
“ได้แต่โทษศิษย์ของข้าวู่วาม” เวลานี้ราชันแท้จริงจินผู่กล่าวน้ำเสียงเย็นชาขึ้นมา
พวกของจ้าวชิวสือถึงกับโล่งอกไปทีเมื่อได้ยินคำพูดคำนี้ อย่างน้อยที่สุดในเวลานี้ราชันแท้จริงจินผู่จะไม่ลงมือต่อสถาบันศึกษาล้างบาปของพวกเขา
แน่นอนที่สุด การที่ราชันแท้จริงจินผู่ไม่ลงมือต่อพวกของหลี่ชิเย่นั้น ถือว่าอยู่ในความคาดคิดของทุกคนอยู่แล้ว จะอย่างไรเสียเขาเป็นถึงราชันแท้จริงคนหนึ่ง ขณะที่ราชาพยัคฆ์พ่ายแพ้ให้กับหลี่ชิเย่นั้น เป็นเรื่องที่ทุกคนเห็นกับตา
ถ้าหากเวลานี้ราชันแท้จริงจินผู่จะแก้แค้นให้กับศิษย์ของตนล่ะก็ มันดูไม่สมเหตุสมผล และเป็นที่เสื่อมเสียต่อชื่อเสียงในฐานะราชันแท้จริงของเขา
“หนทางอีกยาวไกล อย่างไรเสียก็มีวันจะได้พบกัน” ดวงตาทั้งสองของราชันแท้จริงจินผู่เพ่งมองไปข้างหน้า จ้องมองดูหลี่ชิเย่ และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “วันหน้าต้องมีโอกาสได้เห็นความลึกซึ้งของสัจธรรมของสถาบันศึกษาล้างบาป”
“อัดมัน รีบอัดมันเร็วเข้า ทำร้ายเด็ก ไม่ต้องกลัวว่าตาแก่จะไม่ปรากฎตัวออกมาแน่นอน” ในเวลานี้ทุกคนต่างรู้สึกขนหัวลุกเมื่อได้ยินเจ้ากระบือดำยักษ์ร้องเอะอะในระยะห่างไกล เจ้าวัวบ้าตัวนี้คงเกรงว่าโลกจะไม่วุ่นวายโดยแท้จริง
ขนาดมีราชันแท้จริงอยู่ที่ตรงนี้มันยังมีท่าทีที่ปราศจากความกังวล ที่นักข้อยิ่งกว่านั้นก็คือ เขาถึงกับร้องเอะอะโวยายให้หลี่ชิเย่ไปอัดราชันแท้จริงจินผู่ และปราชญอัจฉริยะหลันซู
หากจะบอกให้ไปอัดราชันแท้จริงจินผู่ก็แล้วกันไปเถอะ จะอย่างไรเสียคนที่เหนือกว่าราชันแท้จริงจินผู่นั้นก็นับว่ามีอยู่บ้าง แต่ว่า หากให้ไปอัดราชญอัจฉริยะหลันซูดูจะไม่เจียมตัวเอาเสียเลย
“ได้ทุกเมื่อ” หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทางเอ้อระเหยว่า “ถ้าหากเจ้าต้องการเมื่อไหร่ก็ได้ แน่นอน หากมีโอกาสข้าก็ยินดีขอคำชี้แนะในสัจธรรมของปราชญอัจฉริยะหลันซู ฟังจากศิษย์ของเจ้าบอกว่า ปรมาจารย์ของเขาสามารถหยั่งรู้อดีตปัจจุบัน ข้ากลับอยากจะรู้นักว่าหยั่งรู้แบบไหนกัน?”
เสียงแว้งค์…ดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง จังหวะที่หลี่ชิเย่พูดขาดคำ ดวงตาทั้งสองของราชันแท้จริงจินผู่เป็นประกาย อานุภาพราชันแท้จริงเพิ่มสูงขึ้นมากทีเดียว พริบตาเดียวนั่นเอง อานุภาพราชันแท้จริงเสมือนดั่งพายุฝนฟ้าคะนองที่ต้องการทำลายทุกสิ่งทุกอย่างตรงหน้าอย่างนั้น ภายใต้อานุภาพราชันแท้จริงที่บ้าคลั่งรุนแรงเช่นนี้ ทั่วฟ้าดินดุจดั่งตกอยู่ท่ามกลางคลื่นที่โหมสาดซัด โลกทั้งโลกพร้อมที่จะถูกทำลายจนพินาศย่อยยับอย่างนั้น
หลี่ชิเย่โยนของล้ำค่ากระบือให้กับตู้เหวินรุ่ยไปตามอารมณ์ กล่าวเรียบเฉยขึ้นว่า “ของสกปรกเช่นนี้พอจะมีประโยชน์อยู่บ้าง นับเป็นสิ่งรักษาอาการบาดเจ็บชั้นเลิศ”
“นี่ นี่ นี่เจ้าจะพูดจะจาให้ระวังนิดหนึ่ง ของสกปรกอะไรของเจ้า! นี่คือของล้ำค่ากระบือ ของล้ำค่ากระบือ เจ้ารู้หรือเปล่าว่าอะไรคือของล้ำค่ากระบือ?” เจ้ากระบือดำยักษ์พลันแสดงความไม่พอใจขึ้นมาทันที ร้องเสียงดังขึ้นขณะยืนอยู่บนเนินเขาสูง และกล่าวว่า “อีกทั้งสิ่งนี้หาใช่ของล้ำค่ากระบือธรรมดา มันเกิดจากเม็ดข้าวเปลือกที่มาจากรวงข้าวทองคำเก้าเกสร ประเมินค่าไม่ได้”
“ขอรับไว้ด้วยความยินดี ข้าขอบคุณแทนเหล่านักศึกษาทั้งหลาย” ตู้เหวินรุ่ยยิ้มหน้าบานขณะรับเอาของล้ำค่ากระบือเอาไว้
หลี่ชิเย่เพียงเหลือบมองกระบือดำยักษ์ทีหนึ่งเท่านั้นสำหรับการร้องเอะอะโวยวายของมัน และกล่าวว่า “อาศัยควายถ่านดำอย่างเจ้าน่ะหรือคิดจะได้กินรวงข้าวทองคำเก้าเกสร เจ้ายังนอนไม่ตื่นรึ?”
“เจ้าหมายความว่ะอะไร…” เมื่อกระบือดำยักษ์ถูกหลี่ชิเย่พูดเหน็บแนมจึงพาลโมโหขึ้นมา ร้องเสียงดังขึ้นมาว่า “ข้ายังนอนไม่ตื่นอะไรของเจ้า? เจ้ารู้หรือไม่ว่ากระบือสุดหล่ออย่างข้าเป็นใครมาจากไหนหรือไม่? ข้า กระบือดำยักษ์คือจอมราชันของเหล่าสรรพสัตว์ ราชาแห่งเหล่าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวง มีสายเลือดที่สูงสุด ควบคุมสุดยอดสัจธรรมสูงสุด นับตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันข้ากระบือสุดหล่อก็ยากจะหาผู้ใดเทียม รวงข้าวทองคำเก้าเกสรนับเป็นอะไรได้ แม้แต่ต้นบรรพบุรุษของแดนสามเซียน…” เมื่อมันกล่าวมาถึงตรงนี้ได้หยุดลง
“ทำไมล่ะ ไม่พูดต่อไปรึ?” หลี่ชิเย่กล่าวเอ้อระเหยขึ้นว่า “ต้นบรรพบุรุษของแดนสามเซียนเป็นอย่างไรล่ะ? เคยกินต้นบรรพบุรุษแดนสามเซียนมาแล้วรึ?”
“แหะข้าปั้นเรื่องขึ้นมาสุ่มๆ เอง อย่าถือเป็นจริงเป็นจัง” กระบือดำยักษ์เหลียวมองไปรอบๆ ไม่เห็นมีใครอยู่ จึงหายใจด้วยความโล่งอก
หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยว่า “ดูเหมือนข้าจะได้ยินเจ้าพูดถึงต้นบรรพบุรุษของแดนสามเซียน ข้ากำลังตั้งใจฟังอยู่ อยากจะฟังคำเกี่ยวกับประสบการณ์ที่สะเทือนเลื่อนลั่นจากควายสุดหล่อที่สุดยอดมากของพวกเรา ให้เป็นบุญตาแก่บรรดาผู้เยาว์อย่างพวกเรา”
พวกนักศึกษาอย่างจ้าวชิวสือไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรกับ ‘ต้นบรรพบุรุษแดนสามเซียน’ ขณะที่ตู้เหวินรุ่ยประกายตาเต้นวูบวาบทีหนึ่ง และรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงอยู่บ้าง
“ไม่ ไม่มีเรื่องเช่นนั้น” เจ้ากระบือดำยักษ์หัวเราะแหะแหะและกล่าวว่า “ข้าจะไปมีประสบการณ์เช่นนี้ที่ไหนกัน ล้วนแล้วแต่เป็นตาเฒ่าลูกเห้คนนั้นที่พูดพร่อยๆ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้า ข้าเองก็รับฟังข่าวลือนี้มาเหมือนกัน”
“อ้อ ถ้าเช่นนั้นข้ารู้สึกสนใจตาเฒ่าที่พูดจาพล่อยๆ คนนี้แล้วล่ะ” หลี่ชิเย่เผยรอยยิ้มที่ลึกซึ้งขึ้นมา
…………………………………………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...