ตอนที่ 3080 สัตว์ศิลา
เวลานี้ เสียงปังดังขึ้นเสียงหนึ่ง สุดท้าย ลาวาทะเลเพลิงสามารถพุ่งชนม่านแสงที่ประตูจนแหลกละเอียดไปได้ในที่สุด ทำให้ประตูทั้งบานเผยโฉมอยู่ตรงหน้าของเรือปราบปรามไกล
“บรรพบุรุษเจ้า อยู่ข้างในนี่เอง” นัยน์ตาทั้งสองของเจ้ากระบือดำขนาดใหญ่ลุกวาว น้ำลายแทบหกเมื่อมองเห็นประตูถูกเปิดออก หัวเราะแหะแหะกล่าวต่อหลี่ชิเย่ว่า “แหะท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ พวกเราคอยชมการต่อสู้อยู่ข้างๆ ก็พอแล้ว ถึงตอนนั้น แหะถึงตอนนั้น นกปากซ่อมทะเลาะกับหอยกาบ ถึงเวลานั้นพวกเราที่เป็นคนหาปลาย่อมได้เปรียบ”
หลี่ชิเย่เพียงหัวเราะและส่ายหน้า จากนั้นเพ่งสายตามองไกลไปข้างหน้า และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “มีคนมาแล้ว”
ในขณะนี้ ราชันแท้จริงเซิ่นซวง กระบือดำขนาดใหญ่ก็มองไปยังที่ที่ห่างไกล เห็นเรือลำหนึ่งแล่นเข้ามาช้าๆ โดยเรือลำนี้ได้โต้คลื่นทะเลเพลิงแล่นเข้ามา ดูไปแล้วเหมือนว่ามันแล่นมาช้าๆ แต่ทว่า ความเร็วนั้นน่ากลัวอย่างยิ่ง ทุกครั้งที่มันกระโดดเป็นการก้าวข้ามช่องว่างแล้วช่องว่างเล่า
ขณะที่ทะเลเพลิงอาละวาดพื้นที่แห่งนี้นั้น ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดต่างหลบหนีให้ห่างไกลจากทะเลเพลิงแห่งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ตนต้องตกเป็นเหยื่อ แต่ว่า ในเวลานี้เรือลำดังกล่าวกลับแล่นโต้คลื่นเข้ามา เหมือนไม่กลัวด้วยมีคนหนุนหลังอยู่
ขณะที่เรือลำดังกล่าวแล่นเข้ามาใกล้ และทำให้ผู้คนมองเห็นชัดเจนว่าบนเรือที่ผู้คนยืนอยู่เป็นจำนวนมาก ผู้ที่เป็นผู้นำก็คือนางฟ้าแห่งเขาหวู่สิงซานฮุ่ยชิงเสวียน ที่ยืนอยู่ด้านหลังไม่ห่างก็คือสาวใช้ของนางจิ้งเอ๋อร์
นอกเหนือจากนี้ บนเรือยังมีผู้ยิ่งใหญ่คนอื่นๆ อีก มีราชันแท้จริงหวงจุนแห่งหอเกาหยางโหลว ไท่แสวียนฟง บุตรชายของไท่อิ๋นสี่ และผู้เฒ่าอีกหลายคนที่หลี่ชิเย่ไม่รู้จัก
ผู้เฒ่าหลายคนเหล่านี้ ทุกๆ คนล้วนแล้วแต่ปรากฏกลิ่นอายคงความอมตะตลอดกาลวูบวาบ ทำให้ผุ้พบเห็นรู้ได้ทันทีว่าเป็นบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง
เมื่อเรือลำนี้แล่นเข้ามาใกล้แล้ว ฮุ่ยชิงเสวียนนำหน้ากระโดดลงมาจากเรือ ยืนอยู่ตรงหน้าหลี่ชิเย่และแสดงคารวะต่อหลี่ชิเย่ กล่าวด้วยใบหน้าแฝงรอยยิ้มว่า “พี่ท่านอยู่ตรงนี้จริงๆ เมื่อมีพี่ท่านอยู่ ขิงเสวียนก็สบายใจได้แล้วล่ะ”
“นี่ นี่ นี่ นังหนู เจ้าอย่าคิดแย่งของวิเศษเซียนกับพวกเรานะ” เจ้ากระบือดำขนาดใหญ่รู้สึกไม่พอใจทันทีที่ได้เห็นฮุ่ยชิงเสวียน ร้องโวยวายเสียงดังขึ้นมาว่า “ของวิเศษเซียนที่อยู่ข้างในพวกเราเป็นผู้พบเห็นก่อน ถ้าหากพวกเจ้ากล้าแย่งชิงกับข้าล่ะก็ กระบือสุดหล่ออย่างข้าไม่เห็นด้วยเป็นคนแรก”
“นี่ นี่ นี่ นังหนู เจ้าอย่าคิดแย่งของวิเศษเซียนกับพวกเรานะ” เจ้ากระบือดำขนาดใหญ่รู้สึกไม่พอใจทันทีที่ได้เห็นฮุ่ยชิงเสวียน ร้องโวยวายเสียงดังขึ้นมาว่า “ของวิเศษเซียนที่อยู่ข้างในพวกเราเป็นผู้พบเห็นก่อน ถ้าหากพวกเจ้ากล้าแย่งชิงกับข้าล่ะก็ กระบือสุดหล่ออย่างข้าไม่เห็นด้วยเป็นคนแรก”
ฮุ่ยชิงเสวียนหัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะไพเราะน่าฟังอย่างยิ่ง นางกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านผู้อาวุโสกล่าวหนักไปแล้ว ชิงเซียนมีแต่ดีใจเป็นอย่างยิ่ง หากพี่หลี่ต้องการนำเอาของวิเศษเซียนที่นี่ไปด้วย เกรงแต่พี่หลี่จะไม่รับ” กล่าวพลางนางกวักมือเบาๆ ทีหนึ่ง
เวลานี้ จิ้งเอ๋อร์ที่ยืนอยู่ด้านหลังของนางจึงได้ก้าวเดินเข้ามา ในมือของนางได้กอดกล่องวิเศษใบหนึ่งเอาไว้ พลันที่มองเห็นลังวิเศษใบนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าสิ่งที่บรรจุอยู่ภายในนั้นคือสิ่งใดแล้ว
สิ่งที่อยู่ภายในกล่องวิเศษก็คือสิ่งที่ถูกหลี่ชิเย่นำออกมาหลังจากได้เปิดก้อนหินก้อนนั้นออกมาที่ด่านเทียนสงกวานในครั้งนั้น
“ครั้งนั้น เป็นพี่ท่านที่นำเอาสิ่งนี้ออกมาจากก้อนหิน” ฮุ่ยชิงเสวียนที่ใบหน้าแฝงรอยยิ้ม กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “มาวันนี้ พี่ท่านสามารถอาศัยสิ่งนี้เพื่อได้มาซึ่งของวิเศษเซียนจากที่ตรงนี้”
“แหะมีได้ มีได้” นัยน์ตาทั้งสองของกระบือดำขนาดใหญ่ลุกวาว หัวเราะแหะแหะ และกล่าวว่า “มอบให้ข้าก็ได้ มอบให้ข้าก็ได้”
แน่นอน กระบือดำขนาดใหญ่แค่พูดไปอย่างนั้นเอง ไม่ได้พยักหน้า และเขาก็ไม่กล้ารับเอากล่องวิเศษใบนี้มาจากมือของจิ้งเอ๋อร์อยู่แล้ว
หลี่ชิเย่เพียงมองดูกล่องวิเศษแวบหนึ่งเท่านั้น ยิ้มกล่าวเรียบเฉยว่า “ดูท่าเจ้าคงบรรลุถึงความลับบางอย่างในนั้นได้แล้ว ไม่เลวนี่”
“มิกล้า ล้วนเป็นเพราะคำชี้แนะจากพี่ท่าน ชิงเสวียนจึงเก็บเกี่ยวสิ่งนี้มาได้ หาไม่แล้ว เกรงว่าชั่วชีวิตก็คงไม่สามารถศึกษาถึงความลึกซึ้งที่ซ่อนอยู่ภายในได้” ฮุ่ยชิงเสวียนรู้จักพูดอย่างยิ่ง คำพูดเช่นนี้ทำให้ผู้ฟังรู้สึกสบายมากเป็นพิเศษ
ที่แท้หลังจากสิ่งของดังกล่าวถูกนำออกมาจากกล่องวิเศษแล้ว ไท่อิ๋นสี่ก็ไม่กล้าเก็บเอาไว้คนเดียว ได้เชิญผู้ยิ่งใหญ่จำนวนไม่น้อยมาร่วมชื่นชมกับสิ่งนี้ หลังจากที่ฮุ่ยชิงเสวียนบรรลุสิ่งนี้ได้แล้วก็นำพาผู้คนรุดมาที่นี่
ในเวลานี้ พวกของราชันแท้จริงหวงจุนต่างทยอยกันเข้าไปแสดงคารวะสูงสุดต่อหลี่ชิเย่
หลังจากที่หลี่ชิเย่ไปจากด่านเทียนสงกวานได้ไม่นานนัก มาวันนี้ก็ได้มีบารมีสยบทั่วหล้าแล้ว หลังจากที่เขาได้สังหารหมิงหวังฝอ เทพสงครามจินเปี้ยน ห้าสหายภูผาเมฆแล้ว ได้รับการยอมรับจากผู้คนอย่างเป็นทางการแล้วว่า เขาคือปฐมบรรพบุรุษคนที่สามต่อจากพระอาจารย์จินกวง ปราชญ์อัจฉริยะหลันซู
ดังนั้น มาวันนี้ได้พบกับหลี่ชิเย่อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นราชันแท้จริงหวงจุน หรือไท่เสวียนฟงพวกเขา ต่างรู้สึกสะท้านภายในใจ จึงมีท่าทีที่เคารพนอบน้อมมากยิ่งขึ้น
ตูม ตูม ตูมในเวลานี้ เสียงดังตูมตามดังขึ้นเป็นระลอก ฟ้าดินสั่นไหวโคลงแคลงทีหนึ่ง เวลานี้มองเห็นเรือปราบปรามไกลแล่นเข้าไปยังประตูที่ถูกระเบิดเปิดออกอย่างช้าๆ
หลี่ชิเย่เพียงมองดูเรือปราบปรามไกลที่แล่นเข้าประตูไปแล้วแวบหนึ่ง เอ่ยเรียบเฉยขึ้นมาว่า “พวกเราเข้าไปดูกัน เรื่องสนุกๆ กำลังจะแสดงแล้ว”
“พวกข้ายินดีติดตามและปฏิบัติตามคำสั่งของพี่ท่าน” ฮุ่ยชิงเสวียนกล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม นางไม่เพียงเป็นหญิงงามที่หาใดเปรียบในหล้า อีกทั้งยังมีความเฉลียวฉลาดอย่างยิ่ง
พวกของหลี่ชิเย่ติดตามเรือปราบปรามไกลเข้าประตูไปพร้อมๆ กัน หลังจากผ่านประตูดังกล่าวเข้าไปแล้ว พลันรับรู้ได้ถึงอากาศที่บริสุทธิ์ยิ่งสายหนึ่งเข้ามาปะทะใบหน้า
ภายในประตูดังกล่าวนี้มีโลกอีกโลกหนึ่ง ท้องฟ้าสีเขียวคราม เปี่ยมด้วยความมีชีวิตชีวาทั้งโลก ความมีชีวิตชีวาที่ยิ่งใหญ่ไพศาลทำให้ผู้คนรู้สึกได้ทันทีว่าตนเองนั้นเหมือนอ่อนวัยลงนับพันปีอย่างนั้น
บริเวณตรงหน้าคือทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ไพศาล ทุกๆ ที่ที่สายตาสามารถมองเห็นได้ล้วนแล้วแต่เป็นสนามหญ้าที่เขียวขจี ทุ่งหญ้าที่ราบเรียบคล้ายเป็นพรมสีเขียวที่เย็นสบายอย่างนั้น ทำให้ผู้คนบังเกิดอารมณ์อยากจะนอนกลิ้งบนนั้น
“แหะอากาศที่สดชื่นเหลือเกิน” แม้แต่กระบือดำขนาดใหญ่ก็อดที่จะกล่าวชื่นชมออกมาขณะที่ยืนอยู่บนที่ราบแห่งนี้ จากนั้นก้มลงเล็มหญ้าเขียวขจีที่อยู่บนพื้นอย่างเต็มที่
แม้จะกล่าวว่าทุกคนต่างก็รู้ดีว่ากระบือดำขนาดใหญ่เป็นปีศาจควายที่บรรลุมรรคผล แต่ทว่า เป็นครั้งแรกที่ทุกคนได้เห็นกระบือดำขนาดใหญ่กินหญ้า ดังนั้น ขณะที่กระบือดำขนาดใหญ่ก้มหัวเล็มหญ้ากินอยู่นั้น ทำให้ผู้คนจำนวนมากต่างรู้สึกตะลึง
พวกราชันแท้จริงหวงจุนล้วนแล้วแต่เข้าใจว่ากระบือดำขนาดใหญ่ดำรงอยู่ในฐานะที่แข็งแกร่งมาก และพวกเขาก็ไม่ได้ถือเอากระบือดำขนาดใหญ่เป็นควายตัวหนึ่ง แต่ว่า เวลานี้พวกเขาต่างรู้สึกตะลึงงัน ไม่สามารถตอบสนองกับสิ่งนี้อยู่บ้าง เมื่อมองเห็นกระบือดำขนาดใหญ่ที่กำลังเล็มหญ้าที่เขียวขจีอยู่
เจ้ากระบือดำขนาดใหญ่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเล็มหญ้ากินโดยไม่สนใจพวกเขา เหมือนว่ารสชาติเลิศมาก และเหมือนว่าเขาไม่เคยได้กินหญ้าเขียวขจีมาเป็นหมื่นปีอย่างนั้น
“อาจารย์ หญ้าที่ตรงนี้อร่อยมากขนาดนั้นเชียวรึ?” หลิ่วเยี่ยนไป๋ก็เพิ่งเห็นกระบือดำขนาดใหญ่เล็มหญ้ากินเป็นครั้งแรกเช่นเดียวกัน อีกทั้งมองเห็นท่าทางการกินของกระบือดำขนาดใหญ่ดูจะอร่อยมากเป็นพิเศษอย่างนั้น ทำให้นางรู้สึกตกใจระคนกับความแปลกใจ
อืมม…กระบือดำขนาดใหญ่เพียงตอบอู้อี้คำหนึ่ง ยังคงเล็มหญ้าต่อไปโดยไม่สนใจผู้อื่น
“พลังที่เยี่ยมมากไม่เหมือนใคร” เวลานี้ ฮุ่ยชิงเสวียนอดที่จะตระหนกไม่ได้ นางย่อตัวลงและใช้มือลูบคลำพื้นดิน คว้าเอาดินขึ้นมากำใหญ่ ใช้นิ้วมือบี้ให้ละเอียดและกล่าวว่า “ข้าไม่เคยเห็นพลังที่ไม่เหมือนใครเช่นนี้มาก่อน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...