ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 3014

สรุปบท ตอนที่ 3014 หลอมกลั่น: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ตอนที่ 3014 หลอมกลั่น – ตอนที่ต้องอ่านของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ตอนนี้ของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 3014 หลอมกลั่น จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 3014 หลอมกลั่น

“ไม่ต้องการ” หินสีดำปฏิเสธความหวังดีของหลี่ชิเย่ทันควัน กล่าวน้ำเสียงเย็นชาว่า “ข้าถูกสยบอยู่ที่นี่ก็สบายดี สมควรอยู่อย่างสงบ ต่อให้สงบอีกเป็นพันเป็นหมื่นปีก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร”

“แหะให้เจ้าอยู่ที่นี่กลืนกินคนอื่นเป็นๆ อย่างนั้นรึ?” กระบือดำขนาดใหญ่หัวเราะเยาะและกล่าวว่า “เจ้ายังต้องการกลืนกินผู้คนอยู่ที่นี่อีกสักกี่คนล่ะ?”

“เรื่องนี้โทษข้าไม่ได้” หินสีดำพูดเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างนั้น กล่าวน้ำเสียงเย็นชาว่า “ถ้าหากพวกเขาไม่โลภจะมีจุดจบเช่นนี้รึ? ขอเพียงพวกเขาสามารถรักษาจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของตนให้มั่นไม่หวั่นไหว พวกเขาจะตกเป็นอาหารอันโอชะของข้ารึ? ทั้งหลายทั้งปวงล้วนเกิดจากความโลภเท่านั้นเอง หาใช่เป็นข้าที่กลืนกินพวกเขาเป็นๆ แต่เป็นจิตมนุษย์!”

คำพูดเช่นนี้ของหินสีดำทำให้ราชันแท้จริงเซิ่นซวงถึงกับสะท้านภายในใจ ดีที่ในขณะนั้นมีหลี่ชิเย่เตือนสติ มิฉะนั้นล่ะก็ ไม่แน่นักนางก็อาจจะมีจุดจบเช่นนี้ก็เป็นไป ตายอย่างไร้ที่ฝัง

“แหะทำเล่นสำบัดสำนวน” กระบือดำขนาดใหญ่ยิ้มเยาะทีหนึ่ง กล่าวเหยียดหยามว่า “ต่อให้เจ้าเถียงข้างๆ คูๆ อย่างไรก็ตาม ก็ไม่สามารถหักล้างความจริงว่าเจ้าได้กลายเป็นมารไปแล้ว”

“มารก็ดี เทพก็ช่าง” หินสีดำกล่าวน้ำเสียงเย็นชาว่า “ธาตุแท้ก็เหมือนๆ กัน มันก็แค่เป็นโลกของปลาใหญ่กินปลาเล็กเท่านั้นเอง เทพกับมารมีข้อแตกต่างกันรึ? หากจะมีข้อแตกต่างมันก็แค่วิธีการไม่เหมือนกันเท่านั้น”

“เจ้ายังคงจำได้หรือไม่ ช่วงเวลาขณะที่เจ้ายังคงเป็นก้อนหินศักดิ์สิทธิ์ก้อนหนึ่งใต้ทะเลลึกดึกดำบรรพ์ จำได้หรือไม่ว่า ครั้งแรกที่เจ้าบังเกิดจิตวิญญาณและปัญญาขึ้นมา ขณะแหงนหน้ามองท้องฟ้านั้นความรู้สึกของเจ้าเป็นเช่นใด ความคิดแรกที่เกิดขึ้นคืออะไร? ขณะที่เจ้าอยู่ใต้ทะเลลึกดึกดำบรรพ์นั่น” ในเวลานี้หลี่ชิเย่ได้กล่าวขึ้นช้าๆ คำพูดของเขาเต็มไปด้วยท่วงทำนอง เต็มไปด้วยจังหวะจะโคน ทำให้ผู้คนอดที่จะใฝ่ฝันถึงไม่ได้

คำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่พลันทำให้หินสีดำหวั่นไหว จากนั้น เขาได้ตกอยู่ในความนิ่งเงียบ เหมือนว่าในขณะนี้เขาพลันกลับไปยังกาลเวลาขณะยังอยู่ใต้ทะเลลึกอย่างนั้น เหมือนว่าเขายังคงเป็นหินก้อนหนึ่งที่ไรทุกข์ไร้ความกังวลในเวลานั้น

“เงียบสงบมาก เงียบสงบมาก…” หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ หินสีดำได้พึมพำขึ้นมาว่า “ทั้งสงบเงียบ และเงียบสงบ หนึ่งเดียวที่ขาดไปก็คือสงบเงียบเกินไป หากว่าคึกครื้นขึ้นอีกสักนิดก็จะยิ่งดี…” เมื่อหินสีดำเอ่ยมาถึงตรงนี้ดูเหมือนจะปัญญาอ่อนอยู่บ้าง เหมือนว่าเขาได้กลับไปยังวันเวลาที่ตนเองอยู่ในทะเลลึกดึกดำบรรพ์อีกครั้ง

เหมือนเช่นที่หลี่ชิเย่พูดเอาไว้อย่างนั้น วินาทีที่เขามีจิตวิญญาณและปัญญาขึ้นมา เขาแหงนหน้ามองดูท้องฟ้าขณะที่ยังอยู่ในทะเลลึกดึกดำบรรพ์นั้น ความคิดแรกในใจของเขานั้นคืออะไร เขาต้องการอะไรเล่า…

เวลานี้เมื่อนึกถึงความคิดแรกที่กำเนิดขึ้นมาอีกครั้ง ทุกสิ่งดูเหมือนจะค่อยๆ ห่างไกลออกไป ภายหลังเหมือนว่าเขาเกือบจะลืมความคิดแรกของตนไปแล้ว

อ๊ากกก…ขณะที่หินสีดำกำลังเหม่อลอยนั้น ความเจ็บปวดเกิดขึ้นเป็นระลอก เขาร้องน่าเวทนาเสียงแหลมขึ้นมา

เวลานี้ง่ามนิ้วของหลี่ชิเย่ได้มีเพลิงสัจธรรมที่ทิ้งตัวลงมา นี่คือเพลิงสัจธรรมสูงสุดที่ห่อหุ้มหินสีดำเอาไว้โดยพลัน และเริ่มเผาผลาญมัน

“เจ้าคิดจะทำอะไร…” หินสีดำหวาดผวายิ่งนัก ร้องเสียงดังขึ้นหมายดิ้นหลุด แต่ทว่า เขาถูกสยบอยู่ใต้ภูเขาไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างไรก็หลบหนีจากเพลิงสัจธรรมของหลี่ชิเย่ไปได้

ต่อให้ไม่ได้ถูกสยบเอาไว้ ขอเพียงหลี่ชิเย่ต้องการหลอมกลั่นมันล่ะก็ มันก็ไม่สามารถดิ้นรนไปไหนได้

“ไม่ทำอะไร” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า “ให้เจ้าได้คืนกับร่างเดิมเท่านั้น พลังความมืดบนตัวของเจ้ามันไม่ได้เป็นของเจ้า เป็นเพียงถูกผู้อื่นนำมาไว้บนตัวเจ้าเท่านั้น”

“ไม่…” หินสีดำร้องเสียงดังขึ้นมา “ข้าไม่ต้องการ ข้าถูกสยบอยู่ที่นี่ก็พอแล้ว ควรเป็นเช่นใดก็เป็นเช่นนั้น!”

“แหะข้าว่าอานุภาพเสียงพิณนั้นจะต่ำไปหน่อย หากต้องบดขยี้ทำลายเจ้าต้องยาวไปอย่างไม่มีกำหนด ยังคงให้ท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ช่วยเจ้าหนึ่งแรงจะดีกว่า” กระบือดำขนาดใหญ่มีท่าทียินดีที่เห็นผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน กล่าวหัวเราะแหะแหะว่า “แม้ว่าเริ่มแรกจะเจ็บปวดนิดหน่อย แต่ว่า เจ็บสั้นดีกว่าเจ็บยาว เจ้าลองนึกดู ในครั้งนั้นขณะที่คนช้อนเจ้าขึ้นมาจากใต้ทะเลลึกดึกดำบรรพ์ และหลอมกลั่นเจ้า เจ้าก็เจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหวเช่นกัน…”

อ๊ากกก…ระหว่างที่กระบือดำขนาดใหญ่กำลังพูดอยู่นั่นเอง หินสีดำได้ร้องเสียงแหลมน่าเวทนาขึ้นมา ในเวลานี้เอง ได้ยินเสียงดังจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้น มองเห็นร่างกายของหินสีดำเริ่มหลอมละลายขึ้น

หินสีดำมีชาติกำเนิดที่ไม่ธรรมดา คือสุดยอดหินศักดิ์สิทธิ์สูงสุด ประกอบด้วยเนื้อธาตุที่ฝืนลิขิตสวรรค์ แต่ว่า ยังคงไม่สามารถรองรับภายใต้การหลอมกลั่นด้วยเพลิงสัจธรรมของหลี่ชิเย่ได้ มันค่อยๆ หลอมละลายขึ้นมา

ท่ามกลางเสียงหลอมกลั่นดังจี๊ด จี๊ด จี๊ด มองเห็นควันดำที่ลอยขึ้นขณะที่เพลิงสัจธรรมกำลังเผาผลาญ ควันดูลอยขึ้นเป็นวงๆ เสมือนดั่งเป็นความโหดร้ายดึกดำบรรพ์อย่างนั้น

พลันที่ความมืดเช่นนี้โผล่ขึ้นมา มันสามารถทำให้ช่องว่างถูกกัดกร่อน สามารถได้ยินเสียงดังจี๊ด จี๊ด จี๊ด ช่องว่างถูกกัดกร่อนจนกลายเป็นรูขนาดเล็กขึ้นมารูแล้วรูเล่า

ควันดำลักษณะเช่นนี้หากไปถูกตัวสิ่งมีชีวิตใดๆ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ใบหญ้า หรือสิงสาราสัตว์และสัตว์ปีก พวกมันล้วนแล้วแต่ต้องถูกทำให้กลายเป็นมารได้ในพริบตาเดียว

เพียงแต่ขณะที่ควันดำเหล่านี้โผล่ออกมาโดยพลัน มืออีกข้างหนึ่งได้ปรากฏเพลิงแห่งสัจธรรมขึ้นมาแล้ว โดยที่เพลิงแห่งสัจธรรมเหล่านี้พลันเข้าพันธนาการกลุ่มควันดำที่ม้วนตัวลอยขึ้นมาเหล่านี้ และจัดการเผาไหม้พวกมันจนหายวับไปกับตาในพริบตาเดียว

โฮ่ววว…ในเวลานี้เอง ลาวาสีดำถึงกับส่งเสียงดังสนั่นขึ้นมา ถึงนาทีนี้เหมือนว่าลาวาสีดำก็รู้ล่วงหน้าถึงวันตายของตน และรู้ล่วงหน้าว่าตนเองกำลังจะถูกเผาจนไม่เหลือซาก

ดังนั้น นาทีนี้ลาวาสีดำพลันกระสับกระส่ายขึ้นทันที จากการคำรามเสียงดัง มองเห็นลาวาสีดำที่ขยายตัวขึ้นอย่างบ้าคลั่ง เหมือนต้องการกลายเป็นจอมมารขนาดยักษ์ที่ได้รับความเคารพสูงสุดตนหนึ่ง

ท่ามกลางเสียงโฮ่ววว…ที่คำรามขึ้นมาด้วยความโกรธ มันได้พุ่งโจมตีเข้ามาเสมือนดั่งยกตัวขึ้นเป็นคลื่นยักษ์ที่สูงนับล้านล้านจ้างอย่างนั้น เหมือนว่าต้องกรพุ่งทำลายการพันธนาการของเพลิงสัจธรรมจากหลี่ชิเย่ ต้องการตีฝ่าเพื่อหลบหนีไป

แต่ว่า หลี่ชิเย่จะปล่อยให้มันสมใจได้อย่างใดกันเล่า? ภายใต้หลี่ชิเย่ที่ส่งเสียงฮึน่าเกรงขามขึ้นมา เพลิงสัจธรรมของหลี่ชิเย่ดูจะคึกคักมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอย่างยิ่ง หากแม้เพลิงสัจธรรมลักษณะเช่นนี้กระเด็นลงมาสักหยด ก็เพียงพอที่จะเผาผลาญระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิๆ หนึ่งได้ สยองขวัญปราศจากผู้เทียบเทียม

ภายใต้การสยบอย่างเด็ดขาดของหลี่ชิเย่ ลาวาความมืดที่ขยายตัวถูกสยบเอาไว้ทันที ภายใต้พลังสูงสุดที่สยบลงมา ลาวาความมืดก็ค่อยๆ หดตัวลง

แม้ว่าขั้นตอนระหว่างนี้ ลาวาความมืดคำรามไม่หยุด เหมือนสิ่งดุร้ายที่โกรธแค้นยิ่งนัก ทำการพุ่งชนต่อเพลิงสัจธรรมครั้งแล้วครั้งเล่า หวังจะฝ่าวงล้อมออกไป

ทว่าไม่ว่าลาวาความมืดจะคำรามเสียงดังอย่างไร พุ่งชนโจมตีเช่นใด มันได้หดตัวเล็กลงเรื่อยๆ ภายใต้การสยบของหลี่ชิเย่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเพลิงสัจธรรมของหลี่ชิเย่มีความคึกคักมากยิ่งขึ้น ท่ามกลางเสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ด ลาวาสีดำก็ได้ถูกเผาไหม้จนกลายเป็นหมอกดำ ถูกเผาทิ้งไปอย่างช้าๆ

สุดท้าย ลาวาความมืดทั้งหมดล้วนถูกเพลิงสัจธรรมของหลี่ชิเย่เผาไหม้จนไม่เหลือซากท่ามกลางเสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ด ไม่หลงเหลืออะไรไว้อีกเลย

ในขณะนี้ หินสีดำที่เผยความเป็นดั้งเดิมของตนเองขึ้นมา ขนาดตัวของมันได้เล็กลงจากเดิมสองในสาม หลังจากที่หินสีดำถูกเผาลาวาความมืดไปทั้งหมดแล้วก็ไม่มีความเคลื่อนไหวอีกเลย ไม่มีเสียงใดๆ อีกต่อไป เหมือนได้ตายไปแล้วอย่างนั้น

ได้ยินเสียงตึง ตึง ตึงที่ดังขึ้น หลังจากที่หินสีดำถูกหลอมกลั่นจนกลับกลายเป็นร่างดั้งเดิมของมันแล้ว กฎเกณฑ์ธรรมชาติแต่ละเส้นที่พันธนาการบนตัวของมันถึงกับหลุดลงมาทั้งหมด

พลังสูงสุดที่เดิมทีสยบตัวของมันเอาไว้ก็ค่อยๆ จางหายไป ในเวลานี้เองหินสีดำถูกปลดปล่อยออกมาจากการถูกสยบเอาไว้แล้ว

………………………………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล