ตอน ตอนที่ 3091 สนทนาธรรม จาก ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 3091 สนทนาธรรม คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ตอนที่ 3091 สนทนาธรรม
จากการจับจ้องของทุกๆ คน หลี่ชิเย่ยิ้มๆ แล้วจึงเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ทุกคนล้วนจ้องมองข้าเช่นนี้ ข้าจะเขินนะ” การที่หลี่ชิเย่จู่ๆ พูดคำพูดลักษณะเช่นนี้ขึ้นมากะทันหัน สิ่งนี้พลันทำให้พวกราชันแท้จริงเซิ่นซวงพวกเขาต่างอดที่จะหัวเราะไม่ได้อยู่บ้าง แต่ ภายใต้สถานการณ์ที่เคร่งขรึมเช่นนี้ก็หัวเราะออกมาไม่ได้ ดังนั้น จิ้งเอ๋อร์ที่ยืนอยู่ด้านหลังของฮุ่ยชิงเสีวียนนั้น จึงมองค้อนหลี่ชิเย่แรงๆ ทีหนึ่ง
แน่นอน ปราชญ์กระบี่ บรรพบุรุษดาบไคเทียน และปฐมบรรพบุรุษอัคคีพวกเขาต่างไม่ได้หัวเราะออกมา เพียงจ้องมองหลี่ชิเย่เท่านั้น ปฐมบรรพบุรุษอัคคีเองเคยได้รับคำชี้แนะจากหลี่ชิเย่มาแล้วจึงไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไร ขณะสายตาของพวกปราชญ์กระบี่ที่จ้องมองหลี่ชิเย่อยู่นั้น แววตาของพวกเขาร้อนแรงอย่างยิ่ง หวังจะส่องให้เห็นถึงตื้นลึกหนาบางของหลี่ชิเย่ให้ได้
หลี่ชิเย่ที่อยู่ภายใต้การจ้องมองของปฐมบรรพบุรุษอัคคี และพวกปราชญ์กระบี่จึงได้กล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “เดิมทีน่ะ เรื่องที่เป็นของรุ่นอาวุโสอย่างพวกเจ้านั้น ข้าที่เป็นคนกลุ่มคนรุ่นใหม่ไม่มีความจำเป็นต้องพาตัวเองเข้าไปคลุกเคล้าด้วยกัน จะอย่างไรเสีย เฉกเช่นหนุ่มน้อยอายุสิบแปดอย่างข้าไม่เข้าใจเรื่องราวในโลก ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยจะเป็นการดีที่สุด เกิดพลาดพลั้งทำไม่ดีขึ้นมา ก็ต้องเล่นจนชีวิตน้อยๆ ของข้าจบสิ้นไปด้วย”
“ตามความเห็นของข้า ที่พวกเจ้าฆ่ากันไปฆ่ากันมาล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องบุญคุณความแค้นของรุ่นอาวุโสอย่างพวกเจ้า อีกทั้ง ผ่านมาเป็นพันล้านปีแล้วพวกเจ้าก็ยังคงยึดติดไม่เสื่อมคลาย ถ้าหากข้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย ภายในใจของพวกเจ้าต้องไม่ยอมรับแน่นอน เกิดตายไปแล้วยังคงจะกลายเป็นผีร้ายมาวุ่นวายกับข้าอีก แล้วข้าจะทำอย่างไร?” หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้นมาช้าๆ เหมือนมากด้วยเหตุผลอย่างนั้น
คำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่พลันทำให้พวกราชันหญิงพิณต่างรู้สึกจนแต้ม บางทีหากพวกเขาจะไม่คำนึงถึงฐานะของตนเองล่ะก็ ไม่แน่นักอาจยกเท้าถีบอย่างแรงจนหลี่ชิเย่ตัวลอยออกไป ภายในใจของพวกเขาแทบคลั่งกับคนชั้นต่ำที่ดัดจริตเช่นนี้
หลี่ชิเย่หยุดนิดหนึ่ง จากนั้นหัวเราะทีหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ทว่า ของชิ้นนั้นที่อยู่ในวิหารโบราณ ข้ากำลังคิดว่า สมควรให้คนเป็นๆ อย่างพวกเราเป็นผู้ดูแลหรือไม่กันเล่า? ส่วนเรื่องบุญคุณความแค้นระหว่างพวกเจ้านั้น ตามใจพวกเจ้าเถอะ”
แววตาของพวกปฐมบรรพบุรุษอัคคีที่จ้องมองหลี่ชิเย่ยิ่งจ้องเขม็งหนักขึ้น
ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า แน่นอนที่สุดปฐมบรรพบุรุษอัคคีจะไม่ปล่อยให้หลี่ชิเย่นำเอาสิ่งที่อยู่ภายในวิหารโบราณออกไป ขณะที่แนวความคิดของพวกปราชญ์กระบี่ไม่เห็นจะเหมือนกันนัก จะอย่างไรเสีย พวกเขาอาศัยความตายเฝ้าปกป้องอยู่ที่นี่ หากจะให้หลี่ชิเย่นำเอาสิ่งที่อยู่ภายในวิหารโบราณไปจริงๆ พวกเขาก็คงไม่เห็นด้วยในทันทีทันใด
“เรื่องราวต่างๆ ในที่นี้ สหายมีข้อสรุปหรือไม่?” ในเวลานี้ ปฐมบรรพบุรุษอัคคีได้เอ่ยขึ้นช้าๆ
การที่ปฐมบรรพบุรุษอัคคีเรียกหลี่ชิเย่ว่า ‘สหาย’ ย่อมเพียงพอที่จะระบุว่าปฐมบรรพบุรุษอัคคียอมรับในกำลังความสามารถของหลี่ชิเย่แล้ว
หลี่ชิเย่หัวเราะและยักไหล่ทีหนึ่ง และกล่าวว่า “ไม่มีข้อสรุปอะไรทั้งนั้น ข้าเป็นเพียงแขกที่เดินทางผ่านมาเท่านั้นเอง ตามหลักแล้วเรื่องเข่นฆ่าความมืดอะไร กำจัดศิษย์ทรยศของสำนักอะไรนั่นไม่ใช่หน้าที่ของข้า หากจะบอกว่าต้องกำจัดศิษย์ทรยศก็สมควรให้อาจารย์ของเจ้ามาทำ จะอย่างไรเสีย ศิษย์อกตัญญูนั้นผู้เป็นอาจารย์มีหน้าที่ แต่ทว่า พูดไปแล้ว อาจารย์ของเจ้านับว่าบกพร่องในหน้าที่อยู่บ้างจริงๆ ไม่สามารถจัดการเจ้าให้เรียบร้อยหมดจด สิ่งนี้เป็นความผิดของเขาโดยแท้”
“อาจารย์ของข้า ท่านย่อมมีเหตุผลของท่าน” ปฐมบรรพบุรุษอัคคีกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “สุดยอดสติปัญญาของท่านนั้น ไหนเลยจะคาดเดาได้เล่า”
แม้ปฐมบรรพบุรุษอัคคีไม่ได้ระบุว่าอาจารย์ของเขาคือใคร แต่ จากคำพูดน้ำเสียงยังคงให้ความเคารพอยู่ สิ่งนี้ย่อมสามารถมองออกได้ว่าเขานั้นให้ความเคารพต่ออาจารย์ของเขาเพียงใด แม้ว่าตัวเขาได้ตกอยู่ในความมืดไปแล้ว ก็ยังคงให้ความเคารพยำเกรงในอาจารย์ของเขาอยู่
“น่าสนใจจริงๆ” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมา และกล่าวว่า “อาจารย์ของเจ้าได้สังหารเจ้า แต่ในใจของเจ้ายังคงไม่แค้นเคืองเขา ยากนัก ยากนัก นับว่ายากจริงๆ”
คำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่พลันทำให้พวกราชันแท้จริงหวงจุนรู้สึกใจหายใจคว่ำ พวกเขาต่างรู้สึกหวั่นไหวในใจ ข่าวเช่นนี้เรียกได้ว่าสร้างความสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนได้มากเหลือเกิน กระทั่งหากข่าวนี้แพร่ออกไปอาจก่อเกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โตขึ้นมาได้
ยังไม่ต้องพูดถึงว่าอาจารย์ของปฐมบรรพบุรุษอัคคีเป็นใคร ลำพังข่าวที่ว่าอาจารย์ของปฐมบรรพบุรุษอัคคีเป็นผู้สังหารปฐมบรรพบุรุษอัคคี ก็เพียงพอที่สร้างความสะเทือนหวั่นไหวแก่ผู้คนใต้หล้าแล้ว
ปฐมบรรพบุรุษอัคคีนั้นแข็งแกร่งเพียงใด? หนึ่งในปฐมบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดของแดนสามเซียน หนึ่งในสิบสุดยอดปฐมบรรพบุรุษ สำหรับความแข็งแกร่งของเขานั้น พวกของราชันแท้จริงหวงจุนเรียกว่าตระหนักอย่างลึกซึ้ง แม้แต่ระดับปฐมบรรพบุรุษเช่นพวกของปราชญ์กระบี่ร่วมมือกันก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของปฐมบรรพบุรุษอัคคี
แต่ว่า ปฐมบรรพบุรุษอัคคีกลับถูกอาจารย์ของตนสังหาร สิ่งนี้ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่า อาจารย์ของเขานั้นมีความแข็งแกร่งมากๆ ทีเดียว กระทั่งกล่าวได้ว่า แข็งแกร่งถึงขั้นที่ยากจะคาดเดาได้แล้ว
ปฐมบรรพบุรุษอัคคีนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ถึงกับไม่ได้ต่อปากกับคำพูดเช่นนี้
“ผู้คนต่างกล่าวกันว่า สงสารยิ่งใจพ่อแม่แด่ลูกเอย ข้าว่าสามารถพูดว่าสงสารยิ่งใจอาจารย์แด่ศิษย์เอยกระมัง” หลี่ชิเย่หัวเราะส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวเรียบเฉยว่า “ในครั้งนั้นเขาได้สังหารเจ้า แต่ก็ยังหลงเหลือร่องรอยของเจ้าเช่นนี้ ไม่ได้ทำการกวาดล้างร่องรอยที่เหลืออยู่ให้หมดจด เกรงว่าเป็นเพราะภายในใจของเขายังคงมีความเพ้อฝันเล็กๆ น้อยๆ อยู่บ้าง”
ปฐมบรรพบุรุษอัคคีนิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายเขาเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “วิธีคิดของท่านข้าไม่กล้าคาดเดา เพียงแต่วิธีการแตกต่าง การตัดสินใจเลือกไม่เหมือนกันเท่านั้น ไม่ได้มีการแยกถูกหรือผิด”
“ไม่มีถูกหรือผิด?” ราชันหญิงพิณกล่าวว่า “เจ้าคือผู้ที่ก้าวเดินทางผิด และไม่หันหลังกลับมาอีก! เจ้าคือผู้ที่ทำร้ายอาณาประชาราษฎร์ใต้หล้า!”
“บางทีที่ราชันหญิงคิดเป็นเรื่องที่ถูกต้อง” ปฐมบรรพบุรุษอัคคีไม่ได้แสดงความโกรธ กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “บางทีหากข้าทำได้สำเร็จ เป็นข้าที่ช่วยเหลือแดนสามเซียน ใต้รังที่พลิกคว่ำไหนเลยจะมีไข่ที่สมบูรณ์ ข้าเพียงแต่เปลี่ยนอีกวิธีหนึ่งเท่านั้น เมื่อถึงวันนั้นหมื่นแดนล้วนพินาศ มีเพียงแดนสามเซียนข้าคงอยู่แต่ผู้เดียว”
“ยอมทำตัวตกต่ำเอง” ราชันหญิงพิณกล่าวว่า “ต่อให้เป็นภัยพิบัติยิ่งใหญ่ แดนสามเซียนยังคงอยู่ ผ่านไปกี่ศักราชมาแล้วยังคงมีอาจารย์ผู้มีพระคุณที่คอยเฝ้าสังเกตการณ์และให้ความช่วยเหลือใต้หล้า!”
“สิ่งที่ราชันหญิงเข้าใจน้อยมาก” ปฐมบรรพบุรุษอัคคีส่ายหน้าและกล่าวว่า “มันจะเกินกว่าที่เจ้าจินตนาการ เมื่อใดที่ความมืดมาเยือน ฟ้าดินหมื่นอาณาจักรเกรงว่าไม่มีใครรอดไปได้! เกรงว่าถึงวันนั้นใครก็ต้านเอาไว้ไม่ได้ และไม่มีผู้ใดสามารถใช้พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้!”
คำพูดเช่นนี้ของปฐมบรรพบุรุษอัคคีทำให้ภายในใจของพวกราชันแท้จริงหวงจุนรู้สึกหวาดเสียว คำพูดเช่นนี้ของปฐมบรรพบุรุษอัคคีเมื่อฟังดูแล้ว เหมือนจะเป็นการเสริมสร้างปณิธานผู้อื่น แล้วทำลายศักดิ์ศรีของตน
โซ่เหล็กลักษณะเช่นนี้เส้นหนึ่งมีประวัติความเป็นมาเช่นใดกันแน่นะ? ถึงกับทำให้ปฐมบรรพบุรุษอัคคีหวั่นเกรงได้ถึงเพียงนี้
“เชื่อว่าเจ้าจะคุ้นตากับของสิ่งนี้มากทีเดียว” หลี่ชิเย่ยิ้มบางๆ ทีหนึ่ง
โซ่เหล็กเส้นนี้ เรียกได้ว่ามีประวัติความเป็นมาที่ไม่ธรรมดา มันได้พันธนาการโครงกระดูกโครงหนึ่งที่คุกหลวงดึกดำบรรพ์ และโครงกระดูกโครงนี้ขณะมีชีวิตเคยถูกไฟสมาธิที่ทรงพลังที่สุดเผาผลาญมันมาก่อน แต่ว่า กลับไม่สามารถเผาโซ่เหล็กเส้นนี้ให้ขาดได้
เพียงแต่ ภายหลังหลี่ชิเย่ได้นำเอาโซ่เหล็กเส้นนี้ออกมาจากคุกหลวงดึกดำบรรพ์
“ท่านอาจารย์มีบุญคุณดั่งขุนเขา” ปฐมบรรพบุรุษอัคคีเพ่งมองโซ่เหล็กเส้นนี้ และเอ่ยขึ้นช้าๆ ในที่สุด
“พูดแบบนี้เจ้าเองก็คงเข้าใจว่าจะแก้โซ่เหล็กเส้นนี้ออกได้อย่างไรแล้ว?” เมื่อหลี่ชิเย่ได้ฟังคำเช่นนี้ของปฐมบรรพบุรุษอัคคีแล้ว ก็ไม่ได้รู้สึกเหนือความคิดอะไรมากนัก
“จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรเท่านั้นเอง” ปฐมบรรพบุรุษอัคคีทอดถอนใจเบาๆ และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “เสียดาย แก้ไม่ได้”
“แหะตาเฒ่ายังคงนับว่ามีความพยายามอย่างยิ่งจริงๆ ท้ายที่สุดแล้วยังคงคาดหวังกับความหวังเล็กน้อยนั่น” หลี่ชิเย่หัวเราะและส่ายหน้าเบาๆ
“น่าเสียดาย วิถีต่างกัน” ปฐมบรรพบุรุษอัคคีนิ่งเงียบพักหนึ่ง และพยักหน้าเบาๆ
แม้ว่าจะพูดคำพูดเช่นนี้ขึ้นมา ท่าทางของปฐมบรรพบุรุษอัคคีดูจะให้ความเคารพยิ่ง
การที่จะแก้โซ่เหล็กเส้นนี้ได้มีเพียงจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรเท่านั้น และสิ่งนี้ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมหลี่ชิเย่ถึงสามารถนำเอาโซ่เหล็กเส้นนี้ออกมาจากคุกหลวงดึกดำบรรพ์ได้
ความจริงแล้ว ปฐมบรรพบุรุษอัคคีเองก็เข้าใจในเหตุผลข้อนี้
……………………………………………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...