ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 3028

สรุปบท ตอนที่ 3028 ราชันหญิงจื่อหลง: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ตอน ตอนที่ 3028 ราชันหญิงจื่อหลง จาก ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 3028 ราชันหญิงจื่อหลง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 3028 ราชันหญิงจื่อหลง

คำพูดของหลี่ชิเย่ยั่วโมโหพระอาริยะเทียนหลงจนเดือดดาลเป็นฟืนเป็นไฟ อย่าว่าแต่ราชันแท้จริงเลย ต่อให้เป็นระดับปฐมบรรพบุรุษอย่างปราชญ์อัจฉริยะหลันซู พระอาจารย์จินกวงขณะมาที่ตำหนักมังกรแท้จริงก็แสดงความเกรงใจต่อเขาอย่างยิ่ง ยกย่องเขาว่า ‘ท่านอาริยะ’

ไม่ว่าเป็นด้านกำลังความสามารถของตัวเขาเอง หรือด้วยฐานะของเขาในแดนลัทธิเซียน ล้วนมีคุณสมบัติเพียงพอคู่ควรให้ผู้อื่นให้ความเคารพนับถือ

แต่ว่าท่าทีหลี่ชิเย่ในฐานะที่เป็นรุ่นเยาว์ไม่ได้เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย มองเหมือนเขาไม่มีตัวตน ด้วยท่าทางลักษณะเช่นนี้จะไม่ให้พระอาริยะเทียนหลงต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟได้อย่างไรกันเล่า? “ใต้หล้ามังกรเร้นกายพยัคฆ์หมอบ ยอดฝีมือมีอยู่นับไม่ถ้วน…” พระอาริยะเทียนหลงกล่าวน้ำเสียงเย็นชากับหลี่ชิเย่

“แล้วมันเป็นอย่างไร” หลี่ชิเย่ยิ้มบางๆ พูดตัดบทพระอาริยะเทียนหลง ด้วยท่าทีเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ยอดฝีมือมีมากกว่านี้ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า หาไม่แล้วมันก็คือการรนหาที่ตายเอง!”

“เจ้าคิดว่าตนเองเป็นผู้ปราศจากผู้ต่อกรทั่วหล้าจริงๆ ไม่มีใครสามารถกำราบเจ้าได้อย่างนั้นรึ?” พระอาริยะเทียนหลงถึงกับส่งเสียงฮึหนักแน่น เวลานี้ถือว่าเขาได้อดกลั้นอย่างเต็มที่แล้วล่ะ เกรงว่าหากเปลี่ยนเป็นผู้อื่นที่มีอารมณ์ร้อนล่ะก็ คงแลกชีวิตกับหลี่ชิเย่ไปนานแล้ว เพื่อแก้แค้นให้กับศิษย์ของตนที่ตายไปแล้ว

“ถูกต้อง ข้านี่แหละปราศจากผู้ต่อกรใต้หล้า” หลี่ชิเย่มีท่าทีเอ้อระเหย ไม่ให้ความสำคัญ และกล่าวว่า “ต่อให้มีผู้ที่สามารถต่อกรกับข้าได้ก็ไม่ใช่เจ้า”

“เจ้า” คำพูดนี้ของหลี่ชิเย่พลันทำให้เพลิงโกรธของพระอาริยะเทียนหลงลุกโชนขึ้นมาทันที เพลิงโกรธที่สุมทรวงเหมือนดั่งเป็นภูเขาไฟที่กำลังจะปะทุขึ้นอย่างนั้น

“ดี ดี ดีพระอาริยะอย่างข้าผาดโผนใต้หล้ามาหลายพันปี มาวันนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ถูกผู้เยาว์มองเหมือนไม่มีตัวตน…” พระอาริยะเทียนหลงโกรธจนต้องหัวเราะขึ้นมา ตวาดเสียงดังขึ้น จ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยนัยน์ตาที่กลมโตและโกรธจัด

ผู้คนจำนวนมากล้วนสามารถเข้าใจได้เมื่อเห็นพระอาริยะเทียนหลงโกรธเคืองถึงเพียงนี้ ผู้ที่เคยเห็นความมุทะลุดุดันและโหดร้ายของหลี่ชิเย่มาแล้วได้แต่หัวเราะเจื่อนๆ ชื่อคนโหดอันดับหนึ่งใช่เป็นชื่อเสียงจอมปลอม เขาเป็นคนชอบใช้กำลัง และอวดดีเช่นนี้แหละ

“ใยต้องทำเช่นนี้เล่า คนโหดอันดับหนึ่งก็แค่พูดคำพูดที่เกรงใจนิดหนึ่งก็ได้แล้ว ทำไมจะต้องทำให้ตึงเครียดเช่นนี้เล่า” มีผู้บำเพ็ญตนที่เห็นหลี่ชิเย่พูดจายกตนข่มท่านแล้ว อดที่จะพูดเสียงแผ่วเบาขึ้นมา

“แหะถ้าหากเขาเป็นคนที่พูดง่ายขนาดนั้นก็คงไม่ใช่คนโหดอันดับหนึ่งแล้วล่ะ” มียอดฝีมือที่เคยเห็นความมุทะลุดุดันและโหดร้ายของหลี่ชิเย่มาแล้วถึงกับพูดว่า “อีกอย่าง ตัวเขาเองก็มีความแข็งแกร่งเช่นนี้อยู่แล้ว มีกำลังความสามารถที่สามารถเอาชนะทุกสิ่งทุกอย่างได้ ทำไมจะต้องมาพูดดีด้วย? ในทัศนะพวกเจ้ามองว่าเป็นการกระทำที่เย่อหยิ่งอวดดี ในทัศนะของเขามองว่า นั่นเป็นเพียงการพูดความจริงเท่านั้นเอง เป็นเรื่องที่เล็กน้อยมากไม่คู่ควรจะกล่าวถึง”

“ระดับที่แตกต่างกัน ย่อมมองต่างกัน” ระดับผู้อาวุโสรุ่นอาวุโสกล่าวทอดถอนในขึ้นมา

“เขามีความแข็งแกร่งเช่นนั้นจริงรึ? แข็งแกร่งกว่าปราชญ์อัจฉริยะหลันซู พระอาจารย์จินกวงจรึงรึ?” มียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยไม่เชื่อว่าหลี่ชิเย่จะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้

“ใครจะไปรู้เล่า ตามความเห็นของข้า อย่างน้อยที่สุดสู้กับหมิงหวังฝอ เทพสงครามจินเปี้ยนไม่มีปัญหาแต่อย่างใด กระทั่งเหนือกว่าปราชญ์อัจฉริยะหลันซู พระอาจารย์จินกวงหรือไม่นั้น มีเพียงได้สู้กันแล้วจึงสามารถรู้ได้” มีผู้ยิ่งใหญ่ที่สงวนท่าทีเอาไว้

“จะลงมือรึ?” หลี่ชิเย่มองดูพระอาริยะเทียนหลงที่โกรธจัดแวบหนึ่ง ยิ้มบางๆ และกล่าวตามอารมณ์ว่า “หากคิดจะลงมือก็เข้ามาพร้อมกันก็แล้วกัน เจ้ากับกองทัพสัตว์เทพเทียนหรงอะไรนั่นร่วมมือกันเข้ามาก็แล้วกัน ข้าจะได้จัดการพวกเจ้าพร้อมกันทีเดียว จะได้ไม่เสียเวลาข้าต้องมาจัดการทีละคน”

พลันที่คำพูดเอ้อระเหยเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ได้พูดออกมา ไม่เพียงแค่พระอาริยะเทียนหลงเท่านั้น กองทัพสัตว์เทพเทียนหรงทั้งกองทัพที่อยู่ด้านหลังของเขาพลันโกรธจัดขึ้นมาทันที

พริบตาเดียวนั่นเอง คู่สายตาจำนวนนับไม่ถ้วนได้มองไปที่หลี่ชิเย่ ดวงตาทั้งสองของทหารจากกองทัพสัตว์เทพเทียนหรงจำนวนไม่น้อยได้พ่นเป็นเพลิงความโกรธออกมา

ยังไม่ต้องพูดถึงก่อนว่าตัวพวกเขาเองก็คือผู้ปราดเปรื่องในเขตๆ หนึ่ง แม้แต่กองทัพสัตว์เทพเทียนหรงพวกเขาก็เป็นกองทัพที่ปราบปรามไปทั่วหล้า อำนาจบารมีสยบผู้คน สามารถเรียกได้ว่าเป็นกองทัพที่ไร้เทียมทานกองทัพหนึ่ง

เวลานี้ถูกหลี่ชิเย่พูดจนอ่อนแอขนาดนั้น เหมือนเป็นการไล่หมาไล่แมวอย่างนั้น แล้วจะไม่ให้ยอดฝีมือของกองทัพสัตว์เทพเทียนหรงต้องโกรธเคืองได้อย่างไร

แน่นอน ที่หลี่ชิเย่พูดมาก็เป็นความจริง เขาเพียงแต่พูดไปตามความเป็นจริงเท่านั้น แต่ว่า ในสายตาของผู้อื่นความจริงที่เขาพูดมานั้นคือลำพองมาก อวดดีมากเหลือเกิน เป็นการมองทุกคนในหล้าไม่มีตัวตนโดยแท้

ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยที่ได้เห็นภาพนี้แต่ไกลต่างได้แก่หัวเราะเจื่อนๆ ท่าทีที่มองผู้อื่นเหมือนไม่มีตัวตันเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ ไม่ว่าใครก็ต้องโกรธ ยิ่งไม่ต้องฟพูดถึงพระอาริยะเทียนหลงที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และกองทัพสัตว์เทพเทียนหรงที่มีชื่อเสียงโด่งดังแล้ว

“ดี ดี ดี…” พระอาริยะเทียนหลงโกรธจัดจนต้องหัวเราะออกมา และกล่าวว่า “วันนี้จะไม่พูดถึงบุญคุณความแค้นส่วนตัว และข้าก็จะไม่แก้แค้นให้กับศิษย์ที่ไม่เอาไหนคนนั้นของข้า แต่ว่า อำนาจบารมีของตำหนักมังกรแท้จริงไหนเลยให้เจ้ามาทำให้เสื่อมเสียเกียรติได้”

“ถูกต้อง” ยอดฝีมือจำนวนไม่น้อยของกองทัพสัตว์เทพเทียนหรงร้องเสียงดังขึ้นมาว่า “ลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้ วันนี้กองทัพสัตว์เทพเทียนหรงของพวกเราจะต้องแสดงแสนยานุภาพ”

“ดี ข้ากลับรู้สึกสนใจขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ” หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่งและก้าวเดินออกมา ท่าทางตามสบายยิ่งนัก กวักมือเบาๆ และกล่าวว่า “พวกเจ้าร่วมมือและเข้ามาพร้อมกัน ข้าจะดูว่ากองทัพสัตว์เทพเทียนหรงที่มีชื่อเสียงโด่งดังสามารถต้านข้าได้กี่กระบวนท่า”

ตึง ตึง ตึง…นาทีนี้ ทหารของกองทัพสัตว์เทพเทียนหรงทั้งหมดต่างทยอยกันอาวุธออกจากฝัก พวกเขาที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความโกรธ

“วันนี้พวกเราไม่รู้ผลแพ้ชนะจะไม่เลิกราอย่างเด็ดขาด” พระอาริยะเทียนหลงก็ลุกขึ้นยืน ได้ยินเสียงครางของมังกรดังฮือขึ้นมา บนตัวของเขาพลันเปล่งกลิ่นอายมังกรที่มีพลังยิ่งใหญ่ไพศาลขึ้นมา

“ดี” หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่ง ตามอารมณ์ และกล่าวว่า “พวกเจ้าลงมือก่อน”

เสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว ในพริบตาเดียวนั่นเอง บนตัวของพระอาริยะเทียนหลงพวยพุ่งเป็นประกายศักดิ์สิทธิ์ ทันใดนั้นเอง ปรากฏเป็นวงแหวนศักดิ์สิทธิ์แต่ละวงขึ้นมา

บนหลังของมังกรม่วงปรากฏผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ ผู้หญิงคนนี้สวมชุดสีม่วงทั้งชุด มองจากระยะห่างไกลเสมือนดั่งสิ่งอันเป็นมงคลมาจากทางทิศตะวันออก ตัวของนางมีไอม่วงล้อมรอบทั่วตัว ทำให้ตัวนางเต็มไปด้วยความลึกลับ

ผู้หญิงคนนี้มีคิ้วงามที่เขียนขึ้นบางเบา แม้ไม่ได้สวมชุดราชันและไม่สวมมงกุฎฮ่องเต้ แต่ว่าระหว่างคิ้วยังคงมีอานุภาพราชันที่ยิ่งใหญ่ไพศาล แม้ว่านางจะยืนอยู่ในท่วงท่าตามสบายบนหลังมังกร ยังคงมีอานุภาพราชันที่ยิ่งใหญ่ไพศาล

ต่อให้นางไม่ใช่ราชันแท้จริง แต่ว่า อานุภาพราชันที่เปล่งออกมาจากตัวของนางไม่ได้ด้อยไปกว่าราชันแท้จริงคนใด เหมือนว่านางมีความสูงส่งเช่นนี้มาแต่กำเนิด เป็นราชันที่ยากจะหาใดเทียมแห่งยุคมาแต่กำเนิด

ขณะที่นางยืนอยู่บนหลังมังกรเงียบๆ เช่นนี้แหละ มีท่วงท่าที่กุมอำนาจใหญ่อยู่ในมือ มีท่าทีที่สามารถชี้เป็นชี้ตายได้ ทำให้ผู้คนมีฏิกิริยายอมศิโรราบแทบเท้าของนางขึ้นมา

“ราชันหญิงจื่อหลง” ผู้คนจำนวนไม่น้อยร้องเสียงหลงขึ้นมา และมีผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่มองดูจนเหมือนดั่งปัญญาอ่อนและมัวเมา

ราชันหญิงจื่อหลงคือผู้กุมอำนาจของตำหนักมังกรแท้จริงในปัจจุบัน และคืออัจฉริยะบุคคลที่โดดเด่นมีพรสวรรค์มากที่สุดปราศจากผู้เทียบเทียมในยุคปัจจุบัน ชื่อเสียงของนางไม่ได้ด้อยไปกว่าเทพสงครามจินเปี้ยน และหมิงหวังฝอ

นางเองก็เคยเป็นศิษย์ของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ โดยเป็นนักศึกษาของสถานศึกษาสู่กวงพายัพ

ราชันหญิงจื่อหลงไม่เพียงแต่เป็นผู้กุมอำนาจตำหนักมังกรแท้จริงเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น นางยังเป็นผู้ก่อตั้งกองทัพสัตว์เทพเทียนหรง โดยกองทัพสัตว์เทพเทียนหรงที่นางก่อตั้งขึ้นมากับมือเคยมีผลงานการสู้รบที่โด่งดัง

“ฝ่าบาท” นักรบทั้งหมดของกองทัพสัตว์เทพเทียนหรงล้วนลงมาจากม้าในท่ากึ่งคุกเข่า ท่าทางให้ความเคารพยิ่งนัก

แม้แต่พระอาริยะเทียนหลงก็ลงมาจากหลังม้า และแสดงคารวะต่อราชันหญิงจื่อหลง

แม้ว่าพระอาริยะเทียนหลงจะมีฐานะเป็นอ๋องของตำหนักมังกรแท้จริง และเป็นอาของราชันหญิงจื่อหลง แต่ทว่า เมื่อพบกับราชันหญิงจื่อหลงแล้ว เขายังคงต้องแสดงความเคารพด้วยการแสดงคารวะสูงสุด

สิ่งนี้ไม่เพียงเป็นเพราะราชันหญิงจื่อหลงคือฮ่องเต้ของตำหนักมังกรแท้จริงเท่านั้น ไม่เพียงเพราะในมือของนางเป็นผู้กุมอำจานของตำหนักมังกรแท้จริง ยิ่งไปกว่านั้น ราชันหญิงจื่อหลงยังเป็นระดับคงความอมตะตลอดกาลที่ปราศจากผู้ต่อกรในหล้าผู้หนึ่ง มีกำลังความสามารถเหนือกว่าเขาอีก

สิ่งนี้แหละคือสิ่งที่ทำให้พระอาริยะเทียนหลงให้ความเคารพนับถือด้วยใจจริง เขาให้ความเคารพต่อราชันหญิงจื่อหลงใช่เป็นเพราะความเคารพยำเกรงในอำนาจความเป็นฮ่องเต้ แต่เป็นเพราะราชันหญิงจื่อหลงมีกำลังความสามารถที่ทำให้เขาต้องให้ความเคารพและศิโรราบ

……………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล