ตอนที่ 2926 การค้าที่ขาดทุน
เมื่อหลี่ชิเย่เอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว ยังได้มองดูผู้เฒ่าอีกทีหนึ่ง และกล่าวว่า “สมควรที่พวกเจ้าต้องขอบคุณข้า ข้าน่ะได้ช่วยพวกเจ้ากลืนกินความมืดเข้าไปแล้วตัวหนึ่ง ได้ช่วยพวกเจ้ามากมายแค่ไหน”
“เรื่องนี้ก็จริงอยู่” ผู้เฒ่ายอมรับความจริงเรื่องนี้ เขาหัวเราะและกล่าวว่า “แต่ว่า ท่านก็ได้สุดยอดสิ่งบำรุงมากทีเดียวมิใช่รึ? ”
“ยาบำรุงประเภทนี้ยังมีอีกเท่าไร? ” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “ถ้าหากพวกเจ้ายังคงมีของที่สุดยอดของบำรุงเช่นนี้อีก ทุกอย่างก็คุยกันง่าย ข้าคืนให้พวกเจ้าฟรีๆ ”
“ไม่ชัดเจน” ผู้เฒ่าถึงกับหัวเราะเจื่อนๆ และกล่าวว่า “ถ้าหากพวกเราสามารถนำสิ่งที่เป็นสุดยอดบำรุงส่งไปให้ถึงที่ได้ มาวันนี้คงไม่มีสภาพการณ์เช่นนี้แล้วล่ะ”
“ดูท่าพวกเจ้าก็เชื่อไม่ได้นะเนี่ย” หลี่ชิเย่หรี่ตาและกล่าวว่า “ที่นี่คือแดนสามเซียนนะ ยังจะมีโลกไหนที่แข็งแกร่งมากไปกว่าแดนสามเซียนสียอีก ข้าไม้เข้าใจจริงๆ ว่า เพราะอะไรเจ้าสิ่งเหล่านี้จึงปรากฎขึ้นที่แดนสามเซียนได้ ถ้าหากพวกมันปรากฏตัวขึ้นที่เก้าแดนข้ายังไม่รู้สึกเหนือความคาดคิดเป็นพิเศษ แต่ว่า ปรากฏตัวขึ้นที่แดนสามเซียน จริงๆ นะ โดยหลักการแล้วมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เว้นเสียแต่พวกเจ้าแกล้งตายเอง”
“ถูกต้อง เป็นพวกเราที่แกล้งตาย” ผู้เฒ่าอดที่จะยิ้มเจื่อนๆ ทีหนึ่ง ท่าทางเหมือนขมขื่น และจนด้วยเกล้าอยู่บ้าง และกล่าวว่า “เรื่องนี้เป็นความจริงที่พวกเราต้องรับกรรมเอง พวกเราก็แค่อยากรู้อยากเห็นชั่วขณะเท่านั้นเอง ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาได้ มีสิ่งชั่วร้ายเล็ดรอดลอบเข้ามาได้ “
“เข้าไปในทะเลแล้วพวกเจ้าตามหามันไม่พบ” หลี่ชิเย่ทำหรี่ตาทีหนึ่ง
“ถูกต้อง ตอนนั้น เรื่องราวมันเกิดขึ้นกะทันหันมาก พวกเราไม่ทันระวังตัวถูกยิงถล่มจนเปิดออก ภายใต้ความเร่งรีบพวกเราสามารถกันและสยบเอาไว้ได้ตัวหนึ่ง แต่ว่า พวกเรามั่นใจว่าต้องมีตัวที่เล็ดรอดไปได้และหนีลงทะเลไป” ผู้เฒ่าดูจนด้วยเกล้าอย่างยิ่ง
“นี่แหละที่เขาเรียกว่าภัยพิบัติจากธรรมชาติยังหลีกเลี่ยงได้ แต่ภัยพิบัติที่เกิดจากมนุษย์เอง ไม่สามารถรอดจากการถูกลงโทษได้” หลี่ชิเย่หัวเราะขึ้นมา และกล่าวว่า “พวกเจ้ามีชีวิตอยู่สุขสบายเกินไปแล้ว ถึงกับรนหาที่ตาย แดนสามเซียนเป็นสถานที่ที่ดีเพียงใด มันคือที่ที่สวรรค์มอบเงื่อนไขและสิ่งแวดล้อมที่ดีมากเป็นพิเศษให้ พวกเจ้าได้หลบเลี่ยงภัยพิบัติมาแล้วเท่าใด สิ่งมีชีวิตสถานที่แห่งนี้ได้รอดพ้นจากภัยพิบัติที่จะทำลายล้างมาแล้วกี่ครั้ง
“เวลานี้ พวกมันต่างรู้แล้วว่าใกล้ๆ ตรงนี้มีชิ้นเนื้อมันชิ้นใหญ่อยู่ชิ้นหนึ่ง” หลี่ชิเย่กล่าวเอ้อระเหยว่า ”ในเมื่อชิ้นเนื้อมันชิ้นใหญ่ชิ้นนี้ถูกพบเจอแล้ว เจ้าคิดว่าพวกมันจะยอมละทิ้งรึ? ใครบ้างล่ะที่ไม่น้ำลายไหลยืดเล่า? ”
“ดังนั้น พวกเราต้องการซ่อมแซมปะมันเสีย รอท่านส่งสินค้าให้ถึงที่” ผู้เฒ่าดูจนด้วยเกล้าอย่างยิ่ง ครั้งนั้นพวกเขาก้าวเดินผิดก้าวหนึ่งเกือบทำให้กลายเป็นภัยพิบัติครั้งใหญ่ แม้ว่าภายหลังพวกเขาได้สยบเอาไว้ได้ทันเวลา แต่ทว่าทำให้มีสิ่งชั่วร้ายลอบเข้ามาและซ่อนตัวเอาไว้ กลายเป็นภัยร้ายที่แฝงอยู่ในใจของพวกเขาตลอดกาล
“แต่ว่า เจ้าควรจะรู้ว่า สิ่งชั่วร้ายกำลังจะปฏิบัติการแล้ว” หลี่ชิเย่หัวเราะและเอ่ยขึ้น
“มันซ่อนตัวได้มิดชิดเหลือเกิน พวกเราหาไม่พบ” ผู้เฒ่าจนด้วยเกล้า ส่ายหน้าและกล่าวว่า “แต่ว่า มันอยู่ในที่มืดและไม่เคยหยุดนิ่ง ทำการปลุกระดมมาตลอด ส่งผลกระทบต่อผู้คนจำนวนมากตลอดมา”
“มาคราวนี้ท่านได้กลืนความมืดตัวนี้เข้าไปก็ได้ทำให้มันอยู่ไม่เป็นสุข เข้าใจว่าพวกเราได้เชิญผู้ช่วยมา ดังนั้นมันจึงเริ่มคิดจะลงมือปฏิบัติการแล้ว” ผู้เฒ่าได้เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “สิ่งนี้นับว่าใช่จะเป็นเรื่องไม่ดี”
“ข้าเข้าใจ พวกเจ้าหามันไม่พบมาโดยตลอด เวลานี้หากมันปรากฏตัวขึ้นมาแล้ว ก็เป็นโอกาสดีที่พวกเจ้าจะทอดแหพอดี” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “เป็นการนำเอาแดนสามเซียนมาเป็นเหยื่อของพวกเจ้า”
“เทียนเชี่ยนยังคงอยู่ สิ่งนี่ก็จะเป็นได้เพียงมองเห็นแต่กินไม่ได้เท่านั้นเอง” ผู้เฒ่ามั่นใจมาก
“ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนพูดยาก” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “เกิดลูกหลานไม่เอาไหน เกิดลูกหลานอกตัญญูล่ะ? ข้ากลับเชื่อในกำลังความสามารถพวกเจ้า แต่ว่า เกรงจะทำให้โลกนี้ถูกยิงจนยับเยินไปหมด”
“เมื่อไม่มีทางเลือก พวกเราก็ได้แต่ใช้แผนโง่ๆ นี้” ผู้เฒ่ากล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “เจ้าสิ่งนี้หากไม่กำจัดจะต้องเป็นภัยตลอดไป มันคือตัวชั่วร้ายสำคัญ ชั่วร้ายยิ่งกว่า น่ากลัวยิ่งกว่าตัวชั่วร้ายที่ท่านกลืนเข้าไป พวกเราได้จับจ้องมานานมากแล้ว แต่ว่ายังคงมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ถูกมันมอมเมา เพียงไม่ทันระวังตัวมันก็สามารถมอมเมาอณาประชาราษฎร์ได้ทั้งหมด”
“ดังนั้น เจ้าจึงต้องการให้ข้าส่งสินค้าให้ถึงที่” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “พวกเจ้าใช่เพียงแค่ไม่สะดวกที่จะไปจาก ต้องการอาศัยมือของข้า โดยคาดหวังให้ต้อนมันปรากฏตัวออกมา แล้วโจมตีขนาบทั้งด้านในด้านนอก ปิดกั้นมันให้สนิท”
“สิ่งนี้กล่าวสำหรับท่านแล้วก็เป็นโอกาสที่ดีมาก ท่านก็คิดจะเข้าไปในทะเล ถือเป็นโอกาสอันดีที่หาได้ยากยิ่งขัดเกลาๆ สักหน่อย สิ่งที่ดำรงอยู่ในฐานะเช่นนี้นับว่าเป็นโอกาสให้ท่านได้ซ้อมมือพอดีเลยมิใช่รึ? ” ผู้เฒ่าเองก็ไม่สะทกสะท้านและยอมรับตรงๆ
“พวกเจ้าให้ความสำคัญข้ามากเกินไปแล้ว” หลี่ชิเย่ส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “ยังไม่ต้องพูดถึงว่าข้าไม่ได้มีเวลามากมายไปเสียให้กับการอยู่ในทะเล อีกอย่าง พวกเจ้าได้ลาดตะเวนตรวจตรามานานมากเท่าไรแล้ว? แต่ก็หาตัวมันไม่พบ เจ้าคิดว่าต่อให้ข้าบุกเข้าไปแล้วสามารถทำให้มันปรากฎตัวออกมาภายในเวลาอันสั้นรึ? มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้”
เมื่อหลี่ชิเย่กล่าวมาถึงตรงนี้แล้วได้หยุดนิดหนึ่ง จากนั้นกล่าวต่อไปว่า “ข้ามองว่าพวกเจ้าควรระมัดระวังให้มากกว่านี้ ดีไม่ดีนี่เป็นกลยุทธส่งเสียงบูรพาโจมตีประจิม มันต้องการทำให้มุมมองของพวกเจ้าสับสน เกิดมันปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าพวกเจ้ากะทันหัน เล่นงานพวกเจ้าจนตั้งตัวไม่ทัน”
“สิ่งนี่ก็มีความเป็นไปได้จริงๆ ” ผู้เฒ่าพยักหน้า และกล่าวว่า “เจ้าตัวนี้ไม่สามารถอาศัยหลักการทั่วไปมาประเมิน พวกเราต้องระวังไว้ดีกว่า บางที ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเพียงการลองหยั่งเชิงเท่านั้นเอง
“อย่างไรก็ได้ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับข้ามากมายนัก” หลี่ชิเย่ไม่ใส่ใจ และกล่าวว่า “ข้าจะเข้าไปในทะเลสักครั้ง และจะส่งสินค้าให้ถึงที่ เป็นความจริงที่สถานที่แห่งนี้เป็นที่ๆ ดีโดยแท้ นำมันมาซ้อมมือสักหน่อยก็ดี ข้าเองก็สมควรจะก้าวเท้าก้าวนั้นออกไปได้แล้ว แต่ว่า ข้าจะไม่รั้งอยู่แน่นอน หากไม่มีก็คือไม่มี ข้าจะไม่มาเสียเวลากับพวกเจ้า เมื่อจัดการเรื่องนี้จบสิ้น ข้าก็สมควรจากไปได้แล้ว”
ไป่จินหนิงเอามือเท้าคางนั่งฟังพวกเขาทั้งสองสนทนากันอย่างเงียบๆ ที่พวกเขาทั้งสองสนทนาล้วนแล้วแต่เป็นภาษามนุษย์ แต่ว่า นางกลับฟังแล้วไม่เข้าใจแม้แต่ประโยคหนึ่ง
สิ่งนี้ทำให้นางรู้สึกว่า หลี่ชิเย่และผู้เฒ่าเสมือนหนึ่งยืนอยู่บนก้อนเมฆอย่างนั้น ขณะที่นางเป็นเพียงมดตัวหนึ่งที่อยู่บนพื้นเท่านั้นเอง ฟังพวกเขาพูดคุยสนทนากัน แต่กลับฟังไม่เข้าใจแม้แต่คำเดียว
“นี่แหละคือรูปแบบการทำงานของพวกเราไม่ค่อยจะเหมือนกัน” หลี่ชิเย่ส่ายหน้าเบาๆ
ครั้นหลี่ชิเย่เอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว ได้เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ครั้งนั้น ขณะพวกเจ้ายืนอยู่บริเวณสุดปลายทางนั้น พวกเจ้าคิดอย่างไร
“ความจริงแล้ว พวกเราไม่ชนะในครั้งนั้น” ผู้เฒ่าถึงกับยิ้มเจื่อนๆ และกล่าวว่า “ผลของมันหนักหนาสาหัสยิ่งกว่าที่พวกเราจินตนาการเอาไว้ ดังนั้นพวกเราจึงหยุด”
“พวกเจ้ายังเตรียมตัวไม่รียบร้อย” หลี่ชิเย่ยิ้มๆ และกล่าวว่า “จิตใจ พวกเจ้ายังไม่พร้อม!”
ผู้เฒ่ามองดูหลี่ชิเย่ด้วยความลึกซึ้ง และกล่าวว่า “ท่านคือผู้ที่แปลกมากที่สุดเท่าที่ข้าเคยดูหมอมา บอกว่าท่านทิ้งไม่ลง แต่ ท่านกลับกล้าที่จะไปทำ ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น แข็งแกร่งยิ่งกว่าผู้ยิ่งใหญ่ใดๆ เสียอีก ใจเด็ดยิ่งกว่า ใจทระนง! แต่ว่า ท่านกลับจะวางไม่ลงเสียนี่ ท่านกำลังลากเอาโลกทั้งโลกก้าวไปข้างหน้า! ”
“ไม่มีอะไรไม่ได้” หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง และกล่าวว่า “ข้าไปถึงไหน โลกก็อยู่ที่นั่น ใจข้าอยู่โลกก็อยู่”
เมื่อหลี่ชิเย่กล่าวมาถึงตรงนี้แล้วเพ่งสายตาไปข้างหน้า เหมือนทะลุผ่านอตีตปัจจุบันอย่างนั้น และกล่าวว่า “ดังนั้น ไม่ต้องสงสัยเรื่องการตัดสินใจของข้า! ข้าจะสู้จนถึงที่สุด ไม่มีหันลังกลับ! ”
“ถูกต้อง” ผู้เฒ่าทอดถอนใจเบาๆ ทีหนึ่ง และกล่าวว่า “พวกเราหันหลังกลับแล้ว แม้ว่าพวกเราไม่ชนะ แต่ ยังมีความหวังอยู่บ้าง! เพียงแต่ พวกเราเลือกที่จะหันหลังกลับ”
“ดังนั้น นี่แหละคือสิ่งที่แตกต่างของพวกเรา” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบๆ และกล่าวว่า “สำหรับข้าแล้ว การบุกก็คือการป้องกันที่ดีที่สุด! ใครกล้าหยั่งเชิงล้ำเส้นของข้า ข้าก็จะล่าสังหารกระทั่งถึงรังของเขา ง่ายๆ แค่นี้เอง! ”
“ข้าเข้าใจ” ผู้เฒ่าอดที่จะพยักหน้าไม่ได้ และกล่าวว่า “เมื่อในใจของท่านมีแผนงานที่จะเข้าแทนที เมื่อนั้นก็คือเวลาที่เจ้าเดินทางไกลเพื่อปราบปราม! ”
“ระหว่างข้ากับสวรรค์โจรใช่ว่าจะต้องตายไปข้างหนึ่งเด็ดขาด” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า “แต่ว่า พวกบ้าเหล่านั้นต้องตาย! ” เมื่อเขาเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว สายตาของเขาพลันทะลุผ่านทุกสิ่งทุกอย่าง
พลันที่สายตาของหลี่ชิเย่ทะลุผ่านทุกสิ่งทุกอย่างนั้น ภายในใจของไป่จินหนิงรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที รู้สึกว่าตนเองไม่สามารถขยับตัวได้
………………………………………………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...