อ่านสรุป ตอนที่ 2910 สมควรมาแล้ว จาก ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet
บทที่ ตอนที่ 2910 สมควรมาแล้ว คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายAction ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ตอนที่ 2910 สมควรมาแล้ว
แต่ว่า เขามีความชัดเจนมาก ขณะที่ประกายแสงแห่งกาลเวลาสายนี้พุ่งโจมตีเข้ามานั้น สามารถพุ่งชนระดับคงความอมตะตลอดกาลชั้นต้นให้กลายเป็นหมอกเลือดได้อย่างแน่นอน พลังโจมตีของประกายแสงแห่งกาลเวลาสายนี้ต้องเป็นระดับปฐมบรรพบุรุษอย่างแน่นอน และหาใช่เป็นระดับชั้นของแดนลัทธิพรรษะ หรือแดนลัทธิราชันง่ายดายอย่างนั้น
ประกายแสงแห่งกาลเวลาที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรเช่นนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยยพบเห็นมาก่อน สิ่งนี้ได้ทำให้เขาอดที่จะหวาดหวั่นพรั่นพรึงในใจไม่ได้
กล่าวสำหรับระดับคงความอมตะตลอดกาลชั้นต้นเช่นตัวเขาแล้ว มักจะคิดว่าข้าเป็นผู้ลิขิตชะตาข้าเองไม่ได้ขึ้นกับสวรรค์อยู่เสมอๆ กล่าวได้ว่า เขาเข้าใจว่าตนเองมีกำลังความสามารถที่จะรับมือได้ เมื่อจะต้องเผชิญกับภัยพิบัติจำนวนมาก สามารถต้านภัยพิบัติต่างๆ นานาในโลกได้
แต่ทว่า มาวันนี้เมื่อมองเห็นประกายแสงแห่งกาลเวลาสายนี้ที่พุ่งโจมตีเข้ามาแล้วนั้น เขาจึงได้ตระหนักว่าถ้าหากปล่อยให้ประกายแสงแห่งกาลเวลาสายนี้พุ่งโจมตีต่อระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของตนเองล่ะก็ เกรงว่าระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของพวกเขามีความเป็นไปได้มากที่จะแตกละเอียด มีความเป็นไปได้ที่จะหายวับไปกับตาในพริบตา
“นี่ นี่มันคืออะไรกันแน่” เด็กมหัศจรรย์สามตากล่าวและรู้สึกหวาดกลัวเช่นกัน เนื่องจากภัยพิบัติลักษณะเช่นนี้เขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน และไม่เคยได้ยินมาก่อน
“เจ้าคิดว่าสิ่งนี้คืออะไร” หลี่ชิเย่มองดูเขาแวบหนึ่ง และกล่าวเรียบเฉยขึ้นมา
คำพูดนี้ของหลี่ชิเย่ พลันทำให้เด็กมหัศจรรย์สามตาจนแต้ม เขาเองก็ไม่รู้ และอดที่จะมองไปยังทิศทางที่ประกายแสงแห่งกาลเวลาพุ่งเข้ามา เขาถึงกับขนลุกซู่ในใจนั่นมันทะเลปุ๊ตู้ไห่นี่ และกล่าวว่า “นั่นมันออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่นี่ พันล้านปีที่ผ่านมาได้ยินแต่คนเขาพูดว่าแล่นใบเข้าไปยังทะเลปุ๊ตู้ไห่ ดูเหมือนจะไม่เคยได้ยินว่ามีสิ่งใดออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่ เหมือนว่าทะเลปุ๊ตู้ไห่นั้นมีแต่เข้าไม่มีออกตลอดเวลาที่ผ่านมา”
“ถ้าหากทะเลปุ๊ตู้ไห่มีอะไรออกมาก็แย่แล้วล่ะ” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า “นั่นคือสุดยอดภัยพิบัติครั้งหนึ่ง เกรงว่าแดนสามเซียนไม่มีที่ใดรอดไปได้”
“ภัยธรรมชาติรึ? ” ภายในใจของเด็กมหัศจรรย์สามตาถึงกับสะดุ้ง แดนสามเซียนนับว่าเงียบสงบในรอบพันล้านปีที่ผ่านมา แม้ว่าแดนสามเซียนเคยมีสงครามระดับปฐมบรรพบุรุษ แต่ว่า มันก็แค่สงครามภายในระหว่างระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิขนาดใหญ่แต่ละแห่งของแดนสามเซียนเท่านั้น ไม่ได้มีภัยธรรมชาติอะไรเกิดขึ้น และไม่เคยปรากฏศัตรูจากนอกโลกประเภทนั้น
กล่าวได้ว่า ในรอบพันล้านปีที่ผ่านมา ในแดนสามเซียนไม่เพียงแต่มีผู้มีความสามารถกำเนิดขึ้นมากมาย ยอดฝีมือมีเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน และโลกอยู่ในยุคสงบสุข ตลอดเวลาที่ผ่านมาล้วนสงบปราศจากเรื่องราวใดๆ
มาวันนี้ พลันทะเลปุ๊ตู้ไห่ปรากฏมีประกายแสงแห่งกาลเวลาสายหนึ่งที่น่าสยองขวัญพุ่งออกมา เหมือนว่าเป็นการทำลายความสงบที่มีมาเป็นพันล้านปีของแดนสามเซียนไปในทันที
ที่น่าสยองขวัญมากที่สุดก็คือ ในรอบพันล้านปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครทราบมาก่อนว่า ในทะเลปุ๊ตู้ไห่มีอะไรกันแน่
“ภัยมนุษย์” หลี่ชิเย่มองดูเด็กมหัศจรรย์สามตาทีหนึ่ง และกล่าวเรียบเฉยว่า “เทียบกับภัยธรรมชาติแล้ว ภัยมนุษย์น่ากลัวยิ่งกว่า ภัยธรรมชาติต้านได้ ภัยมนุษย์ยากหลบหนี! ”
“ภัยมนุษย์! ” เด็กมหัศจรรย์สามตาถึงกับตลึง
“เจ้าคิดว่า ถ้าหากมีสิ่งมีชีวิตกลับมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่ มันจะเกิดอะไรขึ้น” หลี่ชิเย่กล่าวขึ้นช้าๆ
มีคนกลับมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่…เมื่อเด็กมหัศจรรย์สามตาได้ยินคำพูดนี้แล้วถึงกับงุนงง ไม่ทราบว่าควรหาคำพูดใดมาเปรียบเปรยในเวลานี้
ในรอบพันล้านปีที่ผ่านมา มีระดับปฐมบรรพบุรุษจำนวนเท่าไรที่หนุนเนื่องขึ้นไปยังทะเลปุ๊ตู้ไห่เรื่อยๆ ปฐมบรรพบุรุษจำนวนเท่าไรที่ก้าวข้ามไปยังทะเลปุ๊ตู้ไห่ แต่ว่า ไม่เคยได้ยินว่ามีใครได้กลับมา
ดังนั้น ทุกคนจึงมีความเคารพยำเกรงในทะเลปุ๊ตู้ไห่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทุกคนต่างมองว่า ทะเลปุ๊ตู้ไห่คือเงื่อนไขในการก้าวสู่แดนลัทธิเซียน ในทัศนะของผู้คนจำนวนมากมองว่า ผู้ที่สามารถเข้าสู่ทะเลปุ๊ตู้ไห่ได้มีเพียงผู้ดำรงอยู่ในฐานะสูงสุดของคงความอมตะตลอดกาล และปฐมบรรพบุรุษเท่านั้น
หากว่ามีสักว่า ปรากฏสิ่งมีชีวิตออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่ นั่นหมายถึงจะเกิดอะเรื่องอะไรขึ้น? ในเวลานี้เด็กมหัศจรรย์สามตาไม่สามารถจินตนาการได้ สิ่งนี้ได้เกินเลยกว่าจินตนาการของเขาไปแล้ว
เนื่องจากในรอบพันล้านปีที่ผ่านมา ทะเลปุ๊ตู้ไห่ล้วนแล้วแต่ไปแล้วไปลับ แม้แต่ระดับบรรพบุรุษก็เป็นเช่นนี้ นับแต่อดีตที่ผ่านมา ระดับบรรพบุรุษที่มีความปราดเปรื่องน่าทึ่งยากจะหาผู้ใดเทียมจำนวนเท่าไรได้เขาไปยังทะเลปุ๊ตู้ไห่ แต่ทว่า ท้ายสุดแล้วล้วนไม่ได้กลับมา
ถ้าหากมีสักวัน ทะเลปุ๊ตู้ไห่มีสิ่งมีชีวิตกลับมาแล้ว และหรือจะกล่าวว่าสักวันหนึ่งระดับบรรพบุรุษที่เข้าไปยังทะเลปุ๊ตู้ไห่มีผู้ที่กลับมาแล้ว มันบ่งบอกถึงสิ่งใด จะนำมาซึ่งข่าวคราวเช่นใด
ฟ้าจะเปลี่ยน…ในเวลานี้ เด็กมหัศจรรย์สามตาอดที่จะพึมพำขึ้นมา
ในเวลานี้เขาจึงตระหนักได้ว่า หากมีสิ่งมีชีวิตกลับออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เคยเข้าไปยังทะเลปุ๊ตู้ไห่ หรือจะเป็นสิ่งมีชีวิตในทะเลปุ๊ตู้ไห่ที่ไม่เป็นที่ทราบของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดี หรือว่าเรื่องร้าย ขอเพียงมีสิ่งมีชีวิตออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่จริง ก็จะส่งผลให้ยุคสมัยนี้เปลี่ยนไป บางที นี่อาจเป็นการลิขิตว่าจะต้องเป็นยุคสมัยที่แตกต่างกันกับยุคสมัยที่ผ่านมา
“ถูกต้อง ฟ้าจะเปลี่ยนไป! ” สายตาของหลี่ชิเย่ลึกล้ำ มองไกลไปยังทะเลปุ๊ตู้ไห่ และเอ่ยขึ้นช้าๆ ในที่สุด
“ฟ้าจะเปลี่ยนไป เมื่อคนโหดปรากฏ” ในเวลานี้ เด็กมหัศจรรย์สามตาอดที่จะนึกถึงคำพูดคำนั้นที่แพร่หลายมาจากหอพยากรณ์ฟ้า เมื่อนึกถึงคำพูดคำนั้นในวันนี้ เขาจึงได้รับรู้ถึงความลึกซึ้งยอดเยี่ยมในนั้นได้ละเอียดอย่างแท้จริง
“บางที คนโหดนั่นมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่” เด็กมหัศจรรย์สามตาอดที่จะพึมพำขึ้นว่า “ปฐมบรรพบุรุษฉงปี้ยอดเยี่ยมโดยแท้จริง มิน่าเล่านางแอบส่องชะตาฟ้า ทำให้นางสามารถมองเห็นอนาคตก่อนหน้าหลายปี นับว่าฝืนลิขิตสวรรค์เหลือเกิน และมิน่าเล่าจึงนำมาซึ่งการลงโทษจากสวรรค์”
“แอบส่องชะตาฟ้า” หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมย และกล่าวว่า “นี่เป็นเรื่องที่อัปมงคลยิ่ง”
“ถูกต้อง” เด็กมหัศจรรย์สามตาอดยิ้มเจื่อนๆ ไม่ได้ ครั้งนั้นขณะสวรรค์ลงโทษมานั้น ช่างน่าสยองขวัญอะไรอย่างนั้น ไม่เพียงสวรรค์ลงโทษที่ทำลายฟ้าดินเท่านั้น ราชันแท้จริง คงความอมตะตลอดกาลจำนวนเท่าไรที่ถูกทำให้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ แม้แต่ระดับบรรพบุรุษก็ยังต้องหลบซ่อนตัว
ขณะช่วงเวลาที่น่าสยองขวัญที่สุดนั้น ตอนนั้นพลันปรากฏความมืดเขารุกราน ทั่วทั้งแดนลัทธิเซียนล้วนแล้วแต่ถูกทำให้กลายเป็นมารในพริบตา เกือบนิดเดียวเท่านั้น ทั่วทั้งแดนลัทธิเซียนก็ต้องกลายเป็นแดนมาร
หลี่ชิเย่อดที่จะหัวเราะไม่ได้ และกล่าวว่า “ข้าไม่เคยคิดจะกลับมา แดนสามเซียนไม่ได้มีความหมายให้รั้งอยู่อีกต่อไป”
ทันใดนั้นเอง ในใจของเด็กมหัศจรรย์สามตาสะดุ้งทีหนึ่ง ในคำพูดคำนี้ของหลี่ชิเย่ เหมือนว่าเขาจะตระหนักถึงบรรดาผู้ที่เข้าไปยังทะเลปุ๊ตู้ไห่ก่อนหน้า
บรรดาระดับปฐมบรรพบุรุษ บรรดาระดับคงความอมตะตลอดกาล บางทีพวกเขาต่างคิดเช่นนี้ แดนสามเซียนไม่มีสถานที่แห่งใดคู่ควรให้พวกเขาไปผจญภัยอีกแล้ว ดังนั้น พวกเขาจะต้องไปที่ทะเลปุ๊ตู้ไห่ บาทีอาจมีเพียงทะเลปุ๊ตู้ไห่เท่านั้นที่สามารถแสดงถึงคุณค่าของพวกเขาได้
“ข้าจะติดตามใต้เท้าไปที่เทียนเชี่ยนสักหน่อย” เมื่อเด็กมหัศจรรย์สามตาได้สติกลับมาและเอ่ยขึ้น
แม้ว่าเขาจะปราดเปรื่องน่าทึ่งยากจะหาผู้ใดเทียม แต่ว่า เขาเข้าใจได้ว่า หากหลี่ชิเย่เข้าไปในทะเลปุ๊ตู้ไห่จริงๆ ล่ะก็ เช่นนั้นแล้ว ในอนาคตเขาก็จะเป็นผู้เดียวที่โชคดีได้ติดตามหลี่ชิเย่ก้าวเดินไปกับการเดินทางช่วงสุดท้ายของเขา
“ก็ได้” หลี่ชิเย่มองดูเด็กมหัศจรรย์สามตาแวบหนึ่ง ไม่ได้กล่าวปฏิเสธ และตอบตกลงทันที
อิ้ววว…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้เอง เสียงร้องเสียงหนึ่งดังก้องฟ้าดิน เมื่อแหงนหน้ามอง เห็นเหยี่ยวห้าสีเหินฟ้าขึ้นมา มุ่งหน้าไปยังชายแดนของแดนลัทธิเซียน เป็นการบินไปยังเทียนเชี่ยนนั่นเอง
ขณะที่ผู้ที่ยืนอยู่บนหลังของเหยี่ยวห้าสีก็คือราชันแท้จริงหลิงซินนั่นเอง
“เป็นสหายเก่าแก่ของเจ้า” หลี่ชิเย่ละสายตากลับมา แซวเด็กมหัศจรรย์สามตา
ท่าทีของเด็กมหัศจรรย์สามตาดูเคอะเขิน จะไม่ยอมรับก็ใช่ที่ ยอมรับก็ไม่ดี เวลานี้จึงไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี
ไป…ขณะที่เด็กมหัศจรรย์สามตายังรู้สึกเคอะเชินอยู่นั้น หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง
เด็กมหัศจรรย์สามตายังไม่ทันได้สติกลับมา ร่างกายก็ลอยเหินฟ้าขึ้นไปไม่สามารถควบคุมตนเองได้ พลันลอยเหินฟ้าขึ้นไปบนท้องฟ้า
สมควรทราบว่าตัวเขาคือระดับคงความอมตะตลอดกาลขั้นต้น เขาถึงกับควบคุมตัวเองไม่ได้ในเวลานี้ พลันถูกหลี่ชิเย่เคลื่อนย้ายขึ้นไปบนท้องฟ้า
เมื่อเด็กมหัศจรรย์สามตาได้สติกลับมานั้น พวกเขาก็ได้ยืนอยู่บนหลังของเหยี่ยวห้าสีแล้ว และราชันแท้จริงหลิงซินก็อยู่ตรงหน้านี้เอง
………………………………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...