ตอนที่ 2873 ปูคริสตัล
หลังจากที่หลี่ชิเย่ไปจากแล้ว ได้เหลือบมองดูนกสาลิกาสันติภาพสองตัวและไข่นกสาลิกาที่อยู่ในรัง และกล่าวว่า “หาที่ที่ปลอดภัยแห่งหนึ่งให้พวกมันได้อาศัยอยู่”
นกสาลิกาสันติภาพเป็นวิหคมงคลที่มีความเป็นเอกลักษณ์ยิ่ง เป็นวิหคคุณธรรมที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสอง การเลือกที่อยู่อาศัยของพวกมันนั้นจู้จี้เรื่องมากยิ่งนัก ภูเขาแม่น้ำธรรมดาทั่วไปพวกเขาจะไม่ไปอาศัยอยู่อย่างเด็ดขาด
เวลานี้นกสาลิกาสันติภาพรังนี้มีผู้คนรับรู้เป็นจำนวนมาก หากไม่จัดหาที่ที่ปลอดภัยสักแห่งให้พวกมันได้พักอาศัย ไม่แน่นักก็อาจจะถูกผู้อื่นแย่งชิงไปโดยใช้กำลังอีก
“ข้ารู้ว่ามีสถานที่อยู่แห่งหนึ่ง” กระบือดำขนาดใหญ่อาสาเอง และกล่าวว่า “ข้าพาพวกเจ้าไป ให้นกสาลิกาสันติภาพอยู่ที่นั่นน่าจะไม่เป็นอะไร”
กระบือดำขนาดใหญ่กล่าวพลางได้นำทางให้กับหลี่ชิเย่ โดยวิ่งไปตลอดทาง สุดท้ายได้พาพวกหลี่ชิเย่ไปถึงยังหุบเขาแห่งหนึ่งของสวนดึกดำบรรพ์
พลันที่เข้าไปยังหุบเขาแห่งนี้ ทำให้ผู้คนสามารถรับรู้ได้ถึงพลังที่เต็มเปี่ยมอย่างยิ่ง พลังจรัสตลบอบอวล ไปทั่วทั้งหุบเขา และไร้รูปไร้เงา
ความจริงแล้ว พลังจรัสภายในสวนดึกดำบรรพ์ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เต็มเปี่ยมอย่างยิ่ง และมีความแข็งแกร่งยิ่งนัก แต่ว่า พลังจรัสของที่นี่กลับไม่เหมือนเช่นพลังจรัสของที่อื่นๆ ของสวนดึกดำบรรพ์ พลังจรัสของที่นี่ดูจะมีความบริสุทธิ์ยิ่งกว่า เหมือนว่าพลังจรัสทุกๆ สายของที่นี่ล้วนผ่านการขัดเกลามาร้อยครั้งพันครั้งอย่างนั้น
การมายืนอยู่ในหุบเขาที่ลึกและเงียบ ซึ่งเต็มไปด้วยพลังจรัสที่เข้ามาปะทะใบหน้า และมีความชื้นที่เย็นสบายอย่างยิ่ง คล้ายความเย็นแต่ละสายในฤดูร้อนที่ร้อนจัดอย่างนั้น ทำให้ผู้คนรู้สึกสบายไปทั่วร่าง ทำให้อดที่จะสูดเอาความเย็นสายนี้เข้าไปลึกๆ ทีหนึ่งไม่ได้
“นับเป็นสถานที่ที่ดีแท้ เป็นที่อยู่ของสัตว์น้ำ” หลี่ชิเย่พิจารณาหุบเขาที่อยู่ตรงหน้า
หุบเขาแห่งนี้ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาที่สูงตระหง่านทั้งสี่ด้าน เมื่อมองจากระยะห่างไกลมันคล้ายเป็นป้อมปราการขนาดยักษ์แห่งหนึ่ง นอกเหนือจากทางเขาหุบเขานี้แล้ว ที่อื่นๆ ล้วนแล้วแต่ยากที่จะผ่านเข้าออกได้
ภายในหุบเขามีอากาศดีตลอดทั้งปี มวลบุปผาบานเบ่งโดยพร้อมเพรียงกัน ต้นไม้เขียวชอุ่มทั้งปี ท่ามกลางหุบเขาที่งดงามเช่นนี้ เสมือนดั่งเป็นดินแดนแห่งความฝันอย่างนั้น
“เป็นสถานที่ที่สวยงามมาก” บรรดานักศึกษาสถาบันศึกษาล้างบาปต่างรู้สึกว่าสถานที่แห่งนี้นับว่าสบายโดยแท้ และมีความพิเศษมาก หลังจากที่ได้เดินเข้าไปในหุบเขาแล้ว
กระบือดำขนาดใหญ่นำพาพวกของหลี่ชิเย่วิ่งเข้าไปในหุบเขา ภายในหุบเขามีหน้าผาสูงชันด้านหนึ่ง ด้านหน้าของหน้าผาสูงชันมีบ่อน้ำลึกแห่งหนึ่ง น้ำในบ่อใสและนิ่งโดยไม่มีการกระเพื่อมแม้แต่น้อย เหมือนเป็นบ่อน้ำเก่าที่ไม่มีการเคลื่อนไหวมานับพันปี
รู้สึกได้ถึงความเย็นที่เข้ามาปะทะใบหน้าขณะยืนอยู่ด้านหน้าบ่อน้ำแห่งนี้ นาทีนี้ทุกคนจึงได้รู้ว่าความเย็นของหุบเขาแห่งนี้กำเนิดมาจากที่ใดกันแน่
“ตาเฒ่าปู ตาเฒ่าปู ออกมา ออกมาเร็วๆ กระบือสุดหล่อมีเรื่องต้องการพบเจ้า” เวลานี้ กระบือดำขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างบ่อน้ำใช่กีบเท้ากระทืบบ่อน้ำและร้องกล่าวเสียงดังขึ้นมา
พลันที่กระบือดำขนาดใหญ่พูดขาดคำ เสียงน้ำดังช่าาาขึ้นมา มองเห็นน้ำในบ่อที่หมุนพลิกตัวไปมา และเพิ่มความเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้าย มองเห็นน้ำบ่อพลันกลายเป็นเสาน้ำที่พุ่งขึ้นไปเหมือนน้ำพุ
ในเวลานี้เอง ทุกคนจึงได้มองเห็นบนเสาน้ำได้รองรับปูเอาไว้อยู่ตัวหนึ่ง
ปูตัวนี้มีขนาดใหญ่มาก ขนาดของมันใหญ่เสมือนดั่งหน้าโต๊ะตัวหนึ่งอย่างนั้น กล่าวได้ว่าเป็นปูยักษ์ที่พบเห็นได้ยากยิ่งนัก แน่นอน ปูยักษ์ตัวหนึ่งที่มีขนาดเช่นนี้ในสวนดึกดำบรรพ์ไม่นับเป็นอะไรได้อยู่แล้ว เป็นเพียงจุดเล็กๆ ที่มีขนาดเล็กจนน่าสงสารเท่านั้นเอง จะอย่างไรเสียภายในสวนดึกดำบรรพ์แห่งนี้มีสิ่งที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารมากเหลือเกิน
สิ่งที่ทำให้ผู้คนรู้สึกประหลาดใจในปูตัวนี้หาใช่เป็นขนาดตัวของมัน แต่เป็นตัวของมัน ปูตัวนี้แลดูเหมือนโปร่งแสง สามารถมองเห็นอวัยวะภายในได้อย่างชัดเจน เหมือนว่าตัวของมันสร้างโดยแกะสลักขึ้นมาจากคริสตัล ดูเหมือนจริงมาก
เจ้าปูยักษ์ตัวนี้แม้จะมีลำตัวที่ใสงดงามเป็นประกาย แต่ว่า ไม่ได้ให้ความรู้สึกผู้คนถึงความเปราะบาง ไม่เหมือนแก้วที่สัมผัสก็แตกอะไรอย่างนั้น ตรงกันข้าม มันกลับให้ความรู้สึกที่แข็งแกร่งมาก ความรู้สึกที่แกร่งและหนามาก เหมือนสามารถจับต้องได้อย่างนั้น
ด้วยปูยักษ์ที่มีลำตัวใสงดงามเป็นประกายตัวนี้นี่เอง มันให้ความรู้สึกถึงหน้าตาซึ่งมีความเมตตาสุภาพอ่อนโยน เหมือนว่าผู้ที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนเสาน้ำนั้นไม่ใช่ปูยักษ์ตัวหนึ่ง แต่เป็นผู้เฒ่าที่มีความเมตตาสุภาพอ่อนโยนคนหนึ่ง เสียอย่างเดียวคือไม่มีหนวดสองข้างที่ปาก
“เหอะ เหอะ เหอะที่แท้เป็นท่านขุนพลมาเยือนนะเนี่ย” เจ้าปูคริสตัลที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเสาน้ำหลังจากได้เห็นกระบือดำขนาดใหญ่แล้ว หัวเราะเหอะเหอะด้วยท่าทางที่เมตตาและอ่อนโยนอย่างยิ่ง และกล่าวว่า “วันนี้ลมอะไรพัดมา หรือว่าพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกแล้ว? ถึงกับให้ท่านขุนพลมาบ้านข้าด้วยตนเองได้ นับว่าเป็นการนำพาแสงสว่างมาสู่ที่พำนักอันต่ำต้อย นำพาแสงสว่างมาสู่ที่พำนักอันต่ำต้อย ข้าน้อยรู้สึกเป็นเกียรติ…” เจ้าปูคริสตัลนี้ไม่เพียงพร่ำบอกเป็นภาษามนุษย์เท่านั้น ทั้งยังมีความเมตตาและอ่อนโยนยิ่งนัก แม้ว่ามันจะเป็นเพียงปูตัวหนึ่ง ไม่ว่าใครก็ตามพลันที่มองเห็นมันก็ต้องนึกถึงผู้เฒ่าที่มีอัธยาศัยไมตรีดีคนหนึ่ง
“อย่าพล่ามไร้สาระ คำพูดที่สุภาพเรียบร้อยมีมารยาทเช่นนี้ ขุนพลอย่างข้าฟังแล้วก็เบื่อ” กระบือดำขนาดใหญ่โบกมือกล่าวตัดบทคำพูดของปูคริสตัล ไม่มีความอดทนแม้แต่น้อย
กระบือดำขนาดใหญ่กล่าวว่า “ที่ขุนพลอย่างข้ามาหาเจ้าในวันนี้ย่อมต่องมีธุระแล้ว มีเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งฝากเจ้าทำให้”
“มิกล้า มิกล้า” เจ้าปูคริสตัลไม่ถือสาแม้แต่น้อย และไม่ได้ร้อนรนแม้แต่น้อย เวลาพูดก็จะเนิบๆ ว่า “ไม่ทราบว่าท่านขุนพลมีเรื่องอะไรควรค่าให้ข้าน้อยรับใช้เล่า ขอเพียงทุ่นขุนพลสั่งการมาคำหนึ่ง แม้ว่าจะต้องบุกน้ำลุยไฟ ถึงต้องตายก็ไม่เสียดายชีวิต และข้าน้อยจะไม่ปฏิเสธ…”
“ไม่ได้รุนแรงมากอย่างที่เจ้าพูดมา” กระบือดำขนาดใหญ่โบกมือ และตัดบทคำพูดของปูคริสตัล กล่าวด้วยท่าทีรำคาญว่า “เพียงแต่มีนกสองตัวจะมาอาศัยอยู่ที่นี่เท่านั้นเอง”
ถึงแม้ท่าทางของกระบือดำขนาดใหญ่ดูเหมือนรำคาญ แต่ว่า นักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาปอย่างพวกจ้าวชิวสือต่างรู้สึกว่าเจ้าปูคริสตัลตัวนี้น่าสนใจมากเป็นพิเศษ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...