ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2921

สรุปบท ตอนที่ 2921 ผู้บรรลุก่อนย่อมได้ก่อน: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ตอนที่ 2921 ผู้บรรลุก่อนย่อมได้ก่อน – ตอนที่ต้องอ่านของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ตอนนี้ของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2921 ผู้บรรลุก่อนย่อมได้ก่อน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 2921 ผู้บรรลุก่อนย่อมได้ก่อน

หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง และกล่าวว่า “หากว่าเจ้าพาตัวไปอยู่ในโคลนตมเล่า? ”

ชายหนุ่มอดที่จะเพ่งมองตรงไปข้างหน้า และกล่าวว่า “ต้องมีความปรารถนา ต้องมีเจตนา ต้องมีแผนการ ต้องได้อะไรบางอย่าง”

“ก็นั่นน่ะสิ” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “หากเซียนปรากฏตัวบนโลก ก็ต้องมีแผนการแน่ นี่เป็นโลกของมนุษย์ปุถุชนไม่ควรมีเซียน หากมีเซียนมันย่อมเป็นเรื่องแปลก”

“คำพูดของพี่ท่าน ทำให้ผู้คนมีจิตใจหวาดกลัว” ชายหนุ่มถึงกับยิ้มเจื่อนๆ และกล่าวว่า “ถามผู้บำเพ็ญตนในหล้า มีผู้คนจำนวนเท่าไรใฝ่ฝันเป็นเซียน นับแต่อดีตถึงปัจจุบัน ราชันแท้จริง ปฐมบรรพบุรุษจำนวนเท่าไรล้วนแล้วแต่มุ่งทางบรรลุเซียน ภายในใจของผู้คนจำนวนเท่าไร คำว่าเซียนจึงเป็นสิ่งที่สูงสุดปราศจากผู้เหนือกว่าที่แท้จริง”

ชายหนุ่มถึงกับหยุดนิดหนึ่งเมื่อเอ่ยมาถึงตรงนี้ และกล่าวว่า “คำว่าเซียนได้กลายเป็นสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับแนวความคิดเดิม และต้องเป็นสิ่งชั่วร้ายแน่นอน มุมมองเช่นนี้สร้างความสะเทือนเลื่อนลั่นให้ผู้คนตื่นตะลึงยิ่งนัก”

“จะพูดว่าเซียนคือสิ่งชั่วร้ายก็ไม่ได้ แต่ว่า ต้องเป็นสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับแนวความคิดเดิมอย่นนอน” หลี่ชิเย่ยิ้มๆ และกล่าวว่า “โลกมนุษย์ไร้เซียน คำพูดนี้ใช่จะไม่มีเหตุผล หากมีเซียนจริงๆ ก็ไม่ใช่บนโลกนี้”

“เหตุใดพี่ท่านถึงมั่นใจเช่นนี้เล่า? ” ชายหนุ่มเอ่ยถาม “เพราะอะไรโลกใบนี้ไม่สามารถมีเซียนได้อย่างแน่นอน”

เพราะอะไรพี่ท่านถึงได้มั่นใจขนาดนี้เล่า? ” ชายหนุ่มเอ่ยถามว่า ”เพราะอะไรบนโลกมนุษย์มีเซียนไม่ได้อย่างเดชขาด”

หลี่ชิเย่มองดูชายหนุ่ม และถามว่า “ยุคๆ หนึ่ง มีปฐมบรรพบุรุษได้กี่คน? ”

“คนสองคนเท่านั้นเอง หากยุคหนึ่งปรากฎปฐมบรรพบุรุษถึงสามคนต้องเป็นความมหัศจรรย์แน่นอน” ชายหนุ่มถึงกับเอ่ยขึ้น

ความจริงก็เป็นเช่นนี้จริงๆ ในแดนสามเซียน จะกำเนิดระดับปฐมบรรพบุรุษได้เพียงหนึ่งหรือสองคนในหนึ่งยุคเท่านั้น หากสามารถกำเนิดถึงสามคนเรียกได้ว่าเป็นความมหัศจรรย์ นับแต่อดีตถึงปัจจุบัน ยุคที่มีปฐมบรรพบุรุษถือกำเนิดสามคนในหนึ่งยุคมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

“เพราะอะไรยุคหนึ่งจึงมีปฐมบรรพบุรุษถือกำเนิดได้เพียงหนึ่งหรือสองคน” หลี่ชิเย่ยิ้มๆ

“ธรรมชาติสร้างสรรค์! ” ชายหนุ่มเข้าใจได้ในทันที ทันใดนั้นได้กล่าวขึ้นมาว่า “โลกนี้มีขนาดเพียงเท่านี้แหละ โลกนี้ไหนเลยสามารถบ่มฟักผู้เป็นเซียนขึ้นมาได้! ”

หลี่ชิเย่พยักหน้า และกล่าวว่า “เป็นเช่นนี้นั่นแหละ ขนาดบ่อปลาได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว สามารถให้กำเนิดปลาที่มีขนาดเท่าใดก็ถูกกำหนดไว้แล้ว บ่อปลาเล็กๆ บ่อหนึ่งย่อมไม่สามารถเลี้ยงให้ได้ปลาขึ้นมา ยิ่งไม่สามารถเลี้ยงให้ได้มังกรแท้จริง ต่อให้มีพันธุ์มังกรแท้จริงก็ต้องทยานขึ้นสู่เก้าชั้นฟ้า กระโดดออกไปจากบ่อปลา”

“มิน่าเล่า เหล่าปรัชญาเมธี บรรดาปฐมบรรพบุรุษล้วนแล้วแต่ต้องเข้าไปยังทะเลปุ๊ตู้ไห่” ชายหนุ่มทอดถอนใจขณะมองดูทะเลปุ๊ตู้ไห่ และกล่าวว่า “เห็นทีคำเล่าลือในอดีตไม่ได้เป็นเท็จ”

“หากไม่เป็นเช่นนี้ เพราะอะไรจักรพรรดิซุ่ย จักรพรรดิหนง จักรพรรดิซีล้วนแล้วแต่ไม่ปรากฎบนโลกนี้อีกเลย? ” หลี่ชิเย่ยิ้มๆ และกล่าวว่า “โลกนี้ไม่มีเซียนหาใช่เป็นคำเลื่อนลอย จงจำเอาไว้ หากมีเซียนมาปรากฎบนโลก สิ่งนั้นหาใช่เป็นเรื่องดี ไม่คู่ควรไปฉลองหรือดีใจ สิ่งนี้ต้องเป็นการเริ่มต้นของภัยพิบัติใหญ่หลวง”

ชายหนุ่มมองดูทะเลปุ๊ตู้ไห่จนเหม่อลอยอยู่ครู่ใหญ่ สุดท้าย จ้องมองหลี่ชิเย่และกล่าวว่า “เช่นนั้นแล้ว กล่าวสำหรับพี่ท่านล่ะ? สหายจะกลายเป็นเซียนรึ? ”

“นั่นก็ต้องดูว่าก้าวเท้าก้าวนี้ออกไปได้หรือไม่” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมา มองดูชายหนุ่มแล้วกล่าวว่า “ข้ารู้ความหมายของเจ้า นี่หาใช่การกระทำที่ง่ายดายนัก ดังนั้น ข้าต้องเข้าไปยังทะเลปุ๊ตู้ไห่อย่างแน่นอน”

“ฟังคำบอกเล่าจากพี่ท่านแล้ว นับว่าได้เปิดม่านหมอกหนาทึบในใจของข้าออกมาได้แล้วในที่สุด” ชายหนุ่มพยักหน้าและกล่าวว่า “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ พี่ท่านนับว่าเป็นอาจารย์ที่ดีของข้า” กล่าวจบ ได้แสดงคารวะเต็มรูปแบต่อหลี่ชิเย่

หลี่ชิเย่ยอมรับการคารวะเต็มรูปแบบจากเขาอย่างไม่สะทกสะท้าน สายตาไปอยู่ในทะเลปุ๊ตู้ไห่

“อาจารย์ การเป็นเซียนยากหรือไม่” หลังจากที่หลี่ชิเย่ละสายตากลับมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่แล้ว ชายหนุ่มได้เอ่ยถามขึ้น

เวลานี้ ชายหนุ่มได้เปลี่ยนจากการเรียกว่า ‘พี่ท่าน’ มาเป็น ‘อาจารย์’ แล้ว ดูจะให้ความเคารพมากกว่า

“เรียกว่ายากก็ได้ เรียกว่าไม่ยากก็ได้” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “ขึ้นอยู่ที่ว่าไปให้คำจำกัดความกับคำว่าเซียนอย่างไร การให้คำจำกัดความที่แตกต่างกัน ความยากก็จะแตกต่างกัน”

“หากอาศัยมาตรฐานของมนุษย์ปุถุชนธรรมดา และมาตรฐานของอาจารย์ล่ะ” ชายหนุ่มกล่าวว่า “ขออาจารย์ช่วยชี้ทางสว่างให้ด้วย”

“มาตรฐานของมนุษย์ปุถุชนธรรมดา” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “ข้าไม่ทราบมาตรฐานของมนุษย์ปุถุชนธรรมดา บางที หากอาศัยมาตรฐานของมนุษย์ปุถุชนธรรมดาแล้ว เหนือปฐมบรรพบุรุษขึ้นไปก็คือเซียนกระมัง”

“บางที เฉกเช่นบรรพบุรุษของพวกเรา” ชายหนุ่มหยิบยกเอาความคิดในใจของตนขึ้นมา

“แม้ว่าข้าไม่เคยพบเห็นร่างที่แท้จริงของพวกเขา แต่ว่า ก็เหมือนเช่นที่เจ้าพูดเอาไว้อย่างนั้น บางทีหากอาศัยมาตรฐานของเจ้าแล้ว ก็สามารถยกย่องว่าเป็นเซียนได้” หลี่ชิเย่หัวเราะกล่าว

เมื่อหลี่ชิเย่เอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว ได้กระดกสุราเลิศรสหมดจอกในรวดเดียว และกล่าวว่า “ความจริงล้วนแล้วแต่ไม่ใช่เซียน เป็นเซียนเก๊เท่านั้นเอง รวมทั้งตัวข้าด้วย แม้จะก้าวเท้าก้าวนั้นออกไปก็เป็นเซียนเก๊! ”

“กล่าวสำหรับอาจารย์แล้ว อะไรคือเซียนแท้จริง” ชายหนุ่มรีบรินสุราให้กับหลี่ชิเย่จนเต็ม ท่าทางให้ความเคารพอย่างยิ่ง และกล่าวว่า “การมีอายุวัฒนะไม่มีวันตายรึ? ”

หลี่ชิเย่มองดูชายหนุ่มทีหนึ่ง ยิ้มกล่าวว่า “เจ้าคิดว่าอายุวัฒนะไม่มีวันตายนี่ไม่มีใครสามารถทำได้อย่างนั้นรึ? ”

“มีจำนวนเท่าไร? ” ชายหนุ่มถึงกับไตร่ตรองด้วยความแปลกใจ

หลี่ชิเย่ชี้ไปยังทะเลปุ๊ตู้ไห่ที่อยู่ตรงหน้า และกล่าวว่า “ดูทะเลปุ๊ตู้ไห่นี่สิ เจ้าคิดว่าระดับปฐมบรรพบุรุษที่เข้าไปและยังมีจำนวนเท่าไรที่มีชีวิตอยู่อีก”

“ไม่ทราบ” ชายหนุ่มส่ายหน้าเบาๆ ไม่มั่นใจ และไม่กล้ากล่าวสรุปโดยง่ายดาย

“ความจริงได้มีผู้ที่มีชีวิตอยู่มาเป็นเวลานานนับไม่ถ้วนแล้ว ไม่ต้องมีการผนึกร่างโดยสิ้นเชิง” หลี่ชิเย่ยิ้มๆ และกล่าวว่า “สิ่งนี่ถือว่าอายุวัฒนะหรือไม่? ”

“แล้วไม่มีวันตายเล่า? ” ชายหนุ่มเอ่ยถาม

“ถูกต้อง” หลี่ชิเย่พยักหน้า และกล่าวว่า “มิฉะนั้นแล้ว เจ้าก็จะไม่ใช่เซียนแท้จริงตลอดไป ไม่ว่าหนึ่งระลึกของเจ้าจะเป็นความสว่าง หรือความมืด และหรือหนึ่งระลึกโปรดเหล่าเวไนยสัตว์ให้พ้นจากห้วงแห่งความทุกข์โดยทั่วกัน ก็ไม่สามารถแก้ไขมารที่บังเกิดขึ้นในใจของเจ้าได้ จิตได้ตกลงสู่ความมืดไปแล้ว มีเพียงจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่ไม่เปลี่ยนแปลง จึงสามารถเข้าถึงตัวตนอันแท้จริงได้”

“ศิษย์เข้าใจ” ชายหนุ่มถึงกับทอดถอนใจขึ้นมา

หลี่ชิเย่อดที่จะมองไปที่ทะเลปุ๊ตู้ไห่ รู้สึกปลงอนิจจังอยู่บ้าง และกล่าวว่า “เคยมีผู้ที่สามารถก้าวเดินไปได้ไกลกว่านี้ เสียดายยังคงรีบร้อนไปนิด สุดท้ายตกอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ ภายหลังไม่ว่าจะไปแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช่นใดก็ไม่สามารถแก้ไขได้อีกแล้ว เมื่อเจ้าแข็งแกร่งจนถึงระดับนี้แล้ว หากเมื่อใดที่ทะลุผ่านขีดต่ำสุดที่สามารถยอมรับได้ ทุละผ่านความตั้งใจเดิมของตนแล้วล่ะก็ ไม่สามารถหวนคืนกลับไปได้อีกแล้ว…”

“…ที่สุดแล้ว มันจะไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับกรณีที่ว่าเจ้ามีความแข็งแกร่งเพียงใดอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเจ้าหวั่นไหวไปแล้ว ไม่สามารถกลับไปยังความตั้งใจแรกเริ่มอีกแล้ว” หลี่ชิเย่ได้หยุดนิดหนึ่งเมื่อเอ่ยมาถึงตรงนี้ แล้วกล่าวต่อไปว่า “ดังนั้น ในด้านนี้พวกจักพรรดิซุยนับว่ายอดเยี่ยมมาก พวกเขาไม่ได้ก้าวเท้าก้าวนั้นออกไปตลอดมา รักษาจิตแรกเริ่มนั้นมาโดยตลอด”

“นี่คือความโชคดีของพวกเรา” ชายหนุ่มอดที่จะพยักหน้า เห็นด้วยกับคำพูดของหลี่ชิเย่

“เจ้าสมควรทราบว่า พันล้านปีที่ผ่านมานั้น แดนสามเซียนนับว่าอุดมสมบูรณ์มากพอแล้ว” หลี่ชิเย่มองดูชายหนุ่มและกล่าวว่า “แดนสามเซียนที่มีความอุดมสมบูรณ์เช่นนี้ เจ้าคิดว่ารสชาติเป็นอย่างไร? ”

คำพูดของหลี่ชิเย่พลันทำให้ชายหนุ่มรุ้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง ชายหนุ่มคือผู้ที่ปราศจากผู้ต่อกรในหล้าของยุคนี้แล้ว ยากจะมีคู่ต่อสู้ได้ แต่ว่า รู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงในใจเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้

“ข้าไม่กล้าไปคิด” ชายหนุ่มถึงกับหัวเราะเจื่อนๆ

หลี่ชิเย่กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “นั่นย่อมต้องมีรสชาติที่หวานมันแน่ หวานมันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ท้องร้องจ๊อกจ๊อกตลอดไปเหล่านั้นแล้ว มันช่างหอมหวานมากเหลือเกิน ขอเพียงรักษาจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรไว้ไม่ได้ เช่นนั้นแล้ว แดนสามเซียนก็จะเป็นเนื้อย่างที่มีรสชาติหอมหวานชิ้นหนึ่งเท่านั้น”

ชายหนุ่มรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงขึ้นมา แม้ว่าเขาจะปราศจากผู้ต่อกรทั่วหล้ายังคงต้องร่างสั่นเทิ้มเมื่อคำพูดนี้ถูกพูดออกมา

เมื่อชายหนุ่มได้สติกลับมาแล้ว ถึงกับหัวเราะด้วยความขมขื่น และกล่าวว่า “คำพูดคำนี้ของอาจารย์ไม่ได้มองโลกในแง่ดีแลยนะ”

หลี่ชิเย่มองดูเขาทีหนึ่ง และกล่าวว่า “เจ้าก็ได้มานั่งอยู่ที่ตรงนี้นานมากแล้ว เจ้ามองดูทะเลปุ๊ตู้ไห่สิ ข้าเชื่อว่าเจ้าสามารถรับรู้ได้”

“ร้อนรน” ชายหนุ่มนิ่งเงียบพักหนึ่ง สุดท้ายพยักหน้าและบอกเล่าถึงความรู้สึกของตน

“ผ่านไปแล้วกี่ปี กาลเวลาได้ผ่านไปเท่าไร ทะเลปุ๊ตู้ไห่ยังคงเป็นทะเลปุ๊ตู้ไห่” หลี่ชิเย่กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “เพราะอะไรทะเลปุ๊ตู้ไห่จึงดูไม่ร้อนรนเร่งรีบขึ้นมากะทันหัน”

ชายหนุ่มอ้าปากจะพูด แต่ ได้หยุดนิดหนึ่ง และกล่าวว่า “ก่อนที่จะรู้ความจริง ข้าเองก็ไม่กล้าด้วยสรุป”

“ข้าสามารถบอกเจ้าได้” หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่ง เพ่งสายตามองไปที่ที่ห่างไกล

………………………………………………………………………………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล