ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2989

ตอนที่ 2989 ตราอาญาสิทธิ์ทางทหารรูปพยัคฆ์

เมื่อฮุ่ยชิงเสียนเอ่ยมาถึงตรงนี้ได้หยุดนิดหนึ่ง และกล่าวว่า “หรือว่าใต้เท้าอิ๋นคิดว่าคุณชายหลี่ต้องการกองทัพเทียนเชี่ยน และหรือเทียนเชี่ยนจริงๆ อย่างนั้นรึ? เกรงว่าด้วยอภินิหารของคุณชายหลี่ กองทัพเทียนเชี่ยนทำทุกอย่างก็ยากจะต้านเข้าได้แม้เพียงก้าวเดียว กระทั่งเทียนเชี่ยนที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรก็ตาม ตามความเห็นส่วนตัวของข้าก็ไม่สามารถหยุดคุณชายได้เช่นกัน…”

“ตามความเข้าใจของข้า หากคุณชายหลี่มีแผนการอะไรจริงๆ เขาไม่จำเป็นต้องมีตราอาญาสิทธิ์ทางทหารรูปพยัคฆ์อะไรนั่น แค่มือข้างเดียวก็กวาดได้แล้ว เขาสามารถก้าวเดินไปทั่วหล้าลำพังผู้เดียว ไม่ว่าจะเป็นกองทัพเทียนเชี่ยน หรือเทียนเชี่ยนเอง ล้วนไม่ได้สร้างความยุ่งยากให้กับเขาสักเท่าไร”

“ที่คุณชายหลี่ต้องการตราอาญาสิทธิ์ทางทหารรูปพยัคฆ์ เกรงว่าจะเป็นเพราะความหวังดี มิฉะนั้นล่ะก็ ต่อให้เขามีแผนการอะไรก็สามารถทำลายล้างได้อย่างง่ายดาย”

ฮุ่ยชิงเสียนเอ่ยขึ้นมาช้าๆ ดูเหมือนว่านางจะยืนอยู่ข้างฝ่ายของหลี่ชิเย่โดยสิ้นเชิง สนับสนุนหลี่ชิเย่อย่างเต็มที่

“นังหนูของหวูสิงซานนับว่ายอดเยี่ยมโดยแท้จริง” กระบือดำขนาดใหญ่ถึงกับกล่าวด้วยความชื่นชมยิ่งเมื่อได้ยินคำพูดของฮุ่ยชิงเสียน และกล่าวว่า “การที่เขาหวู่สิงซานสามารถยืนโดดเด่นอยู่เหนือผู้ใดในแดนลัทธิเซียนได้ใช่จะไม่มีเหตุผล นังหนูอายุยังน้องก็มีสายตาที่แหลมคมเช่นนี้ เยี่ยมมาก เยี่ยมมาก”

กระบือดำขนาดใหญ่สามารถส่องมองเห็นความไร้เทียมทานของหลี่ชิเย่ได้ในสุด เป็นเพราะเขามีชีวิตอยู่มานานมาก ผ่านการตกผลึกมานานนับพันล้านปี เคยพบเห็นพวกที่ปราศจากผู้ต่อกรมานับไม่ถ้วน เคยพบเจออัจฉริยะบุคคลที่ปราดเปรื่องน่าทึ่งนับไม่ถ้วน ทำให้เขาฝึกสายตาทีมีความแหลมคมยิ่งนักขึ้นมาได้

อย่างไรก็ตาม ฮุ่ยชิงเสียนที่อายุน้อยขนาดนี้ กลับมีประสบการณ์ที่เป็นเลิศปราศจากผู้เทียบเทียมเช่นนี้ เป็นการแซงล้ำหน้าคนรุ่นเดียวกันไปมากทีเดียว กระทั่งแซงล้ำหน้าผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะเช่นไท่อิ๋นสี่ กล่าวได้ว่า สิ่งนี้ย่อมมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่นางมีชาติกำเนิดมาจากเขาหวู่สิงซานมากทีเดียว นั่นเป็นเพราะนางได้เคยพบเห็นผู้ปราศจากผู้ต่อกรจำนวนมากตั้งแต่เด็ก จึงมีคู่สายตาชาญฉลาดที่ล้ำเลิศ

เรื่องนี้…ภายในใจของไท่อิ๋นสี่ถึงกับหวั่นไหวเมื่อได้ยินคำพูดของฮุ่ยชิงเสียน ในใจของเขาก็มีความชัดเจนว่า กำลังความสามารถของฮุ่ยชิงเสียนมีแต่เหนือกว่าไม่มีด้อยไปกว่าเขา

กล่าวได้ว่า ใต้หล้านี้ผู้ที่สามารถเป็นที่โปรดปรานของฮุ่ยชิงเสียนคงมีอยู่ไม่มาก แม้แต่พระอาจารย์จินกวงที่ปราดเปรื่องน่าทึ่ง ฮุ่ยชิงเสียนก็สามารถข้ามไป อย่างไรก็ตาม สำหรับหลี่ชิเย่แล้วฮุ่ยชิงเสียนกลับให้การยกย่องสรรเสริญถึงเพียงนี้ เหตุผลคงไม่ได้ง่ายดายเพียงนั้น

ลองนึกภาพดู ธาตุแท้ภายในของเขาหวู่สิงซานนั้นสะเทือนเลื่อนลั่นเพียงใด ไท่อิ๋นสี่ที่กำเนิดจากการเป็นศิษย์นอกสำนักของเขาหวู่สิงซาน ย่อมมีความชัดเจนในใจ การที่ฮุ่ยชิงเสียนอยู่ในฐานะผู้สืบทอดของเขาหวู่สิงซาน นางมีประสบการณ์ที่ปราศจากผู้ต่อกรเพียงใด

แต่ว่า ฮุ่ยชิงเสียนยังคงให้การยกย่องสรรเสริญหลี่ชิเย่ถึงเพียงนี้ ยังคงมีความมั่นใจในกำลังความสามารถของหลี่ชิเย่ถึงเพียงนี้ ช่างเป็นเรื่องที่น่าตระหนกเพียงใด เป็นเรื่องที่ทำให้ไท่อิ๋นสี่รู้สึกตกใจอย่างยิ่งในใจ

ถ้าหากใต้เท้าอิ๋นยังมีอะไรที่ไม่ไว้ใจ เขาหวู่สิงซานเป็นประกันให้กับคุณชายหลี่จะว่าอย่างไร? ” ฮุ่ยชิงเสียนที่งดงามและสงบนิ่งเอ่ยขึ้นมาช้าๆ นางที่มีความเป็นกษัตริย์ยากจะหาใดเทียม ดูไปแล้วไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็ตามล้วนชวนให้หลงไหลอะไรอย่างนั้น ช่างน่าประทับใจอะไรอย่างนั้น แม้ว่าจะมองไม่เห็นรูปโฉมที่แท้จริงของนาง แต่ยังคงทำให้ผู้คนรู้สึกว่านางมีความรูปโฉมงดงามล้ำเลิศในหล้ายากจะหาผู้ใดเทียม

พลันที่ฮุ่ยชิงเสียนพูดคำๆ นี้ออกมา ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็ตามก็จะไม่มีความสงสัยและต้องกังวลอะไรอีก หากมีเขาหวู่สิงซานเป็นประกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็เรียกได้ว่าวางใจไร้ข้อสังสัยทั้งสิ้น

นางฟ้ากล่าวหนักไปแล้ว…ภายในใจของไท่อิ๋นสี่สะเทือนหวั่นไหวอย่างแรง ไหนเลยที่เขาจะกล้าให้เขาหวู่สิงซานมาเป็นผู้รับประกัน เขาได้แสดงคารวะต่อฮุ่ยชิงเสียนอย่างลึกซึ้ง และกล่าวว่า “อิ๋นสี่จะไปนำมาให้เดี๋ยวนี้”

เมื่อไท่อิ๋นสี่กล่าวจบจึงรีบก้าวเดินออกไป เฉกเช่นตราอาญาสิทธิ์ทางทหารรูปพยัคฆ์ที่มีความสำคัญเช่นนี้ เขาก็ไม่สะดวกที่จะพกพามันเอาไว้กับตัว

“ไม่เลวจริงๆ ” หลังจากที่ไท่อิ๋นสี่เดินจากไปแล้ว หลี่ชิเย่อดที่จะยิ้มๆ และยกนิ้วหัวแม่มือให้ ยิ้มบางๆ และกล่าวว่า “แม่นางที่มาจากเขาหวู่สิงซานมีจิตใจกว้างขวางที่ผู้อื่นยากจะเอื้อมถึง”

“เทียบกับพี่ท่านแล้วยังห่างชั้นอีกมากทีเดียว” ฮุ่ยชิงเสียนยิ้มเบาๆ เทียบกับเมื่อครู่ที่งดงามสงบนิ่งแล้วได้เพิ่มความทะเล้นเข้าไปอีก ช่างสวยงามอะไรอย่างนั้น

หลี่ชิเย่หัวเราะและหยิบเอาของสิ่งหนึ่งออกมา มันคือหยกประดับกายที่มีสีเขียวชิ้นหนึ่ง หยกชิ้นนี้มีเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น หลี่ชิเย่ยิ้มและกล่าวว่า “เจ้าลงจากเขาครั้งหนึ่งคงไม่ใช่เรื่องง่าย ดูไปแล้วนังหนูเช่นเจ้าเป็นคนรู้เรื่องดีจักกาลเทศะ น่ารัก ของชิ้นนี้เจ้าเอากลับไปเถอะ จากนี้ไปเจ้าจะได้ไร้กังวลอีกต่อไป”

หยกประดับชิ้นนี้คือหยกที่หลี่ชิเย่ได้มันมาขณะหลบฝนอยู่ในศาลาพักร้อนที่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนถ่ง ผู้เฒ่าคนนั้นมอบให้หลี่ชิเย่สำหรับเป็นของหมั้นหมาย

หยกชิ้นนี้มีสีเขียวขจี ต่อให้เป็นผู้ที่ไม่มีความรู้ก็รู้ว่าหยกประดับชิ้นนี้ไม่ธรรมดา

นัยน์ตาคู่นั้นของจิ้งเอ๋อร์ที่อยู่ด้านหลังฮุ่ยชิงเสียนเบิกกว้างมาก เมื่อเห็นหลี่ชิเย่หยิบเอาหยกประดับชิ้นนี้ออกมา ในเวลานี้ดูนางจะตื่นเต้นกว่าใครๆ ขณะมองดูหยกประดับชั้นนั้น ในขณะนี้นางถึงกับร้อนรนแทนคุณหนูของตน เหมือนว่านางเกรงหลี่ชิเย่จะเปลี่ยนใจกะทันหัน

นางที่เป็นสาวใช้ดูจะอดกลั้นไม่ไหวต้องการแย่งชิงเอาหยกประดับดังกล่าวมา จะอย่างไรเสียหยกประดับชิ้นนี้เกี่ยวพันถึงความสุขชั่วชีวิตของคุณหนูของนาง ไม่ควรตกไปอยู่ในมือของผู้อื่นง่ายๆ แบบนี้

เทียบกับจิ้งเอ๋อร์ที่ตื่นเต้นแล้ว ฮุ่ยชิงเสียนกลับนิ่งเฉยอย่างยิ่ง นางมองดูหยกประดับทีหนึ่ง อมยิ้ม นัยน์ตาเสมือนหนึ่งสายน้ำไหล ท่าทีที่จ้องมองดูหลี่ชิเย่ช่างไม่สะทกสะท้าน ช่างมีความสูงส่งอะไรอย่างนั้น ผู้หญิงแบบนี้ไม่มีเหตุผลที่ผู้คนไม่ชอบ

“พี่ท่านจะยกเลิกหมั้นหมายรึ? ”ฮุ่ยชิงเสียนที่แฝงด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงช่างนุ่มนวลอะไรอย่างนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล