ตอนที่ 2922 ท่าทีอ่อนลงเมื่อได้รับผลประโยชน์
หลี่ชิเย่ละสายตากลับมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่ กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “มีผู้ที่อดกลั้นต่อไปไม่ไหวแล้ว กี่ปีผ่านไป อย่างไรเสียก็หิวแล้วล่ะ”
“เป็นเพราะสาเหตุใดจึงกลายเป็นเช่นนี้? ” ภายในใจของชายหนุ่มก็บังเกิดความหวาดกลัวขึ้น
ตัวเขาที่แข็งแกร่งถึงระดับนี้ รู้ว่าจะต้องเกิดเรื่องอะไรบางอย่างขึ้นลางๆ แล้ว เพียงแต่เขายังไม่สามารถเข้าใจในรายละเอียดเท่านั้นเอง
เขาได้มาและรั้งอยู่ที่ตรงนี้นานขนาดนี้ ก็สามารถแน่ใจได้ว่าต้องมีภัยพิบัติมาเยือนอย่างแน่นอน และเขามั่นใจมากว่าภัยนั้นต้องเกิดจากทะเลปุ๊ตู้ไห่
เวลานี้ จากคำพูดของหลี่ชิเย่ ทำให้เขายิ่งมีความมั่นใจในแนวความคิดนี้แล้ว
หลี่ชิเย่ส่ายหัวเบาๆ และกล่าวว่า “รายละเอียดนั้นไม่ชัดเจน แต่ว่า ที่สามารถยืนยันได้ก็คือ ไม่ว่าจะเป็นทะเลปุ๊ตู้ไห่ก็ดี แดนสามเซียนก็ช่าง ได้ผ่านกาลเวลามานานเท่าใดแล้ว? สามารถรักษาความสมดุลเช่นนี้เอาไว้ได้ เป็นการบ่งบอกว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาสามารถควบคุมได้ เวลานี้กลับหลุดจากการควบคุมในทันที เพราะอะไร? เป็นเพราะพลังจากภายนอกทำให้เป็นเช่นนี้! ”
“มีมารเข้ารุกราน” ชายหนุ่มถึงกับเอ่ยขึ้น ครั้งนั้นสวรรค์ลงทัณฑ์ พลันทำให้ทั่วทั้งแดนลัทธิเซียนกลายเป็นมาร ภาพเหตุการณ์นั้นมีความน่ากลัวเพียงใด
“จะพูดแบบนี้ก็ได้” หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่ง และกล่าวว่า “แต่ว่า บางสิ่งบางอย่างจะเป็นมารหรือไม่นั้นคงพูดยาก ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าจะให้คำจำกัดความมันเช่นใด”
ชายหนุ่มถึงกับยิ้มเจื่อนๆ เข้าใจความหมายของหลี่ชิเย่ว่าหมายถึงสิ่งใด
“เคราะห์กรรมนี้ หลีกหนีได้พ้นหรือไม่” ชายหนุ่มอดที่จะขอคำชี้แนะจากหลี่ชิเย่ไม่ได้ ด้วยท่าทีที่เคารพอย่างยิ่ง
“ยาก” หลี่ชิเย่พยักหน้า และกล่าวว่า “ตามความเห็นของข้า นี่เป็นเพียงโยนหินถามทาง เป็นเพียงการเริ่มต้น ทำไมจะต้องโยนหินถามทาง พูดให้ชัดเจนก็คือมีกำลังไม่พอ ถ้าหากเจ้าเผชิญหน้ากับมดปลวกฝูงหนึ่งเจ้าจำเป็นต้องโยนหินถามทางหรือไม่? ถ้าหากเจ้าไม่มีสิ่งใดต้องกังวล จำเป็นต้องโยนหินถามทางหรือไม่? จัดการทำลายรังทั้งรังก็สิ้นเรื่อง”
“คำพูดนี้มีเหตุผล” ชายหนุ่มพยักหน้าเห็นด้วย
หลี่ชิเย่ยิ้มๆ มองดูทะเลปุ๊ตู้ไห่ กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ถ้าหากข้าเดาไม่ผิดล่ะก็ ต้องมีคนเป็นกองหน้าแน่นอน ส่วนรายละเอียดหลังจากนี้เป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับว่ามีใครที่สามารถสยบได้หรือไม่ บางทีก็ต้องดูว่าในทะเลปุ๊ตู้ไห่มีความแข็งแกร่งมากเพียงใด”
“เทียนเชี่ยนคือด่านแรกอย่างแน่นอน” ชายหนุ่มอดที่จะหันกลับไปมองดูเทียนเชี่ยนทีหนึ่ง มองดูด่านเทียนสงกวานทีหนึ่ง
ถูกต้อง” หลี่ชิเย่พยักหน้า และกล่าวว่า “กลยุทธการรบที่ดีที่สุดก็คือ ต้านไฟสงครามให้อยู่ด้านนอกของเทียนเชี่ยน เมื่อไรที่เข้าในแดนลัทธิเซียนแล้วก็จะทำงานยาก เมื่อใดที่เชื้อไฟถูกโปรยลงมาก็อันตรายแล้ว เป็นการนำมาซึ่งภัยที่แฝงเร้นให้กับแดนลัทธิเซียน กระทั่งแดนสามเซียน
“ขอท่านอาจารย์วางกลยุทธ” ชายหนุ่มกล่าวด้วยท่าทีเคารพนอบน้อม
หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมา และกล่าวว่า “เจ้าแกร่งมากถึงขั้นนี้แล้ว ใยต้องกังวลใจ แค่หันหลังจากไป ไฟสงครามก็ลามไม่ถึงเจ้าอยู่แล้ว หากเจ้าไปให้ไกลเพียงลำพังก็สามารถเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว”
“จะอย่างไรเสียแดนลัทธิเซียนก็เป็นที่ที่หล่อเลี้ยงข้า” ชายหนุ่มยิ้มเจื่อนๆ ว่า “ในฐานะที่เกิดที่นี่ ตายที่นี่ ข้าเองย่อมไม่ปรารถนาให้ชีวิตอาณาประชาราษฎร์ของแดนสามเซียนต้องล้มตายเป็นจำนวนมาก ยิ่งไม่ต้องการให้แดนสามเซียนกลายเป็นเพียงซากปรักหักพัง”
หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “เช่นนั้นก็ง่ายมาก รวบรวมกำลังของแดนสามเซียน ต้านศัตรูเอาไว้ด้านนอกเทียนเชี่ยน นี่คือวิธีการที่ง่ายและได้ผลมากที่สุด แน่นอน หากเจ้ามีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว ลุยเข้าไปในทะเลปุ๊ตู้ไห่ ถล่มโดยตรงถึงรังเลย! ”
“ท่านอาจารย์ให้เกียรติเข้าเกินไป” ชายหนุ่มส่ายหัว และกล่าวว่า “ทักษะข้าอ่อนด้อย ไม่มีกำลังพอที่จะทำได้ นับแต่อดีตถึงปัจจุบัน มีผู้ที่แข็งแกร่งมากกว่าข้าจำนวนเท่าไรที่เข้าไปในทะเลปุ๊ตู้ไห่ ความโชคดีที่ข้าได้รับมาเพียงแค่นี้ หากเข้าไปในทะเลปุ๊ตู้ไห่แล้วสามารถรักษาตัวให้รอดได้ก็นับว่าไม่เลวแล้วล่ะ”
คำพูดของชายหนุ่มผู้นี้ใช่เป็นการถ่อมตน แต่เป็นความจริง พันล้านปีที่ผ่านมา มีระดับปฐมบรรพบุรุษจำนวนเท่าไรที่เข้าไปในทะเลปุ๊ตู้ไห่ และบรรดาปฐมบรรพบุรุษระดับแดนลัทธิเซียน ช่างมีความแข็งแกร่งอะไรอย่างนั้น มีความน่าสยองขวัญอะไรอย่างนั้น
“เช่นนั้นก็เฝ้ารักษาเทียนเชี่ยนเอาไว้ก็แล้วกัน ด่านเทียนสงกวานไม่แตกเทียนเชี่ยนก็ยังคงอยู่ ทุกอย่างย่อมทำได้ง่ายขึ้น” หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้น
ชายหนุ่มอดที่จะมองไปที่เทียนเชี่ยน และกล่าวว่า “เพียงแต่ไม่ทราบว่าเทียนเชี่ยนสามารถรักษาเอาไว้ได้นานเท่าใด ทักษะข้าก็ไม่เพียงพอนะเนี่ย”
แม้ว่าตัวเขาที่ยอดเยี่ยมยากจะหาผู้ใดเทียมในหล้าก็รู้สึกว่าใจสู้แต่กำลังไม่เป็นใจอยู่บ้าง เนื่องจากเขารู้ว่าเมื่อใดที่ภัยพิบัติมาถึง มันเป็นเรื่องที่น่าสยองขวัญอะไรอย่างนั้น
“ก็ต้องดูแขกที่มาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่แล้วล่ะ” หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่งและกล่าวว่า “พวกเจ้าทำได้เพียงอธิฐานแขกที่มาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่ไม่ได้แข็งแกร่งมากไปกว่าพวกเจ้า มิฉะนั้นล่ะก็คงพูดยาก เมื่อถึงเวลานั้น ต่อให้เจ้าสามารถเฝ้ารักษาได้ชั่วคราว แต่ก็รักษาเอาไว้ตลอดกาลไม่ได้”
“แล้วท่านอาจารย์เล่า? ” ชายหนุ่มมองไปที่หลี่ชิเย่
หลี่ชิเย่มองไปที่ชายหนุ่มแวบหนึ่ง ถึงกับหัวเราะขึ้นมา และกล่าวว่า “หากข้ายื่นมือเข้าไป หวาดหวั่นพรั่นพรึงไปหมื่นชาติ! ”
ขอท่านอาจารย์โปรดลงมือ…ชายหนุ่มรีบลุกขึ้นยืน และแสดงคารวะแบบจีนต่อหลี่ชิเย่
“ทำไมข้าจะต้องลงมือ? ” หลี่ชิเย่หัวเราะ ส่ายหน้า และกล่าวว่า “กล่าวสำหรับข้าแล้ว ข้าเป็นเพียงแขกที่เดินทางผ่านมาของแดนสามเซียนเท่านั้น ข้าหาใช่เป็นผู้ปกป้องของแดนสามเซียนของพวกเจ้า และ ไม่ใช่เป็นพระเจ้าช่วยโลกของแดนสามเซียน ข้าเพียงเดินทางผ่านมาเท่านั้นเอง”
“เพื่ออาณาประชาราษฎร์ ท่านเห็นเป็นอย่างไร? ” ชายหนุ่มถึงกับเอ่ยขึ้น
หลี่ชิเย่หัวเราะขึ้นมา และกล่าวว่า “เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนที่มีจิตเมตตาอย่างนั้นรึ? เหมือนดั่งที่ข้าพูดเอาไว้เมื่อครู่ ถ้าหากข้าหันหลังกลับ เผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ข้าจะกลายเป็นเซียน! เวลานี้ข้าไม่หันหลังกลับไปอีกแล้ว แค่นี้ยังไม่มีความเมตตาเพียงพออีกรึ? ”
ชายหนุ่มถึงกับนิ่งเงียบ และไม่อาจไม่พยักหน้ายอมรับ และกล่าวว่า “ไม่ใช้กำลัง นับว่ามีความเมตตาสูงสุดโดยแท้! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...