ตอนที่ 3015 เมืองร้าง
ครั้นกฎเกณฑ์ธรรมชาติที่พันธนาการบนตัวของหินสีดำถูกคลายออกแล้ว หลี่ชิเย่ได้หยิบหินสีดำขึ้นมา
พวกของกระบือดำขนาดใหญ่พลันยื่นหน้าเข้าไปดูหินสีดำที่อยู่ในมือของหลี่ชิเย่ เทียบกับเมื่อครู่ หินสีดำก้อนนี้มีขนาดเล็กลงจากเดิมถึงสองในสาม แต่ว่า มันไม่ได้ทิ้งร่องรอยบาดแผลใดๆ บนตัว
แม้ว่าเมื่อครู่จะถูกเพลิงสัจธรรมของหลี่ชิเย่เผาไหม้ไปถึงสองในสามของปริมาตรไป แต่ว่า บนตัวของหินสีดำกลับไม่ได้ทิ้งร่องรอยถูกเผาไหม้ไปแม้แต่น้อย
โดยหินสีดำมีลักษณะโปร่งแสงงดงามยิ่งนัก หินสีดำมีความโปร่งแสงและดำจนมันวาว เสมือนหนึ่งเป็นเนื้อหยก เหมือนว่ามันคือหยกนิลลูกหนึ่งอย่างนั้น
แม้ว่าหินสีดำก้อนนี้จะดำจนวาววับ แต่ว่า กลับไม่ได้มีกลิ่นอายความมืดที่น่ากลัวสายนั้นดั่งเช่นเมื่อครู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ได้มีพลังความชั่วร้ายเช่นเมื่อครู่
ภาพรวมของหินสีดำแม้จะมีความดำเงาจนวาววับปราศจากผู้เทียบเทียม แต่มันให้ความรู้สึกผู้คนถึงความบริสุทธิ์ของเนื้อแท้ ยามที่มองเห็นหินสีดำก้อนนี้ก็จะรูสึกได้ว่า หินสีดำก้อนนี้เหมือนได้มาจากบริเวณที่ลึกเข้าไปด้านในของป่าดึกดำบรรพ์อย่างนั้น
“อ่อนไปมากทีเดียว” กระบือดำขนาดใหญ่ตรวจสอบกลิ่นอายของหินสีดำ พลันรับรู้ได้ถึงพลังของหินสีดำทันที
“เป็นความจริงที่จำต้องอาศัยกาลเวลาที่ยาวนานมากจึงสามารถฟื้นฟูขึ้นมาได้” หลี่ชิเย่พยักหน้าและกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ผู้ที่หลอมกลั่นมันนั้นแข็งแกร่งมากเหลือเกิน และโชคดีที่มันมีชาติกำเนิดที่ไม่ธรรมดา มิฉะนั้นล่ะก็คงไม่สามารถช่วยได้โดยสิ้นเชิง ได้แต่ถูกทำลายไปเท่านั้น”
หินสีดำถูกพลังความมืดหลอมกลั่น หลี่ชิเย่ได้เผาไหม้ร่างของมันไปสองในสาม จึงทำให้มันได้กลับกลายเป็นตัวตนดั้งเดิม กล่าวสำหรับหินสีดำแล้ว การเผาผลาญเช่นนี้เป็นการทำร้ายตัวมันอย่างมหันต์ เป็นการทำลายการบำเพ็ญเพียรของมันไปกว่าสองในสามที่มีอยู่
หากไม่เป็นเพราะหลี่ชิเย่สามารถควบคุมเพลิงสัจธรรมได้ดั่งใจนึก แค่ไม่ทันระวังเพียงนิดเดียวก็สามารถเผาไหม้มันจนหายวับไปกับตาในพริบตาเดียว
“แหะเวลานี้ข้าสามารถทรมานเจ้าหินห่วยๆ ก้อนนี้ได้แล้ว ข้าจะเหยียบมันให้แบน เหยียบมันให้ละเอียด” กระบือดำขนาดใหญ่มองดูหินสีดำที่ถูกเผาไหม้ร่างไปแล้วถึงสองในสาม ถึงกับหัวเราะแหะแหะ ท่าทางไม่หวังดีอย่างนั้น
แต่ว่า หินสีดำไม่มีปฏิกิริยาใดๆ มีแต่ความเงียบสงัด เหมือนว่ามันได้เข้าสู่การหลับใหลไปแล้ว
“ต่อให้เขาไม่เหมือนเดิมไปมากก็จริง ไหนเลยเป็นเรื่องง่ายดายหากเจ้าคิดจะเหยียบมันให้แบน” หลี่ชิเย่เพียงหัวเราะและส่ายหน้า สำหรับความคิดที่ไม่หวังดีของกระบือดำขนาดใหญ่
“แหะกระบือสุดหล่ออย่างข้ามีวิธีการมากมายดั่งดอกเห็ด สามารถเหยียบหินห่วยๆ ก้อนนี้ให้แหลกได้อย่างแน่นอน” กระบือดำขนาดใหญ่กล่าวหัวเราะแหะแหะขึ้นมา
“เจ้าอย่างประเมินมันต่ำเกินไป” หลี่ชิเย่หัวเราะ ส่ายหน้า และกล่าวว่า “มันคือหินศักดิ์สิทธิ์สูงสุด กำลังความสามารถไม่ธรรมดา”
“ฮึ ฮึ ฮึกระบือสุดหล่ออย่างข้าไม่ธรรมดายิ่งกว่าเขา” กระบือดำขนาดใหญ่หัวเราะแหะแหะ และกล่าวว่า “กระบือสุดหล่ออย่างข้าถือกำเนิดในตระกูลเซียน มีสายเลือดที่สูงสุด แค่หินห่วยๆ ก้อนหนึ่งไหนเลยจะมาเทียบเคียงกับกระบือสุดหล่ออย่างข้าได้เล่า”
หลี่ชิเย่เพียงหัวเราะทีหนึ่งเท่านั้นสำหรับการหลงตัวเองของกระบือดำขนาดใหญ่ และเก็บหินสีดำนั้นเอาไว้
แต่ว่า ราชันแท้จริงเซิ่นซวงกลับรู้สึกอยากรู้อยากเห็นกับกระบือดำขนาดใหญ่ และกล่าวว่า “ตระกูลเซียนของผู้อาวุโสอยู่ที่ใดกันเล่า?”
แม้จะกล่าวว่า บรรดาผู้อาวุโสของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ล้วนแล้วแต่รู้ว่ากระบือดำขนาดใหญ่ไม่ธรรมดา แต่ว่าสำหรับประวัติความเป็นมาของกระบือดำขนาดใหญ่แล้ว บรรดาผู้อาวุโสของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่สามารถบอกได้ชัดเจน เนื่องจากเขามีชีวิตอยู่มายาวนานกว่าบรรดาผู้อาวุโสของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ จึงไม่มีใครทราบถึงเบื้องหลังของเขาอยู่แล้ว
แต่ดันน่าแปลกเสียอย่างนั้นก็คือ กระบือดำขนาดใหญ่รั้งอยู่ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ตลอดมา เหมือนว่าเขากับหอจรัสศักดิ์สิทธิ์เป็นครอบครัวเดียวกันอย่างนั้น แล้วจะไม่ให้ราชันแท้จริงเซิ่นซวงรู้สึกแปลกใจได้อย่างไร
“พุทธองค์ตรัสว่า บอกไม่ได้ บอกไม่ได้” กระบือดำขนาดใหญ่กล่าวหัวเราะแหะแหะ ท่าทางดูลึกลับยิ่งนัก
ราชันแท้จริงเซิ่นซวงจะไปทำอะไรได้ เมื่อกระบือดำขนาดใหญ่ไม่ยอมพูด นางจึงได้แต่หุบปากไม่ถามต่อไป
ขณะที่หลี่ชิเย่เพียงยิ้มๆ เท่านั้นเอง ไม่ได้ไปพูดคุยเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของกระบือดำขนาดใหญ่มากมายนัก เขาเงยหน้ามองดูที่ที่ห่างไกลออกไป และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ไปเถอะ ข้าหน้ามีเรื่องดีๆ รอพวกเราอยู่”
“ดี…” กระบือดำขนาดใหญ่ดูมีชีวิตชีวาขึ้นทันที ดวงตาทั้งสองเป็นประกาย กล่าวหัวเราะแหะแหะว่า “มีคนตายมากมายเข้าไป ในนั้นต้องมีความลึกลับแน่น เรือปราบปรามไกลดีๆ ลำหนึ่งกลับกลายเป็นลักษณะเช่นนี้ แหะ แหะ แหะปฐมบรรพบุรุษอัคคีไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบไปได้”
หลี่ชิเย่เหินฟ้าขึ้นไปโดยไม่ได้พูดอะไร
คำพูดของกระบือดำขนาดใหญ่กลับทำให้ภายในใจของราชันแท้จริงเซิ่นซวงรู้สึกหนักอึ้ง บังเกิดเงาทมิฬที่ปกคลุมเอาไว้ ไม่สามารถสลัดทิ้งไปได้ ทำให้เกิดความกดดันขึ้นมาบ้างในใจ
จะอย่างไรเสีย การออกปราบปราบไกลทะเลปุ๊ตู้ไห่ในครั้งนั้น มีปฐมบรรพบุรุษอัคคีเป็นผู้ริเริ่ม เวลานี้ดูไปแล้ว ภายหลังได้เกิดเรื่องขึ้นบนเรือปราบปรามไกล ปฐมบรรพบุรุษไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบ เหมือนดั่งที่กระบือดำขนาดใหญ่ได้พูดเอาไว้อย่างนั้น
หากเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นถูกเปิดเผยขึ้นมาต่อสาธารณะชนล่ะก็ กล่าวสำหรับแดนสามเซียนทั้งหมดแล้ว เกรงว่าจะต้องเกิดผลกระทบที่รุนแรงมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...