ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 3002

สรุปบท ตอนที่ 3002 ศพทอด: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ตอน ตอนที่ 3002 ศพทอด จาก ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 3002 ศพทอด คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 3002 ศพทอด

ราชันแท้จริงเซิ่นซวงรู้สึกตกใจและสำนึกได้ในทันที เมื่อได้ฟังคำบอกเล่าของหลี่ชิเย่แล้ว เป็นความจริงที่นางไม่ได้นึกถึงจุดนี้ ซึ่งก็เป็นเพราะนางยังไม่ได้แข็งแกร่งจนถึงขั้นนั้น

“ถึงแล้ว รีบมาดูกัน…” ในเวลานี้เอง กระบือดำขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าได้ร้องกล่าวขึ้นมา ยิ่งหลิ่วเยี่ยนไป๋ด้วยแล้วถึงกับร้องเสียงหลงขึ้นมา

หลี่ชิเย่และราชันแท้จริงเซิ่นซวงรีบเร่งก้าวขึ้นไปเมื่อได้ยินเสียงร้องของพวกเขา

เวลานี้ พวกเขาได้ก้าวเดินไปถึงสุดปลายทางของขบวนทัพทหารอเวจีแล้ว มันคือหุบเขาที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารมาก ขณะที่ยังก้าวไม่ถึงหุบเขาแห่งนี้ก็สามารถรับรู้ถึงคลื่นความร้อนที่ลอยเข้ามาปะทะใบหน้า

คลื่นความร้อนลักษณะเช่นนี้ร้อนแผดเผาอย่างยิ่ง กระทั่งผิวหนังยังแห้งจนแตก อีกทั้งท่ามกลางคลื่นความร้อนสายนี้ยังเต็มไปด้วยกลิ่นของเหล็กและทองแดงที่มีความเข้มข้นอย่างยิ่ง

เมื่อบุกเข้าไปยังหุบเขาก็ได้เห็นภาพที่แปลกประหลาดมากภาพหนึ่ง มองเห็นภาพที่ประหลาดชั่วร้ายยิ่งภาพหนึ่ง

หลังจากบุกเข้าไปยังหุบเขาแล้วก็จะพบว่า ที่ตรงนั้นเป็นหุบเขาเสียเมื่อไหร่กัน ที่ถูกต้องยิ่งกว่าคือหม้อเหล็กที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร และหรือบางทีมันคือหม้อดินที่ใหญ่โตมโหฬาร

เวลานี้ ภายในหุบเขา ไม่ใช่สิ ต้องเป็นภายในหม้อดินขนาดใหญ่โตมโหฬารนี้มองเห็นฟองที่ผุดปุดปุดขึ้นมา และคลื่นความร้อนที่ร้อนแผดเผาเข้ามาปะทะใบหน้าก็ออกมาจากหม้อดินนี้นี่เอง

ขณะที่สิ่งที่ต้มอยู่ในหม้อถึงกับเป็นน้ำทองแดง เป็นน้ำทองแดงที่เต็มหม้อ โดยที่น้ำทองแดงเต็มหม้อนี้หาใช่เป็นน้ำทองแดงทั่วๆ ไป แต่เป็นน้ำทองแดงที่มีความบริสุทธิ์สูงมาก เป็นการหลอมรวมเอาโลหะศักดิ์สิทธิ์หลายสิบชนิดมาอยู่ในหม้อเดียวกัน

ต่อให้เป็นผู้ที่ไม่อยู่ในวงการก็ดูออกได้ว่า น้ำทองแดงสีแดงชาดทองหม้อนี้มีน้อยและพบเห็นได้ยากมาก พวกมันถูกหลอมกลั่นโดยอาศัยโลหะศักดิ์สิทธิ์ที่ล้ำค่ามากที่สุด

หากน้ำทองแดงลักษณะเช่นนี้มาสร้างเป็นอาวุธ และทำการติดอาวุธให้กับกำลังทหารให้กับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิๆ หนึ่งล่ะก็ เกรงว่าสามารถสร้างกองทัพที่มีกำลังติดอาวุธนับล้านคน ทั้งยังเป็นกองกำลังที่นับว่ายอดเยี่ยมของยอดเยี่ยมอีกด้วย

ลำพังแค่น้ำทองแดงลักษณะเช่นนี้หม้อหนึ่ง ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่น่าหวาดผวาอย่างยิ่ง เกรงว่ามูลค่าของมันหาใช่สำนักทั่วๆ สามารถรองรับได้

ที่สร้างความหวาดผวายิ่งกว่าหาใช่น้ำทองแดงที่เต็มเปี่ยมหม้อนี้ แต่เป็นบรรดาทหารอเวจีเหล่านั้น

ทหารอเวจีเรียงเป็นแถวเป็นแนวยาวมาก พวกมันเดินเข้าไปในหม้อดินตามลำดับทีละคนๆ จากนั้น พวกมันต่างจมลงไปในน้ำทองแดงทีละคนๆ ทั้งหมด

หม้อเหล็กลักษณะเช่นนี้ดูเหมือนว่ามันจะลึกไม่มีสิ้นสุดอย่างนั้น ต่อให้นำทหารเป็นหมื่นเป็นพันถมลงไปก็จะไม่เห็นทหารคนหนึ่งคนใดลอยขึ้นมา และต่อให้ทหารจำนวนมากกว่านี้ที่เดินเข้าไป ก็ไม่สามารถถมหม้อเหล็กลักษณะเช่นนี้ให้เต็มได้

ทหารอเวจีจำนวนนับไม่ถ้วน พวกมันได้ต่อแถวเป็นขบวนทัพที่ยาวเหยียดต่อเนื่องกัน หลังจากผ่านการเดินทัพมานานนับพันล้านปีแล้ว สุดท้าย พวกเขาได้เดินเข้าไปในเตาเหล็กตามลำดับ แช่อยู่ในน้ำทองแดงและจมหายลงไปในเตาท้ายที่สุด

ภาพเช่นนี้มองดูแล้วช่างเหลือเชื่ออะไรอย่างนั้น และน่ากลัวอะไรอย่างนั้น มันคือเรื่องที่สุดจะจินตนาการได้อยู่แล้ว

แม้แต่ราชันแท้จริงเซิ่นซวงที่ได้เห็นภาพเช่นนี้แล้วยังคงต้องใจหายใจคว่ำ การเดินทัพของทหารอเวจีก็น่ากลัวเพียงพอแล้ว ที่ไร้เหตุผลยิ่งกว่าก็คือ พวกเขาถึงกับจมร่างลงไปในก้นหม้อทั้งหมด เป็นการหลอมละลายตัวเอง

“นี่มันเล่นพิเรนทร์อะไรกัน…” แม้แต่กระบือดำขนาดใหญ่ก็รู้สึกหวาดผวา เมื่อมองเห็นทหารอเวจีทั้งหมดเข้าแถวเดินลงไปในหม้อเหล็ก ปล่อยให้น้ำทองแดงที่เดือดพล่านแช่ร่างของตน สุดท้ายค่อยๆ จมลงก้นหม้อไป

กระบือดำขนาดใหญ่มีประสบการณ์มากมาย และกล้าหาญ ในเวลานี้เมื่อมองเห็นทหารอเวจีเข้าแถวหลอมร่างตัวเอง และจมลงสู่ก้นหม้อ เขาอดที่จะรู้นึกสันหลังเย็นวาบ

“เป็นสิ่งใดกันแน่ที่ทำให้พวกเขาหนุนเนื่องกันจมลงก้นหม้ออย่างไม่ขาดสายเล่า?” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงไม่เข้าใจ ทหารอเวจีเดนทางเป็นหมื่นพันลี้ก็เพื่อหลอมร่างตนเองในที่สุด ท้ายสุดพวกเขาได้จมร่างตนเองลงสู่ก้นหม้อทั้งหมด

ต่อให้ราชันแท้จริงเซิ่นซวงที่มีประสบการณ์กว้างขวางกับเรื่องเช่นนี้ก็ดูแล้วไม่เข้าใจ มองไม่ทะลุถึงความลึกซึ้งยอดเยี่ยมที่อยู่ภายใน

“ทองแดงเคี่ยวทหารอเวจี…” หลี่ชิเย่มองดูภาพที่อยู่ตรงหน้า ดวงตาทั้งสองเพ่งไปข้างหน้า และเอ่ยขึ้นช้าๆ

“หรือนี่ก็คือหม้อทอดที่อยู่ในตำนานรึ?” กระบือดำขนาดใหญ่มองดูทหารอเวจีทั้งหมดที่จมร่างลงใต้หม้อ มองเห็นน้ำทองแดงที่เดือดพล่านแล้ว หัวเราะแหะแหะและกล่าวว่า “ฟังว่าคนเราหลังจากตายไปแล้ว คนที่สร้างบาปสร้างกรรมมากจะถูกจับโยนลงหม้อทอดไปทอด เสียงร้องน่าเวทนาดังก้องไปทั่วนรกอเวจี”

“อาจารย์ นี่เป็นเรื่องจริงรึ?” หลิ่วเยี่ยนไป๋เมื่อได้ฟังเรื่องราวเช่นนี้แล้วถึงกับหวาดผวา

กระบือดำขนาดใหญ่ทำยักไหล่ และกล่าวว่า “ใครจะไปรู้ว่าเรื่องจริงหรือเท็จ ยังไงอาจารย์ของเจ้าก็ไม่ได้ทำเรื่องที่น่าละอายใจอยู่ดี”

“เรื่องน่าละอายไม่ได้ทำก็ใช่ เพียงแต่ใจดำจนมันวาวเท่านั้นเอง” หลี่ชิเย่ยิ้มบางๆ หักหน้ากระบือดำขนาดใหญ่

“ท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ท่านจะใส่ร้ายป้ายสีข้าแบบนี้ไม่ได้นะ” กระบือดำขนาดใหญ่ร้องเสียงดังด้วยความไม่พอใจยิ่งขึ้นมาทันที “กระบือสุดหล่ออย่างช้ามีจิตใจใสซื่อ ไม่เคยทำเรื่องที่ก่อกรรมทำเข็ญ”

หลี่ชิเย่เพียงยิ้มๆ เท่านั้นสำหรับความหน้าไม่อายของกระบือดำขนาดใหญ่

“พี่ท่าน ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงที่มองเห็นทหารอเวจีเดินลงไปในหม้อเหล็กอย่างไม่ลังเลทีละคนๆ สุดแล้วแต่น้ำทองแดงจะทอด และจมลงก้นหม้อในที่สุด นางเองก็มองไม่ออกถึงเส้นสนกลใน จึงขอคำชี้แนะจากหลี่ชิเย่

ตั้งแต่คนชุดดำผู้นี้ถูกถีบเข้าไปในปล่องไฟ กระทั่งคลานออกมา เขาไม่เคยมองดูกระบือดำขนาดใหญ่สักครั้งตั้งแต่ต้นจนจบ และไม่ได้มองดูพวกของหลี่ชิเย่สักแวบหนึ่ง

“กระบือสุดหล่ออย่างข้าไม่เชื่อว่าจะทำไม่ได้” เจ้ากระบือดำขนาดใหญ่รู้สึกว่ามันชั่วร้ายแล้วล่ะ เมื่อเห็นคนชุดดำไม่ได้เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย ร้องเสียงดังขึ้นมา ยกเท้าขึ้นถีบมันเข้าไป

เสียงปังดังขึ้นมาอีกครั้ง คนชุดดำถูกถีบเข้าไปในปล่องไฟทันที ได้ยินเสียงตูมที่ดังขึ้น ไฟที่อยู่ภายในปล่องไฟซึ่งลุกไหม้อย่างรุนแรงก็ได้ปกคลุมร่างของมันเอาไว้ทันที

อย่างไรก็ตามมันไร้ประโยชน์ หลังจากผ่านไปชั่วครู่ คนชุดดำที่เนื้อตัวปรากฏไฟที่ลุกไหม้อย่างรุนแรงก็ได้คลานออกมาอีกครั้ง จากนั้นไฟที่ลุกไหม้อย่างรุนแรงก็ได้ดับลงอีกภายใต้เสียงตูมที่ดังขึ้น เขายังคงขับเคลื่อนพลังที่แข็งแกร่งมากทำการเป่าลมให้กับไฟที่กำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง

“นี่ไม่ใช่คนเป็น” ในที่สุดกระบือดำขนาดใหญ่ก็ได้เข้าใจแล้ว เมื่อเห็นคนชุดดำไม่เคยมองดูพวกเขาเลยแม้แต่แวบหนึ่งตั้งแต่ต้นจนจบ และกล่าวว่า “นี่มันผี ไม่สิ ควรจะบอกว่าเป็นหุ่นเชิด และหรือจะกล่าวว่ามันกับพวกทหารอเวจีเป็นพวกเดียวกัน”

“นี่มันคืออะไรกันแน่นะ?” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงรู้สึกตกใจยิ่งในใจเมื่อมองเห็นภาพที่ประหลาดเช่นนี้ เรื่องแปลกประหลาดในวันนี้ช่างมีมากมายเหลือเกิน

“เจ้าเข้าไปดูสักหน่อยก็จะรู้เอง” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉย

ราชันแท้จริงเซิ่นซวงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง ก้าวขึ้นไปข้างหน้าร้องเสียงทุ้มต่ำ ตะโกนเสียงดัง “คืนร่างแท้จริงของเจ้า” ขาดคำ เสียงแว้งค์ดังขึ้นเสียงหนึ่ง

พริบตาเดียวนั่นเอง บนตัวของราชันแท้จริงเซิ่นซวงปรากฏประกายศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา แม้ว่าประกายศักดิ์สิทธิ์บนตัวของนางจะไม่ใช้เป็นเปลวศักดิ์สิทธิ์ที่ดั่งคลื่นยักษ์ แต่ว่า มีความบริสุทธิ์ยิ่งนัก ขณะที่ประกายศักดิ์สิทธิ์แต่ละสายวูบวาบอยู่นั้น นางก็คล้ายเป็นต้นกำเนิดความสว่าง นางมีพลังแสงสว่างที่บริสุทธิ์ที่สุดและทรงพลังที่สุดในโลก

ในพริบตาเดียวนั่นเอง ภายใต้ความสว่าง ความมืดทุกอย่างย่อมปราศจากที่หลบซ่อนอย่างแน่นอน และทุกสิ่งก็ต้องถูกทำให้บริสุทธิ์

เสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ด…ดังขึ้น ในพริบตาเดียวนั่นเอง เสื้อชุดดำบนตัวของคนชุดดำพลันหายวับไปกับตาในพริบตาเมื่อถูกทำให้บริสุทธิ์โดยพลังแสงศักดิ์สิทธิ์ มันหาใช่เป็นชุดดำอะไร แต่เกิดจากการปกคลุมของหมอกสีดำ

เมื่อหมอกสีดำถูกทำให้บริสุทธิ์แล้วได้เผยร่างที่แท้จริงออกมา มันคือโครงกระดูกโครงหนึ่ง ภายในเบ้าตาของมันปรากฏเชื้อไฟที่วิ่งเคลื่อนไหวไปมา

“พลังแสงสว่างที่ทรงพลังมาก เป็นพลังแสงสว่างที่บริสุทธิ์ยิ่ง เป็นความจริงที่นังหนูได้สืบทอดวิชาของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์แล้ว” กระบือดำขนาดใหญ่อดที่จะกล่าวชื่นชมขึ้นมา เมื่อมองเห็นพลังแสงสว่างของราชันแท้จริงเซิ่นซวงแล้ว

จี๊ด จี๊ด จี๊ด…เสียงที่น่าเวทนาแต่ละเสียงได้ดังขึ้น ขณะที่ประกายศักดิ์สิทธิ์ของราชันแท้จริงเซิ่นซวงปกคลุมโครงกระดูกโครงนี้ มันถึงกับร้องเสียงน่าเวทนาขึ้นมา

……………………………………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล