ตอนที่ 3087 กระบี่ปราชญ์นิรนาม
“ไม่จำเป็นต้องกล่าวมากความ” ปฐมบรรพบุรุษเสินเยว่มีท่าทีเย็นชาและกล่าวน่าเกรงขามว่า “มาวันนี้ พวกเราจะชำราะล้างคนทรยศให้กับแดนสามเซียน!”
“ก็ดี” ปฐมบรรพบุรุษอัคคีก็ไม่แสดงอาการโกรธ พยักหน้าและกล่าวว่า “หากท่านทั้งหลายสามารถสังหารข้าได้ ก็จะจัดการจิตที่ยึดติดของข้าให้จบสิ้น จะได้ไม่ต้องยึดติดอยู่กับการวนเวียนเสียเวลาโดยไร้ประโยชน์ไม่มีสิ้นสุด ท่านทั้งหลาย มาวันนี้ก็จัดการจิตที่ยึดติดของข้าให้จบสิ้นก็แล้วกัน จะแพ้หรือชนะล้วนไม่มีปัญหา อย่างน้อยก็ดีว่าคนก็ไม่ใช่ผีก็ไม่เชิงมากกว่า”
เวลานี้ ปราชญ์กระบี่ บรรพบุรุษดาบไคเทียน และปฐมบรรพบุรุษเสินเยว่พวกเขาทั้งสามคนต่างจ้องมองตากันและกัน พวกเขาทั้งสามคนต่างยึดกันคนละมุม และเขยิบเข้าไปใกล้ปฐมบรรพบุรุษอัคคีมากขึ้น
พวกเขาทั้งสามคนจะต้องร่วมมือกัน มีเพียงทำเช่นนี้เท่านั้นจึงจะสยบปฐมบรรพบุรุษอัคคีได้ หากสู้กันตัวต่อตัว ในบรรดาพวกเขาคนใดคนหนึ่งล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของปฐมบรรพบุรุษอัคคี
เมื่อศึกใหญ่กำลังจะระเบิดขึ้น พวกของราชันแท้จริงหวงจุนพวกเขาต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ การต่อสู่ของปฐมบรรพบุรุษทั้งสี่ แม้ว่าจะไม่สามารถฟื้นคืนการต่อสู้ขั้นสูงสุดในครั้งนั้นได้ แต่ว่า ยังคงสะเทือนเลื่อนลั่นเหมือนเดิม ยังคงสร้างความสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนอะไรอย่างนั้น
โดยเฉพาะกับปฐมบรรพบุรุษอัคคีต่อสู้กับปฐมบรรพบุรุษสามคนโดยลำพังคนเดียว กำลังความสามารถลักษณะเช่นนี้ก็นับว่าสร้างความสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนได้จริงๆ มิน่าเล่าปฐมบรรพบุรุษอัคคีจึงได้ถูกจัดให้เข้าไปอยู่ในหนึ่งในสิบสุดยอดปฐมบรรพบุรุษ
เสียงกระบี่คำรณดังตึง…ขึ้นมาเสียงหนึ่ง เวลานี้กระบี่ยาวของปราชญ์กระบี่ส่งเสียงคำรณขึ้นเองโดยไม่ได้ขยับ และปล่อยปณิธานกระบี่ออกมา
นาทีนี้ปณิธานกระบี่ของปราชญ์กระบี่ยังคงไม่ใช่พลังยิ่งใหญ่ไพศาลที่เหนือผู้คนแบบนั้น ปณิธานกระบี่ที่ถูกปล่อยออกมานั้นมีความเก็บงำยิ่งนัก แต่ว่า ขณะที่ปณิธานกระบี่ลักษณะเช่นนี้ถูกปล่อยออกได้ในพริบตาเดียว เกรงว่าแม้สิ่งนี้จะเป็นเพียงปณิธานกระบี่สายหนึ่งเท่านั้น ก็ได้แทงทะลุวัฏสงสารของโลกและตรึงผลกรรมเอาไว้ตรงนั้น
ตึง…เสียงดาบคำรณดังไม่ขาดสาย เทียบกับปณิธานกระบี่ที่เก็บงำของปราชญ์กระบี่แล้ว ปณิธานดาบของบรรพบุรุษดาบไคเทียนดูจะดุดันยิ่งใหญ่ไพศาลกว่า ในพริบตาเดียวนั่นเอง ปณิธานดาบของบรรพบุรุษดาบไคเทียนดุจดั่งน้ำหลากสัตว์ร้ายอย่างนั้น พริบตาเดียวกับปณิธานดาบที่ดั่งคลื่นยักษ์เข้ามาปะทะใบหน้านั้น จัดการกลืนกินโลกทั้งโลกเข้าไป จัดการฟาดฟันจนโลกทั้งโลกแหลกละเอียดไม่มีชิ้นดีในพริบตาเดียว
แม้ว่าเวลานี้บรรพบุรุษดาบไคเทียนเพียงแค่กำดาบอยู่ในมือเฉยๆ เท่านั้น ยังไม่ทันได้ลงมือ แต่ว่า ปณิธานดาบที่ยิ่งใหญ่ไพศาลได้พุ่งเข้าปะทะโดยตรง มันเสมือนดั่งเข้าสังหารทุกสิ่งทุกอย่างในพริบตา ภายใต้ปณิธานดาบ สังหารสิ้นจนนรกอสูรนับล้านล้านราบเป็นหน้ากลอง
เสียงแว้งค์ดังขึ้นเสียงหนึ่ง ในพริบตาเดียวนั่นเอง พระจันทร์ศักดิ์สิทธิ์เต็มดวงที่ห้อยอยู่บนศีรษะของปฐมบรรพบุรุษเสินเยว่ได้ส่งประกายขึ้นมาอีกครั้ง
พระจันทร์ศักดิ์สิทธิ์เต็มดวงที่ห้อยอยู่สูงขึ้นไปเหนือศีรษะของปฐมบรรพบุรุษเสินเยว่นั้น ดูไปแล้วพระจันทร์ศักดิ์สิทธิ์เต็มดวงดวงนี้ก็คล้ายเป็นพระจันทร์เต็มดวงที่อยู่ท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างนั้น ช่างส่องแสงสุกสกาว ช่างเต็มดวงโดยไม่มีการขาดแหว่งไปอะไรอย่างนั้น พระจันทร์ศักดิ์สิทธิ์เต็มดวงลักษณะเช่นนี้ เหมือนเป็นตัวแทนของสัจธรรมสูงสุดขั้นสมบูรณ์ โดยที่พระจันทร์ศักดิ์สิทธิ์สมบูรณ์แบบจนถึงขั้นไร้ที่ติ
เมื่อพระจันทร์ศักดิ์สิทธิ์เต็มดวงลักษณะเช่นนี้เริ่มสว่างขึ้นมา เหมือนสาดส่องเหล่าชั้นฟ้าสรรพเหตุการณ์ เหมือนว่าทุกสิ่งของเหล่าชั้นฟ้าล้วนเข้าไปอยู่ในนั้น ณ ที่ตรงนั้นมีโลกทั้งโลกที่ลอยล่อง มีเหล่าเทพที่เกิดและดับ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีวัฏสงสารของผลกรรม หมื่นวิถีสลับสับเปลี่ยน
เหมือนว่าพระจันทร์ศักดิ์สิทธิ์เต็มดวงลักษณะเช่นนี้มันก็คือทุกสิ่งทุกอย่าง มันกระทั่งนำเอาโลกทั้งโลกเข้าไปอยู่ในนั้น ดำเนินการสลับสับเปลี่ยนครั้งแล้วครั้งเล่า วัฏสงสารครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่ เมื่อไปดูให้ละเอียดอีกครั้งก็จะพบอีกว่า ท่ามกลางพระจันทร์ศักดิ์สิทธิ์ไม่ว่าจะเป็นเหล่าชั้นฟ้าสรรพเหตุการณ์ยังคงเป็นวัฏสงสารของผลกรรม และหรือเทพที่เกิดและดับ ล้วนเสมือนดั่งหยุดลงอย่างนั้น
เหมือนว่าทุกสิ่งเพียงแค่ถูกผนึกอยู่ท่ามกลางพระจันทร์ศักดิ์สิทธิ์ ทุกอย่างล้วนหยุดอยู่ตรงนั้น และไม่มีสิ่งใดจะมาสลับสับเปลี่ยนอยู่แล้ว ไม่มีอะไรจะมาวัฏสงสาร
เสียงตูมดังสนั่นขึ้น ในเวลานี้ไฟชั่วร้ายบนตัวของปฐมบรรพบุรุษอัคคีได้สว่างไสวขึ้นอีกครั้ง เมื่อไฟชั่วร้ายได้สว่างไสวขึ้นอีกครั้งนั้น เมื่อเปรียบกับเมื่อครู่แล้วดูจะสว่างไสวขึ้นไม่น้อยทีเดียว
ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า ปฐมบรรพบุรุษอัคคีได้ฟื้นฟูพลังขึ้นมาไม่น้อย หนึ่งกระบวนท่า ‘เผาเซียน’ เมื่อครู่ได้ทำให้เขาต้องสูญเสียพลังไฟชั่วร้ายไปเป็นจำนวนมาก แต่ว่า จากการเดินลมปราณภายในระยะเวลาอันสั้น ทำให้พลังไฟชั่วร้ายได้ฟื้นฟูกลับมาเจ็ดแปดส่วนแล้ว
“ข้าล่วงเกินแล้ว ทุกท่านโปรดให้อภัย” เวลานี้ปฐมบรรพบุรุษอัคคีแฝงรอยยิ้มบนใบหน้า และมีไฟชั่วร้ายรุนแรง แม้ว่าต่างฝ่ายต้องการเข่นฆ่าชนิดไม่เจ้าตายก็คือข้าม้วย แม้ว่าจะรู้อยู่แล้วว่าปฐมบรรพบุรุษอัคคีนั้นได้เสียทีให้กับฝ่ายตรงข้าม และตกต่ำสู่ความชั่วร้ายไปแล้ว
แต่ทว่า การแสดงออกทางท่าทางและวาจาของปฐมบรรพบุรุษอัคคีในเวลานี้กลับดูจะไม่สะทกสะท้าน และเปิดเผยตรงไปตรงมาอะไรอย่างนั้น ภาพรวมเปี่ยมด้วยบุคลิกลักษณะของวิญญูชน ด้วยบุคลิกลักษณะเช่นนี้นับว่าทำให้ผู้คนยากที่จะอาศัยปากกาและหมึกไปเปรียบเปรย
ลองนึกภาพดู หากเป็นปฐมบรรพบุรุษอัคคีขณะมีชีวิตก่อนเดินทางปราบปรามไกลยังทะเลปุ๊ตู้ไห่นั้น ช่างเป็นระดับปฐมบรรพบุรุษที่ยอดเยี่ยมเพียงใด คือปฐมบรรพบุรุษที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์อะไรอย่างนั้น
สามารถจินตนาการได้อย่างสิ้นเชิงถึงบุคลิกลักษณะอันมีเสน่ห์ของปฐมบรรพบุรุษอัคคีในครั้งนั้น มิน่าเล่าที่เขาเดินทางปราบปรามไกลยังทะเลปุ๊ตู้ไห่ในครั้งนั้นจึงมีราชันแท้จริง คงความอมตะตลอดกาล และระดับปฐมบรรพบุรุษอุดมการณ์เดียวกันจำนวนมากร่วมเดินทางกับเขา ปราบปรามไกลยังทะเลปุ๊ตู้ไห่เพื่อเขา
เสียงตูม…ดังขึ้นเสียงหนึ่ง ในพริบตาเดียวนั่นเอง ปฐมบรรพบุรุษอัคคียื่นฝ่ามือออกไป ฝ่ามือของเขาพลันปรากฏไฟชั่วร้ายปะทุขึ้นมา พริบตาเดียวนั่นเองเหมือนได้ยินเสียงตึงดังขึ้นเสียงหนึ่ง พลันที่ฝ่ามือของเขายื่นออกไปนั้น ถึงกับกลายเป็นกรงเล็บของหงส์ และฝ่ามือดังกล่าวมีไฟชั่วร้ายวูบวาบ
ขณะที่กรงเล็บหงส์ที่พกพาเอาเปลวไฟมาด้วยกางออก ปรากฏเหมือนเสียงของโลหะที่กระทบกันดังขึ้น เสียงใสกังวานนั้นดูเหมือนจะมีความคมกริบปราศจากผู้เทียบเทียม
ในพริบตาเดียวนี้เอง กรงเล็บของหงส์ได้ยื่นเข้าหาปราชญ์กระบี่ โดยวมุ่งไปที่หัวใจของปราชญ์กระบี่ ต้องการควักเอาหัวใจของปราชญ์กระบี่ออกมา และถึงแก่ชีวิตในการจิกครั้งเดียว
แค่กรงเล็บหงส์หนึ่งกระบวนท่าที่ยื่นเข้าไปตรงๆ เท่านั้น ปราศจากช่วงห่างใดๆ ของช่องว่าง ไม่เกี่ยวกับเรื่องของความเร็ว ขณะที่กรงเล็บหงส์ยื่นไปนั้น แม้เพียงแค่เริ่มลงมือ แต่กรงเล็บหงส์ก็ปรากฎอยู่ตรงหน้าบริเวณอกของปราชญ์กระบี่แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...