ตอนที่ 3109 ก่อกรรมเอง ไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้
“ท่านพี่…” สุดท้าย กระบี่เหินเทียนเจียวร้องออกมาด้วยความเศร้าโศกเสียใจคำหนึ่ง แต่ว่า ภายในรถม้าเงียบสงัด จักรพรรดิซีหวงไม่ได้ตอบกลับอีก ไม่หวั่นไหวอีกต่อไปแล้ว
ทุกคนต่างเข้าใจแล้วว่า จักรพรรดิซีหวงจะไม่ลงมือให้การช่วยเหลืออีกต่อไป เมื่อมองเห็นภายในรถม้ามีแต่ความเงียบสงัด ท้ายสุด กระบี่เหินเทียนเจียวได้แต่พึ่งตัวเองแล้ว
“ท่านพี่…” กระบี่เหินเทียนเจียวส่งเสียงร้องออกมาด้วยความโศกเศร้าอีกหลายคำ แต่ทว่า ภายในรถม้าไม่ได้มีเสียงใดๆ อีกต่อไป กระบี่เหินเทียนเจียวไม่รับรู้ใดๆ เกี่ยวกับนางอีกแล้ว
สุดท้าย กระบี่เหินเทียนเจียวก็เข้าใจได้แล้วในที่สุด มาคราวนี้จักรพรรดิซีหวงจะไม่ลงมือช่วยนางอีกแล้วจริงๆ ต่อให้นางร้องจนคอแตกก็ไร้ประโยชน์
รถม้ามีแต่ความเงียบสงัด กระบี่เหินเทียนเจียวเช็ดน้ำตาที่อาบแก้มให้แห้ง ลุกขึ้นยืนเงียบๆ
ในขณะนี้ กระบี่เหินเทียนเจียวไม่ร้องไห้อีก และไม่ร้องขอความช่วยเหลืออีกต่อไป เนื่องจากไม่ว่านางจะร้องไห้อย่างไร ร้องขอความช่วยเหลือเช่นใดก็ไร้ประโยชน์ เวลานี้หนึ่งเดียวที่นางสามารถทำได้ก็คือ ไปเผชิญหน้ากับความตายด้วยตนเองแล้ว
ทุกคนต่างนิ่งเงียบ เมื่อเห็นกระบี่เหินเทียนเจียวปาดน้ำตาให้แห้งเงียบๆ คนเดียว และมีบางคนอดที่จะสงสารนางไม่ได้ จะอย่างไรเสีย กระบี่เหินเทียนเจียวเคยเป็นสุดยอดสาวงามในหล้าคนหนึ่ง นางเคยผาดโผนทั่วหล้า มีความหยิ่งยโสสูงส่งอย่างยิ่ง มาวันนี้กลับจะต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ช่างน่าสงสารอะไรอย่างนั้น
แต่ก็มีผู้คนจำนวนมากที่เพียงแค่มองดูเท่านั้นเอง ในทัศนะของพวกเขามองว่า การที่กระบี่เหินเทียนเจียวต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้เป็นการทำตัวเองแท้ๆ มิฉะนั้นล่ะก็ หากนางรู้ตัวเองไม่ไปหาเรื่องตาย ก็จะไม่ไม่มีจุดจบเช่นนี้
“ต่อให้พี่เขยคือระดับปฐมบรรพบุรุษก็ไร้ประโยชน์นะเนี่ย” ผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่กล่าวปลงอนิจังขึ้นเบาๆ เมื่อมองเห็นภาพนี้แล้ว
กระบี่เหินเทียนเจียวคือน้องภรรยาของพระอาจารย์จินกวง แต่ น่าเสียดายด้วยฐานะเช่นนี้กลับไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ในที่สุด
กล่าวสำหรับคำพูดของกลุ่มคนรุ่นใหม่นั้น ผู้อาวุโสได้จ้องตาเขม็งพวกเขาและกล่าวตำหนิว่า “มีความสามารถแค่ไหนก็ให้ทำเรื่องที่ใหญ่แค่นั้น เรื่องที่ตนเองก่อขึ้นมาก็ต้องรับเอง อย่าคิดหวังพึ่งพาผู้อาวุโส คิดจะทำร้ายสำนักของตนเองหรืออย่างไร?” เมื่อถูกผู้อาวุโสกล่าวตำหนิ ทำเอาบรรดาผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ตกใจจนไม่กล้าพูดอะไรอีก
แน่นอนที่สุด หากเปลี่ยนเป็นระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิใดๆ หรือผู้อาวุโสใดๆ ก็ตาม ก็จะต้องทำเช่นนี้ การไปหาเรื่องกับผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะคนโหดอันดับหนึ่งเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิใดๆ ก็ตาม ก็จะต้องเผชิญกับภัยพิบัติของการล่มสลาย จะมีระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสักกี่แห่งที่ยินดีนำเอาระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของตนพ่วงเข้าไปด้วย เพียงเพราะเรื่องบุญคุณความแค้นส่วนตัวของศิษย์คนหนึ่ง การกระทำเช่นนี้รังแต่ทำให้ตนเองกลายเป็นคนบาปของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของตน ละอายต่อบรรพชนของตน
ในเวลานี้ กระบี่เหินเทียนเจียวได้ปาดน้ำตาจนแห้ง จัดเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของตนให้เรียบร้อย ทำให้ภาพรวมกลับคืนมาดูดีไม่น้อยทีเดียวอีกครั้ง
เมื่อครู่นั้น กระบี่เหินเทียนเจียววิ่งหนีเหมือนสุนัขที่ไร้เจ้าของ ภาพรวมของนางเรียกว่ากระเซอะกระเซิงสุดๆ ไม่หลงเหลือคราบของผู้มีความสามารถและห้าวหาญแห่งยุค ไม่เหมือนเป็นสุดยอดอัจฉริยะบุคคลของสี่ซี ท่วงทีที่มีความงดงาม เกียรติยศทั้งหมดล้วนมลายหายไป
แต่ว่า นาทีนี้ เมื่อจักรพรรดิซีหวงไม่ลงมือเข้าให้การช่วยเหลือ กระบี่เหินเทียนเจียวรู้ว่าตนเองนั้นไม่สามารถหนีรอดได้อีกต่อไป นางรู้ว่าตนเองจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นเพราะคำพูดคำหนึ่งของจักรพรรดิซีหวง หรือเป็นเพราะเพื่อนางเองแล้ว นางก็ต้องให้ตนเองตายอย่างมีเกียรติมากกว่านี้
นางคืออัจฉริยะบุคคลของสี่ซี เหมือนดั่งที่พี่สาวของนางจักรพรรดิซีหวงพูดเอาไว้อย่างนั้น นางไม่ควรทำให้สำนักของตนต้องเสื่อมเสีย
นางคือกระบี่เหินเทียนเจียว เป็นหญิงงามแห่งยุคที่หยิ่งยโสสูงส่งคนนั้น นางไม่ควรให้ตนเองต้องตายด้วยท่าทางที่กระเซอะกระเซิง ตายเหมือนสุนัขข้างถนนตัวหนึ่งอย่างนั้น
แม้จะต้องตาย ก่อนตายนางก็ต้องมีท่วงทีที่งดงามอยู่บ้าง นางคือกระบี่เหินเทียนเจียว! หาใช่ผู้เยาว์ที่ไร้ชื่อเสียงเรียงนาม นางต้องการตายดูดีมีเกียรติสักหน่อย
เวลานี้ กระบี่เหินเทียนเจียวเองก็ไม่ไปร้องขอให้ละเว้นตน นางรู้ว่ามันไร้ประโยชน์ นางต้องการให้ตนเองได้รักษาเกียรตินักนิดก่อนตาย อย่าให้นาทีสุดท้ายที่ตนเองต้องตายนั้นไร้ซึ่งเกียรติแม้แต่น้อย!
นางคือกระบี่เหินเทียนเจียว ต่อให้ต้องตายก็ขอตายอย่างสูงส่งสักนิด แม้จะเป็นเพียงเท่านี้กล่าวสำหรับนางแล้ว ก็เป็นสิ่งล้ำค่าแล้ว
เวลานี้ กระบี่เหินเทียนเจียวเองก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจภายหลัง คนเรากำลังจะตายอยู่แล้วยังจะต้องไปเสียใจภายหลังเพื่ออะไรกัน มันเป็นเรื่องที่ไร้ความหมายอยู่แล้ว
ในเมื่อจะต้องตายอยู่แล้วก็ไม่ต้องไปเสียใจภายหลัง ไม่ต้องไปเสียใจ ทุกสิ่งที่ตนเองได้กระทำลงไปนั้นไม่มีอะไรจะต้องไปเสียใจภายหลัง ไม่มีอะไรคู่ควรหรือไม่คู่ควรอยู่แล้ว
นางก็คือนาง นางคือกระบี่เหินเทียนเจียว หญิงสาวที่หยิ่งยโสและถือดีคนนั้น
หลี่ชิเย่ยืนมือไพล่หลังอยู่ตรงนั้นเงียบๆ รอการจัดแจงเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของกระบี่เหินเทียนเจียว และปาดน้ำตาทิ้งเสีย โดยไม่รีบร้อนที่จะลงมือ
ทุกคนต่างมองดูกระบี่เหินเทียนเจียวเงียบๆ ทุกคนต่างก็รู้ดีว่า กระบี่เหินเทียนเจียวจะต้องตายอย่างไม่น่าสงสัย เพียงแต่ตายให้มันดูดีสักหน่อย ตายมีมีเกียรติมากกว่าสักหน่อยเท่านั้นเอง
ผู้คนจำนวนมากต่างสามารถเข้าใจได้ว่า เพราะอะไรกระบี่เหินเทียนเจียวที่เมื่อครู่ร้องอย่างน่าเวทนา กลับกลายเป็นเข้มแข็งขึ้นมาทันที เมื่อมาถึงขั้นอับจนหนทางแล้ว
หลี่ชิเย่รอจนกระทั่งกระบี่เหินเทียนเจียวจัดแจงเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว จึงเอ่ยเรียบเฉยขึ้นมาว่า “ต้องการตายด้วยวิธีไหนล่ะ?”
“ต่อให้ข้าต้องกลายเป็นผี ก็จะไม่ปล่อยเจ้าแน่นอน!” เวลานี้กระบี่เหินเทียนเจียวจ้องมองซึ่งหน้ากับหลี่ชิเย่ ไม่เหมือนท่าทางที่หวาดกลัวขณะวิ่งหลบหนีเมื่อครู่อย่างนั้น ไม่เหมือนเมื่อครู่ที่วิตกกังวลไม่สิ้นสุด เมื่อเผชิญหน้ากับความตายแล้ว นางดูมีจิตใจที่เยือกเย็นขึ้นไม่น้อย
“เสียดาย คิวรอไม่ถึงเจ้า” หลี่ชิเย่หัวเราะและยิ้มกล่าวเรียบเฉยว่า “ถ้าหากคนตายแล้วยังกลายเป็นผีได้ เช่นนั้นแล้วคนที่จะมาล้างแค้นข้าคงเบียดเสียดเต็มไปทั่วแดนลัทธิเซียนแล้ว ส่วนเจ้านั้นยังไม่มีคิว”
“ฆ่า…” พลันที่หลี่ชิเย่พูดขาดคำ กระบี่เหินเทียนเจียวร้องตวาดเสียงดังขึ้น ได้ยินเสียงตึงดังขึ้นเสียงหนึ่ง ร่างนั้นกลับกลายเป็นกระบี่ ประกายกระบี่เจิดจ้ายิ่ง
พริบตาเดียวนั่นเอง พลังกระบี่ยิ่งใหญ่ไพศาล พลันปรากฏเป็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นับพันนับหมื่นเล่ม เข้าโจมตีหลี่ชิเย่ภายใต้เสียงกระบี่คำรามที่ดังตึงนั่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...