ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2927

ตอนที่ 2927 ข้ายัง ฟ้าดินคง

สายตาของหลี่ชิเย่เสมือนดั่งทะลุทะลวงฟ้าดิน แค่สายตาหนึ่งก็สามารถเข่นฆ่าสังหารเหล่าเทพ ไป่จินหนิงพลันขยับตัวไม่ได้ แม้ว่าสายตาของหลี่ชิเย่ไม่ได้มองมาที่นาง นางรู้สึกได้ทันทีว่าตนเองนั้นมีขนาดเล็กเท่าๆ กับมดปลวกตัวหนึ่งเท่านั้น ความรู้สึกเช่นนี้ยอดเยี่ยมปราศจากผู้เทียบเทียม

“ก็ใช่” ผู้เฒ่านิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “แต่ว่า หากท่านก้าวออกจากจุดนั้นเมื่อใด พวกมันจะต้องกำจัดท่านให้ได้จึงจะสาแก่ใจ”

หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะและกล่าวว่า “หรือเจ้าไม่ก้าวเท้าออกไป เจ้าก็จะรอดไปได้อย่างนั้นรึ? ไม่ว่าใครก็ไม่รอด การที่แดนสามเซียนสามารถรอดมาได้โดยตลอด มันก็แค่ได้รับเงื่อนไขและสิ่งแวดล้อมที่ดีมากเป็นพิเศษเท่านั้น แต่ว่า เจ้าคิดว่าด้วยเงื่อนไขและสิ่งแวดล้อมที่ดีมากเป็นพิเศษนี้จะยืนหยัดไปได้อีกนานเท่าไรเล่า? บางทีตอนนี้ก็ได้ถูกจับจ้องเอาไว้แล้ว”

ผู้เฒ่าถึงกับยิ้มเจื่อนๆ พยักหน้า และกล่าวว่า “ท่านพูดถูก ภัยพิบัติธรรมชาติยังมีโอกาสรอดได้ ภัยพิบัติจากมนุษย์ยากจะรอดได้ นี่แหละคือบาปกรรมที่พวกเราก่อขึ้น มิฉะนั้นแล้วก็จะไม่นำมาซึ่งความอยากได้ครอบครองมากเช่นนี้”

“มันก็แค่ช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า “สำหรับบรรดาผู้ที่ดำรงอยู่ในสถานะเช่นนั้นที่ท้องร้องจ๊อกๆ แล้ว ความไวต่อกลิ่นของพวกมันอยู่เหนือจินตนาการมากเหลือเกิน คงมีสักวันที่พวกมันจะต้องค้นหาแดนสามเซียนจนพบ มันช่างเป็นชิ้นเนื้อหวานมันชิ้นหนึ่งอะไรอย่างนั้น กล่าวสำหรับพวกมันแล้ว เพียงพอที่จะอิ่มหนำสำราญได้มื้อหนึ่งอยู่แล้ว! ”

“ตามนั้น” ผู้เฒ่าดูจะจนด้วยเกล้า และกล่าวว่า “ที่ควรจะมาสุดท้ายก็ต้องมา ใครก็หนีไม่พ้น ท่านเป็นเช่นนี้ ข้าเองก็เป็นเช่นนี้”

“มีเพียงสู้ให้ถึงที่สุดไม่ตายไม่เลิก หาไม่แล้วสิ่งนี้จะเป็นเกมที่ไม่สามารถแก้ได้ตลอดกาล การหลบหนีจะแก้ไขไม่ได้ตลอดกาล” หลี่ชิเย่ท่าทางหนักแน่นจริงจัง และเพ่งสายตาไปข้างหน้า

“ต่อให้สู้จนถึงที่สุด ท้ายที่สุดล่ะ? ” ผู้เฒ่าอดที่จะหัวเราะและกล่าวว่า “ไม่แน่นัก ถ้าหากเอาชนะได้จริงๆ แล้ว มีความเป็นไปได้ที่จะก้าวขึ้นไปแทนที่ ซึ่งจะกลายเป็นวัฏจักรที่ไม่มีสิ้นสุด”

“ข้าได้เคยเล่านิทานเรื่องนี้ของเจ้ากับผู้อื่นมาแล้ว” หลี่ชิเย่หัวเราะขึ้นมา และกล่าวว่า “อัศวินฆ่ามังกร สุดท้ายแล้วมังกรร้ายที่ว่าก็เป็นเพียงอัศวินที่จำแลงมาเท่านั้นเอง! แต่ว่า ข้าก็คือข้า! จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของข้าแกร่งไม่สามารถทำลายได้ ข้าก็คือผู้เข่นฆ่ามังกร หาใช่ผู้จำแลงแปลงกายเป็นมังกร! ”

สายตาของผู้เฒ่าที่จ้องมองไปยังหลี่ชิเย่นั้นลึกล้ำยิ่งนัก ด้วยสายตาที่ลึกล้ำยิ่งของเขาเหมือนว่าสามารถจุแดนสามเซียนเอาไว้อย่างนั้น เหมือนสว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่สามารถรวบเอาไว้ในสายตาอย่างนั้น

ท่ามกลางดวงตาทั้งสองของเขา ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่มีขนาดเล็กเท่าฝุ่นผงเท่านั้นเอง

ขณะที่สายตาที่ลึกล้ำของเขาจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่นั้น เหมือนว่าสายตาของเขาต้องการแอบส่องอนาคตของหลี่ชิเย่

“หวังว่าจะเป็นเช่นนี้ ข้าควรจะเชื่อมั่นในตัวของท่าน” สุดท้าย ผู้เฒ่าได้เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “เป็นความจริงที่วันหนึ่งข้างหน้าในอนาคต มีความเป็นไปได้ที่ท่านสามารถก้าวเดินถึงจุดนั้นได้”

“ไม่ ที่ท่านต้องเชื่อไม่ใช่ข้า” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉย ส่ายหน้า และกล่าวว่า “ผู้ที่เจ้าควรจะเชื่อคือตัวของเจ้าเอง เจ้าได้ถามตัวเจ้าเองแล้วยังว่า เจ้าคือผู้เข่นฆ่ามังกรหรือผู้จำแลงเป็นมังกร และหรือเจ้าคือผู้ดำรงอยู่ในสถานะอื่นๆ เช่น ชาวบ้าน นักปราชญ์! ”

“แต่ นักปราชญ์ไม่เคยมีจุดจบที่ดี” ผู้เฒ่าเอ่ยขึ้นมาช้าๆ ด้วยท่าทีที่หนักแน่นจริงจัง

หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง และกล่าวว่า “เจ้าคิดว่ามีใครที่มีจุดจบที่ดีกับเส้นทางสายนี้บ้าง? ผู้เข่นฆ่ามังกรรึ? ผู้จำแลงเป็นมังกรรึ? ไม่มีใครมีจุดจบที่ดีทั้งสิ้น แม้แต่ชาวบ้านก็ต้องบวงสรวง! คนเหล่านั้นเป็นเพียงผู้ที่ธรรมดาพื้นๆ เท่านั้นเอง”

“ประชาชนดั่งฝุ่นผง” ผู้เฒ่าอดที่จะทอดถอนใจขึ้นมา และกล่าวว่า “บางที ผู้ที่มีความสุขมากที่สุดอย่างแท้จริงก็คือประชาชนบนโลก แมลงของฤดูร้อนใยต้องไปพูดถึงเรื่องหิมะเล่า”

“แต่ว่า เจ้าพอใจที่จะเป็นเพียงแมลงของฤดูร้อนตัวหนึ่งเท่านั้นรึ? ” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “ในเมื่อไม่พอใจที่จะเป็นเพียงแมลงตัวหนึ่งของฤดูร้อนเท่านั้น เรื่องราวต่างๆ หลังจากนั้นปล่อยให้ผู้คนเขาว่ากันไปก็แล้วกัน”

“ที่พูดไปก็ใช่” ผู้เฒ่ายิ้มๆ และกล่าวว่า “หลังจากผ่านไปเป็นอดีตไปแล้ว ท่านกับข้าก็แค่ฝุ่นผงเท่านั้นเอง ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนหายไปท่ามกลางหมอกควันและฝน”

“ข้ายัง ฟ้าดินก็คงอยู่” หลี่ชิเย่เผยรอยยิ้มขึ้นมา ท่าทางเหนือมนุษย์ปุถุชนธรรมดา และหลุดออกจากการยึดติดอยู่กับประเพณีอันคร่ำครึ

“ข้ายึดติดเกินไปแล้ว” ผู้เฒ่าส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “เห็นทีพวกเราเทียบท่านไม่ได้อีกแล้วในด้านนี้”

“ไม่ นั่นเป็นเพราะพวกเจ้าคือปราชญ์” หลี่ชิเย่หัวเราะขึ้นมา และกล่าวว่า “ในใจของพวกเจ้ามีสิ่งที่ปล่อยวางไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ มันจึงผูกพวกเจ้าให้อยู่ในกรอบประเพณีตลอดมา”

“บางทีอาจเป็นเช่นนี้กระมัง” ผู้เฒ่าหัวเราะและกล่าวว่า “สรรพสิ่งล้วนห่างไกล ไม่ต้องคิดมากก็ได้ ผู้เฒ่าอย่างพวกเราแค่ปลูกต้นไม้บ้าง ซ่อมกำแพงบ้างก็เพียงพอแล้ว ถ้าหากสามารถมีความสุขอยู่กับชีวิตบั้นปลาย สามารถสิ้นสุดลงตามอายุขัยได้ก็นับว่าทุกอย่างเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์แล้ว”

“คำพูดนี้พูดได้สง่างามมาก” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “ถ้าหากพวกเจ้าคิดได้ ย่อมทำได้ แต่ว่า พวกเจ้าจะปล่อยวางได้หรือไม่นั้น? ข้ามองว่า ไม่แน่”

“ที่สุดแล้วก็ต้องมีคนรุ่นหลังอยู่แล้ว” สายตาของผู้เฒ่าเหมือนก้าวข้ามอดีตปัจจุบัน มองไปไกลมากๆ และกล่าวว่า “หวังว่า อนาคตย่อมต้องมีผู้ที่ไปแบกรับ”

“ถ้าเช่นนั้น ข้าก็ขออวยพรล่วงหน้าว่าพวกเจ้าจะมีผู้ที่มาสืบทอด” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “แต่ว่า ข้าคงไม่ได้เห็นวันนั้น การมาถึงของวันนั้นเกรงว่าจะห่างไกลมากๆ ”

“คำพูดนี้ของท่านมองในแง่ร้ายนะ” ผู้เฒ่าหัวเราะกล่าวและส่ายหน้า

หลี่ชิเย่ยิ้มอ่อนๆ และกล่าวว่า “อย่างนั้นรึ? เช่นนั้นแล้วกาลเวลาที่ผ่านไปยาวนาน ภายในใจของพวกเจ้าปล่อยวางได้รึ? บางทีอาจเป็นไปได้มีผู้ที่ก้าวมาถึงความสูงในระดับของพวกเจ้า แต่ว่า เจ้าจะคิดว่าผู้มาทีหลังคือผู้เข่นฆ่ามังกร หรือเป็นผู้จำแลงมาจากมังกร และหรือคือปราชญ์เล่า?

ครั้นหลี่ชิเย่กล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว สายตาเพ่งมองไปยังผู้เฒ่าที่อยู่ข้างหน้า เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “พวกเราก้าวเดินมาถึงจุดนี้แล้ว สิ่งที่วางไว้เป็นอันดับหนึ่งไม่ใช่ทักษะยุทธ แต่เป็นจิตแห่งการบำเพ็ญเพียร สิ่งสำคัญที่สุดคือการกลายเป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะเช่นใด”

“ช่างเถอะไม่พูดถึงดีกว่า ไม่พูดถึงดีกว่า” สุดท้าย ผู้เฒ่าหัวเราะและเอ่ยขึ้นพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล