ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 3029

ตอนที่ 3029 ท่าทีของราชันหญิง

ราชันหญิงจื่อหลงสยบทั่วหล้า มีทีท่าจะเป็นผู้ทรงอานุภาพสูงสุด

ภายในหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ในครั้งนั้น สู่กวงพายัพมีราชันหญิงจื่อหลง หลีหมิงทักษิณมีเทพสงครามจินเปี้ยน เซิ่นถัวประจิมมีหมิงหวังฝอ และเป่ยเยี่ยนมีราชันแท้จริงเซิ่นซวง

แต่ทว่า หากว่ากันด้วยเรื่องของชื่อเสียงแล้ว สามคนแรกเหนือกว่าราชันแท้จริงเซิ่นซวงแห่งเป่ยเยี่ยนมากทีเดียว

ราชันหญิงจื่อหลงเป็นผู้ทรงอานุภาพสูงสุด กองทัพในมือเคยเกรียงไกรทั่วหล้า อานุภาพราชันที่ยิ่งใหญ่ยากจะมีกลุ่มคนรุ่นใหม่สามารถเป็นปฏิปักษ์กับนาง

เทพสงครามจินเปี้ยนนั้นไม่ต้องกล่าวมากความ ชื่นชอบการต่อสู้ดุดันโหดร้าย ผ่านศึกมาอย่างโชกโชน หลั่งเลือดทั่วหล้า เคยเข่นฆ่าสังหารจนฟ้าถล่มดินทลาย ร้องโหยหวนน่าเวทนา ชื่อเทพสงครามทำเอาผู้คนตัวสั่นดั่งลูกนก

หมิงหวังฝอนั้นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน พุทธานุภาพยากจะหาผู้ใดเทียม โปรดเหล่าเวไนยสัตว์ให้พ้นจากห้วงแห่งความทุกข์โดยทั่วกัน มีปณิธานโปรดหมื่นแดน สร้างชื่อได้เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ในหล้า

ตรงกันข้าม ขณะที่ราชันแท้จริงเซิ่นซวงแห่งเป่ยเยี่ยนดูจะค่อมต่ำกว่ากันมากทีเดียว น้อยครั้งที่ปรากฎตัวในยุทธภพ และมีผู้กล่าวเอาไว้ว่า ในบรรดาพวกเขาทั้งสี่คน ราชันแท้จริงเซิ่นซวงอายุน้อยสุด และด้วยเหตุนี้เองทำให้ชื่อเสียงของราชันแท้จริงเซิ่นซวงนอกหอจรัสศักดิ์สิทธิ์เทียบไม่ได้กับพวกของราชันหญิงจื่อหลงสามคน

การมาถึงของราชันหญิงจื่อหลง ผู้ทรงอานภาพสูงสุด พลันทำให้ผู้คนจำนวนเท่าไรถึงกับกลั้นลมหายใจเอาไว้ ยอดฝีมือและผู้ยิ่งใหญ่ล้วนถูกอานุภาพราชันของนางสยบเอาไว้

“น่าดูชมแล้ว” ยอดฝีมือถึงกับพูดเสียงแผ่วเบา เมื่อเห็นราชันหญิงจื่อหลง

พวกพระอาริยะเทียนหลงต้องการต้องการต่อสู้กับหลี่ชิเย่ เวลานี้ราชันหญิงจื่อหลงได้มาถึง พลันทำให้พลังของตำหนักมังกรแท้จริงเพิ่มมากขึ้น และยิ่งเป็นการทำให้พลังการต่อสู้ของกองทัพสัตว์เทพเทียนหรงพลันเพิ่มขึ้นไม่รู้ว่ากี่เท่าตัว

“เล่าลือกันว่า หากให้ราชันหญิงจื่อหลงเป็นผู้นำทัพกองทัพสัตว์เทพเทียนหรงด้วยตนเองล่ะก็ สามารถระเบิดพลังอานุภาพสัตว์เทพมังกรแม้จริงได้อย่างแท้จริง เสมือนดั่งสามารถระเบิดอานุภาพของมังกรเทพที่แท้จริง เหมือนได้เรียกตัวมังกรแท้จริงลงมาบนโลก อานุภาพยอดเยี่ยมยากจะหาใดเทียม” มียอดฝีมือที่เคยเห็นราชันหญิงจื่อหลงนำกองทัพสัตว์เทพเทียนหรงทำการสู้รบด้วยตนเองมากับตา ให้รู้สึกตระหนกขึ้นในใจเวลานี้

มีผู้อาวุโสได้พูดเสียงแผ่วเบาขึ้นว่า “หากราชันหญิงจื่อหลงนำกองทัพของตนลงมือด้วยตนเอง นอกเหนือจากระดับปฐมบรรพบุรุษแล้ว เกรงว่าในโลกนี้ยากจะมีผู้ใดสามารถต่อกรได้อีกแล้ว”

ราชันหญิงจื่อหลงไม่เพียงมีทักษะที่ลึกล้ำ มีวาสนาที่สะเทือนเลื่อนลั่น อีกทั้งนางช่ำชองในการนำทหาร กองทัพสัตว์เทพเทียนหรงสร้างขึ้นมาด้วยมือของนางเอง และนางนำทัพทำการสู้รบด้วยตนเอง ค่ายกลการสู้รบย่อมมีพลังอำนาจไร้ขอบเขต กำลังความสามารถในการต่อสู้ไม่รู้ว่าเพิ่มสูงขึ้นกี่เท่าตัว

ดังนั้น พลันที่ทุกคนมองเห็นการมาถึงของราชันหญิงจื่อหลงต่างรู้สึกว่า กล่าวสำหรับหลี่ชิเย่แล้วมันคือบททดสอบอย่างหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย กำลังความสามารถแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ นอกเหนือจากระดับปฐมบรรพบุรุษแล้ว คนอื่นๆ ไม่สามารถต่อกรกับนางได้อยู่แล้ว

“หลี่ชิเย่แข็งแกร่งหรือไม่ ก็ต้องดูว่าเขาสามารถเอาชนะกองทัพใหญ่ที่นำโดยราชันหญิงจื่อหลงได้หรือไม่แล้วล่ะ” เวลานี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนมากน้อยเท่าไรที่ต่างเฝ้ารอคอยเมื่อได้เห็นราชันหญิงจื่อหลงแล้ว

นอกเหนือจากทุกคนต้องการทราบว่าหลี่ชิเย่นั้นแข็งแกร่งเช่นใดแล้ว ขณะเดียวกันทุกคนก็อยากจะได้เห็นเป็นบุญตาถึงท่วงท่าการนำทัพเข้าทำการสู้รบด้วยตนเองของราชันหญิงจื่อหลง

ราชันหญิงจื่อหลงในขณะนี้ยืนอยู่บนหลังของมังกรม่วง นัยน์ตาของนางกวาดตามองผ่านไป แววตาของนางดูแหลมคมอย่างยิ่ง เสมือนดั่งเป็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ที่กวาดผ่านไป คล้ายเชือดเฉือนบนตัวของทุกคน

“กระทำการโดยพละการ!” ราชันหญิงจื่อหลงขณะนี้ได้ส่งเสียงตำหนิเย็นชาขึ้นมา เสียงของนางเปี่ยมด้วยลักษณะอันน่าเกรงขาม ไม่ได้โกรธแต่ทรงอำนาจ นางกล่าวน่าเกรงขามขึ้นมาว่า “สั่งพวกเจ้ามาที่นี่เพื่อทำการขัดเกลาปณิธาน เพิ่มพูนกำลังการต่อสู้ ไม่ได้มาเพื่อบุญคุณความแค้นส่วนตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ใช่มาเพื่อหาเรื่องโดยใช้อารมณ์ความรู้สึกส่วนตัว!”

นักรบของกองทัพสัตว์เทพเทียนหรงต่างทยอยกันก้มศีรษะลง เมื่อถูกกล่าวตำหนิโดยราชันหญิงจื่อหลง ไม่กล้าส่งเสียงออกมา

“พระอาริยะ ท่านในฐานะแม่ทัพ กระทำการโดยใช้อารมณ์ ไม่ดำเนินการตามหน้าที่ ลงโทษตัดเบี้ยหวัดท่านสามร้อยปี หันหน้าเข้าหากำแพงสำนึกตนเป็นเวลาแปดปี! หลังเสร็จสิ้นภารกิจนี้แล้วให้ปฏิบัติทันที ยอมรับหรือไม่!” สายตาของราชันหญิงจื่อหลงตกไปอยู่บนตัวของพระอาริยะเทียนหลง

“รับด้วยเกล้า” พระอาริยะเทียนหลงไม่มีท่าทีขัดขืนแม้แต่น้อย เอ่ยขึ้นและแสดงคารวะทีหนึ่ง

พลันที่ราชันหญิงจื่อหลงปรากฏตัวขึ้นก็กล่าวตำหนิกองทัพสัตว์เทพเทียนหรง ทั้งยังสั่งลงโทษพระอาริยะเทียนหลงที่อยู่ในฐานะอาอย่างหนัก ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองดูด้วยความงงงัน

แรกเริ่มทีเดียว ทุกคนยังเข้าใจว่าราชันหญิงจื่อหลงจะต้องนำทัพของตนเองเข้าต่อสู้กับหลี่ชิเย่ด้วยตนเองเพื่อแสดงอำนาจของตำหนักมังกรแท้จริง

จะอย่างไรเสีย ตำหนักมังกรแท้จริงที่แข็งแกร่งย่อมไม่อนุญาตผู้ใดมายั่วยุ ไม่อนุญาตให้ผู้ใดมาทำให้แปดเปื้อน

แต่ว่า ราชันหญิงจื่อหลงกลับไม่มีท่าทีปกป้องตำหนักมังกรแท้จริงของพวกเขา ตรงกันข้ามกลับกล่าวตำหนิกองทัพของตน และลงโทษพระอาริยะเทียนหลงอย่างหนัก ดูไปแล้วเหมือนเป็นการปกป้องหลี่ชิเย่อย่างนั้น

“ฮึรีบไปเสีย…” ราชันหญิงจื่อหลงส่งเสียงเย็นชา และสั่งการออกไป

พระอาริยะเทียนหลงนำพากองทัพสัตว์เทพเทียนหรงแสดงคารวะ จากนั้นส่งเสียงดังและนำกำลังเคลื่อนออกไป หายไปท่ามกลางท้องฟ้าและผืนแผ่นดินสีน้ำตาลในพริบตาเดียว

ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างงงงันกับภาพเช่นนี้ ทุกคนยังเข้าใจว่าจะต้องเกิดศึกครั้งใหญ่ขึ้น ไม่นึกไม่ฝันว่าจะลงเอยในลักษณะตรงกันข้ามเช่นนี้ กลับกลายเป็นว่าราชันหญิงจื่อหลงสั่งลงโทษคนของตนอย่างหนัก ซึ่งไม่ว่าใครก็ตามมันคือสิ่งที่เหนือความคาดคิดอยู่แล้ว

ในเวลานี้ราชันหญิงจื่อหลงได้กระโดดลงมาจากหลังของมังกรม่วง ก้าวเท้าโดยไวและแสดงคารวะต่อหลี่ชิเย่ กล่าวทักทายราชันแท้จริงเซิ่นซวง และกระบือดำขนาดใหญ่

“พี่ท่าน ผู้ใต้บังคับบัญชาโง่เขลา กระทำการโดยใช้อารมณ์ ขัดแย้งกับพี่ท่าน ขอพี่ท่านเป็นผู้ใหญ่ใจกว้าง หวังว่าพี่ท่านจะเข้าใจ” ราชันหญิงจื่อหลงแสดงคารวะอย่างสูง

ในฐานะที่นางเป็นถึงผู้กุมอำนาจของตำหนักมังกรแท้จริง ในฐานะที่นางมีอำนาจราชันที่ปราศจากผู้เทียบเทียม เวลานี้ถึงกับโน้มตัวไปข้างหน้าแสดงคารวะที่เบื้องหน้าของหลี่ชิเย่ด้วยท่าทางที่เป็นธรรมชาติ ไม่ได้มีท่าทีของการฝืนแม้แต่น้อย การคารวะสูงสุดเช่นนี้เปี่ยมด้วยความจริงใจ หาใช่เป็นการทำแบบขอไปที

มาคราวนี้ผู้คนจำนวนมากต่างอ้าปากตาค้าง เมื่อเห็นราชันหญิงจื่อหลงที่มีฐานะสูงเด่นถึงกับยอมรับผิดต่อหลี่ชิเย่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล