ตอนที่ 3081 ปฐมบรรพบุรุษทงเสิน
ตูม ตูม ตูมในเวลานี้ฟ้าถล่มดินทลาย เสียงตูมตามดังขึ้นเป็นระลอกไม่ขาดสาย
ในเวลานี้เอง กองทัพทหารอเวจีได้ตะลุมบอนฆ่าฟันเข้าด้วยกน ฉีกผืนแผ่นดินจนแตกร้าว ยิงถล่มท้องฟ้าจนทะลุ ทั้งสองฝ่ายสู้รบกันอย่างดุเดือด นับว่าเป็นอะไรที่ทารุณโหดร้ายอย่างยิ่ง
แม้จะกล่าวว่า กองทัพสัตว์ยักษ์หาใช่เป็นสัตว์ยักษ์ดึกดำบรรพ์ที่มีชีวิตตัวเป็นๆ พวกมันถูกหลอมกลั่นสร้างขึ้นมาจากหิน และแร่ธาตุวิเศษ แต่ว่า ยามที่พวกมันคำรามด้วยความโกรธ ปรากฏกลิ่นอายสัตว์ที่ยิ่งใหญ่ไพศาล เปี่ยมด้วยความเป็นสัตว์ป่าที่ไม่มีสิ้นสุด ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าพวกมันก็คือสัตว์ยักษ์ดึกดำบรรพ์ตัวเป็นๆ ที่มีชีวิตนั่นเอง
เปรียบเทียบกับกองทัพสัตว์ยักษ์ที่ร้องคำรามด้วยความโกรธ กองทัพทหารอเวจีกลับปราศจากซุ่มเสียงใดๆ ทหารอเวจีทุกตัวเสมือนดั่งวิญญาณอย่างนั้น ทวนยาวในมือประดุจดั่งอสรพิษที่อยู่ท่ามกลางเงามืด พลันที่ลงมือก็เป็นการโจมตีที่ถึงแก่ชีวิตต่อสัตว์ยักษ์ดึกดำบรรพ์
ขณะนี้ กองทัพทหารอเวจี และกองทัพสัตว์ยักษ์เข่นฆ่าซึ่งกันและกันเคี้ยวกันไม่ลง ทั้งสองฝ่ายต่างมีข้อได้เปรียบที่แข็งแกร่งของตน
แม้ว่ากองทัพสัตว์ยักษ์จะมีจำนวนไม่เท่ากับกองทัพทหารอเวจี แต่ว่า สัตว์ยักษ์ทุกตัวล้วนสูงใหญ่กว่าทหารอเวจีไม่รู้เท่าไร หนึ่งฝ่ามือของสัตว์ยักษ์ที่ฟาดฟันลงมา ก็สามารถจัดการตบทหารอเวจีนับร้อยนับพันกลายเป็นเนื้อบดในพริบตาเดียว
กองทัพทหารอเวจีนอกเหนือจากมีจำนวนคนมากว่ากองทัพสัตว์ยักษ์แล้ว การร่วมมือของพวกมันเข้าขารู้ใจกันยิ่งนัก ไปมาไร้เสียงและเคลื่อนที่ไปมาระหว่างด้านล่างของสัตว์ยักษ์ พร้อมจะโจมตีครั้งเดียวถึงแก่ชีวิตกับสัตว์ยักษ์ได้ทุกเวลา
เสียงปังดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง มองเห็นสัตว์ยักษ์ตัวหนึ่งยกเท้ากระทืบเหยียบลงมานั้น พลันจัดการเหยียบทหารอเวจีหลายร้อยคนจนเละเป็นเนื้อบด
แต่ว่า เมื่อสัตว์ยักษ์ตัวนี้เพิ่งจะยกเท้าเคลื่อนออกไป บรรดาทหารอเวจีที่ถูกกระทืบจนกลายเป็นเนื้อบดปรากฏเสียงตูมดังขึ้น ร่างกายของพวกมันพลันมีไฟชั่วร้ายแลบออกมา ไฟชั่วร้ายพลันจุดร่างกายของพวกมันจนสว่างไปทั่วร่าง ได้ยินเสียงกระดูกประติดปะต่อเข้าด้วยกันดังคร๊ากกก คร๊ากกกขึ้นมา เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้นเอง ภายใต้การกลอมกลั่นของไฟชั่วร้าย บรรดาทหารอเวจีที่ถูกกระทืบจนกลายเป็นเนื้อบดก็ได้กลับเป็นปรกติเหมือนเดิมทุกประการ พวกมันได้ปีนขึ้นไปบนตัวสัตว์ยักษ์ดุจสายฟ้าแลบ
เสียงแตกละเอียดดังคร๊ากกกขึ้นมา ในเวลานี้เห็นทหารอเวจีหลายสิบคนจัดการทุบหัวของสัตว์ยักษ์ตัวหนึ่งจนแหลกละเอียด เศษชิ้นส่วนของหินร่วงกระจายเต็มพื้น
แต่ว่า บรรดาเศษหินที่กระจายเกลื่อนเต็มพื้นเหล่านี้ปรากฏประกายของอักขระยันต์แวบวับ จากนั้นเศษชิ้นส่วนทั้งหมดล้วนบินขึ้นไป ได้ยินเสียงดังคร๊ากกก คร๊ากกก คร๊ากก เศษชิ้นส่วนทั้งหมดได้ประติดปะต่อเข้าด้วยกัน ส่วนหัวของสัตว์ยักษ์ตัวนี้ก็กลับคืนดังเดิมทุกประการอีกครั้ง
หลังจากที่สัตว์ยักษ์ตัวนี้กลับคืนสภาพปรกติแล้ว พลันหลังมือฟาดกลับไป เสียงปังดังขึ้นเสียงหนึ่ง ทหารอเวจีหลายสิบคนถูกตบจนลอยออกไป
ปัง ปัง ปังเสียงแตกละเอียดดังขึ้นเป็นระลอก ในเวลานี้เอง มีสัตว์ยักษ์ที่ถูกทหารอเวจีโจมตีจนแหลกละเอียดไป ขณะเดียวกันก็มีทหารอเวจีที่ถูกสัตว์ยักษ์ฉีกร่างออกเป็นสองท่อน
แต่ว่า ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ยักษ์ที่ถูกโจมตีจนแหลกละเอียด หรือทหารอเวจีที่ถูกฉีกร่างเป็นสองท่อน เศษชิ้นส่วนของพวกมันก็จะประติดปะต่อเข้าวด้วยกัน และพลันกลับคืนสู่สภาพปรกติดังเดิมภายในระยะเวลาอันสั้น
แต่ว่า ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ยักษ์ที่ถูกโจมตีจนแหลกละเอียด หรือทหารอเวจีที่ถูกฉีกร่างเป็นสองท่อน เศษชิ้นส่วนของพวกมันก็จะประติดปะต่อเข้าวด้วยกัน และพลันกลับคืนสู่สภาพปรกติดังเดิมภายในระยะเวลาอันสั้น
ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้านับว่าประหลาดมากเหลือเกิน และน่ากลัวมาก ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ยักษ์หรือว่าทหารอเวจีล้วนแล้วแต่ฆ่าไม่ตาย แม้ว่าจะจัดการฝ่ายตรงข้ามจนแหลกละเอียดไป แต่ว่า ฝ่ายตรงข้ามก็จะกลับคืนสู่สภาพปรกติภายในระยะเวลาอันสั้น เป็นที่หวาดผวาของผู้คนยิ่งนัก
สัตว์ยักษ์ลักษณะเช่นนี้ ทหารอเวจีลักษณะเช่นนี้ พวกเขาเสมือนดั่งเป็นสิ่งปราศจากชีวิตที่ฆ่าไม่ตายอย่างนั้น พวกมันล้วนไม่มีวันตายและไม่ล้มลง ต่อให้ถูกจับฉีกจนแหลกละเอียดไป แต่ว่า นาทีต่อไปก็จะกลับมามีสภาพเหมือนเดิมและกลับสู่การสู้รบอีกครั้ง
ภาพที่น่าสยองขวัญเช่นนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนอยู่ในนรกอสูรอย่างนั้น สิ่งปราศจากชีวิตที่แตกต่างกันสองประเภทต่างฝ่ายต่างเข่นฆ่าซึ่งกันและกัน
“มีเพียงทำลายไฟชั่วร้าย ทำลายลวดลายยันต์ทิ้งจึงสามารถฆ่าทหารอเวจีและสัตว์ยักษ์ได้” ราชันแท้จริงหวงจุนเมื่อเห็นภาพนี้แล้วก็อดรู้สึกหวาดเสียวไม่ได้ การฆ่าฟันแบบนี้ไม่สามารถพบเห็นได้ในโลกมนุษย์
สำหรับผู้คนจำนวนมากแล้วมักจะมองว่า วิธีการแบบนี้คือวิชาชั่วร้ายอย่างหนึ่งเสมอๆ
แน่นอน สิ่งนี้ใช่ว่าจะฆ่าไม่ตายจริงๆ เพียงแต่ ที่คอยให้การสนับสนุนบรรดาสัตว์ยักษ์ และทหารอเวจีเหล่านี้หาใช่ตัวของพวกมันเอง แต่เป็นพลังที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรยิ่งที่อยู่เบื้องหลังพวกมัน
ตูม ตูม ตูมจังหวะที่สัตว์ยักษ์และทหารอเวจีต่างฆ่าฟันซึ่งกันและกันนั้น เรือปราบปรามไกลบนท้องฟ้าได้เคลื่อนที่แล้ว ช่องว่างเกิดการสั่นไหวทีหนึ่ง เรือปราบปรามไกลได้ออกเดินทางต่อไปข้างหน้า โดยไม่สนใจกับสมรภูมิสู้รบที่อยู่ตรงหน้า
หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่ง นำหน้าติดตามเรือปราบปรามไกลไป พวกราชันแท้จริงเซิ่นซวงต่างมองตากันและกันทีหนึ่งรีบติดตามไป
เรือปราบปรามไกลบินเร็วมาก เพียงพริบตาเดียวก็แล่นผ่านที่ราบแห่งนี้ไป ปรากฏภูเขาลูกหนึ่งต่อสายตาของทุกคนเมื่อไปถึงสุดทางของที่ราบแห่งนี้
ภูเขาลูกนี้ตั้งตระหง่านอยู่สุดทางของเส้นขอบฟ้า เสมือนดั่งเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่ตัดขาดโลกทั้งโลก บนยอดเขาของภูเขาลูกนี้ปกคลุมด้วยหิมะขาวสะอาด ปรากฏไอเย็นที่เข้ามาปะทะใบหน้า
บนยอดเขามีเมฆปกคลุมล้อมรอบ เหมือนเทพธิดาที่ปิดบังโฉมหน้าของตนเอาไว้อย่างนั้น ทำให้มองเห็นไม่ชัดเจน
แต่ว่า เวลานี้เรือปราบปรามไกลได้หยุดอยู่ด้านหน้าภูเขา เหมือนกำลังรออะไรบางอย่าง
“ศึกใหญ่กำลังจะเริ่มต้นแล้ว” หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้นช้าๆ ขณะมองดูภูเขาลูกที่อยู่ด้านหน้า
เสียงฟ่าววดังขึ้นเสียงหนึ่ง ในเวลานี้เอง เหมือนมีลมพายุสายหนึ่งพัดเข้ามา เมฆหมอกที่อยู่บนยอดเขาเหมือนถูกแง้มเปิดขึ้นมุมหนึ่ง คล้ายผ้าแพรบางคลุมหน้าของเทพธิดาถูกแง้มเปิดขึ้นเบาๆ อย่างนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...