ตอนที่ 3060 ธนูทะลุเมฆาหนึ่งดอก กองทัพหมื่นพันมาพบ
ดวงตาทั้งสองของเทพสงครามจินเปี้ยนดูน่าเกรงขาม เปี่ยมด้วยกลิ่นอายการฆ่า โดยไม่ได้มีความคิดที่จะยอมอ่อนข้อให้ กล่าวน่าเกรงขามว่า “ข้าจะต้องเป็นปฐมบรรพบุรุษให้ได้ ใครขวางทางข้า ตาย! หอจรัสศักดิ์สิทธิ์ก็เช่นกัน!”
ตูม ตูม ตูม…เสียงดังตูมตามดังขึ้นเป็นระลอก ขณะที่เทพสงครามจินเปี้ยนพูดขาดคำ บนท้องฟ้าปรากฎลำแสงแต่ละสายที่ส่องลงมา ทุกๆ ลำแสงล้วนแล้วแต่ดูแวววาว
เมื่อลำแสงแต่ละสายที่สาดส่องลงมานั้น รัศมีแสงส่องสว่างทั่วหล้าอย่างเสมอภาค ปรากฎวงแหวนแสงขึ้นตรงนั้น วงแหวนแสงที่ปรากฎขึ้นกับลำแสงทุกๆ สาย คล้ายเป็นการเปิดโลกแห่งความสว่างโลกแล้วโลกเล่าออกมา
ได้ยินเสียงดังปัง ปัง ปังขึ้นภายในวงแหวน กองทัพแต่ละทัพเสมือนดั่งลงมาจากฟ้า และเข้าไปอยู่ในวงแหวนแสง
วงแหวนแสงเป็นร้อยพันได้รายล้อมไปทั่วท้องฟ้าภายในระยะเวลาอันสั้น กองทัพนับร้อยพันพลันถูกส่งมาอยู่บนท้องฟ้าของดาวเคราะห์ดวงนี้
เสียงตูม…ดังสนั่น กองทัพหมื่นพันได้รวมตัวกัน ประกายแสงที่ศักดิ์สิทธิ์พลันส่องสว่างทั่วทั้งโลก แสงสว่างได้ท่วมไปทั่วสมรภูมิรบ
เวลานี้เอง กองทัพจรัสนับล้านได้ปรากฏตัวขึ้น นับรบทุกคนของกองทัพล้วนสวมชุดเกราะที่มันวาว และมีประกายศักดิ์สิทธิ์วูบวาบออกจากตัวของพวกเขา แลดูศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก พวกเขาเสมือนดั่งเป็นกองทัพที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งซึ่งลงมาจากท้องฟ้า
ด้วยกองทัพจรัสเป็นล้านเช่นนี้พลันปรากฏขึ้นมา ไม่เพียงแต่กล้าหาญเด็ดเดี่ยวเท่านั้น อีกทั้งพลังของพวกมันยังพันธนาการโลกทั้งโลกเอาไว้ ความมืดใดๆ ความชั่วร้ายใดๆ ล้วนได้รับการลงโทษจากพลังแสงสว่างนั้น
ในเวลานี้เอง บนท้องฟ้าได้ตัดสินโทษทัณฑ์แล้ว เหมือนว่าที่ตรงนั้นก็คือที่ตั้งของแคว้นสวรรค์แสงสว่าง อีกทั้งยังมีฟ้าร้องฟ้าผ่าแวบวับ พร้อมที่จะส่งคำตัดสินจากแคว้นสวรรค์แสงสว่างลงมา
“นี่ นี่ นี่เป็นกองทัพที่มาจากไหนกัน…” ในเวลานี้ได้ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยมองด้วยความมึนงง เมื่อมองเห็นนักรบจรัสจำนวนมาก ทุกคนต่างมองดูด้วยความงงงัน ทุกคนต่างไม่เคยเห็นกองทัพเช่นนี้มาก่อน
“กองทัพจรัสนี้คือกองทัพของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์” ระดับบรรพบุรุษได้กล่าวขึ้น
มีผู้อาวุโสรุ่นบุกเบิกที่ผมเผ้าขาวโพลนหลังจากได้เห็นกองทัพนี้แล้วรู้สึกใจหายใจคว่ำ กล่าวเสียงหลงขึ้นมาว่า “โอ้แม่จ๋า นี่มันบ้าไปแล้วรึ? กี่ปีมาแล้วนี่ที่กองทัพจรัสไม่เคยปรากฏขึ้นมาอีกเลย เวลานี้ถึงกับโผล่ขึ้นมา นี่ นี่ นี่เหลือเชื่อไปแล้ว”
“หอจรัสศักดิ์สิทธิ์ พวก พวก พวกเขามีกองทัพด้วยรึ?” ผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนมากรู้สึกว่ามันเหลือเชื่อเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ กล่าวเสียงแผ่วเบาขึ้นมาว่า “หอจรัสศักดิ์สิทธิ์พวก พวก พวกเขาเป็นสถาบันศึกษามิใช่รึ? ทำไมจึงมีกองทัพด้วยเล่า?”
“ไร้สมอง เจ้าคิดว่าหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ก็คือสถาบันศึกษาง่ายดายขนาดนั้นรึ” ระดับบรรพบุรุษส่ายหน้า และกล่าวว่า “หอจรัสศักดิ์สิทธิ์คือระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิที่ยิ่งใหญ่ขนาดไหน มีแผ่นดินบริสุทธิ์พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ใต้หล้าต่างต้องการอย่างยิ่ง มีภูเขาที่มีแร่ธาตุ มีแปลงสมุนไพร ทรัพยากรจำนวนนับไม่ถ้วน เรียกได้ว่าอยู่ในแถวหน้าของแดนลัทธิเซียน ถ้าหากพวกเขาไม่มีกำลังที่เพียงพอคงถูกผู้อื่นแย่งชิงไปจนสิ้นแล้ว”
เมื่อมีการพูดออกมาเช่นนี้ ทำให้ผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนมากถึงกับตะลึงงัน คำพูดเช่นนี้ก็มีเหตุผลอย่างยิ่ง ลองจินตนาการดูว่า หอจรัสศักดิ์สิทธิ์มีทรัพยากรจำนวนเท่าไรอยู่ในครอบครอง แค่บรรดาผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ก็ทำให้ยอดฝีมือของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจำนวนเท่าไรอยากได้ครอบครองอย่างยิ่ง
ถ้าหากว่าหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้มีกำลังที่จะคุ้มครองตนเอง เกรงว่าทรัพยากรทั้งหมดของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์คงถูกชิงเอาไปจนสิ้น ถูกผู้อื่นขนเอาไปจนหมดแล้ว
“กองทัพจรัสของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน เพียงแต่น้อยครั้งที่ปรากฎตัวขึ้นมาเท่านั้น เนื่องจากหอจรัสศักดิ์สิทธิ์วางท่าทีเป็นกลางตลอดมา ไม่เขาไปพัวพันกับการแย่งชิงของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิใดๆ ดังนั้น ผู้คนในหล้าน้อยคนนักที่มีโอกาสได้พบเห็นกองทัพจรัสของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์” เวลานี้มีบรรพบุรุษได้อธิบายให้ผู้เยาว์ได้รับฟัง
หลังจากที่ผู้คนจำนวนมากได้ฟังคำเช่นนี้แล้ว จึงได้เข้าใจขึ้นในทันที
ปัง…เสียงดังสนั่นหวั่นไหว กริฟฟอนตัวหนึ่งก้าวเข้ามา ผู้ที่นั่งบนหลังมาก็คือใต้เท้าเซิ่นตู๋ของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง
“ได้ยินมาว่า มีผู้ต้องการทำลายหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ข้า…” เวลานี้ ใต้เท้าเซิ่นตู๋ร้องกล่าวเสียงทุ้มต่ำ และร้องเสียงอันดังขึ้นมาว่า “วันนี้ หอจรัสศักดิ์สิทธิ์ของข้าจะต้องกำจัดมารผดุงคุณธรรม”
ขาดคำ ใต้เท้าเซิ่นตู๋ได้หยิบเอาเขาสัตว์ส่งสัญญาณขึ้นมา โดยที่เขาสัตว์ดังกล่าวมีความเก่าแก่โบราณและเรียบง่ายยิ่งนัก ไม่ทราบว่าเจียระไนมาจากเขาอะไรกันแน่
“พี่เซิ่นตู๋ เข้าใจผิด เข้าใจผิด เข้าใจผิดมหันต์แล้ว…” เทพผยองสุริยันที่เดิมต่อสู้กันกับเหล่าจวินนัยน์ตาเทพอย่างเอาเป็นเอาตายรู้สึกตกใจยิ่งนัก เมื่อเห็นใต้เท้าเซิ่นตู๋หยิบเอาเขาสัตว์ให้สัญญาณนี้ออกมา จึงผละออกจากการต่อสู้ และร้องเสียงดังขึ้นมาทันที
“อย่าให้เขาเป่าเขาสัตว์…” ระดับบรรพบุรุษของตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยนจำนวนไม่น้อยต่างมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป เมื่อมองเห็นใต้เท้าเซิ่นตู๋หยิบเอาเขาสัตว์ออกมา จึงร้องบอกเสียงดังต่อเทพสงครามจินเปี่ยนทันที
แต่ว่า ทุกอย่างได้สายไปเสียแล้ว วู…วู…วู…ในเวลานี้เสียงเขาสัตว์ดังก้องไปเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน ในพริบตาเดียวนั้นเอง เสียงเขาสัตว์ได้ดังก้องจากท้องฟ้าด้านทิศเหนือไปยังทั่วทุกมุมของแดนลัทธิเซียน
ตูม ตูม ตูมหลังจากที่เขาสัตว์ได้ดังขึ้นไปแล้วเพียงครุ่เดียว มองเห็นแสงสว่างแต่ละสายที่ยิงขึ้นไปบนท้องฟ้า ปรากฏเป็นวงแหวนแสงสว่างขึ้นบนท้องฟ้าวงแล้ววงเล่า
ปัง…ฟ้าดินสั่นไหวโคลงเคลง กองทัพสัตว์คลั่งทัพหนึ่งถูกส่งเข้าไปภายในวงแหวนแสงสว่าง เป็นกองทัพของสัตว์ดุร้ายกองทัพหนึ่ง ไม่เคยมีใครได้เห็นกองทัพสัตว์ดุร้ายเช่นนี้มาก่อน เมื่อกองทัพดังกล่าวปรากฏตัวขึ้น เปี่ยมด้วยกลิ่นอายสัตว์ที่ยิ่งใหญ่ไพศาล
“จ้าวแห่งสัตว์ได้นำทัพสัตว์ดุร้ายมาช่วยอีกแรง!” ราชาผู้มีกระดูกสัตว์ห้อยตัวผู้หนึ่งปรากฏ และกองทัพนับล้านได้ตั้งขบวนอยู่ด้านหลังของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...