สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2898 คัมภีร์เซียนธรรมชาติ มีเพียงข้าไร้เทียมทานที่สุด – ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet
บท ตอนที่ 2898 คัมภีร์เซียนธรรมชาติ มีเพียงข้าไร้เทียมทานที่สุด ของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 2898 คัมภีร์เซียนธรรมชาติ มีเพียงข้าไร้เทียมทานที่สุด
ทันใดนั่นเอง ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูก็มีท่าทีที่หนักแน่นจริงจัง เมื่อมองเห็นลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่
เสียงแว้งค์…ดังขึ้นเสียงหนึ่ง ในพริบตาเดียวนั่นเอง เสมือนดั่งช่องว่างมีการสลับสับเปลี่ยน วันเวลาทวนกลับ ในเสี้ยววินาทีนี้เอง ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูได้ตวัดพู่กันเขียนอย่างรวดเร็ว ความเร็วของเขาช่างรวดเร็วเหลือเกิน เพียงแค่พริบตาเดียวเท่านั้น ก็ได้บันทึกเป็นบทคัมภีร์ พลันเขียนบันทึกเป็นนิรันดร์ ขีดเขียนหมื่นชาติ
เสียงแว้งค์…ดังขึ้น ในพริบตาเดียวนี้เอง คัมภีร์บทหนึ่งได้ปรากฏขึ้นมา ก้าวข้ามกาลเวลา กลายเป็นโลกๆ หนึ่ง
พริบตาเดียวนั่นเอง ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านั้น เขาจรดพู่กันดังสายฟ้าแลบ ดั่งมังกรเคลื่อนไหวงูเยื้องย่าง ลึกซึ้งและยอดเยี่ยมจนยากจะหาสิ่งใดเทียม เหมือนว่าโลกทั้งโลกล้วนอยู่ภายใต้พู่กันของเขา แม้ว่าเขาเพียงแก่ขีดเขียนไม่กี่ขีดเท่านั้น โลกทั้งโลกก็ปรากฏขึ้นมาภายใต้พู่กันของเขา
ในเวลานี้เอง ภาพที่เหลือเชื่อได้ปรากฏขึ้นมาแล้ว ในพริบตาเดียวนั่นเอง ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูได้จรดพู่กันเขียนสุดยอดบทคัมภีร์สูงสุดแต่ละบทขึ้นมา เมื่อสุดยอดบทคัมภีร์สูงสุดแต่ละบทถูกขึ้นมาแล้ว ก็ได้เย็บรวมเล่มกลายเป็นคัมภีร์เซียนในทันที
นาทีนี้ คัมภีร์เซียนเล่มดังกล่าวได้ลอยล่องอยู่ตรงหน้าของปราชญ์อัจฉริยะหลันซู เหมือนกันลังถ่ายทอดสุดยอดวิถีเซียนสูงสุดอยู่อย่างนั้น
ภายในบทคัมภีร์ปรากฏอักษรเซียนแต่ละตัวที่เคลื่อนไหวไปมา ทุกๆ ตัวอักษรเซียนล้วนแล้วแต่มีการแปรเปลี่ยนไปที่ลึกซึ้งยากจะหยั่งถึง ไม่สามารถคาดเดาถึงความลึกซึ้งของมันได้อยู่แล้ว เหมือนว่าทุกๆ ตัวอักษรเซียนแทนสุดยอดวิถีเซียนสูงสุดอย่างนั้น
คัมภีร์เซียนได้แผ่ประกายเซีบนขึ้นมา ประกายเซียนทุกสายคล้ายบุกเบิกโลกขึ้นมาอย่างนั้น ประกายเซียนทุกสายล้วนแล้วแต่บุกเบิกนิรันดร์ เหมือนว่าคัมภีร์เซียนเล่มนี้จึงจะเป็นจุดเริ่มต้นของโลกนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างเพียงเก็บอยู่ในตัวอักษรหนึ่งตัวหรือประโยคหนึ่งเท่านั้น
กล่าวได้ว่า ยามที่คัมภีร์เซียนเล่มนี้ถูกพลิกเปิดขึ้นมานั้น มันสามารถให้อรรถาธิบายทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ ผลกรรม กาลเวลา วัฏสงสาร อายุวัฒนะ…เหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่อยู่ในคัมภีร์เซียนเล่มนี้ทั้งสิ้น
ภายในใจของทุกคนต่างสั่นเทิ้มทีหนึ่งเมื่อมองเห็นคัมภีร์เซียนลักษณะเช่นนี้ลอยขึ้นมาเล่มหนึ่ง เนื่องจากนาทีนี้ทุกคนต่างรู้สึกว่า เคล็ดวิชาใดๆ เคล็ดวิชาไร้เทียมทานอะไร หรือสุดยอดกระบวนท่าอะไรก็ไม่สามารถเทียบได้กับคัมภีร์เซียนเล่มนี้ คัมภีร์เซียนเล่มนี้แหละจึงเป็นสุดยอดเคล็ดวิชาที่ผู้คนในหล้าต้องการให้ได้มา นี่แหละจึงเป็นความรู้แจ้งของสัจธรรมที่แท้จริง
ช่าาาเสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้ ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูได้พลิกเปิดคัมภีร์เซียนขึ้นมา จากเสียงช่าาา ช่าาาที่ดังขึ้น ร่างกายของปราชญ์อัจฉริยะหลันซูก็ปรากฎประกายเซียนที่เปล่งออกมาทั่วร่างท่ามกลางเสียงแว้งค์เสียงหนึ่งที่ดังขึ้น
ในเวลานี้เอง ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูเหมือนกำลังดูดซับเอาสุดยอดคัมภีร์เซียนนี้อยู่ คัมภีร์เซียนที่ปรากฎขึ้นบนตัวของเขาพลันกลายเป็นสิ่งสำหรับร่างกายของเขา
ตูม…เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ในพริบตาเดียวนั่นเองร่างกายของปราชญ์อัจฉริยะหลันซูได้ดูดซับเอาทุกสิ่งทุกอย่างภายในคัมภีร์เซียน ทันใดนั้นเอง ร่างกายของเขาปรากฏเปลวไฟเซียนที่ลุกขึ้นมาทั่วร่าง เสียงตึง ตึง ตึงดังขึ้นมาไม่ขาดสาย เสื้อเกราะเซียนปรากฏ มองเห็นเสื้อเกราะเซียนดังกล่าวนั้นเกิดจากชิ้นส่วนแต่ละชิ้นที่ปะติดปะต่อเข้าด้วยกัน และถูกสวมใส่บนตัวของปราชญ์อัจฉริยะหลันซู
ตูม ตูม ตูมในเวลานี้ มองเห็นฝ่ามือทั้งสองที่ประสานเข้าด้วยกันของปราชญ์อัจฉริยะหลันซูค่อยๆ แยกออก ขณะที่ฝ่ามือซึ่งประสานเข้าด้วยกันค่อยๆ แยกออกนั้น เหมือนต้องการดึงโลกที่ใหม่ทั้งหมดโลกหนึ่งให้เปิดออกอย่างนั้น
การกางมือออกของปราชญ์อัจฉริยะหลันซูเป็นไปช้ามาก เหมือนโลกที่ดึกดำบรรพ์มากแห่งหนึ่งก็อยู่ระหว่างฝ่ามือทั้งสองของเขา เขาต้องการดึงเอาโลกที่ใหม่ทั้งหมดออกมาโลกหนึ่ง มันช่างน่ากลัวอะไรอย่างนั้น จำเป็นต้องอาศัยพลังที่แข็งแกร่งเช่นใดกันแน่?
เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว ท่ามกลางเสียงที่ดังสนั่นหวั่นไหวนี้ มองเห็นโลกที่ทุกคนอาศัยอยู่ได้ปรากฎรอยร้าวขึ้นมาสายหนึ่ง ท่ามกลางรอยร้าวดังกล่าวเหมือนมีโลกที่ใหม่ทั้งหมดโลกหนึ่งจะถือกำเนิดขึ้นมาอย่างนั้น เป็นโลกที่ใหม่ทั้งหมดมาแทนที่โลกใบเดิมนี้อย่างนั้น
ดังนั้น บนรอยร้าวนี้ได้ปรากฏแสงสว่างสายหนึ่ง โดยที่ลำแสงสายนี้เสมือนดั่งโลกเพิ่งอุบัติขึ้นมาใหม่ ขณะที่อยู่ในยุคดึกดำบรรพ์เพิ่งปรากฎลำแสงขึ้นมาสายหนึ่ง
ด้วยลำแสงสายหนึ่งที่ปรากฎขึ้นเช่นนี้แหละ เสมือนดั่งโลกทั้งโลกจะต้องถูกทำลายพินาศย่อยยับอย่างนั้น แม้ว่าลำแสงสายนี้ส่ายไปมาไม่นิ่ง เหมือนเป็นเทียนไขที่ใกล้จะดับมอดลงอย่างนั้น คล้ายมีสายลมที่พัดโชยเข้ามาบางเบาก็สามารถทำให้มันดับลงได้อย่างนั้น
แต่ว่า ด้วยแสงสว่างที่อ่อนแอเช่นนี้ มันกลับเป็นการสิ้นสุดของโลกๆ หนึ่ง และเป็นการเริ่มต้นของโลกๆ หนึ่งเช่นกัน
ดังนั้น ยามที่แสงสว่างที่อ่อนแอกำลังโอนเอนไปมาไม่นิ่งนั้น ได้ยินเสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้นมา โลกทั้งโลกเริ่มหลอมละลาย ไม่ว่าจะเป็นดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วน หรือทางช้างเผือกนับล้านๆ สายบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ในเวลานี้ก็เริ่มมีการหลอมละลายอย่างช้าๆ คล้ายหิมะที่สะสมภายใต้แสงอาทิตย์อย่างนั้น
ในเวลาเดียวกัน ช่องว่าง กาลเวลาที่อยู่ภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวก็มีการหลอมละลายตาม เหมือนว่าโลกทั้งโลกก็ถูกถูกหลอมละลายทิ้ง โลกทั้งโลกจะต้องหายวับไปกับตาในพริบตา
ขณะที่โลกทั้งโลกกำลังหลอมละลายอย่างช้าๆ นั้น ภายในรอยร้าวที่ถูกดึงให้แยกออกกลับเปี่ยมด้วยชีวิตชีวาที่คึกคัก เหมือนว่าโลกที่จะกำเนิดขึ้นใหม่กำลังจะถือกำเนิดขึ้นจากรอยร้าวนี้อย่างนั้น เหมือนว่ามันสามารถกระโดดออกมาจากรอยร้าวนี้
ทำลายล้างโลก สร้างโลก! ในเวลานี้นักศึกษาทั้งหมดจึงได้ตระหนักถึงปัญหาข้อนี้
“โอ้แม่จ๋า…” ในเวลานี้ นักศึกษาทุกคนต่างพบว่าตนเองกำลังจะหลอมละลายไปพร้อมกับโลกทั้งโลก ร่างการของพวกเขาเสมือนหนึ่งเป็นหิมะที่อยู่ท่ามกลางดวงตะวันที่ละลายไปทีละชั้นๆ
ขณะที่พวกเขาจ้องมองกันและกันนั้น พบว่าทุกคนพลันกลับกลายเป็นเลือนรางขึ้น เหมือนว่าพวกเขาล้วนแล้วแต่จะหายไปอย่างนั้น
มาคราวนี้ได้ทำเอานักศึกษาทั้งหมดตระหนกตกใจเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาคิดจะหันหลังวิ่งหนีไป แต่ว่า เมื่อพวกเขาหันกลับไปนั้น นาทีนี้ไหนเลยยังมีฟ้าดินอะไรที่ด้านหลัง มันไม่มีอะไรเลยสักอย่างแล้ว
ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นเลือนราง ทุกอย่างกำลังหายไปอย่างช้าๆ สิ่งนี้หาใช่พวกเขาที่หลอมละลายเอง แต่เป็นโลกทั้งโลกล้วนแล้วแต่อยู่ท่ามกลางละลาย ไม่ว่าจะเป็นกาลเวลาหรือช่องว่าง และหรือจะเป็นเพียงเม็ดทรายสักเม็ดหนึ่งบนโลก ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่หนีรอดไปไหนไม่ได้ทั้งสิ้น
ในขณะนี้เสียงหัวเราะของหลี่ชิเย่ดูช่างไพเราะน่าฟังอะไรอย่างนั้น ไม่ว่าใครก็ตามพลันที่ได้ยินเสียงนี้แล้วเสมือนหนึ่งมันคือเสียงของพระเจ้าที่ช่วยโลกอย่างนั้น
“เป็นความจริงที่พลังแฝงของเจ้ามีมากเหลือเกิน อนาคตยังมีสิทธิ์ที่จะก้าวทะลุกว่านี้ได้อีก” หลี่ชิเย่หัวเราะด้วยท่าทีเอ้อระเหยว่า “เสียดาย เจ้าแค่บรรลุความนัยมาได้นิดเดียวเท่านั้น ยังไม่สามารถสร้างโลกได้โดยแท้จริง มิฉะนั้นล่ะก็ ยังสามารถสู้กับข้าได้บ้าง”
คำพูดนี้ของหลี่ชิเย่เอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พูดได้ตามธรรมชาติมาก
หากหลี่ชิเย่ พูดคำพูดเช่นนี้ก่อนหน้านั้น ทุกคนจะเข้าใจว่าเป็นคำพูดที่กำแหงมาก อวดดีมากเหลือเกิน แม้แต่ระดับปฐมบรรพบุรุษยังแค่สามารถต่อสู้กับเขาได้เท่านั้น วาจานี้สามหาวยิ่งนัก
แต่ว่า ในเวลานี้ ทุกคนที่ได้ยินคำพูดที่เอ้อระเหย กำแหงเช่นนี้นั้น ต่างรู้สึกว่ามันไพเราะน่าฟังอย่างยิ่ง ทุกคนต่างรู้สึกว่าคำพูดนี้น่าฟังดีเหลือเกิน ไม่มีใครสักคนที่รู้สึกว่าคำพูดนี้อวดดี
ในเวลานี้ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกว่าคำพูดนี้ของหลี่ชิเย่ไม่ได้อวดดีแม้แต่น้อย ทั้งยังเป็นเรื่องจริง เป็นจริงอย่างยิ่ง
“สมควรสิ้นสุดลงได้แล้ว” นาทีนี้ หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉย
ขาดคำ หลี่ชิเย่ที่ถูกหลอมละลายถึงกับปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง นาทีนี้โครงร่างของเขาช่างชัดเจนอะไรอย่างนั้น เหมือนว่าเขาคือผู้ที่ก้าวออกมาเป็นเอกเทศจากโลกทั้งโลกดย่างนั้น
“จบได้แล้ว” ในเวลานี้เอง ฝ่ามือสองข้างของหลี่ชิเย่ตบไปทีหนึ่ง เป็นฝ่ามือของตนตบกับฝ่ามืออีกข้างหนึ่งของตนเอง
ตูม…เสียงดังสนั่น พลังที่สูงสุดในหล้าพลันพุ่งโจมตีออกไป คลื่นโจมตีพลันทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง และกวาดล้างโลกทั้งโลกโดยพลัน
ขณะที่คลื่นโจมตีได้พุ่งโจมตีเข้ามานั้น ได้ยินเสียงตูมดังขึ้น แสงสว่างที่อยู่ภายในรอยร้าวแต่เดิมพลันถูกตบจนดับมอดไป
ท่ามกลางเสียงปังที่ดังสนั่นหวั่นไหว คลื่นโจมตีที่น่ากลัวสุดพลันกระแทกจนปราชญ์อัจฉริยะหลันซูลอยออกไป โดยได้กระแทกเขาจนลอยไปอยู่บนจักรวาล
ได้ยินเสียงคร๊ากกกดังขึ้นเสียงหนึ่ง มองเห็นร่างกายของปราชญ์อัจฉริยะหลันซูปรากฎเป็นรอยร้าวแต่ละริ้วขึ้นมา ต่อให้ตัวเขาที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ในขณะนี้ก็รองรับการโจมตีที่สุดยอดในหล้านี้ไม่ได้ ร่างกายแตกละเอียดไปทั้งร่าง
……………………………………………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...