ตอนที่ 2895 ปราชญ์อัจฉริยะหลันซู
เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว ครั้นพลังลมปราณทั้งหมดของพวกราชันแท้จริงงูหลามทองถูกถ่ายทอดเข้าสู่ร่างกายของราชันแท้จริงจินผู่แล้ว ในพริบตาเดียวนั้นเองราชันแท้จริงจินผู่ได้พวยพุ่งเปลวราชันที่ไม่มีสิ้นสุดออกมาท่ามกลางเสียงที่ดังสนั่นหวั่นไหวนั่น ทันใดนั้นเอง เปลวราชันดั่งคลื่นยักษ์ทีกลืนกินไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน ราชันแท้จริงแปดลัคนาได้กลับมาอีกครั้ง
ในเวลานี้เอง ราชันแท้จริงจินผู่ได้กลับมามีพลังลมปราณที่คึกคักอีกครั้ง เสมือนดั่งยืนอยู่บนสุดสูงสุดอย่างนั้น เหลียวซ้ายเลขวา มองเห็นอานุภาพราชันที่เกรียงไกร ขณะเปลวราชันที่พุ่งขึ้นท้องฟ้าอย่างรุนแรงนั้น เสมือนดั่งคลื่นยักษ์ที่ยกตัวขึ้นสูง และซัดใส่สุริยันจันทราและดวงดาวของเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน
เอี๊ยดดด…ในเวลานี้ เสียงเคลื่อนไหวที่หนักอึ้งดังขึ้น มองเห็นราชันแท้จริงจินผู่ค่อยๆ เลื่อนฝาเตาสามขาให้เปิดออกช้าๆ ขณะที่เขาค่อยๆ เลือนฝาของเตาสามขาออกไปนั้น ทำให้ผู้คนรู้สึกได้ว่าฝาของเตาสามขาหนักจนถึงขั้นไม่อยากจะเชื่อ
ท่ามกลางเสียงเคลื่อนที่ดังเอี๊ยดดด…เอี๊ยดดด…เอี๊ยดดด…นั้น เหมือนว่าสิ่งที่ราชันแท้จริงจินผู่ทำการเคลื่อนที่อยู่ไม่ใช่ฝาของเตาสามขา แต่เป็นฝาท้องฟ้า เป็นฝาขนาดยักษ์ที่ไร้รูปซึ่งปิดทับท้องฟ้าอยู่
กระทั่งมีผู้ที่รู้สึกได้ว่า ท้องฟ้าถูกเลื่อนออกขณะที่ราชันแท้จริงจินผู่ได้เลื่อนฝาของเตาสามขาออกช้าๆ อย่างนั้น เหมือนฝาขนาดยักษ์ไร้รูปของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวถูกเลื่อนออกไปอย่างนั้น
แว้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น ท้ายที่สุด ฝาเตาสามขาก็ถูกราชันแท้จริงจินผู่เลื่อนเปิดออกแล้ว พริบตาเดียวที่ฝาเตาสามขาถูกเปิดออก มองเห็นภายในเตาสามขาได้พวยพุ่งเป็นประกายดวงดาวขึ้นมา
ประกายดวงดาวดั่งน้ำในแม่น้ำที่พวยพุ่งขึ้นมา ท่ามกลางประกายดวงดาวดังกล่าวนี้ถึงกับปรากฎจักรราศีแต่ละราศีที่เก่าแก่โบราณขึ้นมา ทุกๆ จักรราศีล้วนแฝงไว้ซึ้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวซึ่งกว้างใหญ่ไพศาลไร้ขอบเขต
เสียงฮือออ…ดังขึ้น ในพริบตาเดียวนั้นเอง ปรากฏเสียงแต่ละเสียงของสัตว์ที่ร้องคำรามขึ้นมา มังกรจรัสทองคำนำพาสัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์แต่ละตัวส่งเสียงคำรามเสียงยาวขึ้นมา ในพริบตาเดียวนั้นเอง มังกรจรัสทองคำและสัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์แต่ละตัวก็พวยพุ่งเป็นประกายดวงดาวจากร่างกายของพวกมัน ประกายดาวส่องสว่างไปทั่วฟ้าดิน
นาทีนี้ ขณะที่ทุกคนยังไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา ได้ยินเสียงปุดังขึ้นเสียงหนึ่ง พวกมังกรจรัสทองคำ สัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์เสมือนได้กลับกลายเป็นอนุภาคแสง ร่างกายของพวกมันกลับกลายเป็นแสง
หลังจากที่ร่างกายของบรรดาสัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์ได้กลายเป็นอนุภาคแสงไปแล้วนั้น ตามติดด้วยอนุภาคแสงรวมตัวเข้าด้วยกัน กลายเป็นจักรราศีแล้วจักรราศีเล่า ได้แก่กลุ่มดาวหมีใหญ่ กลุ่มดาวคนแบกงู กลุ่มดาวนกอินทรี…
พริบตาเดียวนี้เอง จักรราศีแต่ละจักรราศีมีความเจิดจรัสยิ่งนัก ทุกๆ จักรราศีไม่เพียงแต่บ่มเพาะท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวไม่มีสิ้นสุด ยังบ่มเพาะชีวิตที่สูงสุด เหมือนว่า ท่ามกลางชีวิตนี้มีพลังที่สูงสุดอย่างนั้น
แว้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น เมื่อจักรราศีที่เกิดจากมังกรจรัสทองคำ สัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์จับและรวมตัวกันจักรราศีที่ประกายระยิบระยับของเตาสามขาวิเศษได้กลืนกินมาประกบซ้อนเข้าด้วยกันนั้น ในพริบตาเดียวนั่นเอง ประกายดาวที่ไม่มีสิ้นสุดพลันกลับกลายเป็นวังวนขนาดยักษ์ จากการที่วังวนดวงดาวดังกล่าวหมุนด้วยความเร็วสูงนั้น ได้จัดการดูดเอาจักรราศี สุริยันจันทรา และดวงดาวเข้าไปในนั้นทั้งหมด
ตูม ตูม ตูมเสียงดังตูมตามดังขึ้นไม่ขาดสาย จากการที่วังวนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวมีการหมุนรวดเร็วมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ นั้น ท้ายที่สุดทั่วหล้าคงเหลือไว้เพียงวังวนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวนี้เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ในขณะนี้เหมือนว่าโลกทั้งโลกได้หายไป นาทีนี้พวกของราชันแท้จริงจินผู่ สัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์ทั้งหมดก็ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือไว้เพียงวังวนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวตรงหน้าที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัด
จากการที่วังวนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวยิ่งหมุนได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เหมือนได้ดูดเอาโลกทั้งโลกเข้าไป และขณะที่วังวนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวหมุนด้วยความเร็วสูงนั้น จังหวะที่วังวนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวเหมือนมีการขยายตัวอย่างไร้ขีดสิ้นสุดนั้น ภายในวังวนปรากฏพลังที่สูงสุดตลบอบอวลอยู่ ที่ตรงนั้นคล้ายมีชีวิตที่สูงสุดกำลังจะถือกำเนิดขึ้นอย่างนั้น ขณะที่ชีวิตสูงสุดเช่นนี้ถือกำเนิดขึ้นมาก็คือวันที่เขาบงการโลกทั้งโลกวันนั้น
เสียงตูม…ดังสนั่น ทันใดนั้นฟ้าดินระเบิดแยกออก ในพริบตาเดียวนั่นเอง ทั่วฟ้าดินพลันมืดลง เหมือนว่าโลกทั้งโลกถูกทดแทนด้วยท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวที่ใหม่ทั้งหมดอย่างนั้น
ภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวปรากฏคนผู้หนึ่ง เป็นชายหนุ่มคนหนึ่ง ชายหนุ่มผู้นี้ยืนอยู่ท่ามกลางท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวเงียบๆ เขากลายเป็นผู้บงการทุกสิ่งทุกอย่าง
ชายหนุ่มผู้นี้มีประกายดาวที่สว่างไสว เหมือนว่าร่างกายของเขาประกอบขึ้นมาด้วยสุริยันจันทราและดวงดาว เส้นรุ้งเส้นแวงสัจธรรมเป็นตัวสลักและกำหนดเค้าโครงร่างกายของเขา การยืนอยู่ที่ตรงนั้นของเขาดูช่างสูงเด่นกว้างไกลอะไรอย่างนั้น เนื่องจากตัวเขาก็คือท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว จักรวาลที่กว้างใหญ่ไพศาลเป็นเพียงส่วนหนึ่งของร่างกายของเขาเท่านั้น
ชายหนุ่มลักษณะเช่นนี้แหละที่ยืนอยู่ตรงนั้นแล้วแลดูไม่สมจริงสักเท่าไร แต่ก็ดูช่างมีฐานะที่สูงสุดอย่างนั้น เหมือนว่าเขาก็คือผู้บงการของโลกทั้งใบ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดต้องหมอบอยู่แทบเท้าของเขา
“ปราชญ์อัจฉริยะหลันซู…” นักศึกษาทั้งหมดต่างร้องเสียงดังขึ้นมา เมื่อมองเห็นชายหนุ่มผู้นี้แล้ว
ในขณะนี้ ชายหนุ่มผู้นี้ไม่ได้แผ่อานุภาพปฐมบรรพบุรุษที่ไร้เทียมทานออกมา ไม่ได้มีเปลวไฟปฐมบรรพบุรุษที่ปะทุขึ้นมา เขาแค่ยืนอยู่ภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวเงียบๆ เท่านั้นเอง เพียงเท่านี้เอง แต่ว่า ก็ได้ทำให้นักศึกษาจำนวนมากทยอยกันคุกเข่ากราบกับพื้นแล้ว แม้แต่นักศึกษาที่มีกำลังความสามารถในระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะก็ตาม เมื่ออยู่ตรงหน้าชายหนุ่มผู้นี้ก็ไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว
ปราชญ์อัจฉริยะหลันซู หนึ่งในสองปฐมบรรพบุรุษในยุคปัจจุบัน นี่คือยุคสมัยที่มีปฐมบรรพบุรุษคู่ เพียงแต่หลังจากที่ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูบรรลุเป็นปฐมบรรพบุรุษแล้วนั้น ยังไม่ได้มีการตั้งฉายาปฐมบรรพบุรุษขึ้นมา เนื่องจากกล่าวสำหรับตัวเขาแล้ว นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นบนเส้นทางของปฐมบรรพบุรุษเท่านั้น ยังไม่ได้ก้าวไปถึงระดับสูงสุด เมื่อเขาสามารถก้าวไปถึงระดับสูงสุดแล้วค่อยคิดตั้งฉายาปฐมบรรพบุรุษก็ยังไม่สาย
ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวก็คือปราชญ์อัจฉริยะหลันซูนั่นเอง แม้ว่าจะไม่ใช่การมาของร่างแท้จริง แต่ว่า ฝีมือที่เขาสำแดงออกมานั้นนับว่าปราศจากผู้ต่อกรทั่วหล้าแล้ว ตัวเขาก็คือฟ้าดิน ฟ้าดินก็คือตัวเขา
“ปราชญ์อัจฉริยะหลันซู…” ในเวลานี้ ไม่รู้ว่ามีนักศึกษาจำนวนเท่าไรที่รู้สึกตื่นเต้นยิ่งนัก เมื่อมองเห็นชายหนุ่มที่อยู่ท่ามกลางท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว
จะอย่างไรเสีย หลังจากที่ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูได้บรรลุธรรมเป็นปฐมบรรพบุรุษได้แล้วนั้น ก็น้อยครั้งนักที่ปรากฎตัวต่อหน้าผู้คนในหล้า มีผู้บอกว่าเขากักตนเพื่อบรรลุสัจธรรมแล้ว และก็มีผู้กล่าวว่าเขาออกท่องไปนอกฟ้าดิน
มาวันนี้กลับสามารถได้เห็นปราชญ์อัจฉริยะหลันซู แม้ว่าจะไม่ใช่ร่างจริง แม้ว่าหน้าตาของปราชญ์อัจฉริยะหลันซูในเวลานี้ก็ดูไม่จริงแท้อะไรอย่างนั้น แต่ว่า เมื่อมีผู้ที่รับรู้ถึงกลิ่นอายที่แผ่กระจาออกมาจากตัวของชายหนุ่มผู้นี้แล้ว กลิ่นอายที่สูงสุดแบบนั้นทำให้ผู้คนต้องเคารพเลื่อมใสทั้งกายและใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...