ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 3006

ตอนที่ 3006 ปฐมบรรพบุรุษ

“ไปดูสักหน่อย” สุดท้ายแล้ว หลี่ชิเย่ยิ้มบางๆ แล้วก้าวเท้าเดินทางมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่มีเสียงกลองแว่วเข้ามา

“ได้เลย แหะพวกเราไปดูว่าพวกเขาเป็นคนหรือผีกันแน่” กระบือดำขนาดใหญ่หัวเราะแหะแหะทีหนึ่ง ยกเท้าขึ้นติดตามหลี่ชิเย่ไป

ราชันแท้จริงเซิ่นซวงลังเลนิดหนึ่ง สุดท้าย นางก็เหินฟ้าตามไป ติดตามหลี่ชิเย่มุ่งหน้าไปยังทิศทางที่มีเสียงกลองแว่วดังขึ้นมา

ภายในใจของราชันแท้จริงเซิ่นซวงที่มีความลังเลนั้น หาใช่เป็นเพราะนางลังเลที่จะไปเผชิญหน้ากับความมืด สิ่งที่นางลังเลในใจก็คือ เมื่อเบื้องหลังของเรื่องถูกเปิดเผยออกมา เกรงว่ากล่าวสำหรับแดนลัทธิเซียนทั้งหมดแล้ว มันคือผลกระทบที่หนักหน่วงยิ่ง นี่แหละคือสิ่งกังวลในใจของนาง และเป็นเหตุว่าเพราะอะไรนางจึงได้ลังเลนิดหนึ่ง

หลี่ชิเย่ก้าวเท้าเข้าไปบนท้องฟ้า แม้ว่าดูไปแล้วเหมือนเดินช้า แต่ว่า หนึ่งย่างก้าวหนึ่งฟ้าดิน ทุกๆ ครั้งที่ก้าวเท้าออกไปก้าวหนึ่ง ภาพที่อยู่ตรงหน้าสลับเปลี่ยนไปไม่หยุด ก้าวข้ามอาณาจักรแล้วอาณาจักรเล่า

แม้จะกล่าวว่าที่ตรงนี้เป็นเพียงโลกใบเล็ก แต่ว่า ความกว้างขวางของมันเหนือกว่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ และสำนักต่างๆ จำนวนมากอยู่เป็นอันมากทีเดียว

ท่ามกลางแต่ละก้าวที่ก้าวข้ามไปนั้น สภาพที่เห็นตรงหน้าสลับเปลี่ยนไปไม่หยุดนิ่ง ก้าวข้ามที่ราบที่กว้างขวาง ก้าวข้ามทะเลสาบที่มีคลื่นโหมสาดซัดรุนแรง ก้าวข้ามภูเขาที่สูงชัน…

แต่ว่า จากการที่พวกของหลี่ชิเย่ได้ก้าวเดินลึกเข้าไปแต่ละก้าว ทิวทัศน์เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยไ ยิ่งก้าวเดินลึกเข้าไปมากเท่าไร สภาพของภูเขาและแม่น้ำก็จะยิ่งแตกหักยับเยินมากยิ่งขึ้น

จากการก้าวลึกต่อไป สามารถมองเห็นร่องรอยของสงครามทุกที่ พื้นที่จำนวนไม่น้อยสามารถมองเห็นร่องรอยที่ยังคงหลงเหลือจาการร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าของสนามรบโบราณ และสามารถมองเห็นพื้นดินที่ถูกไถจนกลายเป็นหุบเขาแคบๆ ทั้งร่องรอยที่น่าสยอดสยองเอาไว้ และสามารถมองเห็นพื้นดินไหม้เกรียมเป็นหมื่นลี้ ภูเขาจำนวนมากที่ถูกไฟเผาผลาญจนกลายเป็นหิน…

ยิ่งลึกเขาไปมากเท่าไร สิ่งที่มองเห็นยิ่งสยองขวัญมากยิ่งขึ้น เมื่อลึกเข้าไปจนถึงระดับหนึ่งแล้ว มองเห็นพื้นแผ่นดินล้วนแล้วแต่ถูกยิงโจมตีจนทะลุ ผืนแผ่นดินกว้างขวางหนาแน่นแต่เดิมถูกยิงถล่มจนแหลกไม่มีชิ้นดี กลับกลายเป็นแผ่นดินผืนเล็กๆ ที่ลอยล่องอยู่บนท้องฟ้า บางแห่งแตกละเอียดกระทั่งท้องฟ้า กลายเป็นหลุมดำแต่ละแห่งที่น่ากลัว บาดแผลที่ทิ้งเอาไว้บนท้องฟ้าไม่สามารถฟื้นกลับคืนดังเดิมเป็นเวลานาน…

ขณะเดียวกัน ท่ามกลางท้องฟ้าที่แตกละเอียดนี้ มองเห็นสุริยันจันทราและดวงดาวที่ถูกยิงจนแตกละเอียดลอยอยู่ ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่าการต่อสู้อย่างดุเดือดในครั้งนั้น มีสุริยันจันทราและดวงดาวจำนวนเท่าไรที่ถูกยิงถล่มจนแตกละเอียด และมีสุริยันจันทราและดวงดาวจำนวนเท่าไรที่ถูกยิงถล่มจนร่วงหล่นลงมาเสมือนดั่งดาวตกที่ตกลงบนผืนแผ่นดิน…

มองดูภาพเหตุการณ์ตรงหน้าจนรู้สึกสยองขวัญ หลิ่วเยี่ยนไป๋ที่ไม่เคยพบเห็นภาพที่อลังการสร้างความหวั่นไหวต่อจิตใจเช่นนี้มาก่อน มองดูจนมีสีหน้าที่ขาวซีด

ราชันแท้จริงเซิ่นซวงที่ดำรงอยู่ในฐานะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ เมื่อได้พบเห็นภาพเช่นนี้แล้วถึงกับใจหายใจคว่ำ แม้ว่านางจะไม่ได้เห็นการต่อสู้ที่ดุเดือดในครั้งนั้นด้วยตาของตนเอง แต่ว่า นางสามารถจินตนาการได้ว่า ศึกสงครามที่เกิด ณ ที่ตรงนี้ในครั้งนั้นช่างดุเดือดเพียงใด สร้างความสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจเช่นใด และทำลายฟ้าดินจนพินาศย่อยยับอย่างใด…

กระบือดำขนาดใหญ่สูดดมกลิ่นอายฟ้าดินที่แตกหักเสียหาย และพึมพำขึ้นมาว่า “สงครามปฐมบรรพบุรุษนะเนี่ย ไม่ใช่แค่ปฐมบรรพบุรุษเพียงคนเดียว เกรงว่าจะเป็นการต่อสู้ระหว่างปฐมบรรพบุรุษด้วยกันจำนวนไม่น้อย นับว่าเป็นการใช้กำลังอำนาจอย่างไร้เหตุผลโดยแท้ เป็นพลังที่แกร่งมากเหลือเกิน นับว่าห้างเจียวเหิงก็มีความแข็งแกร่งยิ่งนัก สามารถสร้างเรือเช่นนี้ขึ้นมาได้ มีรากฐานที่มีความมั่นคงแข็งแรงถึงเพียงนี้ มิน่าเล่าจึงได้สิ้นเปลืองทรัพยากรของห้างเจียวเหิงไปเป็นปริมาณมหาศาล โลหะศักดิ์สิทธิ์หินเซียนที่อยู่ในคลังถูกนำมาใช้จนเรียกได้ว่าหมดคลัง…”

“บางที พวกของปฐมบรรพบุรุษอัคคีพบกับการรุกรานของคนชั่ว” ท่าทางของราชันแท้จริงเซิ่นซวงก็ดูหนักแน่นจริงจัง นางเองก็เข้าใจได้ว่า การศึกลักษณะเช่นนี้เป็นศึกสงครามระดับปฐมบรรพบุรุษจริงๆ ไม่ต้องไปพิจารณาถึงระดับการทำลายล้าง แค่รับรู้ถึงกลิ่นอายที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในผืนแผ่นดินที่แตกยับเยิน ยังคงสามารถรับรู้ได้

“แหะนังหนู เจ้าก็จงตั้งความหวังต่อไปเถอะ ข้าว่ามันไม่ได้ง่ายดายปานนั้น ไม่ง่ายขนาดนั้น” กระบือดำขนาดใหญ่หัวเราะกล่าวพร้อมกับแหะแหะ

กระบือดำขนาดใหญ่เขายึดถือเจตนาร้ายที่สุดไปศึกษาวิเคราะห์เรื่องนี้อย่างละเอียด แน่นอน การคาดเดาเช่นนี้ของเขาใช่จะไม่มีเหตุผล จะอย่างไรเสียเจ้ากระบือเฒ่าตัวนี้นับว่ามีประสบการณ์มากมายโดยแท้ สายตาคู่นั้นของเขาร้ายกาจยิ่งนัก

ภายในใจของราชันแท้จริงเซิ่นซวงรู้สึกหนักอึ้ง นางเองก็คาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่า ในครั้งนั้นได้มีเรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้น ภายในใจของนางเริ่มกระวนกระวายขึ้นมา

หลี่ชิเย่ยิ้มๆ ขณะมองดูท่าทีของราชันแท้จริงเซิ่นซวง และกล่าวว่า “ไม่มีอะไรต้องไปกระวนกระวาย มันต้องเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว ทุกคนต่างมีทางเลือกของตนเอง แค่ชนะหรือแพ้เท่านั้น ชนรุ่นหลังไม่จำเป็นต้องไปแบกรับสิ่งใดเพื่อพวกเขา”

ราชันแท้จริงเซิ่นซวงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง พยักหน้าด้วยความหนักแน่นจริงจังและกล่าวว่า “ที่พี่ท่านพูดมามีเหตุผล”

ในเวลานี้ ข้างหน้ามีเทือกเขาขนาดยักษ์เทือกหนึ่งกั้นขวางอยู่ตรงนั้น ผืนแผ่นดินผืนนี้ได้ถูกโจมตีจนแหลกไม่มีชิ้นดีไปแล้ว ดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนที่ร่วงหล่นลงมา ตกลงไปในบริเวณที่ลึกลงไป ท้องฟ้าก็แตกละเอียด

แต่ว่า เทือกเขาขนาดยักษ์เทือกนี้ยังคงพาดผ่านอยู่ตรงนั้น แม้ว่าเทือกเขาเทือกนี้ก็มีหลายจุดที่ถูกยิงถล่มจนแตกละเอียด กระทั่งมีบางที่จะได้แตกละเอียดไปแล้วอย่างสิ้นเชิง แต่ทว่า สภาพโดยรวมของเทือกเขาดังกล่าวยังคงอยู่ โดยยังคงสามารถรักษาความเป็นเทือกเขาทั้งเทือกได้ มองจากระยะห่างไกลก็เหมือนเป็นมังกรยักษ์ที่ได้รับบาดเจ็บและขดตัวอยู่ตรงนั้น

ขณะมองดูเทือกเขาเทือกนี้จากระยะห่างไกลก็สามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่และสูงสุดของมัน เหมือนว่าเทือกเขาลักษณะเช่นนี้ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถก้าวข้ามไปได้ ภายใต้กลิ่นอายลักษณะเช่นนี้ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตใดๆ ก็ต้องหวั่นเกรงอยู่สามส่วน ไม่กล้ารุกล้ำ

แม้แต่พวกปราศจากชีวิต ไม่ว่าจะเป็นกองกำลังทหารเป็นหมื่นพัน หรือว่าจะเป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะได้รับการเคารพสูงสุดและนิยมความรุนแรง พวกเขาต่างอ้อมเทือกเขาเทือกนี้โดยไม่กล้าก้าวข้ามเทือกเขานี้โดยตรง

“กลิ่นอายที่แข็งแกร่งมาก…” แม้แต่กระบือดำขนาดใหญ่ก็หยุดก้าวเดินต่อไปขณะที่เข้าไปใกล้เทือกเขาเทือกนี้ ถึงกับอุทานขึ้นด้วยความตื่นตะลึงเมื่อรับรู้ถึงกลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากเทือกเขาเทือกนี้

“แกร่งมาก” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงก็สะเทือนหวั่นไหวเช่นกัน เนื่องจากกลิ่นอายลักษณะเช่นนี้แข็งแกร่งมากเหลือเกิน แข็งแกร่งยิ่งกว่าระดับปราศจากผู้ต่อกรที่นางเคยพบเจอมาก่อนหน้านี้

“นับว่าไม่ง่ายนัก พันล้านปีผ่านไปยังคงไม่สลายไป” หลี่ชิเย่มองดูกลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่ไพศาลที่แผ่ออกมาจากเทือกเขาเทือกนี้แล้ว พยักหน้าและเอ่ยขึ้นช้าๆ

เวลานี้ หลี่ชิเย่นำพาพวกของราชันแท้จริงเซิ่นซวงยังคงก้าวไปข้างหน้า โดยไม่คิดที่จะเดินอ้อมไป แต่ต้องการก้าวข้ามไป

“พี่ท่าน โปรดหยุด และรีบกลับไปเสีย” จังหวะที่พวกของหลี่ชิเย่กำลังจะก้าวข้ามไปนั้น เทือกเขาเทือกนี้พลันส่งประกายแวบวับทีหนึ่ง เหมือนว่ากลิ่นอายของเทือกเขาทั้งเทือกได้เพิ่มสูงขึ้นเป็นอันมาก เสมือนหนึ่งมังกรยักษ์ที่หลับใหลพลันลืมตาทั้งสองขึ้นมาอย่างนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล