ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2937

ตอนที่ 2937 กระบือดำขนาดใหญ่อีกแล้ว

เสียงปัง…ดังขึ้นเสียงหนึ่ง ผู้บำเพ็ญตนผู้นี้เพิ่งพูดขาดคำก็ถูกกีบเท้าถีบเข้าให้อย่างแรง พลันส่งตัวเขาลอยไปถึงเส้นขอบฟ้า

“นั่งแม่งสิ…เจ้ากระบือดำขนาดใหญ่กล่าวเหยียดหยามขึ้นหลังจากได้ใช้กีบเท้าเตะยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจนลอยออกไป

อารมณ์ร้ายมาก…ผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ข้างๆ ถึงกับลิ้นจุกปากพูดอะไรไม่ออก เมื่อได้เห็นลักษณะการอาละวาดของเจ้ากระบือดำขนาดใหญ่

“อยู่นี่เอง ล้อมมันเอาไว้” ขณะที่เจ้ากระบือดำขนาดใหญ่พึ่งจะยืนอยู่ข้างถนน พลันมีผู้คนจากทุกทิศทุกทางปิดเล้อมเข้ามาในทันที ล้อมกระบือดำขนาดใหญ่เอาไว้อย่างแน่นหนา

“ดูท่าเจ้ากระบือดำขนาดใหญ่ตัวนี้คงยากจะหนีพ้นเคราะห์กรรมไปได้แล้ว” มีผู้ซุบซิบขึ้นเมื่อเห็นกระบือดำขนาดใหญ่ถูกคนล้อมเอาไว้อย่างแน่นหนา

“เจ้ากระบือดำขนาดใหญ่นับว่ากำแหงไม่เบาอย่างแท้จริงเลย อาละวาดด่านเทียนสงกวาน หาเรื่องจริงๆ เลยนะเนี่ย” มียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนอดที่จะส่ายหัว เมื่อเห็นบ้านเรือนซ้ายขวาสองข้างทางกลายเป็นซากปรักหักพังไปไม่น้อย ต่างได้แต่หัวเราะเจื่อนๆ

หลังจากที่กระบือดำขนาดใหญ่ตัวนี้บุกเข้ามายังด่านเทียนสงกวานแล้ว ก็เรียกได้ว่าพุ่งชนอุตลุด ไม่รู้ว่ามีตึกรามบ้านช่องจำนวนเท่าไรที่ถูกมันพุ่งชนจนพัง แม้ว่าบรรดาตึกรามบ้านช่องที่ถูกมันทำลายไปนั้นจะมีระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิจิ้งเฉ่าชดใช้ให้ แต่ว่า ยังคงทำให้ผู้คนมองดูจนลิ้นจุกปากพูดอะไรไม่ออก

ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่ทำการล้อมกระบือดำขนาดใหญ่เอาไว้มีจำนวนมากถึงหลายร้อยคน ทุกๆ คนล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือทั้งสิ้น ในจำนวนนั้นมีผู้เฒ่าหลายคนเป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะที่แข็งแกร่งมาก ด้วยกำลังพลเช่นนี้ทำให้ผู้พบเห็นต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำลึกๆ ในใจ

“คราวนี้เกรงว่าเจ้ากระบือดำขนาดใหญ่ติดปีกก็หนีไปไม่พ้นแล้วกระมัง” มีผู้ที่พูดเสียงแผ่วเบาขึ้นมา เมื่อมองเห็นกระทั่งระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะก็ออกโรงด้วยแล้ว

“ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิจิ้งเฉ่ามียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนมาไม่น้อยนะเนี่ย แม้แต่ผู้อาวุโสรุ่นบุกเบิกก็มาด้วยแล้ว” มีผู้บำเพ็ญตนรุ่นอาวุโสจำจำผู้เฒ่าหลายคนที่มีกำลังความสามารถระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะแล้ว รู้สึกตกใจระคนความแปลกใจ

“ได้ยินมาว่าคุณชายกว่านก็มาร่วมงานยิ่งใหญ่ด้วย ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิจิ้งเฉ่าจึงติดตามมาด้วยยอดฝีมือเป็นจำนวนมาก แม้แต่ผู้อาวุโสรุ่นบุกเบิกหลายคนก็ติดตามมาด้วย” มีผู่บำเพ็ญตนที่การข่าวรวดเร็ว ได้กล่าวขึ้นเสียงแผ่วเบา

“คุณชายกว่านมาแบบยิ่งใหญ่หรูหรามาก เป็นการมาในฐานะนายน้อยของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิจิ้งเฉ่ารึ? ” มีผู้ที่รู้สึกตระหนกในใจ

ผู้ที่มีการข่าวรวดเร็วกล่าวด้วยความลังเลว่า “เกรงว่าเรื่องนี้มีความเป็นไปได้ เล่าลือกันว่ามีความเป็นไปได้ที่คุณชายกว่านจะได้สืบทอดตำแหน่งใหญ่ของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิจิ้งเฉ่า”

ในเวลานี้เอง ท่ามกลางผู้คนที่ปิดล้อมกระบือดำขนาดใหญ่นั้น มีชายหนุ่มผู้หนึ่งก้าวออกมาด้านหน้า ชายหนุ่มผู้นี้สวมใส่เสื้อผ้าวิเศษ สวมหมวกทรงสูง ภาพรวมเปี่ยมด้วยความเป็นผู้สูงส่ง มีท่าทีที่หมางเมินทั่วหล้าและอยู่เหนือผู้คน ทำให้ผู้พบเห็นพลันทราบว่าเขาคือที่อยู่ดีกินดีคนหนึ่ง

“คุณชายกว่านมาแล้ว” มีผู้ร้องเสียงแผ่วเบาขึ้นมา เมื่อได้เห็นชายหนุ่มผู้นี้

“เขาก็คือบุตรชายของเทพเมฆาม้วนอย่างนั้นรึ? ”ผู้บำเพ็ญตนที่ไม่เคยเห็นเขามาก่อนอดที่จะเอ่ยถามขึ้น เมื่อได้เห็นชายหนุ่มผู้นี้

“ถูกต้อง” ผู้บำเพ็ญตนที่รู้จักเขาได้พยักหน้า และกล่าวเสียงแผ่วเบาว่า “ได้ยินว่าเขาได้รับยืนยันแต่งตั้งให้มีฐานะเป็นนายน้อยของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิจิ้งเฉ่าแล้ว ในอนาคตต้องได้สืบทอดบัลลังก์ของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิจิ้งเฉ่าอย่างแน่นอน”

“รีบๆ ยอมจำนนเสีย ยอมสยบต่อคุณชายอย่างข้า และมาเป็นพาหนะของคุณชายอย่างข้าก็ไม่ได้ทำให้เจ้าต้องเสียเกียรติ” เวลานี้ กว่านหวินเผิง คุณชายกว่านแห่งระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิจิ้งเฉ่ามองดูกระบือดำขนาดใหญ่แวบหนึ่ง และกล่าวอย่างทระนงขึ้นมา

กระบือดำขนาดใหญ่มองดูกว่านหวินเผิงแวบหนึ่ง แววตาเปี่ยมด้วยความเหยียดหยาม

“เจ้ากระบือถ่านดำเช่นเจ้ามาถึงที่นี่ได้อย่างไรกัน” ขณะที่เจ้ากระบือดำขนาดใหญ่ยังไม่ทันปริปาก ก็มีเสียงเอ้อระเหยเสียนงหนึ่งดังขึ้น

คนอื่นยังไม่ทันมีปฏิกิริยาอะไร กระบือดำขนาดใหญ่มองไป พลันเห็นข้างกายตนเองมีคนผู้หนึ่งยืนอยู่แล้ว คนผู้นี้ก็คือหลี่ชิเย่นั่นเอง

“แหะก็นี่ไงมาพึ่งพาท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ท่านแล้ว” พลันที่เจ้ากระบือดำขนาดใหญ่มองเห็นหลี่ชิเย่ก็กล่าวหัวเราะแหะแหะ

การที่หลี่ชิเย่ปรากฏตัวขึ้นที่ข้างๆ ของเจ้ากระบือดำขนาดใหญ่ ได้ทำใหผู้คนจำนวนมากตั้งตัวไม่ทัน และผู้คนจำนวนมากยังไม่ทันมองเห็นได้ชัดเจน หลี่ชิเย่ก็ได้ไปยืนอยู่ข้างๆ กระบือดำขนาดใหญ่แล้ว

“คนผู้นี้คือใคร? ” ผู้คนจำนวนมากต่างไม่รู้จักหลี่ชิเย่ว่าเป็นใคร เมื่อเห็นเขายืนอยู่ข้างๆ กระบือดำขนาดใหญ่ และท่าทางที่ธรรมดามากของหลี่ชิเย่ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่เป็นที่สดุดตาของผู้คน

“เจ้าเป็นใคร? ” ขณะที่หลี่ชิเย่ยืนอยู่ข้างๆ กระบือดำขนาดใหญ่นั้น กว่านหวินเผิงร้องกล่าวเสียงดังขึ้นมาทันที

“ข้าจะเป็นใครมันสำคัญรึ? ” หลี่ชิเย่ยิ้มๆ ท่าทางสบายๆ ตามอารมณ์ เพียงมองดูกระบือดำขนาดใหญ่เท่านั้น ไม่ได้ให้ความสนใจในตัวของกว่านหวินเผิง

“เจ้ากระบือดำขนาดใหญ่ตัวนี้ คุณชายอย่างข้าได้จองเอาไว้แล้ว มันจะกลายเป็นพาหนะของคุณชายอย่างข้า” ท่าทางของกว่านหวินเผิงหยิ่งผยอง และกล่าวว่า “ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง รีบๆ ถอยไป อย่าให้ตนเองต้องเดือดร้อน”

หลี่ชิเย่อดที่จะจ้องมองดูกว่านหวินเผิงทีหนึ่ง เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของเขา เขาอยากจะหัวเราะออกมา และเผยรอยยิ้มขึ้นมา กล่าวท่าทีเอ้อระเหยว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร? ”

“มีเรื่องสนุกๆ ดูแล้ว” ในเวลานี้ ท่ามกลางฝูงชนมีผู้ที่จดจำหลี่ชิเย่ได้ จึงพูดเสียงแผ่วเบาขึ้นมา

“ก็เหมือนที่เจ้าพูดเมื่อครู่ เจ้าเป็นใคร มันสำคัญรึ? ” กว่านหวินเผิงหัวเราะเยาะ ท่าทางยโส และกล่าวว่า “เจ้ารู้ว่าคุณชายอย่างข้าเป็นใครหรือไม่? ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล