ตอนที่ 2847 ราชันแท้จริงหลิงซิน
ชุดขาวยิ่งกว่าหิมะ หญิงผู้นี้ดุจดั่งเทพธิดาบนภูเขาหิมะ แต่ว่า ในขณะนี้สายตาของผู้คนจำนวนมากล้วนแล้วแต่รวมศูนย์ไปอยู่ที่ปีกคู่นั้นที่อยู่ด้านหลังของนาง
ด้านหลังของผู้หญิงคนนี้มีปีกอยู่คู่หนึ่ง ปีกคู่นี้มีสีเหลืองทองละลานตา เสมือนดั่งสร้างขึ้นโดยทองคำที่มีความบริสุทธิ์ที่สุด ขนทุกๆ เส้นล้วนแล้วแต่เหมือนหนึ่งเป็นงานศิลปะที่สมบูรณ์ไร้ที่ติอย่างนั้น
แม้ว่าขนทุกๆ เส้นจะบางเบาเสมือนดั่งปีกจักจั่น ยังคงเหมือนหลอมสร้างขึ้นมาจากทองคำอย่างนั้น สามารถมองเห็นรายละเอียดทุกสิ่งได้อย่างชัดเจน และมีความละเอียดและประณีตยากจะหาใดเทียม ด้วยปีกที่มีสีเหลืองทองเช่นนี้ มีความหรูหราในความเป็นทายาทตระกูลสูงศักดิ์ เสมือนดั่งฮ่องเต้ผู้มีฐานะสูงสุด
เหนือศีรษะของผู้หญิงวคนนี้ยังมีวงแหวนอยู่วงหนึ่ง โดยวงแหวนปรากฎประกายศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์ระยิบระยับ แม้ว่าประกายศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์ดังกล่าวจะไม่ทำให้รู้สึกแสบตา แต่ทว่า ขณะที่ประกายทุกสายกำลังระยิบระยับอยู่นั้น เสมือนดั่งได้จุดประกายสว่างให้กับจิตใจอย่างนั้น
แม้ว่าแสงสว่างของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ก็มีความศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์อะไรอย่างนั้น แต่ว่าทั้งสองให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ภายใต้แสงสว่างจากพลังจรัสของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์แฝงไว้ซึ่งการรุกรานและชำระล้าง ดังนั้น พลังจรัสของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์มักสามารถทำให้ผู้คนต้องถวายตัวเป็นสาวกเสมอๆ ง่ายต่อการถูกทำให้สยบและยอมรับ
แต่ว่า ประกายแสงที่เปล่งออกมาจากวงแหวนที่อยู่เหนือศีรษะของผู้หญิงคนที่อยู่ตรงหน้า เสมือนดั่งเป็นน้ำที่ละลายจากหิมะในฤดูใบไม้ผลิอย่างนั้น ไหลรินอยู่ภายในใจของคนผู้นั้นเงียบๆ กลิ่นอายของฤดูใบไม้ผลิซึมซาบเข้าไปในจิตใจของผุ้คน
“ราชันแท้จริงหลิงซิน…” มีนักศึกษาได้สติกลับมาท่ามกลางกลิ่นอายที่ปราศจากสิ่งใดเทียบเทียมของผู้หญิงคนนั้นหลังจากผ่านไปชั่วครู่ใหญ่ และได้ร้องเสียงหลงขึ้นมา
“ฝ่าบาท…” นักศึกษาที่มีทักษะอ่อนสักนิดต่างทยอยกันแสดงคารวะเต็มรูปแบบ แม้แต่นักศึกษาที่มีกำลังความสามารถในระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะก็แสดงคารวะต่อผู้หญิงคนนี้
มีผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกทึ่งในความงดงาม และมีผู้คนไม่น้อยที่เลื่อมใสศรัทธา และมีบางคนที่รู้สึกเคารพยำเกรง…
“ราชันแท้จริงหลิงซินมาแล้ว” มีนักศึกษาที่มีกำลังแข็งแกร่งได้พึมพำขึ้นมาเบาๆ ท่าทางแสดงออกถึงความรักใคร่
ในเวลานี้ สายตาของทุกคนล้วนแล้วแต่รวมตัวอยู่บนตัวของผู้หญิงคนนี้ นางก็คือผู้ที่ทุกคนรู้จัก ซึ่งก็คือราชันแท้จริงหลิงซินนั่นเอง
ราชันแท้จริงหลิงซิน ราชันแท้จริงเจ็ดลัคนา ด้วยกำลังความสามารถเช่นนี้เรียกได้ว่าองอาจห้าวหาญแล้ว หนึ่งในนักศึกษาที่ยอดเยี่ยมที่สุด
ราชันแท้จริงหลิงซินคือนักศึกษาของหลีหมิงทักษิณ แต่ว่า นางมีชาติกำเนิดมาจากสวนเอเดน และยังมีชาติกำเนิดจากเผ่าปีกสวรรค์
สวนเอเดนก่อตั้งขึ้นโดยปฐมบรรพบุรุษเซิ่นหลิง ผู้คนเรียกว่าสวนสุขสันต์แห่งเซิ่นหลิง มีธาตุแท้ภายในที่เข้มแข็งมาก ตลอดเวลาที่ผ่านมา สวนเอเดนมีเซิ่นหลิงเป็นหลัก เผ่าอื่นๆ มีจำนวนน้อยมาก
ขณะที่ราชันแท้จริงหลินซินในฐานะที่เป็นเผ่าปีกสวรรค์แล้วสามารถสืบทอดตำแหน่งของสวนเอเดนได้ นับว่าเป็นความยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง สามารถมองออกว่าสวนเอเดนนั้นมั่นใจในตัวของนางเพียงใด
นอกเหนือจากนี้ ราชันแท้จริงหลินซินยังมีอีกสถานะหนึ่ง นั่นก็คือเป็นคู่หมั้นของเทพสงครามจินเปี้ยน นางได้หมั้นหมายกับเทพสงครามจินเปี้ยนตั้งแต่เด็ก
ในหอจรัสศักดิ์สิทธิ์มีคำพูดๆ หนึ่ง นั่นก็คือ ราชันหญิงจื่อหลงแห่งสู่กวงพายัพ เทพสงครามจินเปี้ยนแห่งหลีหมิงทักษิณ หมิงหวังฝอแห่งเซิ่นถัวประจิม และราชันแท้จริงเซิ่นซวงแห่งสถาบันศึกษาอุดร
ทั้งสี่คนต่างเสมอด้วยชื่อชั้น และยืนอยู่บนจุดสูงสุดของแดนลัทธิเซียนในยุคปัจจุบัน ขณะที่ราชันแท้จริงหลินซินเป็นคู่หมั้นของเทพสงครามจินเปี้ยน ย่อมสามารถมองออกถึงความสูงศักดิ์ของนาง
ราชันแท้จริงหลินซินมองดูกระบี่ล้างบาปในมือหลี่ชิเย่แล้วถึงกับกล่าวชื่นชมว่า “ครั้งนั้นราชันแท้จริงเซิ่นซวงก็แค่หยิบกระบี่เล่มนี้ขึ้นมาได้เท่านั้น มาวันนี้ยอมรับเจ้าเป็นนาย วาสนาเช่นนี้หาได้ยากนักนับแต่อดีตถึงปัจจุบัน”
“เพราะว่าข้าหล่อ” หลี่ชิเย่กล่าวเอ้อระเหยขึ้นว่า “คนเราเกิดมาหล่อ ไปถึงไหนก็เป็นที่ต้อนรับ ดังนั้น กระบี่เล่มนี้ก็ต้องติดตามข้าแต่โดยดี นังหนู เคยเห็นผู้ชายที่หล่อเช่นนี้อย่างข้าหรือไม่?” กล่าวพลางทำยักคิ้วทีหนึ่ง
“บังอาจ…” มีผู้ถึงกับร้องตวาดเสียงดังขึ้นมาเมื่อได้ยินหลี่ชิเย่ออกปากเทะโลมราชันแท้จริงหลินซิน ในหอจรัสศักดิ์สิทธิ์นี้ไม่รู้ว่ามีนักศึกษาจำนวนเท่าไรที่มีใจรักใครในตัวราชันแท้จริงหลินซิน
“รูปโฉมร่างกายเป็นเพียงเมฆที่ล่องลอยเท่านั้น มีเพียงสัจธรรมที่เป็นความเข้าใจที่แท้จริง” ราชันแท้จริงหลินซินส่ายหน้า และยิ้มเรียบเฉยทีหนึ่ง รอยยิ้มของนางมีความบริสุทธิ์ยิ่ง มองเห็นรอยยิ้มของนางแล้ว ทำให้ผู้คนถึงกับลืมไปว่านางคือราชันแท้จริงคนหนึ่ง
“เฮ่อสัจธรรมของข้าเก็บซ่อนอยู่ภายใน หาใช่มองผิวเผินก็มองออกได้” หลี่ชิเย่กล่าวเอ้อระเหยว่า “มีเพียงความหล่อของข้า ที่มันช่างสะดุดตาอะไรอย่างนั้น ดังนั้น เจ้าต้องดูที่ความหล่อของข้า เมื่อเจ้าเห็นความหล่อของข้าแล้วก็จะเข้าจเอง ว่าคนอย่างข้าช่างเรียบง่ายอะไรเช่นใดแล้ว”
“หน้าไม่อาย…” เวลานี้ นักศึกษาจำนวนไม่น้อยทยอยกันดูถูกหลี่ชิเย่ ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาชายหรือนักศึกษาหญิงก็ตาม
กระทั่งมีนักศึกษาบางคนมีท่าทางสำรอกอาเจียน พลันที่มองเห็นหลี่ชิเย่เรียกว่าไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่าหล่อเลย เป็นเพียงผู้ชายที่ธรรมดาจนไม่รู้ว่าจะธรรมดาอย่างไรอีกแล้ว ธรรมดาจนกระทั่งจับโยนเข้าไปอยู่ในฝูงชนตามอารมณ์ ผู้คนก็จะลืมเลือนไปทันที หน้าตาที่ธรรมดาๆ จะถูกกลืนหายไปท่ามกลางผู้คนจำนวนมากทันที
การมีหน้าตาที่ธรรมดาถึงขนาดนี้ ยังกล้าเรียกตัวเองว่าหล่อ ย่อมทำให้นักศึกษาจำนวนมากไม่พอใจ กระทั่งมีนักศึกษาที่เชิดใส่ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีผู้ที่สะอิดสะเอียนจนอาเจียนขึ้นมา
“ถุยคนอัปลักษณ์มักก่อเรื่อง อาศัยหน้าตาที่อัปลักษณ์ถึงกับกล้าหลงตัวเองเช่นนี้” มีนักศึกษาหญิงที่รู้สะอิดสะเอียนกับคำพูดของหลี่ชิเย่อย่างยิ่ง และดูแคลนยิ่งนัก กระทั่งมีท่าทางที่อาเจียนอย่างนั้น
“เจ้าควรจะยอมรับให้ผู้อื่นได้หลงตัวเองเสียบ้าง ไม่ง่ายนักกับคนที่ไม่มีความสำคัญคนหนึ่งแล้วได้รับอาวุธปฐมบรรพบุรุษมา จะไม่อวดดีสักหน่อยรึ?” มีนักศึกษาชายที่อยู่ข้างๆ กล่าวเยาะเย้ยว่า “คนเขาพองตัวจนกำเริบเสิบสานไปแล้วเมื่อมีอาวุธปฐมบรรพบุรุษในมือ คนเขาเข้าใจว่าตัวเองคือหนึ่งเดียวตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ยากจะหาผู้ใดเทียมในหล้าอีกแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...