ตอนที่ 3033 ได้แต่ประจบสอพรอ
“ลมปีศาจหยุดแล้ว ทรายสีดำหายไปแล้ว” ในเวลานี้เองมีผู้ที่อยู่ในศาลเจ้าพบว่าข้างนอกมีแต่เพียงความเงียบสงบ รีบร้องเสียงดังขึ้นมา
“ใช่ ลมปีศาจหยุดแล้วจริงๆ ทรายสีดำก็หายไปแล้ว” ผู้คนจำนวนไม่น้อยทยอยกันชะเง้อมอง และพบว่าด้านนอกไม่มีเหตุการณ์ใดๆ แล้ว ลมปีศาจ และทรายสีดำที่น่ากลัวเมื่อครู่ก็ได้อันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้วในเวลานี้
“แปลกจัง คราวนี้ทำไมถึงได้สั้นขนาดนี้ การมาของคราวที่แล้วได้โหมพัดกระหน่ำไปครึ่งค่อนวัน ทรายดำได้ปกคลุมไปทั่วทั้งพื้นที่” ผู้ยิ่งใหญ่ที่มีประสบการณ์มากมายถึงกับพึมพำขึ้นเมื่อก้าวเดินออกมาจากศาลเจ้า และรู้สึกว่ามันแปลก
“ไปต่อ ได้ยินมาว่าข้างในมีของดี มีผู้ค้นพบเกาะเดี่ยวที่ทะเลเพลิง” หลังจากที่ลมปีศาจหยุดลงแล้ว มียอดฝีมือที่ไม่สามารถรั้งอยู่ได้อีกต่อไป ออกเดินทางจากไปเพื่อเข้าไปยังบริเวณที่ลึกยิ่งกว่า
ภายในศาลเจ้า พวกของราชันแท้จริงเซิ่นซวง กระบือดำขนาดใหญ่ต่างมองตากันและกัน ผู้ที่แข็งแกร่งเฉกเช่นพวกเขารู้สึกประทับใจในพลังสยบเมื่อครู่นั้นลึกซึ้งมากเหลือเกิน
กล่าวสำหรับยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนคนอื่นๆ พวกเขาเพียงแค่เหมือนฝันไปอย่างนั้น ความรู้สึกเช่นนั้นมาไวไปไว ไม่ได้สร้างความประทับใจที่ลึกซึ้งเป็นพิเศษอะไรนัก เนื่องจากพวกเขายังก้าวไม่ถึงความสูงเช่นนี้ ไม่สามารถสัมผัสถึงอาณาจักรกาลเวลา
แต่ว่า พวกกระบือดำขนาดใหญ่ และราชันแท้จริงเซิ่นซวงนั้นแตกต่าง ภายใต้พลังที่สยบอดีตถึงปัจจุบันสายนั้น ได้ฝากความประทับใจที่ไม่อาจลบเลือนได้ และพวกเขาก็เข้าใจได้ว่าพลังดังกล่าวมาจากที่ใด
พวกเขาเองเข้าใจได้ว่า เพราะอะไรลมปีศาจ และทรายสีดำที่ตรงนี้จึงได้หายไปเร็ว ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นเพราะหลี่ชิเย่
ขณะที่กระบือดำขนาดใหญ่ และราชันแท้จริงเซิ่นซวงพวกเขาก้าวเดินออกมาจากศาลเจ้า หลี่ชิเย่ก็ได้ยืนอยู่ด้านนอกศาลเจ้าแล้ว เขายืนมือไพล่หลังหันหลังให้กับพวกเขา ท่าทางสงบและเรียบเฉยเหมือนไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้น
พวกของกระบือดำขนาดใหญ่เดินเข้าไปและมองดูอย่างละเอียด แต่ว่า ไม่สามารถมองออกถึงความนัยอะไร หลี่ชิเย่ดูไม่ทีท่าทางเหมือนผ่านศึกมาอย่างหนัก และหรือลงมือสยบอดีตถึงปัจจุบัน
หากไม่เป็นเพราะความรู้สึกที่รุนแรงอย่างยิ่งเมื่อครู่ ฝากความทรงจำที่ไม่สามารถทำลายล้างให้กับพวกเขาไปได้ พวกเขาก็ต้องเหมือนยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตน อื่นๆ เหล่านั้น เข้าใจว่านั่นเป็นเพียงความฝันเท่านั้นเอง
“ลมปีศาจ ทรายสีดำมันคืออะไรกันแน่?” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงเอ่ยถามหลี่ชิเย่ว่า “ดูเหมือนว่าไม่มีสิ่งใดสามารถต้านทานมันได้อย่างนั้น”
เมื่อครู่นั้น ราชันแท้จริงเซิ่นซวงเคยต่อต้านลมปีศาจสายนั้น และทรายสีดำ ถ้าหากในช่วงเวลาสั้นๆ อาศัยกำลังความสามารถของนางแล้ว สามารถต้านรับกับลมปีศาจ และทรายสีดำได้ กระทั่งสามารถทำให้ทรายดำให้บริสุทธิ์ได้เป็นปริมาณมาก
แต่ทว่า เจ้าลมปีศาจและทรายสีดำนี้เหมือนไม่มีสิ้นสุด ขอเพียงระยะเวลาทอดยาวไป แม้ว่าพลังความสว่างของนางจะแข็งแกร่งมากกว่านี้ก็ต้านเอาไว้ไม่ได้ เกรงว่าท้ายที่สุดแล้ว จุดจบของนางก็จะเหมือนเช่นยอดฝีมือคนอื่นๆ ถูกเทะจนเหลือแต่โครงกระดูกขาวเท่านั้นเอง
‘จิตโลภละโมบ’ หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า “แค่เพียงจิตที่โลภละโมบสายหนึ่งเท่านั้นเอง ชอบกินเป็นนิสัย”
“เพียงจิตที่โลภละโมบสายหนึ่ง…” ภายในใจของราชันแท้จริงเซิ่นซวงถึงกับสะดุ้ง หวาดหวั่นพรั่นพรึง นั่นแค่เพียงจิตที่โลภละโมบสายหนึ่งก็น่าสยองขวัญถึงเพียงนี้แล้ว ถ้าหากว่าเป็นต้นกำเนิดของมันล่ะก็ จะดำรงอยู่ในสถานะน่าสยองขวัญพียงใด?
“แข็งแกร่งมากกว่าที่เจ้าจินตนาการมากทีเดียว” หลี่ชิเย่มองดูราชันแท้จริงเซิ่นซวงทีหนึ่ง รู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ กล่าวเรียบเฉยว่า “จิตที่โลภละโมบสายหนึ่งลักษณะเช่นนี้ คือจิตโลภละโมบที่หลงเหลือตกหล่นตามอารมณ์ ณ ที่ตรงนี้เท่านั้นเอง ซึ่งเกิดขึ้นมายาวนานมากๆ แล้ว มิฉะนั้นล่ะก็ จิตที่โลภละโมบลักษณะเช่นนี้ก็จะแข็งแกร่งมากไปกว่านี้อีก”
ราชันแท้จริงเซิ่นซวงถึงกับใจหายใจคว่ำ กรณีนี้หากเป็นต้นกำเนิดจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าที่นางจินตนาการเสียอีก เหมือนดั่งที่หลี่ชิเย่ได้พูดเอาไว้อย่างนั้น บางทีความแข็งแกร่งเช่นนั้นหาใช่พวกเขาสามารถจินตนาการได้อยู่แล้ว
กล่าวสำหรับผู้คนบนโลกแล้ว ผู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุดไม่มีใครเกินไปกว่าระดับปฐมบรรพบุรุษ แต่ว่า ราชันแท้จริงเซิ่นซวงรู้ว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เป็นต้นว่า เหนือระดับปฐมบรรพบุรุษขึ้นไปยังมีผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า นั่นก็คือสามเซียน!
“ท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ได้พบกับเขาแล้ว?” กระบือดำขนาดใหญ่หัวเราะแหะแหะ และเอ่ยขึ้น
“แค่เห็นแวบๆ” หลี่ชิเย่พยักหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “ระมัดระวังตัวกว่าที่คาดคิดเสียอีก นับว่าเป็นผู้ที่สร้างความปวดหัวให้โดยแท้ มิฉะนั้นล่ะก็ ไหนเลยไม่มีใครพบตัวตลอดมาเล่า”
“บรรพบุรุษเลวเอ๊ย ข้าก็บอกแล้วไง เจ้าหินห่วยๆ ก้อนนี้จะไม่พุ่งออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่โดยไม่มีเหตุผลอยู่แล้ว และเรือปราบปรามไกลก็จะไม่กลับออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่โดยไร้เหตุผล แหะนี่จะเป็นการประลองกำลังที่ยาวนาน” กระบือดำขนาดใหญ่กล่าวพร้อมกับหัวเราะแหะแหะ
“แดนสามเซียนนับว่าโชคดี” หลี่ชิเย่เหลือบมองดูกระบือดำขนาดใหญ่ทีหนึ่ง เอ่ยเรียบเฉยขึ้นมาและมองไปยังที่ที่ห่างไกล
“แหะอนาคตก็โชคดีมากอยู่แล้ว” กระบือดำขนาดใหญ่รีบเอ่ยขึ้นมาว่า “มีท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่อยู่ทั้งคน แดนสามเซียนโชคดีตลอด แหะข้าเชื่อว่าเขาหลบไปไหนไม่พ้นหรอกนะ ขอเพียงท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ต้องการกำจัดมันทิ้ง ไม่ว่าเขาจะหลบซ่อนตัวที่ไหนก็ไร้ประโยชน์”
หลี่ชิเย่จ้องมองกระบือดำขนาดใหญ่ทีหนึ่ง หัวเราะส่ายหน้า และกล่าวว่า “ไม่ต้องเร่งรีบประจบสอพรอข้า ความดีความชอบเช่นนี้ข้าไม่กล้าแย่งชิง สิ่งนี้ล้วนแล้วแต่เป็นความพยายามของปรัชญาเมธีแดนสามเซียนพวกเจ้า แม้ว่าภัยที่เกิดย่อมมีสาเหตุ แต่ทว่า บรรดาปรัชญาเมธีของแดนสามเซียนได้พยายามเสมอมา และเสียสละเพื่อโลกนี้มามากทีเดียว”
“ท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ก็เสียสละมามากเหมือนกัน” กระบือดำขนาดใหญ่เป็นคนหน้าหนาเช่นนี้แหละ ประจบสอพรอต่อหลี่ชิเย่และกล่าวว่า “ในอนาคตพลันที่ท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ลงมือ ก็จะจัดการทุกอย่างสำเร็จลงด้วยการศึกเพียงครั้งเดียว คืนความสงบสุขให้กับแดนสามเซียน ผลงานเช่นนี้มีเพียงหนึ่งเดียวนับแต่อดีตถึงปัจจุบัน อันดับหนึ่งเป็นนิรันดร์ ยังจะมีใครบนโลกสามารถเทียบเคียงกับท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ได้เล่า…”
กระบือดำขนาดใหญ่พล่ามประจบสอพรอหลี่ชิเย่ไม่หยุด ความไร้ยางอายของเขานั้นอยู่เหนือจินตนาการของผู้อื่นมากทีเดียว
“อาจารย์ การประจบสอพรอเช่นนี้ของท่านดูจะชัดเจนเกินไปแล้วกระมัง” หลิ่วเยี่ยนไป๋ที่ได้ฟังความไร้ยางอายของอาจารย์ตนเช่นนี้ ถึงกับขนลุกขนพองทั้งตัว
“นังหนูนี่ สิ่งนี้ไหนเลยเรียกว่าเป็นการประจบสอพรอ กบในกะลาแล้วสิ สิ่งที่อาจารย์พูดไปล้วนเป็นความจริง อนาคตเจ้าก็จะเข้าใจเอง” กระบือดำขนาดใหญ่ชักสีหน้า ยากนักที่มีการพูดกับหลิ่วเยี่ยนไป๋ด้วยท่าทีเข้มงวดจริงจังเช่นนี้
หลิ่วเยี่ยนไป๋ถึงกับตะลึง เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นกระบือดำขนาดใหญ่เข้มและจริงจังขนาดนี้ ปรกติแล้วกระบือดำขนาดใหญ่มีลักษณะดูถูกเหยียดหยามและไม่ให้ความเคารพต่อผู้อื่น
“เป็นความพยายามอย่างยิ่งของอาจารย์เจ้าเหมือนกัน” หลี่ชิเย่ยิ้มๆ และส่ายหน้าเบาๆ
แม้ว่าการพูดพล่ามประจบสอพรอหลี่ชิเย่ไม่หยุดของกระบือดำขนาดใหญ่เช่นนี้ ฟังดูเหมือนหน้าไม่อายจริงๆ อย่างยิ่ง และไม่มีจังหวะจะโคน ผู้ที่ไม่รู้ความยังเข้าใจว่าตัวเขานี่ช่างน่าสะอิดสะเอียนมากเหลือเกิน
อย่างไรก็ตาม ในสายตาของราชันแท้จริงเซิ่นซวงมองดูแล้ว กลับรู้สึกเคารพเลื่อมใสขึ้นมาทันที ที่กระบือดำขนาดใหญ่ประจบสอพรอหลี่ชิเย่ไม่ได้ทำเพื่อตนเอง ท่ามกลางคำพูดเช่นนี้ของเขาไม่รู้ว่าได้ช่วยอาณาประชาราษฎร์ของแดนสามเซียนเท่าไร ช่วยชีวิตผู้คนได้จำนวนเท่าไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...