ตอนที่ 3028 ราชันหญิงจื่อหลง
คำพูดของหลี่ชิเย่ยั่วโมโหพระอาริยะเทียนหลงจนเดือดดาลเป็นฟืนเป็นไฟ อย่าว่าแต่ราชันแท้จริงเลย ต่อให้เป็นระดับปฐมบรรพบุรุษอย่างปราชญ์อัจฉริยะหลันซู พระอาจารย์จินกวงขณะมาที่ตำหนักมังกรแท้จริงก็แสดงความเกรงใจต่อเขาอย่างยิ่ง ยกย่องเขาว่า ‘ท่านอาริยะ’
ไม่ว่าเป็นด้านกำลังความสามารถของตัวเขาเอง หรือด้วยฐานะของเขาในแดนลัทธิเซียน ล้วนมีคุณสมบัติเพียงพอคู่ควรให้ผู้อื่นให้ความเคารพนับถือ
แต่ว่าท่าทีหลี่ชิเย่ในฐานะที่เป็นรุ่นเยาว์ไม่ได้เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย มองเหมือนเขาไม่มีตัวตน ด้วยท่าทางลักษณะเช่นนี้จะไม่ให้พระอาริยะเทียนหลงต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟได้อย่างไรกันเล่า? “ใต้หล้ามังกรเร้นกายพยัคฆ์หมอบ ยอดฝีมือมีอยู่นับไม่ถ้วน…” พระอาริยะเทียนหลงกล่าวน้ำเสียงเย็นชากับหลี่ชิเย่
“แล้วมันเป็นอย่างไร” หลี่ชิเย่ยิ้มบางๆ พูดตัดบทพระอาริยะเทียนหลง ด้วยท่าทีเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ยอดฝีมือมีมากกว่านี้ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า หาไม่แล้วมันก็คือการรนหาที่ตายเอง!”
“เจ้าคิดว่าตนเองเป็นผู้ปราศจากผู้ต่อกรทั่วหล้าจริงๆ ไม่มีใครสามารถกำราบเจ้าได้อย่างนั้นรึ?” พระอาริยะเทียนหลงถึงกับส่งเสียงฮึหนักแน่น เวลานี้ถือว่าเขาได้อดกลั้นอย่างเต็มที่แล้วล่ะ เกรงว่าหากเปลี่ยนเป็นผู้อื่นที่มีอารมณ์ร้อนล่ะก็ คงแลกชีวิตกับหลี่ชิเย่ไปนานแล้ว เพื่อแก้แค้นให้กับศิษย์ของตนที่ตายไปแล้ว
“ถูกต้อง ข้านี่แหละปราศจากผู้ต่อกรใต้หล้า” หลี่ชิเย่มีท่าทีเอ้อระเหย ไม่ให้ความสำคัญ และกล่าวว่า “ต่อให้มีผู้ที่สามารถต่อกรกับข้าได้ก็ไม่ใช่เจ้า”
“เจ้า” คำพูดนี้ของหลี่ชิเย่พลันทำให้เพลิงโกรธของพระอาริยะเทียนหลงลุกโชนขึ้นมาทันที เพลิงโกรธที่สุมทรวงเหมือนดั่งเป็นภูเขาไฟที่กำลังจะปะทุขึ้นอย่างนั้น
“ดี ดี ดีพระอาริยะอย่างข้าผาดโผนใต้หล้ามาหลายพันปี มาวันนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ถูกผู้เยาว์มองเหมือนไม่มีตัวตน…” พระอาริยะเทียนหลงโกรธจนต้องหัวเราะขึ้นมา ตวาดเสียงดังขึ้น จ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยนัยน์ตาที่กลมโตและโกรธจัด
ผู้คนจำนวนมากล้วนสามารถเข้าใจได้เมื่อเห็นพระอาริยะเทียนหลงโกรธเคืองถึงเพียงนี้ ผู้ที่เคยเห็นความมุทะลุดุดันและโหดร้ายของหลี่ชิเย่มาแล้วได้แต่หัวเราะเจื่อนๆ ชื่อคนโหดอันดับหนึ่งใช่เป็นชื่อเสียงจอมปลอม เขาเป็นคนชอบใช้กำลัง และอวดดีเช่นนี้แหละ
“ใยต้องทำเช่นนี้เล่า คนโหดอันดับหนึ่งก็แค่พูดคำพูดที่เกรงใจนิดหนึ่งก็ได้แล้ว ทำไมจะต้องทำให้ตึงเครียดเช่นนี้เล่า” มีผู้บำเพ็ญตนที่เห็นหลี่ชิเย่พูดจายกตนข่มท่านแล้ว อดที่จะพูดเสียงแผ่วเบาขึ้นมา
“แหะถ้าหากเขาเป็นคนที่พูดง่ายขนาดนั้นก็คงไม่ใช่คนโหดอันดับหนึ่งแล้วล่ะ” มียอดฝีมือที่เคยเห็นความมุทะลุดุดันและโหดร้ายของหลี่ชิเย่มาแล้วถึงกับพูดว่า “อีกอย่าง ตัวเขาเองก็มีความแข็งแกร่งเช่นนี้อยู่แล้ว มีกำลังความสามารถที่สามารถเอาชนะทุกสิ่งทุกอย่างได้ ทำไมจะต้องมาพูดดีด้วย? ในทัศนะพวกเจ้ามองว่าเป็นการกระทำที่เย่อหยิ่งอวดดี ในทัศนะของเขามองว่า นั่นเป็นเพียงการพูดความจริงเท่านั้นเอง เป็นเรื่องที่เล็กน้อยมากไม่คู่ควรจะกล่าวถึง”
“ระดับที่แตกต่างกัน ย่อมมองต่างกัน” ระดับผู้อาวุโสรุ่นอาวุโสกล่าวทอดถอนในขึ้นมา
“เขามีความแข็งแกร่งเช่นนั้นจริงรึ? แข็งแกร่งกว่าปราชญ์อัจฉริยะหลันซู พระอาจารย์จินกวงจรึงรึ?” มียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยไม่เชื่อว่าหลี่ชิเย่จะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้
“ใครจะไปรู้เล่า ตามความเห็นของข้า อย่างน้อยที่สุดสู้กับหมิงหวังฝอ เทพสงครามจินเปี้ยนไม่มีปัญหาแต่อย่างใด กระทั่งเหนือกว่าปราชญ์อัจฉริยะหลันซู พระอาจารย์จินกวงหรือไม่นั้น มีเพียงได้สู้กันแล้วจึงสามารถรู้ได้” มีผู้ยิ่งใหญ่ที่สงวนท่าทีเอาไว้
“จะลงมือรึ?” หลี่ชิเย่มองดูพระอาริยะเทียนหลงที่โกรธจัดแวบหนึ่ง ยิ้มบางๆ และกล่าวตามอารมณ์ว่า “หากคิดจะลงมือก็เข้ามาพร้อมกันก็แล้วกัน เจ้ากับกองทัพสัตว์เทพเทียนหรงอะไรนั่นร่วมมือกันเข้ามาก็แล้วกัน ข้าจะได้จัดการพวกเจ้าพร้อมกันทีเดียว จะได้ไม่เสียเวลาข้าต้องมาจัดการทีละคน”
พลันที่คำพูดเอ้อระเหยเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ได้พูดออกมา ไม่เพียงแค่พระอาริยะเทียนหลงเท่านั้น กองทัพสัตว์เทพเทียนหรงทั้งกองทัพที่อยู่ด้านหลังของเขาพลันโกรธจัดขึ้นมาทันที
พริบตาเดียวนั่นเอง คู่สายตาจำนวนนับไม่ถ้วนได้มองไปที่หลี่ชิเย่ ดวงตาทั้งสองของทหารจากกองทัพสัตว์เทพเทียนหรงจำนวนไม่น้อยได้พ่นเป็นเพลิงความโกรธออกมา
ยังไม่ต้องพูดถึงก่อนว่าตัวพวกเขาเองก็คือผู้ปราดเปรื่องในเขตๆ หนึ่ง แม้แต่กองทัพสัตว์เทพเทียนหรงพวกเขาก็เป็นกองทัพที่ปราบปรามไปทั่วหล้า อำนาจบารมีสยบผู้คน สามารถเรียกได้ว่าเป็นกองทัพที่ไร้เทียมทานกองทัพหนึ่ง
เวลานี้ถูกหลี่ชิเย่พูดจนอ่อนแอขนาดนั้น เหมือนเป็นการไล่หมาไล่แมวอย่างนั้น แล้วจะไม่ให้ยอดฝีมือของกองทัพสัตว์เทพเทียนหรงต้องโกรธเคืองได้อย่างไร
แน่นอน ที่หลี่ชิเย่พูดมาก็เป็นความจริง เขาเพียงแต่พูดไปตามความเป็นจริงเท่านั้น แต่ว่า ในสายตาของผู้อื่นความจริงที่เขาพูดมานั้นคือลำพองมาก อวดดีมากเหลือเกิน เป็นการมองทุกคนในหล้าไม่มีตัวตนโดยแท้
ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยที่ได้เห็นภาพนี้แต่ไกลต่างได้แก่หัวเราะเจื่อนๆ ท่าทีที่มองผู้อื่นเหมือนไม่มีตัวตันเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ ไม่ว่าใครก็ต้องโกรธ ยิ่งไม่ต้องฟพูดถึงพระอาริยะเทียนหลงที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และกองทัพสัตว์เทพเทียนหรงที่มีชื่อเสียงโด่งดังแล้ว
“ดี ดี ดี…” พระอาริยะเทียนหลงโกรธจัดจนต้องหัวเราะออกมา และกล่าวว่า “วันนี้จะไม่พูดถึงบุญคุณความแค้นส่วนตัว และข้าก็จะไม่แก้แค้นให้กับศิษย์ที่ไม่เอาไหนคนนั้นของข้า แต่ว่า อำนาจบารมีของตำหนักมังกรแท้จริงไหนเลยให้เจ้ามาทำให้เสื่อมเสียเกียรติได้”
“ถูกต้อง” ยอดฝีมือจำนวนไม่น้อยของกองทัพสัตว์เทพเทียนหรงร้องเสียงดังขึ้นมาว่า “ลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้ วันนี้กองทัพสัตว์เทพเทียนหรงของพวกเราจะต้องแสดงแสนยานุภาพ”
“ดี ข้ากลับรู้สึกสนใจขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ” หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่งและก้าวเดินออกมา ท่าทางตามสบายยิ่งนัก กวักมือเบาๆ และกล่าวว่า “พวกเจ้าร่วมมือและเข้ามาพร้อมกัน ข้าจะดูว่ากองทัพสัตว์เทพเทียนหรงที่มีชื่อเสียงโด่งดังสามารถต้านข้าได้กี่กระบวนท่า”
ตึง ตึง ตึง…นาทีนี้ ทหารของกองทัพสัตว์เทพเทียนหรงทั้งหมดต่างทยอยกันอาวุธออกจากฝัก พวกเขาที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความโกรธ
“วันนี้พวกเราไม่รู้ผลแพ้ชนะจะไม่เลิกราอย่างเด็ดขาด” พระอาริยะเทียนหลงก็ลุกขึ้นยืน ได้ยินเสียงครางของมังกรดังฮือขึ้นมา บนตัวของเขาพลันเปล่งกลิ่นอายมังกรที่มีพลังยิ่งใหญ่ไพศาลขึ้นมา
“ดี” หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่ง ตามอารมณ์ และกล่าวว่า “พวกเจ้าลงมือก่อน”
เสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว ในพริบตาเดียวนั่นเอง บนตัวของพระอาริยะเทียนหลงพวยพุ่งเป็นประกายศักดิ์สิทธิ์ ทันใดนั้นเอง ปรากฏเป็นวงแหวนศักดิ์สิทธิ์แต่ละวงขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...