ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2983

สรุปบท ตอนที่ 2983 ไม่มีผู้ใดเปิดได้: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2983 ไม่มีผู้ใดเปิดได้ – ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet

บท ตอนที่ 2983 ไม่มีผู้ใดเปิดได้ ของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 2983 ไม่มีผู้ใดเปิดได้

แม้ว่ายอดฝีมือ และผู้ยิ่งใหญ่ในงานจำนวนมากต่างทยอยกันทดลองดูแล้ว แต่ว่า ไม่มีใครทำได้สำเร็จ

กล่าวได้ว่า ยอดฝีมือ และผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ในงานต่างงัดทุกอย่างออกมาจนสิ้น มีผู้ที่อาศัยเคล็ดวิชาที่ลึกซึ้งปราศจากผู้เทียบเทียมไปวิวัฒนาการ และมียอดฝีมือที่อาศัยอาวุธปฐมบรรพบุรุษที่ทรงพลังยิ่งยิงใส่ ยิ่งกว่านั้น ยังมีผู้ยิ่งใหญ่ที่นำเอากฎเหล็กปฐมบรรพบุรุษของพวกเขามา…

แต่ว่า ไม่ว่าจะใช้วิธีการใดๆ ไม่ว่าจะทำความบรรลุอย่างใด ก้อนหินก้อนนี้ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ไม่ได้รับผลใดๆเลย

ภายในงาน ผู้ที่มีความแข็งแกร่งเฉกเช่นราชันแท้จริงเซิ่นซวง ราชันแท้จริงหวงจุนต่างก็ลงมือทดสอบไปแล้ว แต่ว่า ก็ไม่เห็นผลแม้แต่น้อย

ขณะที่ราชันแท้จริงเซิ่นซวงลงมือนั้น นางเพียงใช้นิ้วจิ้มไปเบาๆ ได้ยินเสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้น น้ำแข็งที่เย็นยะเยือกพลันปกคลุมหินทั้งก้อน ความเย็นยะเยือกที่สามารถทำให้ทุกอย่างแหลกละเอียดได้ แต่ว่า กลับไม่ส่งผลใดๆ กับหินก้อนนี้แต่อย่างใด

ราชันแท้จริงหวงจุนสำแดงและวิวัฒนาการสรรพวิชา หวังแอบส่องความยอดเยี่ยมของมัน ในขณะนี้ ร่างกายของเขาสำแดงเหตุการณ์ประหลาดขึ้น ด้านหลังตัวของเขาปรากฏรูปแกะสลักของปฐมบรรพบุรุษแต่ละคนขึ้นมา หนึ่งในนั้นรวมถึงเกาหยางด้วย ไม่รู้ว่าผู้ที่อยู่ในงานจำนวนเท่าไรต้องชมเปาะด้วยความตื่นตะลึงและรู้สึกหวั่นไหวในใจ

ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า ราชันแท้จริงหวงจุนได้รับพรจากปฐมบรรพบุรุษคนแล้วคนเล่า ย่อมสามารถดูออกว่าเขามีกำลังกล้าแข็งเพียงใด ธาตุแท้ภายในของเขาน่ากลัวเช่นใด

แต่ว่า ต่อให้การปรากฏตัวขึ้นมาของปฐมบรรพบุรุษแต่ละคน ยังคงไม่สามารถไขความยอดเยี่ยมของหินก้อนนี้ได้ หินก้อนนี้ยังคงไม่มีความเคลื่อนไหว

ภายในระยะเวลาอันสั้น หลังจากยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่แต่ละคนได้ทดลองด้วยวิธีการใดแล้ววิธีการใดเล่าล้วนไม่ประสบผลสำเร็จ ยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่จำนวนไม่น้อยต่างทยอยกันละทิ้งไป

“แม้แต่พระอาจารย์จินกวงก็จนปัญญา พวกเราพยายามอย่างไรก็ป่วยการ” สุดท้าย มีผู้ยิ่งใหญ่ที่ละทิ้งกล่าวด้วยความจนด้วยเกล้าไม่ทดลองอีกต่อไป

แม้ว่าในเวลานี้ไม่มีผู้ใดประสบความสำเร็จสักคน ในจำนวนพวกเขามีผู้ยิ่งใหญ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังอยู่จำนวนเท่าไร มีอัจฉริยะบุคคลที่ปราดเปรื่องน่าทึ่งอยู่เท่าใด แต่ว่า ทุกคนล้วนไม่รู้สึกว่ามีอะไรน่าอับอาย

จะอย่างไรเสียแม้แต่พระอาจารย์จินกวงก็ทำความบรรลุก้อนหินก้อนนี้ไม่ได้ การล้มเหลวของพวกเขาก็สมเหตุสมผลอยู่ ลองจินตนาการดู ในแดนลัทธิเซียนยังจะมีใครเทียบได้กับพระอาจารย์จินกวง ในเมื่อพระอาจารย์จินกวงทำไม่ได้ พวกเขาอาศัยอะไรสามารถทำได้เล่า?

“ก้อนหินก้อนนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน” มีผู้คนจำนวนไม่น้อยก็มั่นใจแล้วว่า ก้อนหินก้อนนี้ไม่ธรรมดา หลังจากที่ยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่มากมายต่างทยอยกันประสบความล้มเหลว

ลองจินตนาการดู พวกเขาได้ทดลองโดยอาศัยวิธีการมากมายเท่าไร เคล็ดวิชาที่แข็งแกร่งที่สุด อาวุธที่คมมากที่สุด ไฟโลกันตร์ที่รุนแรงที่สุด…วิธีการทุกอย่างล้วนไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับหินก้อนนี้

หินที่มีความแข็งเช่นนี้ ยังไม่ต้องเอ่ยถึงว่ามันได้ซ่อนความลึกซึ้งยอดเยี่ยมอะไรเอาไว้ ลำพังตัววัสดุที่แกร่งมากถึงเพียงนี้ก็นับว่าปราศจากสิ่งเทียบเทียมแล้ว หากสามารถนำมาสร้างเป็นอาวุธสักชิ้น เรียกได้ว่ามีมูลค่ายากที่จะประเมิน

“พี่ท่านมองเรื่องนี้อย่างไรเล่า? ” ขณะที่บรรดายอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ต่างทยอยกันเข้าทดลองนั้น นางฟ้าแห่งเขาหวู่สิงซานฮุ่ยชิงเสียนยังคงนั่งอยู่กับที่นั่งของตน ยังคงมีท่าทีเงียบสงบอิสระเสรี

เวลานี้สายตาของฮุ่ยชิงเสียนเสมือนดั่งสายน้ำไหล มองไปที่หลี่ชิเย่ และเอ่ยถามถึงความเห็นของหลี่ชิเย่

ขณะที่ทุกคนกำลังทำการทดสอบต่อหินก้อนดังกล่าวอยู่นั้น หลี่ชิเย่ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างมั่นคง ไม่มีทีท่าจะลงมือ ท่าทางเรียบเฉยอิสระเสรี

ขณะที่ฮุ่ยชิงเสียนสอบถามมา หลี่ชิเย่จึงมองดูก้อนหินก้อนนี้ทีหนึ่ง กล่าวเรียบๆ ว่า “จิตใจดั่งหินผา”

ฮุ่ยชิงเสียนชมเปาะด้วยความตื่นตะลึงว่า “ความสูงส่งของพี่ท่าน ใช่รุ่นพวกเราสามารถเทียบเคียงได้ ฮุ่ยชิงเสียนพิจารณาอยู่นานจึงได้เข้าใจ พี่ท่านแค่มองดูไม่กี่ทีก็รู้ถึงความยอดเยี่ยมของมันแล้ว ละอายยิ่งนัก”

“อย่างน้อยเจ้าฉลาดกว่าพวกเขาไม่น้อยทีเดียว” หลี่ชิเย่ยิ้มๆ

ฮุ่ยชิงเสียนส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “ชิงเสียนห่างชั้นยิ่งนัก บางทีนี่ก็คือสิ่งที่ชิงเสียนขาดไป ยังไม่ถึงขั้นนั้น ไม่สามารถเปิดมันออกมาได้ น่าเสียดาย ดูท่าชิงเสียนยังมีหนทางที่ต้องก้าวเดินที่ยาวไกลยิ่งนัก”

ย่อมไม่ต้องสงสัย ก่อนหน้านี้ฮุ่ยชิงเสียนได้ทดลองเปิดหินก้อนนี้มาแล้ว แต่ว่า นางเองก็ไม่สามารถเปิดหินก้อนนี้ได้

แน่นอน ใช่ว่าฮุ่ยชิงเสียนจะไม่ได้อะไรเลยจากการนี้ ขณะที่ทำการพินิจพิเคราะห์หินก้อนนี้นั้น นางได้เข้าใจแล้วว่าควรจะไปเปิดหินก้อนนี้ได้อย่างไร แต่ว่า นางยังไม่สามารถทำได้ด้วยยังคงห่างชั้นอยู่ ทำให้นางรู้สึกเสียใจ

“สิ่งนี้จำเป็นต้องอาศัยเวลาในการขัดเกลา” หลี่ชิเย่ยิ้มๆ และกล่าวว่า “ไม่มีใครที่ถือกำเนิดขึ้นมาก็เป็นเช่นนี้ ของแบบนี้หาใช่พรสวรรค์และสติปัญญาสามารถเทียบเคียงได้ ต้องการการขัดเกลาด้วยวันเวลาและเรื่องราวบนโลก จึงสามารถทำให้เจ้ามีความแกร่งมากยิ่งขึ้น”

“พี่ท่านพูดมามีเหตุผล” ฮุ่ยชิงเสียนถึงกับพยักหน้าและกล่าวว่า “คำบอกเล่าของพี่ท่านทำให้ได้ประโยชน์ไม่น้อย ผู้ฝึกบำเพ็ญตนอย่างพวกเรามักจะแสวงหาสิ่งที่เป็นปลีกย่อย ละเลยแก่นแท้ของมันอยู่เสมอๆ ท้ายที่สุดแล้วทำให้ยิ่งเดินยิ่งไกล ยิ่งเดินยิ่งเบี่ยงเบนออกไป หวนกลับคืนไม่ได้อีกนับจากนั้นเป็นต้นมา”

“หากเป็นเช่นนี้จริงก็คงเดินไปไม่ได้ไกล” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า “หากไร้ซึ่งแก่นแท้ มันก็เป็นเพียงวิมานบนอากาศเท่านั้น คงมีสักวันที่ร่วงหล่นลงมา”

“พี่ท่านกล่าวได้ถูกต้องยิ่ง” ฮุ่ยชิงเสียนอดที่จะเอ่ยชื่นชม

เมื่อฮุ่ยชิงเสียนเอ่ยถึงตรงนี้หยุดนิดหนึ่ง มองดูหินก้อนนั้นและเอ่ยถามว่า “พี่ท่านคิดว่าเป็นผู้ใดที่ทิ้งหินก้อนนี้เอาไว้เล่า? ”

ทันใดนั่นเอง บนตัวของหลี่ชิเย่ได้เป็นศูนย์รวมของสายตาจำนวนมากมาย ทุกคนต่างจ้องมองดูหลี่ชิเย่ เนื่องจากผู้ที่อยู่ในงานมีเพียงหลี่ชิเย่เท่านั้นที่ยังไม่ได้ลอง

ในขณะนี้ไท่อิ๋นสี่จึงนึกถึงหลี่ชิเย่ขึ้นมาได้ เมื่อได้รับการกล่าวเตือนสติของผู้อื่น เขารีบมองไปทีหลี่ชิเย่ทันที

คุณชายหลี่…แน่นอน ไท่อิ๋นสี่ก็ไม่ได้เรียกให้หลี่ชิเย่ไปทดลองทันที ถ้าหากหลี่ชิเย่นั่งนิ่งไม่ขยับ เขาก็ไม่กล้าฝืน

เพียงแต่ แววตาที่ไท่อิ๋นสี่มองไปยังหลี่ชิเย่นั้นเปี่ยมด้วยความคาดหวัง จะอย่างไรเสียก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นกระบือดำขนาดใหญ่ หรือว่านางฟ้าแห่งเขาหวู่สิงซานฮุ่ยชิงเสียนต่างให้ความเคารพหลี่ชิเย่อย่างยิ่ง

สามารถได้รับการให้ความเคารพจากพวกเขาเช่นนี้ ย่อมเป็นการบ่งบอกว่าหลี่ชิเย่มีความสามารถที่เหนือผู้อื่น

เวลานี้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนแล้วแต่ได้ทดลองกันไปแล้ว มีเพียงหลี่ชิเย่เท่านั้นที่ไม่ได้ลอง เวลานี้ได้ทำให้ในใจของไท่อิ๋นสี่บังเกิดความหวังที่ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง

“ทำไมรึ ต้องการให้ข้าเปิดออกมารึ? ” หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่ง ไม่ได้รีบเร่งอยากจะลงมือ

“หากคุณชายหลี่ยอมลงมือย่อมเป็นการดีที่สุด” ไท่อิ๋นสี่รีบแสดงคารวะแบบจีน กล่าวด้วยท่าทีเคารพว่า “หินก้อนนี้เกี่ยวพันถึงอาณาประชาราษฎร์ทั่วหล้า เกี่ยวพันถึงความสุขของแดนสามเซียน หวังว่าคุณชายจะลงมือ”

“อาณาประชาราษฎร์ทั่วหล้า ความสุขของแดนสามเซียนมันเกี่ยวอะไรกับข้า” หลี่ชิเย่ท่าทางอย่างไรก็ได้ ยักๆ ไหล่ หัวเราะและกล่าวว่า “ข้าเป็นเพียงผู้ที่เดินทางผ่านมาเท่านั้น แค่เดินทางผ่านเท่านั้น แดนลัทธิเซียนจะอยู่หรือถูกทำลาย ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับข้า”

“การเจริญรุ่งเรืองหรือล่มสลายของใต้หล้า ทุกคนมีส่วนรับผิดชอบทั้งสิ้น! ” มีผู้ที่รู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที และร้องกล่าวเสียงทุ้มต่ำขึ้นเมื่อเห็นท่าทีของหลี่ชิเย่

“เจ้าพูดแล้วนี่ว่าใต้หล้า เสียดาย นี่ไม่ใช่ใต้หล้าของข้า” หลี่ชิเย่ยิ้มบางๆ นิดหนึ่งกล่าวตามอารมณ์ว่า “ถ้าหากเป็นใต้หล้าของข้าทุกอย่างคุยกันได้ นี่เป็นใต้หล้าของพวกเจ้า ดังนั้น ความเจริญรุ่งเรืองหรือล่มสลายของใต้หล้า หน้าที่ความรับผิดชอบอยู่ที่พวกเจ้า ไม่ได้อยู่ที่ข้า”

เจ้า…ผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้พลันถูกยั่วโมโหจนเพลิงโกรธตีขึ้นทันที

แต่ทว่า หลี่ชิเย่ไม่ให้ความสนใจเขา

“แหะพูดอะไรมากมาย ก็แค่ไม่กล้าไปทดลองดูเท่านั้นแหละ” ในขณะนี้ มีอัจฉริยะบุคคลผู้หนึ่งกล่าวเยาะเย้ยขึ้นมา

………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล