ตอนที่ 3061 ถือโอกาสรุมเมื่อเสียอำนาจ
การมาถึงของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร พลันสร้างความสิ่งเหนือความคาดคิดให้กับทุกคนทันที จะอย่างไรเสีย เมื่อเปรียบเทียบกัยระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิที่มีความแข็งแกร่งจำนวนมากแล้ว ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารถือเป็นระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิที่ค่อนข้างค่อมต่ำ โดยเฉพาะวิหารอมตะ ยิ่งค่อมต่ำจนน้อยครั้งมากที่จะเผยโฉมออกมา
กล่าวกันในระดับหนึ่งแล้ว วิหารอมตะค่อมต่ำจนเกือบถูกผู้คนลืมเลือนไปแล้ว แต่ว่า การค่อมต่ำของวิหารอมตะนั้นใช่ว่ามันจะอ่อนแอ แต่เป็นเพราะมันปรากฏตัวน้อยมากเท่านั้น
มีคำเล่าลือเกี่ยวกับวิหารอมตะต่างๆ นานา โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการคาดเดาเกี่ยวกับผู้เฒ่าที่เก็บตัวละจากทางโลกแห่งวิหารอมตะอยู่ไม่น้อย เคยมียอดฝีมือได้กล่าวเอาไว้ว่า วิหารอมตะคือสำนักที่สืบทอดวิชาจากผู้เฒ่าอมตะที่แท้จริง ดังนั้น บรรดาผู้เฒ่าที่เก็บตัวละจากทางโลกแห่งวิหารอมตะจึงเป็นระดับบรรพบุรุษที่มีอายุยืนมากที่สุดของแดนลัทธิเซียน กระทั่งมีคำเล่าลือว่า ในบรรดาผู้เฒ่าที่เก็บตัวละจากทางโลกแห่งวิหารอมตะนั้นถึงกับมีผู้ที่สามารถกลับชาติเกิดใหม่ได้เป็นผลสำเร็จอีกด้วย
กล่าวได้ว่า บรรดาผู้เฒ่าที่เก็บตัวละจากทางโลกแห่งวิหารอมตะมีความแข็งแกร่งอย่างยิ่ง พวกเขาคือกำลังกลุ่มหนึ่งที่ไม่ว่าจะเป็นระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิใดๆ และหรือบุคคลใดๆ จะละเลยไม่ได้
แต่ว่า ผู้ที่สร้างความสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนมากที่สุดของวิหารอมตะก็คือ คงความอมตะตลอดกาลเจียง ระดับคงความอมตะตลอดกาลผู้ซึ่งเคยเอาชนะระดับปฐมบรรพบุรุษของแดนลัทธิพรรษมาก่อน เคยมีอำนาจสยบมายุคสมัยแล้วยุคสมัยเล่า
ลองนึกภาพดู ในครั้งนั้นคงความอมตะตลอดกาลเจียงได้เอาชนะปฐมบรรพบุรุษเจินเหยียนนั้น ช่างเป็นที่สะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนเช่นใด เคยทำให้เทพแท้จริงนับไม่ถ้วนในหล้าต้องตื่นเต้นดีใจกับสิ่งนี้ ทำให้ระดับเทพแท้จริงจำนวนมากได้รู้จักเส้นทางสายนี้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
แม้ว่าคงความอมตะตลอดกาลเจียงไม่ได้ปรากฏตัวมานานมากแล้ว แต่ว่า กลับมีผู้คนจำนวนไม่น้อยเข้าใจว่าเขาได้เก็บตัวอยู่ภายในวิหารอมตะ
มาวันนี้ มองเห็นวิหารโบราณแต่ละหลังที่ปรากฏอยู่บนท้องฟ้า และภายในวิหารมีระดับบรรพบุรุษแต่ละคนที่ผมเผ้าขาวโพลนนั่งอยู่ ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำ แม้ว่าบรรดาผู้เฒ่าที่เก็บตัวละจากทางโลกแห่งวิหารอมตะล้วนแล้วแต่ดูเลือนรางเหมือนจะปรากฎตัว แต่ว่า จะอย่างไรเสียกลิ่นอายของพวกเขายังคงวนเวียนอยู่บนท้องฟ้า กดดันผู้คนจนหอบหายใจไม่ทัน
แม้ว่าจำนวนคนของวิหารอมตะจะดูน้อยไปนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับกองทัพหมื่นพันอื่นๆ แต่ว่า ความแข็งแกร่งของบรรดาผู้เฒ่าที่เก็บตัวละจากทางโลกแห่งวิหารอมตะนั้น ไม่ว่าจะเป็นบุคคลใด ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิใด และหรือกองทัพใดๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ตาม ล้วนไม่กล้าดูแคลนเลยแม้แต่น้อย
บรรดาผู้เฒ่าที่เก็บตัวละจากทางโลกแห่งวิหารอมตะที่อยู่ในวิหารล้วนแล้วแต่สามารถหนึ่งต่อหมื่น หนึ่งต่อแสน และหรือหนึ่งต่อล้านทั้งสิ้น พวกเขาคือระดับบรรพบุรุษที่อาศัยมือข้างเดียวก็สามารถเกรียงไกรไปทั่วท้องฟ้าทั้งสิ้น
“วิหารอมตะก็มาด้วยแล้ว เพราะอะไรแม้แต่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารก็มาแปดเปื้อนกับน้ำโคลนนี้ด้วยเล่า?” ผู้คนจำนวนมากนึกไม่ออกว่าเพราะอะไร กับการมาของวิหารอมตะ
เวลานี้ฮ่องเต้วิหารอมตะยืนอยู่บนท้องฟ้า ทั้งสวยงามเซ็กซี่ ทั้งมีความเป็นฮ่องเต้ที่ปราศจากผู้เทียบเทียม นับเป็นสาวงามที่เปี่ยมด้วยความเย้ายวนโดยแท้
“หรือว่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารไม่กลัวว่าตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยนจะแก้แค้นภายหลังอย่างนั้นรึ?” มีผู้ที่พูดเสียงแผ่วเบาขึ้นมา
นับว่าเป็นเรื่องที่เหนือความคาดคิดโดยแท้กับการมาของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร เนื่องจากในความทรงจำของผู้คนนั้น ดูเหมือนว่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารจะไม่ได้มีบุญคุณความแค้นใดๆ กับตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยนเลย เพราะอะไรเวลานี้ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารจึงได้มาล้อมปราบตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยน
หากจะกล่าวว่า เป็นเพราะคำพูดคำเดียวของเทพสงครามจินเปี้ยนทำให้หอจรัสศักดิ์สิทธิ์โกรธจัด จึงได้ระดมกำลังทหารหมื่นพันมาล้อมปราบเทพสงครามจินเปี้ยนนั้น เป็นเรื่องที่เข้าใจได้
แต่ว่า ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารกับตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยนไม่เคยมีความแค้นกันมาก่อน ดันส่งกำลังทหารมาล้อมปราบตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยนซะงั้น นับว่าเป็นสิ่งที่ผู้คนไม่สามารถเข้าใจได้
เทพสงครามจินเปี้ยนในฐานะผู้กุมอำนาจของตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยนพลันมีสีหน้าที่ดูไม่จืดถึงขีดสุด ตัวเทพสงครามจินเปี้ยนเองคือราชันเท้จริงสิบสองลัคนาคนหนึ่ง เคยมีอำนาจสยบทั่วหล้า สร้างชื่อด้วยเรื่องของสงคราม ผู้คนจำนวนเท่าไรที่ขวัญหนีดีฝ่อเมื่อได้ยินชื่อของเขา
ยิ่งไปกว่านั้น ขณะนี้ตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยนยังเป็นหนึ่งในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิที่แข็งแกร่งที่สุดของแดนลัทธิเซียน เป็นผู้นำของเผ่าจินเปี้ยนทั้งหมด ผู้ใดกล้าเป็นศัตรูกับเขา
มาในวันนี้ ทันใดนั้นเองดูเหมือนตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยนของพวกเขาพลันกลายเป็นเป้าการล้อมปราบของทุกคน เหมือนว่าได้กลายเป็นผู้ที่ทุกคนรังเกียจเดียดฉันท์ จะไม่ให้ภายในใจของเทพสงครามจินเปี้ยนต้องอึดอัดได้รึ?
สิ่งที่ทำให้เทพสงครามจินเปี้ยนรู้สึกคับแค้นใจมากที่สุดก็คือ ปรกติแล้วเขาไม่เคยมีระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารอยู่ในใจ ไม่เคยคิดว่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารมีอะไรดีนักหนา ก็มาล้อมปราบตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยนของพวกเขากะทันหันเช่นนี้ ทำให้เขาโกรธจนเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา
“ฮ่องเต้วิหารอมตะ พ้นวันนี้ไป ข้าจะต้องคืนให้กับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารพวกเจ้าเป็นสองเท่า วันหน้าจะต้องเป็นวันที่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารพวกเจ้าถูกทำลาย!” ดวงตาทั้งสองของเทพสงครามจินเปี้ยนในเวลานี้พลันดูน่าเกรงขาม เปี่ยมด้วยปณิธานการฆ่ามากมาย ทำให้ผู้คนต้องตัวสั่นดั่งลูกนก
เทพสงครามจินเปี้ยนคือราชันแท้จริงสิบสองลัคนาคนหนึ่ง ชั่วชีวิตของเขาไม่เคยเกรงกลัวต่อผู้ใด แม้ว่าจะตกอยู่ในยามคับขัน เขายังคงเหมือนสัตว์ร้ายตัวหนึ่งที่โหดร้ายทารุณตัวหนึ่ง
ฮ่องเต้วิหารอมตะมองดูเทพสงครามจินเปี้ยนแวบหนึ่ง ไม่ได้มีอารมณ์โกรธ เอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “หสังจากวันนี้ไปแล้วไม่มีตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยนอีกต่อไป!”
“อาศัยระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารพวกเจ้าน่ะหรือ?” เทพสงครามจินเปี้ยนหัวเราะเสียงดัง ดวงตาทั้งสองดูน่าเกรงขาม ความพาลรุนแรง กลิ่นอายการฆ่าเสมือนดั่งคลื่นยักษ์ที่ม้วนปกคลุมไปทั่วฟ้าดิน
แต่ว่า ฮ่องเต้วิหารอมตะไม่ได้พูดอะไรอีก หลบอยู่ในวิหารโบราณด้วยท่าทีเอ้อระเหย
“วิหารอมตะกล้ามาล้อมปราบตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยน มัน มันออกจะไม่เจียมตัวไปหน่อยแล้วกระมัง” มีผู้ที่ซุบซิบขึ้นมา
“แหะเจ้าจะดูแคลนวิหารอมตะมากเกินไปแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าเจียงป้ายังคงอยู่หรือไม่ ถ้าหากเจียงป้ามาด้วยทุกอย่างล้วนเป็นเพียงเมฆหมอกเท่านั้น” ระดับบรรพบุรุษผู้หนึ่งได้หัวเราะแหะแหะว่า “แค่คงความอมตะตลอดกาลเจียงคนหนึ่งก็สามารถสู้จนฟ้าถล่มดินทลายแล้ว เฉกเช่นเทพผยองสุริยันสิบคนก็สู้เขาไม่ได้ แค่ตัวเขาเพียงคนเดียวก็สามารถกวาดกองทัพทั้งหมดของตำหนักศักดิ์สิทธิ์จินเปี้ยนจนสิ้น”
เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว ในพริบตาเดียวนี้เอง ปรากฏกองทัพนับหมื่นนับพันได้วิ่งห้อเข้ามา ในพริบตาเดียวกลิ่นอายสัตว์ทั่วฟ้าดินม้วนปกคลุมไปทั่ว ได้ยินเสียงกรรจเสียงดังเสียงหนึ่ง ปรากฎมังกรยักษ์แต่ละตัวที่บุกเข้ามา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...