ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2923

ตอนที่ 2923 ด่านเทียนสงกวาน

เวลาล่วงเลยมาถึงวันนี้ ด่านเทียนสงกวานไม่ได้เป็นเพียงด่านเทียนสงกวานอีกต่อไป และไม่เป็นเพียงป้อมปราการสำคัญด้านการทหารแห่งหนึ่งเท่านั้น

ความจริงแล้ว ด่านเทียนสงกวานที่ล่วงเลยมาถึงวันนี้ได้วิวัฒนาการจนกลายเป็นทั้งป้อมปรากการและกำแพงเมืองในเวลาเดียวกัน ณ ที่ตรงนี้การค้าขายมีความเจริญรุ่งเรืองยิ่ง ด้านพาณิชยกรรมก็มีความเจริญอย่างยิ่ง

แม้ว่าด่านเทียนสงกวานจะเป็นป้อมปราการอันดับหนึ่ง แต่ว่า ไม่ว่าจะเป็นด้านของการป้องกันรักษา หรือการตรวจตราของด่านเทียนสงกวานในวันนี้ ล้วนแล้วแต่มีความหย่อนยานยิ่ง ไม่ได้มีสภาพของการตั้งด่านทุกห้าก้าว หรือตั้งป้อมทุกสิบก้าวอะไรแบบนั้น

จะอย่างไรเสียในรอบพันล้านปีที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีศัตรูภายนอกที่เข้ารุกรานด่านเทียนสงกวานเลย ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากกองทัพเทียนเชี่ยนได้ควบคุมด่านเทียนสงกวานเอาไว้อย่างมั่นคงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นด่านเทียนสงกวาน หรือพื้นที่ที่ห่างไกลและกันดารต่างอยู่ในความสงบโดยทั่วไป ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะก่อกรรมทำเข็ญในด่านเทียนสงกวาน

ด้วยเหตุนี้เอง ในฐานะที่ด่านเทียนสงกวานเป็นด่านอันดับหนึ่ง มีการรักษาการณ์ที่หย่อนยานอย่างยิ่ง ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าออกด่านเทียนสงกวานโดยไม่ต้องถูกสอบสวน ไม่ว่าใครก็ตามที่เข้าออกด่านเทียนสงกวานก็จะไม่ถูกขัดขวางใดๆ สามารถเข้าออกด่านเทียนสงกวานด้วยวิธีใดก็ได้

ไม่ว่าจะเป็นการมาด้วยการโดยสารมากับสัตว์ขนาดยักษ์ หรือว่าขับเคลื่อนมากับภูเขาศักดิ์สิทธิ์ และหรือมาอย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกรด้วยอำนาจที่น่าเกรงขาม…ไม่ว่าจะเข้าออกในลักษณะเช่นใดก็จะไม่มีใครมาก้าวก่าย

การเข้าออกด่านเทียนสงกวานได้อย่างอิสระเสรีเช่นนี้ ใช่เป็นการบ่งบอกว่ากองทัพเทียนเชี่ยนอ่อนแอ และใช่ว่ากองทัพเทียนเชี่ยนมีกำลังไม่เพียงพอที่จะควบคุมด่านเทียนสงกวานได้เต็มที่

ความจริงแล้วตรงกันข้ามพอดี จะเป็นด่านเทียนสงกวานก็ดี เทียนเชี่ยนก็ช่าง ล้วนแล้วแต่ถูกควบคุมอยู่ในมือของกองทัพเทียนเชี่ยนอย่างเข้มแข็ง

ความแข็งแกร่งของกองทัพเทียนเชี่ยนนั้น ทั่วทั้งแดนลัทธิเซียนยากจะหากองทัพใดมาเทียบเคียงได้ ยิ่งไปกว่านั้น ไท่อิ๋นสี่ในฐานะนายด่านของด่านเทียนสงกวานยิ่งมีความลึกล้ำยากจะหยั่งถึง

ด้วยเหตุที่มีกองทัพเทียนเชี่ยนที่ควบคุมด่านเทียนสงกวานเอาไว้อย่างมั่นคง ควบคุมเทียนเชี่ยนเอาไว้ จึงทำให้พวกเขามีความมั่นใจเช่นนี้

สามารถพูดได้อย่างไม่เป็นการโอ้อวดว่า แม้ว่าด่านทางเข้า หรือถนนหนทางของด่านเทียนสงกวานยากจะพบเห็นทหารของกองทัพเทียนเชี่ยน แต่ว่า บรรดาผู้ที่เข้าไปภายในด่านเทียนสงกวานล้วนแล้วแต่ ปฏิบัติตามกฎของด่านเทียนสงกวานด้วยจิตสำนึก

ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะที่มีอำนาจยิ่งใหญ่เกรียงไกร หรือว่าจะเป็นจอมอันธพาลเขตใดเขตหนึ่งที่อวดดีชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่ ทว่าเมื่อพวกเขาเข้าสู่ด่านเทียนสงกวานแล้วก็ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม

ดังนั้น มีผู้ร้ายจำนวนเท่าไรจากพื้นที่ที่ห่างไกลและกันดารหลังจากเข้าไปในด่านเทียนสงกวานแล้ว ต่างทำตัวสงบเสงี่ยมไม่กล้าก่อเรื่องโดยง่ายดาย จะอย่างไรเสีย เมื่อใดที่ถูกกองทัพเทียนเชี่ยนจัดให้เข้าไปอยู่ในบัญชีรายชื่อจับกุมล่ะก็ พื้นที่ที่ห่างไกลและกันดารก็จะไม่มีที่สำหรับให้ยืนได้อีกต่อไป

เนื่องเพราะกองทัพเทียนเชี่ยนที่ควบคุมด่านเทียนสงกวานเอาไว้อย่างมั่นคง ส่งผลให้ภาพรวมของด่านเทียนสงกวานในรอบพันล้านปีที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความระเบียบเรียบร้อย ด้วยมีระเบียบที่เข้มงวดนี้เอง ส่งผลให้ราษฎร์ของด่านเทียนสงกวานอาศัยอยู่อย่างสงบสุข และทั่วทั้งด่านเทียนสงกวานก็มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่ง เจริญรุ่งเรืองมายุคสมัยแล้วยุคสมัยเล่า

ดังนั้น เมื่อหลี่ชิเย่เขาสู่ด่านเทียนสงกวานนั้น จึงมีกลิ่นอายของความเจริญที่ยากจะหาผู้ใดเทียมโชยเข้ามาปะทะใบหน้า โลกมนุษย์ปุถุชนที่สับสนวุ่นวาย ด้วยเมืองขนาดใหญ่ที่มีความเจริญรุ่งเรือง นับว่าสามารถทำให้ผู้คนหลงระเริงกับชีวิตที่หรูหราฟุ่มเฟือย มียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนเท่าไรที่มักจะถูกดึงดูดด้วยโลกมนุษย์ปุถุชนที่สับสนวุ่นวาย สุดท้ายไปแล้วไปลับ ยินดีจมปลักอยู่ท่ามกลางโลกมนุษย์ปุถุชนที่สับสนวุ่นวาย ไปเป็นอ๋องผู้มีความสุขคนหนึ่ง

แต่เดิมถนนหนทางของด่านเทียนสงกวานถูกสร้างขึ้นเพื่อการศึกสงครามอยู่แล้ว ดังนั้น ถนนหนทางจึงมีความกว้างขวางอย่างยิ่ง ถนนที่ใหญ่ที่สุดสามารถให้รถม้าหลายสิบคันเรียงหน้ากระดานวิ่งไปโดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

แม้ว่าโดยรวมของด่านเทียนสงกวานนั้นกินพื้นที่กว้างขวางอย่างยิ่ง มีถนนหนทางที่กว้างใหญ่ แต่ว่า ด่านเทียนสงกวานเรียกได้ว่าผู้คนเดินกันขวักไขว่จนไหล่กระทบกัน ผู้คนที่เดินอยู่บนถนน เรียกได้ว่าเหงื่อไหลดั่งน้ำ

อย่างไรก็ตาม ผู้คนที่มาจากระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิต่างๆ ของแดนลัทธิเซียนบนถนนสายนี้เรียกได้ว่ามีมากมายหลายหลากนับกันไม่ถ้วน พิลึกพิลั่นแปลกประหลาด นับว่าเป็นบุญตาอย่างยิ่ง

กล่าวได้ว่า ด่านเทียนสงกวานเป็นสถานที่ที่ได้รวบรวมเผ่าพันธุ์ต่างไว้มากที่สุดของแดนสามเซียน เช่น เผ่าเทียนฝอ เผ่าแปดแขน เผ่าจินเปี้ยน เผ่าเซียนถง เผ่าขนนกสวรรค์…

ผู้บำเพ็ญตนมากมายหลายหลาก ยอดฝีมือจากเผ่าต่างๆ ล้วนแล้วแต่ สามารถเห็นได้จากด่านเทียนสงกวานทั้งสิ้น

อีกทั้งในด่านเทียนสงกวานเป็นแหล่งรวบรวมสินค้าจากสถานที่ต่างๆ ที่มาจากแดนลัทธิเซียน เคยมีผู้ที่กล่าวเอาไว้ว่า ถ้าหากสิ่งที่คนผู้นั้นต้องการแล้วหาซื้อจากด่านเทียนสงกวานไม่ได้ล่ะก็ สถานที่อื่นๆ ยิ่งไม่สามารถหาซื้อได้

ด้วยเหตุนี้เอง ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่มีกำลังความสามารถของแดนลัทธิเซียนจำนวนมากต่างมาทำการค้าขายอยู่ที่ด่านเทียนสงกวาน และหรือมองหาสิ่งของที่ตนเองต้องการ

ขณะที่ห้างเจียวเหิงที่ตั้งอยู่ในด่านเทียนสงกวานนั้น เรียกว่าได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในห้างที่ใหญ่ที่สุดของแดนลัทธิเซียน

นอกเหนือจากห้างขนาดใหญ่ต่างๆ แล้ว ที่ด่านเทียนสงกวานยังสามารถมองเห็นพ่อค้าที่เป็นอิสระจำนวนมากต่างถนนใหญ่และตรอกซอกซอยเป็นจำนวนมาก โดยที่พ่อค้าเหล่านี้หลั่งไหลกันไปมาไม่หยุดนิ่ง บ้างเป็นพ่อค้าที่ทำการค้าขายอยู่ที่ตรงนี้ระยะยาว ตั้งแผงของตนขึ้นตามถนนแบบง่ายๆ พลันที่เห็นผู้คนก็จะตะโกนขึ้นมา

“รีบเข้ามาดูกันเร็ว เลือดมังกรปาซูเข้ามาใหม่ล่าสุด รับรองเป็นของยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน”

“ขายทิ้งถูกๆ กระเบื้องวิเศษซูหว่า ของสะสมของตระกูล

“เข้ามาดูกัน ยาเม็ดปาเป่าที่ปรุงกลั่นโดยตัวยาศักดิ์สิทธิ์เองกับมือ มีเพียงขวดเดียว มีเพียงขวดเดียวเท่านั้น ผู้ให้ราคาสูงสุดเป็นผู้ได้ครอบครอง”

……

ตามตรอกซอกซอยปรากฏเสียงร้องเอะอะที่ขึ้นลงสลับกันไปของพ่อค้า ด้วยความคึกคักอย่างยิ่ง

ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยหวังจะร่อนหาของดี และหรือมีผู้บำเพ็ญตนตัวน้อยๆ ที่รู้สึกอับอายเนื่องจากไม่มีเงินติดตัว พวกเขาจึงแวะเวียนอยู่กับบรรดาแผงลอยที่อยู่บนถนนใหญ่และตรอกเล็กตรอกน้อยอยู่เสมอๆ คาดหวังว่าอาศัยจำนวนเงินที่น้อยที่สุดซื้อของที่ดีที่สุดได้

แน่นอน ตามถนนตรอกซอกซอยก็มีเรื่องของการต้มตุ๋นหลอกลวง อาศัยของปลอมอ้างเป็นของจริงเป็นจำนวนไม่น้อยทีเดียว

หลี่ชิเย่ไม่สนใจเขา ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น หลับตาเหมือนนอนหลับไปแล้วอย่างนั้น

“ฮึทำเป็นเล่นตัว มันก็แค่กล่องห่วยๆ ใบหนึ่งเท่านั้นเอง” เมื่อลูกค้าผู้นี้เห็นว่าหลี่ชิเย่ไม่สนใจตนเอง

เขายังจะทำอะไรได้? จะอย่างไรเสีย ในด่านเทียนสงกวานจะเป็นการซื้อขายโดยอิสระ ไม่สามารถบังคับการซื้อการขายได้ แม้ว่าจะเป็นเพียงกล่องไม้ที่ไร้ค่าเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ หากเขาไม่ยอมขาย เจ้าก็จนปัญญา

ลูกค้าคนนี้ที่เข้ามาพูดคุยด้วยทำตัวไม่ถูกจากการถูกปฏิเสธ ได้แต่เดินหนีไป

ระหว่างนี้ก็มีหลายคนที่เข้ามาพูดคุยด้วย และรู้สึกสนใจในสิ่งที่อยู่ภายในกล่องไม้ของหลี่ชิเย่ ในจำนวนนั้นก็มีผู้ยิ่งใหญ่หนึ่งถึงสองคน ซึ่งมีคู่สายตาที่ร้ายกาจมาก พวกเขาพบเห็นได้ลางๆ ว่ากล่องไม้ใบนี้ไม่ธรรมดา

พวกเขาก็ได้เข้ามาพูดคุยต้องการเห็นสิ่งที่อยู่ภายในกล่องไม้นั่นของหลี่ชิเย่

แต่ว่า หลี่ชิเย่ดูเหมือนไม่อยากจะสนใจผุ้ซื้อเหล่านี้ และขี้คร้านจะเปิดออกให้พวกเขาได้เห็น ซึ่งส่งผลให้บรรดาผู้ซื้อเหล่านี้ไม่สบอารมณ์ภายในใจนัก ได้แต่เดินหนีไป

สามารถจินตนาการได้ว่า ถ้าหากที่ตรงนี้ไม่ใช่ด่านเทียนสงกวานล่ะก็ อาศัยท่าทีเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ เกรงว่าคงมีคนลงมือสั่งสอนเขาแล้วล่ะ จะอย่างไรเสีย ด้วยท่าทีเช่นนี้ของเขานับว่ากวนบาทาเหลือเกิน

แต่ทว่า กล่าวสำหรับหลี่ชิเย่แล้ว ทั้งหมดล้วนไม่มีความหมาย ที่เขารออยู่หาใช่ผู้ซื้อคนใดก็ได้ที่เดินผ่านไปผ่านมา เขาต้องการรอคนๆ หนึ่ง รอให้คนๆ หนึ่งเข้ามาหา

เหมือนดั่งการตกปลาอย่างนั้น จำเป็นต้องอาศัยความอดทนไปรอคอย และหลี่ชิเย่เชื่อว่า คนที่เขารออยู่ต้องปรากฎตัวขึ้นในอีกไม่ช้า

“โอ๊ยเป็นเจ้าอีกแล้วนะเนี่ย” ในขณะที่หลี่ชิเย่กำลังเอนนอนหลับตาพักผ่อนกายาอยู่กับเขิงกำแพง ปรากฏเสียงใสเราะเสียงหนึ่งดังขึ้นที่ข้างหู

ในเวลานี้ หลี่ชิเย่จึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าตนเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง

หญิงสาวคนนี้ก็คือไป่จินหนิงที่เคยพบกันที่เทียนเชี่ยน เพียงแต่ มาวันนี้บนตัวของไป่จินหนิงไม่ได้สวมใส่ชุดเกราะ นางสวมใส่ชุดไปรเวทที่แลดูสะดวกสบาย แต่ยังคงดูมีความสามารถ มีประสบการณ์และทะมัดทะแมง

หลังจากหลี่ชิเย่มองหน้านางเพียงแวบหนึ่งก็หลับตาลง

“ผู้เป็นอัจฉริยะบุคคลยิ่งใหญ่ด้านวรรณกรรมของพวกเรา เจ้ามาขายอะไรอยู่ที่นี่เล่า? ” ไป่จินหนิงเองก็นึกไม่ถึงว่าจะมาพบเจอกับหลี่ชิเย่ เจ้าโง่เง่าเต่าตุ่นผู้นี้ที่นี่ นึกถึงขณะอยู่ที่เทียนเชี่ยน ตนเองถูกหลี่ชิเย่เทะโลม พลันบังเกิดอารมณ์ขึ้นในใจทันที

………………………………………………………………………………………..