ตอนที่ 2970 หน้าใหม่
ภายในช่องว่างที่อยู่ลึกเข้าไป โลงศพเซียนได้ไหลไปตามน้ำ ก้าวข้ามช่องว่างแล้วช่องว่างเล่า พลัดหลงอยู่ท่ามกลางวังวนของช่องว่างนั้น ส่วนหลี่ชิเย่นั้นเรียกได้ว่าปราศจากร่องรอยใดๆ ทั้งสิ้นไปแล้ว
สิ่งนี้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก เมื่อไรที่หลี่ชิเย่ไม่สามารถก้าวออกมาจากตำราสวรรค์ได้ เมื่อไรที่จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรไม่มั่นคงพอ ย่อมต้องกลายเป็นตัวอักขระยันต์ที่เก่าแก่ดึกดำบรรพ์ตัวหนึ่งนับแต่นี้เป็นต้นไป
กล่าวได้ว่า การกระทำในลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่นั้นอันตรายมาก เดิมทีตัวเขาเพียงแค่นั่งบรรลุธรรมอยู่ข้างต้นกำเนิดก็เพียงพอแล้ว แต่ว่า เขากลับกลายเป็นตัวอักขระยันต์ตัวหนึ่งซะอย่างนั้น กลายเป็นส่วนหนึ่งของตำราสวรรค์
แน่นอน เจ้ากระบือดำขนาดใหญ่พวกเขาก็ไม่รู้ว่ามีเรื่องที่อันตรายขนาดนี้เกิดขึ้นมาอย่างเงียบๆ เพียงแต่ ต่อให้พวกกระบือดำขนาดใหญ่ทราบเรื่องก็จนด้วยเกล้า และไม่สามารถช่วยอะไรได้
ต่อให้เจ้ากระบือดำขนาดใหญ่แข็งแกร่งมากไปกว่านี้ เขาสามารถเข้าไปในชั้นที่ลึกเข้าไปในช่องว่าง สามารถดึงเอาโลงศพเซียนจากวังวนของสายน้ำที่ไหลไม่เป็นปรกติขึ้นมาได้ แต่ว่ากระบือดำขนาดใหญ่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือหลี่ชิเย่ที่เข้าไปอยู่ในตำราสวรรค์ออกมาได้
วันเวลาปราศจากวันและเดือน ไม่รู้ว่าเวลาได้ผ่านไปนานเท่าไรแล้ว ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวและมีประกายแสงระยิบระยับได้ปรากฏเงาสายหนึ่งอย่างช้าๆ แรกเริ่มทีเดียวร่างเงาสายนี้เลือนรางไม่ชัดเจน เงาสายนี้เสมือนหนึ่งเป็นพร้อมดับวูบลงทุกเมื่อ ร่างเงานั้นติดๆ ดับๆ มีการกะพริบเป็นระยะๆ เหมือนว่าขอเพียงมีสายลมพัดผ่านมาเบาๆ ร่างเงาสายนี้ก็จะดับลงได้อย่างนั้น
แต่ทว่า แม้ว่าร่างเงานั้นจะอยู่ท่ามกลางสายน้ำที่มีการไหลแบบไม่ปรกติ ยังคงมีความมั่นคงอะไรอย่างนั้น จากเลือนรางไม่ชัดเจนค่อยๆ กลับกลายเป็นชัดเจนขึ้นอะไรอย่างนั้นช้าๆ
ถูกต้อง เป็นหลี่ชิเย่นั่นเอง หลี่ชิเย่ได้ออกมาจากตำราสวรรค์แล้วในที่สุด ออกมาจากต้นกำเนิดนั้นได้แล้ว
เขาเคยอยู่ที่ต้นกำเนิดและกลายเป็นตัวอักขระยันต์ ทำการกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขที่นั่น ที่ตรงนั้นปราศจากวันเวลา ไม่มีปีและเดือน บางทีเขาอาจจะกระโดดโลดเต้นอยู่ที่ตรงนั้นมานับพันล้านปีแล้ว
เมื่อร่างเงาของหลี่ชิเย่มีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ โลงศพเซียนที่ลอยล่องไหลไปตามน้ำในชั้นที่ลึกของช่องว่างก็ดูสงบขึ้น มันหลุดอยู่ข้างกายของหลี่ชิเย่ และไม่มีการเคลื่อนไหวอีกต่อไป
ถ้าหากมีผู้ที่อยู่ในระดับสูงสุดได้มาเห็นภาพที่อยู่ตรงน้า ต้องถูกทำให้ตกใจจนเหงื่อเย็นไหลโทรมกายแน่นอน ไม่ว่าผู้นั้นจะดำรงอยู่ในสถานะสูงสุดที่แข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม พวกเขาก็ยากที่จะทำได้ถึงเช่นนี้
สิ่งนี้ใช่เป็นแค่เรื่องของการไล่ย้อนติดตามวันเวลากลับไปง่ายดายเพียงนี้ ทั้งยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของต้นกำเนิด ซึ่งต้องอาศัยจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่แข็งแกร่งปราศจากผู้เทียบเทียม มีเพียงจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่มั่นคงไม่สั่นคลอนเท่านั้น จึงสามารไล่ย้อนขึ้นไปได้อย่างแท้จริง จึงสามารถกลายเป็นส่วนหนึ่งของต้นกำเนิดแล้วยังกลับมาได้อย่างปลอดภัย
ผู้ที่สามารถทำได้ถึงจุดนี้ เกรงว่าในโลกนี้ไม่ว่าจะเป็นระดับปฐมบรรพบุรุษเช่นใด ก็ยากจะทำได้
หลังจากเวลาผ่านไปนานมากแล้ว หลี่ชิเย่ได้กลับมาอย่างสิ้นเชิง เขานั่งอยู่ข้างๆ โลงศพเซียนเงียบๆ เหมือนว่าตั้งแต่ต้นจนจบเขาไม่เคยขยับตัวเลยสักครั้ง
ในเวลานี้เอง หลี่ชิเย่ได้ลืมตาขึ้นสองข้าง นาทีนี้ร่างเงาของเขาได้มีการเคลื่อนไหวทีหนึ่ง
เสียงแว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น จากการที่ร่างเงาของหลี่ชิเย่มีการขยับ ช่องว่างจำนวนนับไม่ถ้วนล้วนสั่นไหวโคลงเคลงทีหนึ่ง จากนั้น ได้ยินเสียงปุดัง่ขึ้น ช่องว่างถูกเปิดออกมา หลี่ชิเย่ลากเอาโลงศพเซียนจากชั้นที่ลึกเข้าไปในช่องว่างกลับมา
ทุกสิ่งทุกอย่างภายในห้องไม่มีการเปลี่ยนแปลง นาทีนี้วันเวลาก็กำลังไหลเคลื่อนไป เหมือนว่าหลี่ชิเย่ไม่เคยไปจากตรงนี้เลย เหมือนว่าเขาอยุ่ในห้องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบอย่างนั้น
“ศักราชใหม่ ตำราสวรรค์เล่มใหม่ อาศัยสิ่งนี้เป็นรายละเอียดโครงร่างก็แล้วกัน” หลี่ชิเย่ลูบไล้โลงศพเซียนที่พราวพร่างดั่งเพชร และเอ่ยขึ้นเรียบเฉย
ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า หลี่ชิเย่ในเวลานี้ได้เข้าใจถึงความลึกซึ้งยอดเยี่ยมของตำราสวรรค์และสามารถพลิกใช้มันได้เต็มที่ อีกทั้งมาคราวนี้เขาได้กลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของตำราสวรรค์ ทำให้เขาสามารถเข้าใจในขั้นที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นไปอีก กล่าวได้ว่า ตำราสวรรค์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของเขาแล้ว
เวลานี้ หลี่ชิเย่ได้หลับตาลงช้าๆ เสมือนดั่งเข้าสู่หลับใหลอย่างนั้น
ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้นเสียงหนึ่ง ในเวลานี้บนตัวของหลี่ชิเย่ปรากฏแสงสว่างที่ค่อยๆ แผ่กระจายออกมา แสงแต่ละสายแม้จะไม่เจิดจ้าละลานตาอะไรมากนัก แต่ว่า ทุกๆ ประกายแสงช่างดูเป็นจริงอะไรอย่างนั้น เสมือนหนึ่งกลายเป็นของจริงอย่างนั้น โดยที่ประกายแสงแต่ละสายคล้ายเป็นหนามที่โปร่งแสง และประกายแสงแต่ละสายคล้ายกลับกลายมาจากวันเวลา
ในขณะเดียวกัน โลงศพเซียนก็ร้องขับขานสอดรับขึ้นมา ได้ยินเสียงแว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น บนโลงศพเซียนที่พราวพร่างยิ่งถึงกับปรากฎอักขระยันต์ตัวแล้วตัวเล่า โดยตัวอักขระยันต์แต่ละตัวปรากฏอยู่บนพื้นผิวของโลงศพเซียน
สมควรทราบว่า โลงศพเซียนนั้นดูไปแล้วก็คือช่องว่างจำนวนนับไม่ถ้วน เหมือนว่ามีช่องว่างนับล้านล้านช่องว่างถูกผนึกเอาไว้ภายในอย่างนั้น ไม่สามารถมองเห็นที่สุดของมันได้อยู่แล้ว
แต่ว่า ในขณะนี้ ภายในโลงศพเซียนกลับปรากฏอักขระยันต์ขึ้นมา โดยที่อักขระยันต์แต่ละตัวมีความเก่าแก่โบราณยิ่ง ไม่ผิด นี่ก็คือตัวอักขระยันต์ที่มาจากต้นกำเนิด นี่แหละคือต้นกำเนิดเดิม
ทว่า นาทีนี้อักขระยันต์เก่าแก่โบราณได้ปรากฏขึ้นมาแล้วทั้งหมด และมีความร่าเริงอย่างยิ่ง คล้ายเป็นปลาหลีฮื้อแต่ละตัวที่ได้ลอยตัวขึ้นผิวน้ำทั้งหมดในขณะนี้
เสียงแว้งค์ แว้งค์ แว้งค์ดังขึ้นมาไม่ขาดสาย จากการที่ประกายแสงบนตัวของหลี่ชิเย่ดูสว่างไสวมากยิ่งขึ้น มองเห็นด้านหน้าบริเวณอกของหลี่ชิเย่ปรากฎวังวนสัจธรรมขึ้นมา
ท่ามกลางเสียงแว้งค์ แว้งค์ แว้งค์ที่ดังขึ้นนี้ ตัวอักขระยันต์แต่ละตัวเสมือนหนึ่งเป็นปลาหลีฮื้อกระโดดออกจากน้ำอย่างนั้น ด้วยการกระโดดออกมาทีละตัวๆ กระโดดขึ้นจากน้ำ หลังจากกระโดดออกมาแล้ว ได้ว่ายวนไปรอบๆ ตัวของหลี่ชิเย่
ในเวลานี้ ฉากที่สุดมหัศจรรย์ได้ปรากฏขึ้น ตัวอักขระยันต์ที่เก่าแก่เป็นนิรันดร์นับไม่ถ้วนคล้ายดั่งเป็นปลาหลีฮื้อที่ว่ายเคลื่อนไหววนไปรอบๆ ตัวของหลี่ชิเย่ และยิ่งหมุนยิ่งเร็ว
เสียงตูม…เสียงหนึ่งดังขึ้น นาทีนี้สัจธรรมของหลี่ชิเย่ได้ถักทอเข้าด้วยกัน จาการที่วันเวลาพลันบานเบ่งขึ้นมา มองเห็นอักขระยันต์มีมีความเก่าแก่เป็นนิรันดร์แต่ละตัวพลันสรรสร้างเป็นสุดยอดบทคัมภีร์สูงสุดขึ้นในพริบตาเดียว
ท่ามกลางเสียงตูมที่ดังสนั่นหวั่นไหว สุดยอดบทคัมภีร์สูงสุดลักษณะเช่นนี้พลันหลอมรวมเข้าไปในสัจธรรมของหลี่ชิเย่ กลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของหลี่ชิเย่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...