ตอนที่ 2939 ความโสมมของกระบือดำขนาดใหญ่
หลังจากหลี่ชิเย่พากระบือดำขนาดใหญ่ไปจากถนนใหญ่แล้ว เขาจ้องมองดูกระบือดำขนาดใหญ่แวบหนึ่ง และกล่าวว่า “ทำไมรึ อยู่ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไม่สบายหรือไง? ถึงกับออกมากับเขาเหมือนกัน”
ภายในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ พลันที่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นสาวกไปแล้วก็ยากที่จะไปจากได้อีกแล้ว แต่ทว่า เจ้ากระบือดำขนาดใหญ่เป็นข้อยกเว้น เขาคิดอยากจะมาก็มา คิดอยากจะไปก็ไป
ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ กระบือดำขนาดใหญ่เป็นหนึ่งเดียวที่ไม่ได้ถูกบงการโดยพลังจากพลังจรัส การที่เขาไม่ไปจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น หาใช่เป็นเพราะมีเหตุมาจากพลังจรัส แต่เป็นเพราะตัวเขาเองที่ไม่ต้องการไปจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์ กระทั่งกล่าวได้ว่ามันต้องการปกป้องภูเขาศักดิ์สิทธิ์เอาไว้
แน่นอน กระบือดำขนาดใหญ่ไม่ได้ปกป้องภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ แต่ปกป้องภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อตัวของเขาเอง เหมือนดั่งที่เขาได้พูดเอาไว้ว่า ภูเขาศักดิ์สิทธิ์คือบ้านของเขา ดังนั้น เขาจึงต้องดูแลภูเขาศักดิ์สิทธิ์เอาไว้อย่างดี
“แหะ แหะ แหะหง่าวอยู่แต่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ก็น่าเบื่อ ดังนั้น จึงออกมาเดินเล่นบ้าง” กระบือดำขนาดใหญ่กล่าวหัวเราะแหะแหะว่า “อีกอย่าง ออกมาพบปะโลกภายนอกบ้างก็ดี และยังสามารถติดตามท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่สนุกกับการกินฟรีอยู่ฟรี แล้วทำไมจึงไม่ทำเล่า? ”
“เป็นเพราะว่ากุญแจของภูเขาศักดิ์สิทธิ์อยู่ในมือเจ้าน่ะสิ” หลี่ชิเย่หัวเราะและส่ายหน้า
การที่กระบือดำขนาดใหญ่รั้งอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์มาเป็นพันล้านปีไม่จากไปไหน ก็แค่เกรงว่าผู้อื่นจะมาชิงเอาภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไป เวลานี้หลังจากตำหนักนภาถูกทำลายไปแล้ว เจ้ากระบือดำขนาดใหญ่ได้ยึดครองตราประทับของภูเขาศักดิ์สิทธิ์มาเป็นของตนทั้งหมด เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ก็กลายเป็นของเขาแล้ว จึงไม่ต้องคอยกังวลอีกแล้ว
กล่าวสำหรับเขาแล้ว เวลานี้ต่อให้ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่ในหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ มันก็แค่ตั้งวางเอาไว้เป็นการชั่วคราวเท่านั้น และหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ไม่มีกำลังความสามารถที่จะควบคุมภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้อยู่แล้ว
แหะ แหะ แหะ…กระบือดำขนาดใหญ่ถึงกับหัวเราะแหะแหะ และกล่าวว่า “ถึงอย่างไรเวลานี้มันก็คือของกระบือสุดหล่อแล้ว จากนี้ไปใครก็อย่าได้คิดที่จะแตะต้องมัน แหะแม้แต่ปีศาจต้นไม้เฒ่าก็อย่าได้หวัง”
หลี่ชิเย่อดที่จะส่ายหัวไม่ได้ เหลือบมองกระบือดำขนาดใหญ่ทีหนึ่ง และกล่าวว่า “เขาควบคุมอยู่ตรงนั้น เจ้าเองก็เคลื่อนย้ายไม่ได้ เจ้าได้กุญแจมาแล้วอย่างไร เขาหยั่งรากอยู่ตรงนั้น เจ้าได้แค่มองตาปริบๆ มิใช่รึ ที่เขาไม่ไปเอากุญแจเป็นเพราะขี้คร้านจะไปแย่งชิงกับเจ้า การที่เขาอยู่ตรงนั้นจะมีกุญแจหรือไม่มีกุญแจก็เหมือนกัน เว้นแต่เขาจะตายไปหรือจากไป มิฉะนั้นล่ะก็ กุลแจที่อยู่ในมือของเจ้าก็ใช้การอะไรไม่ได้”
เมื่อหลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา พลันทำให้พลังลำพองใจของกระบือดำขนาดใหญ่ถูกกดลงไป ทำให้แฟบลงทันที เหมือนมะเขือเทศที่เหี่ยวต้องกับความหนาวเย็นของลูกเห็บอย่างนั้น
เป็นเพราะปีศาจต้นไม้เฒ่านั่นแท้ๆ…กระบือดำขนาดใหญ่ถึงกับบ่นพึมพำแต่ก็จนด้วยเกล้า และกล่าวว่า “ข้าไม่เข้าใจเลยว่า ตัวเขาที่ฝืนลิขิตสวรรค์เช่นนี้ทำไมจะต้องหยั่งรากอยู่ตรงนั้นให้ได้ ก็แค่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิโทรมๆ เท่านั้นเอง มีอะไรคู่ควรให้เสียเวลาอยู่ตรงนั้น เขาอยากได้ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสักแห่งก็สร้างขึ้นมาเองได้ ทำไมจะต้องทำเช่นนี้เล่า ช่างสิ้นเปลืองเวลา สิ้นเปลืองชีวิตมากมาย”
ในเวลานี้กระบือดำขนาดใหญ่ไม่อาจไม่ยอมแพ้ แม้ว่ากุญแจจะอยู่ในมือของเขา แต่ว่าหากปีศาจต้นไม้เฒ่าไม่ไปไหนล่ะก็ เขาไม่สามารถทำอะไรได้อยู่แล้ว ต่อให้เขาคิดจะเคลื่อนย้ายภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปก็เอาไปไม่ได้ เนื่องจากงปีศาจต้นไม้เฒ่ายึดครองอยู่ตรงนั้น เว้นแต้เขาสามารถทุกเอาปีศาจต้นไม้เฒ่าไปด้วย ในโลกนี้คนที่สามารถเคลื่อนย้ายปีศาจต้นไม้เฒ่าได้นั้น เกรงว่ายากที่จะค้นพบได้มากทีเดียว
“นี่แหละความปรารถนาแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า “ในสายตาของข้า ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ก็แค่ภูเขาโทรมๆ ลูกหนึ่งมิใช่รึ? แค่ภูเขาขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ห่างไกลความเจริญเท่านั้นเอง คู่ควรให้เจ้าต้องเฝ้ามันมาเนิ่นนามเช่นนี้รึ? ”
“นั่นมันไม่เหมือนกัน” กระบือดำขนาดใหญ่แก้ต่างให้กับตนเอง โดยกล่าวว่า “นั่นมันบ้านของข้า ทุกคนย่อมมีบ้านของตนเอง ฮึ ฮึ ฮึข้าจะต้องลากมันไปให้จงได้”
หลี่ชิเย่ออดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ ส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “เจ้ายังคงล้มเลิกความตั้งใจนี้เป็นการชั่วคราวเสียเถอะ เว้นแต่วันใดปีศาจต้นไม้เฒ่ายินยอม หาไม่แล้ว เจ้าจะมองไม่เห็นความหวังเป็นการชั่วคราว”
เวลานี้กระบือดำขนาดใหญ่ถึงกับก้มหน้าลง หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ดวงตาทั้งสองของเขาเป็นประกาย เงยหน้าขึ้นและกล่าวว่า “แหะ แหะแต่ว่า ท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ต้องมีวิธีแน่นอน”
“มันแน่อยู่แล้ว” หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง และกล่าวว่า “จะให้เขาเลื่อนรากให้หน่อยมันจะยากเย็นอะไร”
“แหะท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ช่วยข้าสักหน่อยจะได้ไหม? ” ดวงตาทั้งสองของกระบือดำขนาดใหญ่เป็นประกาย ประจบสอพรอหลี่ชิเย่เป็นการใหญ่ ยิ้มกล่าวว่า “ท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่คือปฐมบรรพบุรุษอันดับหนึ่งที่หาได้ยากยิ่งในหล้า หนึ่งเดียวนับแต่อดีตถึงปัจจุบัน ขอเพียงท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่จัดการเรื่องภูเขาศักดิ์สิทธิ์ให้ข้าได้ ข้าน้อยยินดีเป็นวัวเป็นควายให้ท่าน…”
“เดิมเจ้าก็เป็นควายอยู่แล้ว” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมาและเหลือบมองกระบือดำขนาดใหญ่แวบหนึ่ง กล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยว่า “อีกอย่าง ปีศาจต้นไม้เฒ่าน่าเชื่อถือมากกว่ากระบือถ่านยักษ์อย่างเจ้ามากทีเดียว ถ้าหากจะต้องช่วยจริงๆ ข้าก็ช่วยเขาไม่ใช่ช่วยเจ้า”
“ท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ท่านทำเช่นนี้ได้อย่างไร มโนธรรมของท่านมีสีดำอย่างนั้นรึ? ” กระบือดำขนาดใหญ่ถึงกับร้องว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ร้องกล่าวเสียงดังว่า “ท่านมาที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของข้า ข้าให้การต้อนรับท่านอย่างดี ท่านจะปฏิบัติเช่นนี้กับข้าได้อย่างไร…”
“เอาล่ะ อย่ามาทำเป็นน่าสงสารต่อหน้าข้า ขณะอยู่ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ข้าไม่ได้จับเจ้าไปเป็นเนื้อตุ๋น เจ้าก็สมควรดีใจว่าโชคดีจึงจะถูก มีรึข้าไม่รู้ว่าเจ้าวางแผนอะไรอยู่? ” หลี่ชิเย่ส่ายหน้า และโบกมือเบาๆ
กระบือดำขนาดใหญ่หัวเราะแห้งๆ เขาต้องการหลอกหลี่ชิเย่ตั้งแต่พบกันครั้งแรก
“อนาคตไม่ค่อยสงบนัก ความจริงแล้วการที่เจ้ารั้งอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ใช่ว่าจะไม่ดี” สุดท้าย หลี่ชิเย่มองดูกระบือดำขนาดใหญ่ทีหนึ่งและกล่าวเรียบเฉยว่า “อย่างน้อยที่สุดยังมีปีศาจต้นไม้เฒ่าที่สามารถรับหน้าได้”
“ข้ารู้” กระบือดำขนาดใหญ่ยักไหล่ทีหนึ่ง และกล่าวว่า “ถ้าหากจะต้องตายจริงๆ ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องตาย อยู่ที่ว่าตายที่ไหนเท่านั้น หากวันนั้นมาถึงจริงๆ กระบือสุดหล่ออย่างข้ารับรองได้ว่าสามารถยืนหยัดได้ถึงลมหายใจเฮือกสุดท้าย หนีกลับไปตายที่นั่น”
คำพูดของกระบือดำขนาดใหญ่นับว่ามีจิตที่เบิกบานใจยิ่ง แต่ว่า เขามีกำลังความสามารถที่จะทำเช่นนั้นได้จริงๆ
“ก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล” หลี่ชิเย่พยักหน้าและกล่าวว่า “หากถึงขั้นนั้นจริงๆ เป็นความจริงที่ไม่ว่าใครก็ยากจะหนีเคราะห์กรรมไปได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...