ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 3037

ตอนที่ 3037 เทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่ม

เทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่ม และอำมาตย์เต่า คนรับใช้เก่าแก่ของเทพสงครามจินเปี้ยนยืนอยู่ข้างทะเลสาบ มองดูต้นหลินจือวิเศษหิมะทองคำไฟศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่กลางทะเลสาบ

“ฝ่าบาทตรัสได้ถูกต้อง เป็นความจริงที่นี่มีสิ่งของเซียนปรากฏขึ้นมา” อำมาตย์เต่ามองดูต้นหลินจือวิเศษหิมะทองคำไฟศักดิ์สิทธิ์ ดวงตาทั้งสองพวยพุ่งเป็นประกายสีทองออกมา และกล่าวว่า “หลินจือนี้คือสิ่งของเซียนสูงสุด พวกเราจะต้องได้มาให้ได้”

แม้ว่าอำมาตย์เต่าผู้นี้ไม่ได้ระเบิดอานุภาพที่สะเทือนเลื่อนลั่นออกมา แต่ความจริงแล้ว เขาก็คือระดับคงความอมตะตลอดกาลที่แข็งแกร่งคนหนึ่งเช่นกัน สมควรทราบว่าเขานั้นคือผู้ที่เฝ้าดูการเติบใหญ่ของเทพสงครามจินเปี้ยน

นอกเหนือจากตัวเขาจะเป็นคนรับใช้เก่าแก่ของเทพสงครามจินเปี้ยนแล้ว ในระดับหนึ่งเขาก็เคยเป็นองครักษ์ของเทพสงครามจินเปี้ยน คอยให้การปกป้องคุ้มครองเทพสงครามจินเปี้ยนที่ยังเยาว์วัย ก่อนหน้าขณะที่เขายังไม่ได้เป็นคนรับใช้เก่าแก่ของเทพสงครามจินเปี้ยนนั้น เขาคือระดับบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งของตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยน

หลังจากเทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มมองดูต้นหลินจือวิเศษหิมะทองคำไฟศักดิ์สิทธิ์แวบหนึ่งแล้ว จากนั้น เขากวาดสายตาไปรอบๆ มองเห็นพวกของหลี่ชิเย่ สุดท้าย สายตาของเขาได้ตกไปอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่

“เจ้าก็คือคนโหดอันดับหนึ่งคนนั้น” เทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มเพ่งสายตาไปยข้างหน้า และกล่าวขึ้นมาช้าๆ

หลังจากที่สายตาของเทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มได้ล็อกเป้าอยู่ที่หลี่ชิเย่แล้ว ผู้คนจำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองมาทางด้านนี้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างกลั้นหายใจเอาไว้ในขณะนี้

ผู้คนจำนวนมากต่างก็รู้ว่า ครั้งนั้นขณะอยู่ที่ด่านเทียนสงกวานนั้น คนโหดอันดับหนึ่งหลี่ชิเย่เคยอาศัยมือข้างเดียวสังหารร่างจำแลงของเทพสงครามจินเปี้ยน กล่าวได้ว่า ระหว่างคนโหดอันดับหนึ่งกับเทพสงครามจินเปี้ยนได้ผูกความเป็นศัตรูเอาไว้แล้ว

หลี่ชิเย่เพียงมองดูเขาเรียบเฉยแวบหนึ่งและไม่ได้ให้ความสนใจ สายตาของเขาจ้องมองแต่เพียงต้นหลินจือวิเศษหิมะทองคำไฟศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น

“ใจกล้าไม่เบาเลยนี่ กล้าเป็นศัตรูกับตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยน กล้าเป็นศัตรูกับเผ่าจินเปี้ยน” เทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มกล่าวขึ้นช้าๆ แม้ว่าน้ำเสียงของเขาไม่ได้มีอารมณ์โกรธแม้แต่น้อย แต่ทว่า ไม่ทราบเป็นเพราะอะไร ขณะที่เขาพูดคำพูดลักษณะเช่นนี้ออกมานั้น ทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนกระบี่ออกจากฝัก แม้ว่าเหมือนมีปณิธานกระบี่สายหนึ่งที่ฟันผ่านคอหอยไป

“จะสู้กันแล้วรึ?” มีผู้คนจำนวนไม่น้อยถึงกับสั่นเทาเมื่อรับรู้ถึงพลังกระบี่สายนั้นของเทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่ม

“มีความเป็นไปได้ เทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มหนิวหวินเหาเป็นคนเรื่องมาก” ระดับบรรพบุรุษผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “กระบวนท่ากระบี่ของเขาหนักแน่นปราศจากผู้ต่อกร เล่าลือกันว่าไม่มีใครสามารถต้านหนึ่งกระบวนท่าของเขาได้ เขาอาศัยเพียงครึ่งกระบวนท่าก็สามารถสยบศัตรูได้ เคยมีผู้ที่ประมาณการว่า เมื่อเทียบกับเทพสงครามจินเปี้ยนแล้ว ไม่เห็นว่าเทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มจะด้อยกว่ากันตรงไหน”

“แค่ตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยนและเผ่าจินเปี้ยนเท่านั้นเอง” ในเวลานี้ หลี่ชิเย่จึงได้ยิ้มบางๆ ท่าทีเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และกล่าวว่า “ไม่คู่ควรจะกล่าวถึง”

“อหังการ…” พลันที่หลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่อยู่ในเหตุการ์ต้องใจหายใจคว่ำ ในขณะนี้ พวกเขาอดที่จะมองหน้าซึ่งกันและกันไม่ได้

ตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยนคือหนึ่งในระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นเผ่าขนาดใหญ่ของแดนลัทธิเซียน มาวันนี้เมื่อออกจากปากของหลี่ชิเย่ กลับกลายเป็นไม่คู่ควรจะกล่าวถึง นับว่าอวดดีมากเหลือเกิน อหังการมากเหลือเกิน เป็นการไม่เห็นใครอยู่ในสายตาโดยแท้

ดังนั้น พลันที่หลี่ชิเย่พูดขาดคำ นักรบของกองทัพเสินจุ้งล้วนแล้วแต่มองไปที่หลี่ชิเย่ แววตาของพวกเขาเปี่ยมด้วยปณิธานการฆ่า!

กองทัพเสินจุ้งคือกองทัพที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกร คู่ต่อสู้ของพวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะราชันแท้จริง อีกทั้งพวกเขาไม่เพียงมีชาติกำเนิดมาจากตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยน ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีชาติกำเนิดมาจากเผ่าจินเปี้ยนอีกด้วย คำพูดที่ดูแคลนเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ แล้วจะไม่ให้พวกเขาต้องโกรธได้อย่างไรกันเล่า

เทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มถึงกับส่งเสียงฮึเย็นชาขึ้นมา ดวงตาทั้งสองพลันเผยให้เห็นถึงปณิธานการฆ่า ได้ยินเสียงตึงดังขึ้นเสียงหนึ่ง พลันทำให้ปณิธานกระบี่ตลบอบอวล เหมือนฟ้าดินทั้งหมดล้วนกลับกลายเป็นอาณาจักรกระบี่ในพริบตาเดียว

เสียงปุ…ดังขึ้นเสียงหนึ่ง ในพริบตาเดียวนี้เอง เพียงได้ยินเสียงแตกร้าวดังขึ้น นาทีนี้ในทะเลสาบได้ปรากฏเงาคนขึ้นอีกแล้ว เงาคนสองคนเคียงคู่ปรากฏตัวยืนอยู่ท่ามกลางทะเลสาบ

“เป็นเด็กเด็กอัจฉริยะสามตา และราชันแท้จริงหลิงซิน พวกเขาได้ทะลุผ่านชั้นที่เก้าได้แล้ว หลินจือวิเศษหิมะทองคำไฟศักดิ์สิทธิ์อยู่แค่เอื้อม” มีผู้ที่ร้องเสียงดังขึ้นมา เมื่อเห็นร่างเงาสองคนที่ปรากฎอยู่กลางทะเลสาบ

เวลานี้ สองคนที่ยืนอยู่กลางทะเลสาบก็คือเด็กอัจฉริยะสามตา และราชันแท้จริงหลิงซินนั่นเอง พวกเขาทั้งสองโดยสารมาด้วยกันกับดอกบัวดอกหนึ่ง ดูจากท่าทางของพวกเขาแล้ว สมกันไร้ที่ติ

ย่อมไม่ต้องสงสัย ขณะที่พวกเขาร่วมมือกันฝ่าฟ้าดินเก้าชั้นนั้น ยิ่งเป็นการปรับสัญญาลับที่เป็นที่รู้กันทั้งสองฝ่ายให้แน่นแฟ้นและเข้ากันได้มากยิ่งขึ้น ทุกๆ การเคลื่อนไหวระหว่างพวกเขาล้วนมีการร่วมมือกันอย่างรู้ใจกันโดยไม่รู้ตัว

เวลานี้ เด็กอัจฉริยะสามตา และราชันแท้จริงหลิงซินสองคนต่างยืนอยู่ที่กลางทะเลสาบแล้ว ด้านหน้าของพวกเขาก็คือลาวาที่เดือดพล่าน ในขณะนี้ พวกเขาอยู่ห่างจากหลินจือวิเศษหิมะทองคำไฟศักดิ์สิทธิ์เพียงแค่เอื้อม เหมือนว่าสามารถได้หลินจือวิเศษหิมะทองคำไฟศักดิ์สิทธิ์มาครอบครองเพียงแค่เอื้อมมือ

ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกตระหนก เมื่อมองเห็นเด็กอัจฉริยะสามตา และราชันแท้จริงหลิงซินอยู่ใกล้หลินจือวิเศษหิมะทองคำไฟศักดิ์สิทธิ์มากถึงเพียงนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มียอดฝีมือและผู้ยิ่งใหญ่จำนวนมากที่เข้าไป แต่ว่า พวกเขาจำนวนไม่น้อยได้ตายอนาถอยู่ในนั้นหมดแล้ว ณ ขณะนี้เด็กอัจฉริยะสามตา และราชันแท้จริงหลิงซินพวกเขาสองคนคือผู้ที่อยู่ใกล้หลินจือวิเศษหิมะทองคำไฟศักดิ์สิทธิ์มากที่สุดแล้ว

“หรือว่าหลินจือเซียนจะต้องถูกพวกเขาได้เป็นเช่นนี้เสียแล้ว” มีผู้อดร้องเสียงดังขึ้นมาไม่ได้ เมื่อเห็นพวกเขาทั้งสองอยู่ใกล้หลินจือเซียนมากขนาดนี้

“เทพสวรรค์หลานรัก พวกเราจะต้องได้หลินจือเซียนมาครอง” ในเวลานี้อำมาตย์เต่ากล่าวเสียงทุ้มต่ำขึ้นมา

“ข้าไป” เทพสวรรค์กระบี่ครึ่งเล่มร้องเสียงทุ้มต่ำขึ้น เหินฟ้าขึ้นและได้ยินเสียงกระบี่คำรามดังตึงเสียงหนึ่ง กระบี่หนักแน่น แทงทะลุฟ้าดินในพริบตา ในพริบตาเดียวนั่นเองร่างกายเคลื่อนที่ไปตามกระบี่และหายตัวไปท่ามกลางทะเลสาบ

อำมาตย์เต่ามีสีหน้าที่ปั้นยากเมื่อถูกกระบือดำขนาดใหญ่เรียกว่า ‘หลานเต่า’ ชักสีหน้าและกล่าวน้ำเสียงเย็นชาว่า “การกระทำของตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยนไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ผู้อื่นรับทราบ”

คำพูดของอำมาตย์เต่าใช้อำนาจบาตรใหญ่ยิ่ง และแข็งกร้าวมาก แน่นอน ตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยนพวกเขาก็มีความมั่นใจเช่นนี้จริงๆ ทั่วแดนลัทธิเซียนมีคน และหรือระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิที่กล้าเอะอะเอ็ดตะโรต่อตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยนของพวกเขาไม่มาก

“ก็จริง” กระบือดำขนาดใหญ่ไม่แคร์ ยักไหล่ทีหนึ่งและมองหน้าอำมาตย์เต่าทีหนึ่ง จากนั้นก็มองดูเด็กอัจฉริยะสามตา และราชันแท้จริงหลิงซิน และพูดขึ้นเหมือนไม่ตั้งใจว่า “ข้าว่านะ พวกเขานับเป็นคู่รักจริงๆ เทพบุตรเทพธิดา คู่รักฟ้าดินสร้างสรรค์ แหะท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ พวกเราช่วยให้พวกเขาได้คู่กันกลายเป็นคู่รักเทพดีมั้ย?”

คำพูดของกระบือดำขนาดใหญ่ชัดเจนว่าเป็นการจงใจ ต่อให้ผู้พูดไม่ได้ตั้งใจ แต่สะเทือนใจผู้ฟัง

สีหน้าอำมาตย์เต่าพลันเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองมาทางด้านนี้

ทุกคนใต้หล้าต่างรับรู้ถึงการเกี่ยวดองสมรสระหว่างตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยนกับแคว้นอีเดน และราชันแท้จริงหลิงซินคือคู่หมั้นของเทพสงครามจินเปี้ยน ซึ่งเป็นเรื่องที่รับรู้กันทั่วหล้าอยู่แล้ว

เวลานี้กระบือดำขนาดใหญ่ดันพูดว่าเด็กอัจฉริยะสามตา และราชันแท้จริงหลิงซินคู่กันเสียอย่างนั้น กระทั้งต้องการแนะนำให้พวกเขาได้กลายเป็นคู่รักเทพ มิเท่ากับเป็นการตบหน้าตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยน ตบหน้าเทพสงครามจินเปี้ยนอย่างนั้นรึ?

ที่สำคัญมากกว่าก็คือ ในขณะนี้เด็กอัจฉริยะสามตา และราชันแท้จริงหลิงซินสองคนอยู่ด้วยกันเวลานี้จริงๆ แม้ว่าระหว่างพวกเขาทั้งสองไม่มีเรื่องชู้สาวและความสัมพันธ์ใดๆ ก็ตาม แต่ทว่า หลังจากกระบือดำขนาดใหญ่ได้พูดคำๆ นี้ออกมาแล้ว มันยิ่งเหมือนกับเป็นการราดน้ำมันลงไปในกองไฟ

“แล้วทำไมจะไม่ได้” หลี่ชิเย่พยักหน้าเบาๆ และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “เป็นความจริงที่พวกเขาเหมาะสมกันมาก ดั่งเทพบุตรเทพธิดา ข้าเองก็ยินดีที่จะได้เห็นการลงเอยเช่นนี้”

“คนโหดอันดับหนึ่งช่างบ้าระห่ำอะไรอย่างนั้น” ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างมองหน้ากันและกัน เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ชิเย่

ทุกคนต่างฟังออกได้ว่า คนโหดอันดับหนึ่งต้องการสลับคู่มั่ว ต้องการให้เทพสงครามจินเปี้ยนกับราชันแท้จริงหลิงซินแยกจากกัน

ราชันแท้จริงเซิ่นซวงเองก็เข้าใจ เมื่อได้ฟังคำเช่นนี้แล้ว ขณะที่หลี่ชิเย่พูดคำพูดเช่นนี้ออกมานั้น ไม่ได้เป็นความคิดที่เกิดขึ้นกะทันหัน พริบตาเดียวนี้เอง นางได้มองเห็นจุดจบของเรื่องนี้แล้ว

……………………………………………….