สรุปเนื้อหา ตอนที่ 3077 เรือปราบปรามไกลมาอีกแล้ว – ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet
บท ตอนที่ 3077 เรือปราบปรามไกลมาอีกแล้ว ของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 3077 เรือปราบปรามไกลมาอีกแล้ว
ระดับบรรพบุรุษของสวนเอเดน และระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเทียนถงต่างแสดงความขอบคุณแล้วขอบคุณอีกต่อหลี่ชิเย่ สุดท้าย หลังจากที่ระดับบรรพบุรุษทั้งสองระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิได้นัดหมายวันเวลาที่จะจัดส่งสินสอดกันแล้ว ศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิทั้ง+9สองต่างไปจากที่นี่ด้วยความดีอกดีใจ
ขณะที่มีการถอนกำลังกันไปนั้น ราชันหญิงจื่อหลง อ่องเต้วิหารอมตะ พวกเขาต่างแสดงความเคารพต่อหลี่ชิเย่ และถามไถ่สารทุกข์สุขดิบต่อหลี่ชิเย่ แล้วจึงนำกองทัพของตนถอนกำลังกันจากไป
“วันหน้าหวังว่าใต้เท้าจะมาเป็นแขกที่ตำหนักมังกรแท้จริง” ขณะที่ถอนกำลังกลับไป ราชันหญิงจื่อหลงยังได้เอ่ยคำเชื้อเชิญต่อหลี่ชิเย่
หลี่ชิเย่หัวเราะและเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “วันหน้าหากมีเวลา ข้าจะต้องไปที่ตำหนักมังกรแท้จริงสักครั้งแน่นอน ข้ามีต้นกำเนิดที่ลึกซึ้งและยาวไกลยิ่งกับตำหนักมังกรแท้จริงของพวกเจ้า” พูดจบยิ้มลึกลับขึ้นมา
ราชันหญิงจื่อหลงรู้สึกเหนือความคาดคิดอย่างยิ่งเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ คำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ดูไม่เหมือนเป็นการพูดเล่น อีกทั้งคำพูดของผู้ดำรงอยู่ในฐานะเฉกเช่นหลี่ชิเย่ที่พูดออกมาย่อมมีน้ำหนักอยู่แล้ว
“ใต้เท้าเคยไปที่ตำหนักมังกรแท้จริงของพวกเรา?” ราชันหญิงจื่อหลงอดที่จะตกใจระคนกับความแปลกใจ ทว่า ในความทรงจำของนางนั้น เหมือนว่าไม่เคยพบเห็นหลี่ชิเย่ที่ตำหนักมังกรแท้จริงมาก่อน
ดังนั้น ราชันหญิงจื่อหลงอดที่จะมองไปยังบรรดาบรรพบุรุษที่อยู่ข้างกายตนไม่ได้ เหล่าบรรพบุรุษต่างส่ายหน้าเบาๆ
ความจริงแล้ว กล่าวสำหรับบรรดาบรรพบุรุษตำหนักมังกรแท้จริงแล้ว กล่าวได้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาแปลกหน้ากับหลี่ชิเย่อย่างยิ่ง ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เคยพบเห็นหลี่ชิเย่มาก่อน และไม่รู้ถึงการดำรงอยู่ของหลี่ชิเย่
เวลานี้ หลี่ชิเย่กลับบอกว่ามีต้นกำเนิดที่ลึกซึ้งยาวนานยิ่งกับตำหนักมังกรแท้จริงของพวกเขา แล้วจะไม่ให้พวกเขารู้สึกเหนือความคาดคิดได้อย่างใดกันเล่า
“แม้ว่าข้าไม่เคยไปที่ตำหนักมังกรแท้จริงมาก่อน” หลี่ชิเย่ยิ้มบางๆและกล่าวว่า “แต่ว่า กับต้นกำเนิดตำหนักมังกรแท้จริงของพวกเจ้านั้นสามารถไล่ย้อนกลับไปถึงกาลเวลาที่ยาวไกลมากๆ ต้นกำเนิดตำหนักมังกรแท้จริงพวกเจ้าข้าก็พอรู้มาอยู่บ้าง”
คำพูดที่สบายๆ พลันทำให้ราชันหญิงจื่อหลง และเหล่าบรรพบุรุษตำหนักมังกรแท้จริงถึงกับสะดุ้งในใจ พวกราชันหญิงจื่อหลงสามารถจับประเด็นอะไรบางอย่างได้จากคำพูดของหลี่ชิเย่ เป็นข่าวที่ไม่เคยมีผู้ใดรับรู้มาก่อน
ราชันหญิงจื่อหลงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง แสดงคารวะต่อหลี่ชิเย่อีกครั้ง และกล่าวว่า “ประตูของตำหนักมังกรแท้จริงให้การต้อนรับใต้เท้าตลอดไป การมาเยือนของใต้เท้าคือเกียรติของตำหนักมังกรแท้จริง เป็นการนำพาแสงสว่างมาสู่ตำหนักมังกรแท้จริงอันต่ำต้อย”
“แน่นอน” หลี่ชิเย่ยิ้มๆ พยักหน้าเบาๆ และไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก
ราชันหญิงจื่อหลง และเหล่าบรรพบุรุษของตำหนักมังกรแท้จริงแสดงคารวะอีกครั้ง แล้วจึงนำพากองทัพถอนกำลังไปจากที่นี่
“ท่านบรรพบุรุษจะออกจากการกักตน” ก่อนที่ฮ่องเต้วิหารอมตะจะจากไป ได้คำนับต่อหลี่ชิเย่และบอกกล่าวข่าวคราวเช่นนี้ต่อหลี่ชิเย่ และกล่าวว่า “ท่านบรรพบุรุษได้บอกว่า หลังออกจากการกักตนแล้วจะมาขอบคุณใต้เท้าด้วยตนเอง”
“นับเป็นเรื่องน่ายินดี” หลี่ชิเย่พยักหน้าเบาๆ และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “วันที่เขาออกจากการกักตนก็คือวันที่ทะลุผ่านคอขวด และจะต้องส่งประกายเจิดจ้า ซึ่งเป็นการวางรากฐานให้กับวิหารอมตะพวกเจ้าอย่างยาวนาน และเป็นการทำให้ชื่อเสียงบารมีของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเทพมารให้แข็งแกร่งขึ้น”
“หวังว่าจะสมปรารถนาดั่งที่ท่านกล่าวเอาไว้” ฮ่องเต้วิหารอมตะคารวะอีกครั้ง แล้วจึงนำพาบรรดาบรรพบุรุษที่เก็บตัวจากไป
หลังจากที่ฮ่องเต้วิหารอมตะจากไปแล้ว กระบือดำขนาดใหญ่อดที่จะทอดถอนใจขึ้นมาว่า “ดูท่าวิหารอมตะมากด้วยผู้มีความสามารถ นี่จะสร้างความสะเทือนเลื่อนลั่นนะเนี่ย”
หลี่ชิเย่เพียงยิ้มๆ เท่านั้นเอง เรื่องเช่นนี้เขาไม่ได้เหนือความคาดคิด
“ใต้เท้ากับหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรามีวาสนาที่ลึกซึ้งต่อกัน” ขณะที่กำลังถอนกำลังออกไป ใต้เท้าเซิ่นตู๋ได้หัวเราะและกล่าวกับหลี่ชิเย่ด้วยท่าทางที่อบอุ่นยิ่งนัก
“ใต้เท้าเซิ่นตู๋ไม่เรียกหาความรับผิดชอบของข้าแล้วรึ?” หลี่ชิเย่หัวเราะขึ้นมา
ใต้เท้าเซิ่นตู๋ดูจะผะอืดผะอมอยู่บ้าง แต่ เขาเองก็ไม่สะทกสะท้าน หัวเราะและกล่าวว่า “นั่นเป็นเพียงละครฉากหนึ่งเท่านั่นเอง ข้ากับเฒ่าตู้รู้จักกันมาชั่วชีวิตแล้ว ข้ายังจะไม่เข้าใจเขารึ?”
หลี่ชิเย่ยิ้มๆ ระหว่างใต้เท้าเซิ่นตู๋กับตู้เหวินรุ่ยครั้งนั้นเป็นเพียงการแสดงละครเท่านั้นเอง ดูผิวเผินเหมือนว่าใต้เท้าเซิ่นตู๋นั้นเป็นผู้ที่มีความเที่ยงธรรม ไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น ต้องการลงโทษหลี่ชิเย่ ต้องการเอาโทษสถาบันศึกษาล้างบาป
ความจริงแล้ว นั่นคือการมอบโอกาสให้กับตู้เหวินรุ่ย ที่เขาทำเช่นนี้ก็เป็นการช่วยเหลือตู้เหวินรุ่ยอีกแรงอย่างลับๆ แล้ว
“อธิการบดีตู้คือบุคคลที่ปราดเปรื่องน่าทึ่ง” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบๆ ว่า “หอจรัสศักดิ์สิทธิ์ควรรับรู้ถึงคุณค่าของเขา”
“ตาเฒ่าตู้” ใต้เท้าเซิ่นตู๋ทอดถอนใจขึ้นมา และกล่าวว่า “ผู้ที่ข้าเลื่อมใสมากที่สุดในชาตินี้ก็คือตาเฒ่าผู้นี้แล้ว แต่ว่า อย่ามองว่าเขาเป็นคนที่มีจิตใจกว้างขวาง เวลาที่เขาดื้อรั้นขึ้นมาก็เหมือนหินในห้องส้วมทั้งเหม็นทั้งแข็ง ไม่ว่าใครก็ทำอะไรเขาไม่ได้ พวกเราก็เคยคาดหวังให้เขาสามารถเปล่งประกายเจิดจ้าขึ้นมา”
“คุณชายจะตกปลาตัวใหญ่ประเภทไหนกัน?” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงเอ่ยถามด้วยอดรู้สึกแปลกใจไม่ได้
หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง ส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “เป็นเพียงแนวความคิดเท่านั้นเอง แต่ว่า ไม่แน่เสมอว่าปลาจะกินเบ็ด พวกเขาผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะเช่นนี้ได้ก็ไม่โง่ จะไม่เปิดเผยตัวง่ายดายอยู่แล้ว” ครั้นกล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว แววตาของเขาแวบวับทีหนึ่ง
“ไม่สนใจว่าจะเป็นปลาตัวใหญ่หรือไม่ ของดีพวกเราต้องชิงเอาไว้ก่อน” กระบือดำขนาดใหญ่ไม่สนใจอย่างสิ้นเชิง หัวเราะแหะแหะและกล่าวว่า “รอให้พวกเราชิงเอาของดีมาไว้ก่อน ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคิดจะชิงเอาไปก็ต้องเผยโฉมออกมา ถึงตอนนั้นก็สามารถตกปลาตัวใหญ่ได้แล้ว”
ขนาดยังไม่เดินทาง พลันหลี่ชิเย่ได้หันหลังกลับมากะทันหัน และมองออกไปด้านนอก สายตาของเขาเพ่งออกไป และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “แต่ว่า เกรงจะมีคนชิงตัดหน้าของเจ้าแล้ว”
ตูม ตูม ตูมในเวลานี้เอง เสียงตูมตามดังขึ้นเบาๆ และอากาศได้สั่นไหวเบาๆ ตามเช่นกัน ท่ามกลางเสียงตูมตามเช่นนี้ ลูกอุกกาบาตยักษ์ทั้งลูกก็สั่นไหวโคลงแคลงทีหนึ่ง
พริบตาเดียวนั่นเอง ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่ยังคงรั้งอยู่บนลูกอุกกาบาตยักษ์ทั้งหมดก็พบเหตุการณ์ประหลาดนี้เช่นกัน
ในเวลานี้เอง ผู้คนจำนวนมากได้มองออกไปนอกอุกกาบาตยักษ์ลูกนี้ โดยเฉพาะยอดฝีมือที่ปราศจากผู้ต่อกรพลันเปิดเนตรฟ้าขึ้นมา และเก็บเอาภาพทั้งหมดเข้ามาอยู่ในสายตา
ด้านนอกลูกอุกกาบาตยักษ์ในขณะนี้ปรากฎมีเรือขนาดยักษ์ยากจะหาใดเทียมลำหนึ่งได้แล่นเข้ามาเหนือท้องฟ้าอุกาบาตยักษ์อย่างช้าๆ เรือลำนี้มี่ขนาดยักษ์มากจริงๆ ดังนั้น ขณะที่มันแล่นเข้ามายังบนท้องฟ้าของอุกกาบาตยักษ์นั้น ท้องฟ้ายังสั่นเทาทีหนึ่ง
“นั่น นั่นมันคือเรือปราบปรามไกล เรือปราบปรามไกลแล่นเข้ามาแล้ว” มีผู้ถึงกับร้องเสียงดังขึ้น เมื่อมองเห็นเรือลำยักษ์ลำนี้แล่นเข้ามาช้าๆ แล้ว
ตูม ตูม ตูมเสียงตูมตามดังเข้าหูของทุกๆ คน ในเวลานี้ท้องฟ้ามืดครึ้มไปหมด ยามที่เรือปราบปรามไกลแล่นเข้ามานั้น มันได้บดบังท้องฟ้าทั้งหมดเอาไว้ทันที ด้วยเรือลำยักษ์เช่นนี้ปรากฏอยู่เหนือศีรษะนั้น ทำให้ทุกคนต่างรู้สึกอึดอัดยิ่งในทันที
“เพราะอะไรมันถึงได้แล่นเข้ามา?” ผู้คนจำนวนมากต่างรู้สึกตกใจ
นับแต่เรือปราบปรามไกลแล่นออกมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่แล้ว ก็วิ่งห้อตลอดทางจนแล่นเข้าไปในท้องฟ้าด้านทิศเหนือ ขณะที่มันจอดอยู่ข้างๆ อุกกาบาตยักษ์แล้วก็ไม่มีการเคลื่อนไหวมาช่วงระยะเวลาที่นานมาก นึกไม่ถึงเลยว่า มาวันนี้มันกลับแล่นเข้ามาในอุกกาบาตยักษ์กะทันหัน
……………………………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...