ตอนที่ 3034 ขอดมหน่อย
ทะเลเพลิงคือมหาสมุทรลาวา เมื่อทอดสายตามองออกไป เต็มไปด้วยลาวาที่ไหลเคลื่อนที่ไปทุกที่ ผืนแผ่นดินทั้งผืนถูกหลอมละลายไปทั้งผืน
ที่น่ากลัวที่สุดหาใช่ลาวาที่ไหลเคลื่อนที่ไป แต่เป็นไฟโลกันตร์ที่ซ่อนอยู่ภายในลาวานั่น ในลาวามีฟองลาวาอยู่จำนวนไม่น้อย เมื่อใดที่ฟองลาวาระเบิดแตกออกก็จะมีไฟโลกันตร์พุ่งขึ้นมา
ไฟโลกันตร์ที่อยู่ข้างในนั้นมีความน่ากลัวอย่างยิ่ง สามารถเผาผลาญทุกสิ่งทุกอย่างจนหายวับไปกับตาในพริบตาเดียว เทพแท้จริงขั้นอมตะก็ยากที่จะรองรับกับไฟโลกันตร์ที่น่ากลัวเช่นนี้ได้
ดังนั้น ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่ก้าวเท้าเข้าไปยังทะเลเพลิงล้วนระมัดระวังตัวอย่างยิ่ง และหรือออกห่างให้ไกลๆ เพื่อป้องกันถูกไฟโลกันตร์ในลาวาไหม้ตัว มิฉะนั้นแล้ว หากไม่ทันระวังก็ต้องตายอย่างอนาถท่ามกลางทะเลเพลิงจนร่างหายวับไปกับตาในพริบตา ตายอย่างไร้ที่ฝัง
“ดูนั่น…” ในเวลานี้ราชันแท้จริงเซิ่นซวงถึงกับชี้ไปข้างหน้าและกล่าวเสียงทุ้มต่ำขึ้นมา
ทุกคนเงยหน้าขึ้นมอง ณ บริเวณที่ลึกเข้าไปภายในทะเลเพลิง มองเห็นแสงไฟที่แวบวับ ท่ามกลางไฟแวบวับนั่นยังมีประกายกระบี่แต่ละสายที่แวบวับอยู่
มีคำกล่าวคำหนึ่งกล่าวเอาไว้ว่า น้ำฮวงโหมาจากบนสวรรค์ แต่ว่า นาทีนี้เวลานี้ขณะมองเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า อยากจะพูดขึ้นมาว่า น้ำทะเลเพลิงมาจากสวรรค์
ลาวาที่อยู่ในทะเลเพลิงทั้งหมดเหมือนว่าล้วนแล้วแต่มาหลั่งไหลออกมาจากบริเวณส่วนที่ลึกที่สุดของทะเลเพลิงทั้งสิ้น
เวลานี้ มองดูทะเลเพลิงจากระยะห่างไกล บริเวณส่วนที่ลึกเข้าไปมากที่สุดของทะเลเพลิงนั้น ดูเหมือนว่าที่ตรงนั้นก็คือส่วนที่สูงที่สุดของทะเลเพลิงทั้งหมด ที่ตรงนั้นเหมือนมีภูเขาไฟที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารลูกหนึ่ง
ภูเขาไฟที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารลูกหนึ่งเช่นนี้ เหมือนว่ามันตั้งตระหง่านอยู่บริเวณกึ่งกลางสุดของทะเลเพลิง มันตั้งตระหง่านสูงใหญ่ ดุจดั่งสามารถทะลุขึ้นไปบนจักรวาล
ดูไปแล้ว เป็นภูเขาไฟที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารลูกนี้แหละที่มีลาวาไหลทะลักลงมา แต่ในความเป็นจริงแล้วใช่ลาวาที่ไหลรินออกมาจากตรงนั้น สิ่งที่ไหลรินออกมาจากตรงนั้นเป็นเพียงไฟโลกันตร์เท่านั้นเอง
เมื่อไฟโลกันตร์ไหลออกมาก็เผาผลาญสรรพสิ่ง หลอมละลายฟ้าดิน ดังนั้นทะเลเพลิงทั้งหมดล้วนกลับกลายเป็นมหาสมุทรลาวา มันเป็นผลจากการหลอมละลายของผืนแผ่นดิน
แต่ว่า เมื่อไปรับรู้มันอย่างละเอียดก็จะพบว่า ลึกเข้าไปในทะเลเพลิง บนภูเขาไฟที่สูงใหญ่ยากจะหาใดเทียมนั้นมีพลังกระบี่ที่ตลบอบอวล แม้จะห่างไกลกันนับพันนับหมื่นลี้ พลังกระบี่ยังคงสามารถตลบอบอวลมาถึงตรงนี้ได้
เมื่อมองจากระยะห่างไกล บริเวณภูเขาไฟนั่นมีประกายกระบี่วูบวาบ เหมือนมีกระบี่ศักดิ์สิทธิ์สูงสุดเล่มหนึ่งปักอยู่ที่ตรงนั้น เมื่อกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ลักษณะเช่นนี้ปักอยู่ตรงนั้นแล้ว ได้ทำการปักตรึงทุกสิ่งทุกอย่างของฟ้าดินเอาไว้ตรงนั้น จัดการหยุดทุกอย่างเอาไว้อย่างนั้น
ดูเหมือนว่าแม้ทะเลเพลิงโดยรวมจะมีขนาดใหญ่มากกว่านั้นก็ตาม สุดท้ายแล้วยังคงถูกกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เล่มนั้นตรึงเอาไว้อยู่ตรงนั้น ซึ่งสร้างความรู้สึกให้กับผู้คนว่า หากไม่มีกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เล่มนั้นตรึงอยู่ตรงนั้นล่ะก็ ภูเขาไฟที่สูงใหญ่อย่างยิ่งก็จะระเบิดขึ้นมา และไฟโลกันตร์ หรือลาวาที่ปะทุขึ้นมาสามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกจนพินาศย่อยยับ สรรพสิ่งล้วนแล้วแต่หายวับไปกับตาในพริบตา
ด้วยเหตุที่มีกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้ที่ตรึงอยู่ตรงนั้น ทำการสยบภูเขาไฟเอาไว้ ทำให้โลกนี้ได้ดำรงอยู่ ทำให้ฟ้าดินแห่งนี้ยังคงอยู่ด้วยความโชคดี
“พลังกระบี่ที่แข็งแกร่งมาก” แม้จะห่างไกลกันมากทีเดียว ราชันแท้จริงเซิ่นซวงยังต้องเสียวสันหลังวาบ เนื่องจากการที่กระบี่ศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้ถูกตรึงอยู่ที่ตรงนั้น ทำให้ผู้คนรุ้สึกว่าเหล่าเวไนยสัตว์ทั้งหลายใต้หล้าล้วนถูกตรึงเอาไว้ตรงนั้น ไม่ว่าจะเป็นราชันแท้จริงปราศจากผู้ต่อกร หรือว่าปฐมบรรพบุรุษเป็นนิรันดร์ ล้วนแล้วแต่ถูกตรึงเอาไว้ภายใต้กระบี่ศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้
“นี่ไหนเลยแค่พลังกระบี่เท่านั้น…” กระบือดำขนาดใหญ่มองภาพนี้จากระยะห่างไกล แล้วกล่าวขึ้นเบาๆ ว่า “นี่เป็นจิตยึดติดด้วย จิตยึดติดที่ไม่สลาย”
หลี่ชิเย่เพียงมองจากระยะห่างไกลไปยังภูเขาไฟที่อยู่ห่างไกลนั่นทีหนึ่ง เพ่งมองด้วยดวงตาทั้งสอง สุดท้ายแค่กล่าวเรียบเฉยว่า “หนึ่งการสู้รบสั่นสะเทือนเป็นนิรันดร์ สิ่งนี้ก็เป็นการบอกเล่าบางสิ่งบางอย่างกับชนรุ่นหลัง”
“มันเป็นศึกลักษณะเช่นใดกันแน่เล่า?” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงถึงกับสะท้าน นี่ไม่เพียงแค่ตรงนี้ได้กลับกลายเป็นโลกของลาวาเท่านั้น ที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือ หลังการศึกผ่านไปพันล้านปี ได้คงจิตที่ยึดติดที่ไม่สามารถทำลายได้เอาไว้ จึงเป็นผลทำให้มีสภาพอย่างที่เห็นในวันนี้
“อืมยังจะเป็นการศึกแบบไหนได้อีก” กระบือดำขนาดใหญ่หัวเราะแหะแหะ และกล่าวว่า “ขัดแย้งกันภายในระหว่างปฐมบรรพบุรุษน่ะสิ นี่แหละคือสมรภูมิสู้รบระดับปฐมบรรพบุรุษ กลิ่นอายนั่นสามารถรับรู้ได้อย่างสิ้นเชิง”
ราชันแท้จริงเซิ่นซวงอ้าปากจะพูด สุดท้ายก็หยุด นางเข้าใจในคำพูดของกระบือดำขนาดใหญ่ว่าหมายถึงใคร
“เข้าไปกัน พวกเราจะได้รับคำตอบเร็วมาก” หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง ก้าวเท้าเข้าไปในทะเลเพลิง ก้าวข้ามลาวาไปทีละก้าวๆ
แน่นอน กล่าวสำหรับหลี่ชิเย่แล้วเขาไม่ได้กังวลในไฟโลกันตร์อะไรนั่น สายตาของเขามองไปที่ส่วนที่ลึกเข้าไปในทะเลเพลิง ที่ตรงนั้นจึงเป็นที่ที่จะไขปริศนาได้
สิ่งนี้ก็คือต้นเหตุของศึกยิ่งใหญ่ในครั้งนั้น ในครั้งนั้นเคยมีผู้แย่งชิงกัน สุดท้ายประทุเป็นศึกยิ่งใหญ่ในหล้า
พวกของราชันแท้จริงเซิ่นซวงก้าวตามเข้าไปติดๆ เข้าสู่มหาสมุทรลาวาที่ร้อนแผดเผาอย่างยิ่ง แน่นอน กล่าวสำหรับกระบือดำขนาดใหญ่ ราชันแท้จริงเซิ่นซวงแล้ว ไฟโลกันตร์ที่อยู่ในลาวาก็ไม่สามารถเผาผลาญพวกเขาได้
ทะเลเพลิงแห่งนี้กว้างเป็นพันเป็นหมื่นลี้ แม้ว่าพวกหลี่ชิเย่จะไม่เหมือนเช่นยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนคนอื่นๆ ที่ระมัดระวังอย่างยิ่ง แต่ว่าหากคิดจะก้าวเดินไปจนสุดทางข้างในนั่น ก็ต้องอาศัยเวลาบ้าง
“ข้างหน้าทีผู้พบเห็นเกาะเขียว รีบเข้า น่าจะมีของดีอยู่” ในขณะที่พวกหลี่ชิเย่ก้าวเดินไปข้างหน้าอยู่นั้น ด้านหน้ามีผู้ร้องเสียงดังขึ้นมา และเร่งความเร็วขึ้นทันที กระทั่งมีบางคนไม่สนเรื่องของอันตรายแล้ว
ชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ไม่รู้ว่ามียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนเท่าไรที่เฮโลกันเข้าไป มุ่งหน้าไปยังที่ตั้งเกาะเขียว
ในขณะนี้ หลี่ชิเย่ได้หยุดเดินและสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง จากนั้นส่งเสียงจิ๊ดจ๊าดทีหนึ่ง มองดูกระบือดำขนาดใหญ่ กล่าวเรียบเฉยว่า “เจ้าสูดดมได้กลิ่นอะไรบ้างหรือไม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...