ตอนที่ 2924 ขายไม่ขายก็ได้
วันนี้ ไป่จินหนิงไม่ได้เข้าเวร และได้พักผ่อนพอดี นางจึงได้สวมใส่ชุดไปรเวทออกมา เดิมทีนางเพียงต้องการเดินเล่นอยู่ในเมืองตามอารมณ์ ไม่นึกเลยว่าพลันที่ก้าวออกจากประตูก็เจอะเจอเข้ากับหลี่ชิเย่พอดี
การพบกับหลี่ชิเย่ที่นี่กล่าวสำหรับนางแล้วนับว่าโลกนี้มันกลมจริงๆ นะเนี่ย
แน่นอน กล่าวสำหรับไป่จินหนิงแล้ว นางใช่ว่าจะต้องตามล้างแค้นหลี่ชิเย่อะไรนั่น จะอย่างไรเสียนางกับหลี่ชิเย่ไม่ได้มีความแค้นลึกซึ้งอะไรอย่างนั้น เพียงแค่ถูกหลี่ชิเย่แทะโลมเมื่อครั้งอยู่บนเทียนเชี่ยนเท่านั้นเอง และกองทัพเทียนเชี่ยนของพวกเขาก็ไม่อนุญาตให้มีเรื่องของการล้างแค้นส่วนตัวเกิดขึ้น
ทว่า ขอเพียงไป่จินหนิงเห็นหน้าหลี่ชิเย่เมื่อไหร่ก็จะให้รู้สึกโมโหขึ้นในใจ ต้องการให้เขาได้รับความเจ็บปวด คิดแต่จะเป็นศัตรูกับเขา
“ของวิเศษประเมินค่าไม่ได้” หลี่ชิเย่หลับตาลง และกล่าวด้วยท่าทีเหนื่อยหน่ายโดยไม่ได้มองดูไป่จินหนิงอีกเลย
“ของวิเศษประเมินค่าไม่ได้ เจ้ามีของวิเศษประเมินค่าไม่ได้จริงรึ? ” ไป่จินหนิงพิจารณาดูกล่องไม้ที่อยู่ตรงหน้าหลี่ชิเย่ นางดูไม่ออกจริงๆ ว่ากล่องไม้นี้เหมือนของวิเศษประเมินค่าไม่ได้ตรงไหน และนางก็ไม่เชื่อว่าหลี่ชิเย่จะมีของวิเศษประเมินค่าไม่ได้อะไรนั่น
“มี” หลี่ชิเย่ตอบได้เด็ดขาดมาก
“เปิดออกมาดู ให้ข้าได้ดูว่าของวิเศษประเมินค่าไม่ได้ของเจ้ามีหน้าตาอย่างไร” ไป่จินหนิงจ้องมองหลี่ชิเย่ทีหนึ่ง นางไม่เชื่ออยู่แล้วว้าเจ้าคนหน้าไม่อายผู้นี้สามารถนำเอาของวิเศษประเมินค่าไม่ได้อะไรออกมาได้
“ดูไปก็เท่านั้น” หลี่ชิเย่ตอบด้วยท่าทีเหนื่อยหน่ายว่า “ไหนๆ เจ้าก็ซื้อไม่ไหว ดูไปก็แค่นั้น”
เจ้า…ไป่จินหนิงพลันถูกหลี่ชิเย่ยั่วโมโหจนควันออกหู นางรู้สึกว่าตนเองจะต้องถูกเจ้าคนหลงตัวเองผู้นี้ทำให้ต้องโมโหไม่เบาทันทีที่ได้พบเจอกัน ทำเอานางบังเกิดเพลิงความโกรธสุมเต็มอก
“ฮึไหนเจ้าบอกมาซิ ของวิเศษประเมินค่าไม่ได้สิ่งนี้คืออะไรกันแน่ ราคาเท่าไร” ไป่จินหนิงถึงกับขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน นางย่อมไม่เชื่ออยู่แล้วว่าเจ้าคนหลงตัวเองผู้นี้สามารถนำเอาของวิเศษประเมินค่าไม่ได้อะไรออกมาได้
“ไม่ให้ดู” หลี่ชิเย่ปฏิเสธทันควัน และกล่าวว่า “ต่อให้เอาตัวเจ้าไปจำนำก็ซื้อมันไม่ได้”
เจ้า…ไป่จินหนิงพลันถูกยั่วโมโหจนพูดอะไรไม่ออก ดวงตาคู่นั้นจ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความโกรธ อกกระเพื่อมขึ้นลง ถูกหลี่ชิเย่ยั่วโมโหจนตัวสั่น
ไป่จินหนิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง ระงับเพลิงแห่งความโกรธภายในใจให้สงบ จ้องมองหลี่ชิเย่ทีหนึ่งและกล่าวด้วยท่าทีเย็นชาว่า “ฮึ ฮึ ฮึไม่กล้าเอาออกมาให้คนอื่นเขาดู คงไม่ใช่เป็นของที่แสดงให้คนเขาเห็นไม่ได้กระมัง”
“ใช่แล้วเป็นอย่างไร? ” หลี่ชิเย่ยิ้มๆ ว่างๆ ไม่มีอะไรทำจึงหยอกนางเล่นไปตามอารมณ์
“ฮึเป็นของโจรรึ? ” ดวงตาทั้งสองของไป่จินหนิงลุกวาว ขบฟันนิดหนึ่ง และกล่าวว่า “ถ้าหากเป็นของโจร แหะข้านี่แหละจะจัดการกับเจ้า”
“เจ้าดูออกรึว่าใช่ของโจรหรือไม่? ” หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยว่า “ต่อให้เป็นของโจร เช่นนั้นแล้วเจ้าก็ต้องหาเจ้าทุกข์มาให้ได้ ถ้าหากเจ้าคิดจะหาเรื่องข้าไปหาเจ้าทุกข์ให้ได้ก่อน”
คำพูดของหลี่ชิเย่ที่ย้อนกลับมาทำเอาไป่จินหนิงถึงกับเสียความมั่นใจไปบ้าง แม้ว่ากองทัพเทียนเชี่ยนของพวกเขามีอำนาจดำเนินการในด่านเทียนสงกวาน แต่ว่า ไม่ได้หมายความว่าสามารถทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าก็ได้
คำพูดคำนี้ของหลี่ชิเย่ชัดเจนว่าหาได้เป็นการล้อเล่น ต่อให้วัตถุสิ่งนี้ของหลี่ชิเย่เป็นของโจร ก็เหมือนเช่นที่เขาพูดเอาไว้อย่างนั้น ก็ต้องหาเจ้าทุกข์มาให้ได้เสียก่อน มิฉะนั้นล่ะก็ย่อมไม่สามารถยึดสิ่งของๆ หลี่ชิเย่โดยไร้เหตุผล ยิ่งไปกว่านั้น วันนี้นางไม่ได้มีหน้าที่ราชการบนตัว แค่พักผ่อนเท่านั้นเอง
“ถ้าหากไม่มีก็ไปเถอะ” หลี่ชิเย่โบกมือเบาๆ และกล่าวว่า “อย่ามารบกวนการทำมาค้าขายของข้า ข้ากำลังรอลูกค้าอยู่”
“ฮึ ฮึ ฮึเจ้าบอกให้ไปก็ไปนะเนี่ย ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก” ไป่จินหนิงตัดสินใจที่จะยื้อกับหลี่ชิเย่ต่อไป โดยได้ไปนั่งลงในจุดที่ไม่ห่างไกลนัก
นับว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจจริงๆ เมื่อผู้หญิงอย่างไป่จินหนิงไม่อาจบอกว่ามีความยอดเยี่ยมในหล้าเพียงใด แต่ก็นับได้ว่ามีความงดงามอยู่ นางที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่งได้นั่งลงกับข้างทางง่ายๆ แบบนี้ และเป็นท่าทีที่เผชิญหน้ากับหลี่ชิเย่ ท่าทางแบบนี้ได้ทำให้ผู้คนต้องชำเลืองตามอง
“นี่เจ้าคิดจะทำอะไร? ” ในเวลานี้หลี่ชิเย่จึงได้เหลือบมองไป่จินหนิงที่นั่งอยู่ไม่ห่างไกลจากตนมากนัก
“จับตามองเจ้า” ไป่จินหนิงมือเท้าคางจ้องไปที่หลี่ชิเย่ และกล่าวว่า ” ถ้าหากสิ่งของของเจ้าเป็นของโจร ข้านี่แหละจะจับตาเจ้าเอาไว้ รอให้เจ้าทุกข์มา ฮึถ้าหากเจ้าแค่เอาของปลอมมาหลอกลวงคน ข้านี่แหละก็จะจับตาเจ้าเช่นกัน เพื่อไม่ให้เจ้าต้มตุ๋นหลอกลวงได้” เมื่อนางพูดมาถึงตรงนี้แล้ว ได้เผยให้เห็นท่าทางที่ดูกระหยิ่มใจไม่น้อย
เวลานี้ นางต้องการที่จะเป็นศัตรูกับหลี่ชิเย่นั่นแหละ ยิ่งไปกว่านั้น เวลานี้นางอยู่ในชุดไปรเวทเป็นตัวของตัวเอง ดังนั้น นางจึงไม่ต้องกังวลอะไรอีกแล้ว
“เป็นข้ออ้างที่ไม่เลวนัก” หลี่ชิเย่จ้องมองไป่จินหนิงทีหนึ่ง กล่าวท่าทีเอ้อระเหยว่า “เจ้าคงไม่ใช่ถูกใจข้าเข้าให้แล้วสิ ดังนั้น จึงต้องการจ้องหน้าอันสง่าเท่ของข้า พี่น่ะเท่จริง แต่ว่า เจ้าก็ไม่ต้องหลงใหลพี่มากเกินไปนัก จะอย่างไรเสียพี่ก็เป็นตำนาน”
ผายลมของเจ้า…สีหน้าของไป่จินหนิงแดงก่ำ โมโหจนกระอักเลือด มองหน้าเขาทีหนึ่งกล่าวเหยียดหยามว่า “เจ้าไม่รู้จักเอากระจกมาส่องดูตัวเองเสียบ้าง หน้าอัปลักษณ์อย่างเจ้ากล้านำมาสัมพันธ์กับคำว่าเท่อย่างนั้นรึ? หน้าไม่อาย”
“ส่องแล้ว เท่ เท่จนบอกไม่ถูก” หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหย
เจ้า…ไป่จินหนิงพลันถูกยั่วโมโหจนหายใจไม่ทัน นางที่เป็นเพียงหญิงสาวตัวน้อยๆ หากว่ากันถึงเรื่องปากคอเราะรายแล้วไหนเลยเป็นคู่ต่อสู้ของหลี่ชิเย่ได้ นางถึงกับจนแต้มต่อคำไม่ถูก
“ดังนั้น บอกแล้วว่าอย่าหลงใหลในตัวพี่” หลี่ชิเย่มองดูไป่จินหนิงที่โมโหจนจะแเย่อยู่แล้วด้วยท่าทางยิ้มแต้ ไหนๆ ก็ไม่มีอะไรทำ จึงเย้าแหย่สาวน้อยผู้นี้สักหน่อย
“หลงตัวเอง” ไป่จินหนิงมองหน้าด้วยความเย้ยหยัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...