ตอนที่ 3110 หมัดข้าใหญ่กว่า
ทุกคนล้วนตะลึงลาน เมื่อหลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา
จักรพรรดิซีหวงอยู่ที่นี่ ทัพใหญ่ของเขาเซียนถงซานอยู่ที่นี่ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเจ๋อหลง ผู้คุ้มกันของพระอาจารย์จินกวงอยู่ที่นี่ เวลานี้หลี่ชิเย่กลับบอกให้พวกเขาไสหัวไปโดยตรง เป็นคำพูดที่ใช้อำนาจบาตรใหญ่เพียงใด
ให้จักรพรรดิซีหวงไสหัวไป ให้เจ๋อหลงไสหัวไป นั่นเท่ากับให้พระอาจารย์จินกวงไสหัวไป!
ลองถามดู ทอดสายตามองออกไปทั่วแดนลัทธิเซียน ไม่ต้องพูดถึงพระอาจารย์จินกวง ลำพังอาศัยจักรพรรดิซีหวง อาศัยเจ๋อหลงจะมีใครกล้าให้พวกเขาไสหัวกันเล่า? ดูเหมือนจะไม่มีใครกล้า
แต่ เวลานี้คนโหดอันดับหนึ่งเรียกให้พวกของจักรพรรดิซีหวงไสหัว คำพูดเช่นนี้ไม่เพียงแค่ใช้อำนาจบาตรใหญ่เท่านั้น มันคือมุทะลุดุดันจนปราศจากผู้เทียบเทียม
ผู้คนจำนวนมากขณะเพิ่งได้ยินคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ยังเข้าใจว่าตนเองนั้นฟังผิด แต่ว่า หลังจากครู่ใหญ่เมื่อได้สติกลับมาแล้ว พบว่าตนเองไม่ได้ฟังผิดแม้เพียงคำเดียว เป็นความจริงที่คนโหดอันดับหนึ่งต้องการให้พวกจักรพรรดิซีหวงไสหัวไป!
“นี่ นี่ นี่มันอวดดีเกินไปแล้วกระมัง” ผู้คนจำนวนมากต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำและพึมพำขึ้นมา หลังจากได้สติกลับมาแล้ว
ต่อให้กำลังความสามารถของจักรพรรดิซีหวงยังก้าวไปไม่ถึงระดับปฐมบรรพบุรุษก็ตาม แต่ว่า เจ๋อหลงในฐานะที่เป็นระดับคงความอมตะตลอดกาล ชั้นวิถีไกลคนหนึ่ง กำลังความสามารถของเขาไม่เห็นจะด้อยไปกว่าพระอาจารย์จินกวง และปราชญ์อัจฉริยะหลันซูตรงไหน
ในโลกนี้ผู้ที่สามารถเทียบเคียงกับเจ๋อหลงได้นั้นมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น อย่าว่าแต่นับด้วยนิ้วมือทั้งห้าเลย เกรงว่านิ้วมือทั้งสามก็สามารถนับได้หมดแล้ว
เวลานี้หลี่ชิเย่กลับพูดออกมาตรงๆ ให้จักรพรรดิซีหวงกับเจ๋อหลงไสหัวออกไป คำพูดลักษณะเช่นนี้ไม่ว่าใครได้ยินก็รู้สึกว่ามันช่างอวดดีมากเหลือเกิน แม้ว่าคำพูดคำนี้จะออกมาจากปากของคนโหดอันดับหนึ่งก็ตาม ยังคงทำให้ผู้คนรู้สึกว่ามันก็ยังอวดดีอยู่ดี
จะอย่างไรเสีย ไม่ว่าจะเป็นพระอาจารย์จินกวงก็ดี หรือเจ๋อหลงก็ช่าง พวกเขามีกำลังความสามารถอยู่ในระดับของปฐมบรรพบุรุษ การสั่งให้พวกเขาไสหัวไปต่อหน้าผู้คนทั่วหล้า สิ่งนี้ออกจะไม่ให้เกียรติกัน
“ดูเหมือนคนโหดอันดับหนึ่งไม่เคยได้รู้จักคำว่าถ่อมตน” บรรดายอดฝีมือบางส่วนเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่แล้ว รู้สึกไม่พอใจยิ่งนัก
“ไหนเลยแค่ไม่รู้จักถ่อมตน แม้แต่คำพูดที่เกรงใจก็ไม่เป็น” มีระดับผู้ยิ่งใหญ่หัวเราะเจื่อนๆ ส่ายหน้า และกล่าวว่า “เจ้าเคยเห็นเขาเห็นผู้อื่นอยู่ในสายตาเมื่อไหร่กัน ระดับราชันแท้จริงก็ดี หรือระดับคงความอมตะตลอดกาลก็ช่าง เขาก็มองเหมือนดั่งมดปลวก เวลานี้กับชั้นวิถีไกล คงความอมตะตลอดกาล เขาก็ยงคงมีทีท่าเช่นนี้เหมือนเดิม”
“ข้าเคยเห็นคนที่มองไม่เห็นหัวผู้อื่นมาก แต่ว่า ผู้ที่มองไม่เห็นหัวผู้อื่นเช่นนี้ข้าเพิ่งจะเห็นเป็นครั้งแรก” มีประมุขพรรคอดที่จะยิ้มเจื่อนๆ รู้สึกจนด้วยเกล้า
แม้ว่าทุกคนต่างคิดว่าคำพูดนี้ของหลี่ชิเย่อวดดีเกินไป แต่ว่า ไม่มีกล้าไปวิจารณ์ และหรือด้อยค่า ใครๆ ต่างก็รู้ว่ากำลังความสามารถของคนโหดอันดับหนึ่งนั้นแข็งแกร่งมากเหลือเกิน มีกำลังความสามารถระดับปฐมบรรพบุรุษในครอบครอง ต่อให้เขาอวดดีมากกว่านี้ก็เป็นสิ่งที่สามารถอดกลั้นได้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม
“นี่มันผยองเหลือเกิน” แต่ก็มีระดับบรรพบุรุษรู้สึกว่าขณะคนโหดอันดับหนึ่งพูดออกมาเช่นนี้นับว่าอวดดีมากเหลือเกิน และกล่าวว่า “กำลังความสามารถของพระอาจารย์จินกวง เจ๋อหลงใครบ้างในโลกสามารถต่อกรกับพวกเขาได้? หากพวกเขาร่วมมือกัน สามารถเกรียงไกรไปทั่วโลกสามโลก หรือคนโหดอันดับหนึ่งเข้าใจว่าตนเองสามารถอาศัยคนเดียวสู้กับสองคนได้จริงๆ อย่างนั้นรึ?”
“จักรพรรดิซีหวงใจดีเกินไปแล้ว ฮึหากเป็นข้าล่ะก็โกรธนานแล้ว” มีผู้ที่รู้สึกไม่เป็นธรรมกับจักรพรรดิซีหวงและพระอาจารย์จินกวง
ขณะที่ภายในรถม้านิ่งเงียบ เมื่อหลี่ชิเย่พูดเช่นนี้ออกมา
หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ เสียงของจักรพรรดิซีหวงได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “คุณชายหลี่ ความยอดเยี่ยมของพื้นที่แห่งนี้เรียกว่าไม่มีสิ้นสุด เหตุใดคุณชายไม่ร่วมแบ่งปันกันเล่า?”
ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างมองตากันและกันเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของจักรพรรดิซีหวง ทุกคนต่างรู้ว่าขณะจักรพรรดิซีหวงพูดเช่นนี้ขึ้นมาเป็นการอ่อนข้อของจักรพรรดิซีหวงแล้ว พวกเขายินดีแบ่งปันแผ่นดินผืนนี้กับหลี่ชิเย่
การอ่อนข้อของจักรพรรดิซีหวงแม้สร้างความตกใจให้ผู้คนไม่น้อย แต่ว่า ในทัศนะของบรรพบุรุษบางส่วนมองว่าสิ่งนี้นับว่าเป็นเรื่องปรกติ จะอย่างไรเสีย ศึกระหว่างปฐมบรรพบุรุษไม่ธรรมดา จักรพรรดิซีหวงรอบคอบกับเรื่องเช่นนี้อย่างยิ่ง นางเองก็ไม่กล้าเป็นศัตรูกับหลี่ชิเย่ง่ายๆ
“ร่วมแบ่งปัน?” หลี่ชิเย่ยิ้มบางๆ และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “หมัดข้าใหญ่กว่า ทำไมจะต้องร่วมแบ่งปัน!”
คำพูดนี้พูดได้ตามอารมณ์ยิ่งนัก แต่ว่า กลับเหมือนเป็นหมัดๆ หนึ่งที่ทุบลงบนหัวใจของทุกคนอย่างแรง ทำให้ผู้คนถึงกับอึดอัดหายใจไม่ออก
คำพูดนี้ของหลี่ชิเย่ฟังดูแล้วช่างป่าเถื่อนไร้เหตุผล ใช้อำนาจบาตรใหญ่ยากจะหาผู้ใดเทียม แต่ว่า สิ่งนี้กลับเป็นเหตุผลที่ไร้ข้อกังขาของโลกผู้บำเพ็ญตนทั้งหมด กระทั่งเรียกได้ว่าเป็นความสัจจริงที่ไม่เปลี่ยนแปลงตลอดกาล!
ใครเหนือกว่า คำพูดของผู้นั้นก็คือเหตุผล!
ลองนึกภาพดู ก่อนหน้านั้นพวกของจักรพรรดิซีหวงไหนเลยจะไม่เป็นเช่นนี้เล่า? กองทัพใหญ่ของเขาเซียนถงซานยึดครองผืนแผ่นดินผืนนี้แล้ว ยังคงขับไล่ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนอื่นๆ ออกไปเช่นเดียวกัน
เวลานี้หลี่ชิเย่เพียงนำเอาสิ่งที่เขาเซียนถงซานได้ทำเอาไว้มาทำใหม่อีกครั้งเท่านั้นเอง
แน่นอนที่สุด เมื่อเปรียบกับหลี่ชิเย่แล้ว เขาเซียนถงซานนับว่าสุภาพกว่านิดหนึ่ง คำพูดที่พูดออกมานับว่ามีความสุภาพอยู่บ้าง ไม่เหมือนเช่นหลี่ชิเย่ที่โจ่งแจ้งเช่นนี้
หลี่ชิเย่พูดคำพูดเช่นนี้ออกมาตรงๆ เป็นคำพูดที่ตรงอะไรอย่างนั้น มุทะลุดุดันอะไรอย่างนั้น และป่าเถื่อนอะไรอย่างนั้น!
“คนโหดอันดับหนึ่งนับว่าไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจริงๆ” แม้แต่บรรดาคงความอมตะตลอดกาลบางส่วนก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ
ไม่ว่าใครก็ไม่ปฏิเสธว่าคำพูดนี้ของหลี่ชิเย่เป็นสัจธรรม ใครเหนือกว่า คำพูดของใครคนนั้นก็คือเหตุผล พันล้านปีที่ผ่านมาผู้ดำรงอยู่ในฐานะปราศจากผู้ต่อกรจำนวนเท่าไร ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจำนวนเท่าไร พวกเขาต่างไม่พูดคำพูดคำนี้ออกมาตรงๆ
แม้ว่ามีผู้คนบางส่วนเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับจักรพรรดิซีหวง และมีผู้ที่รู้สึกว่าคนโหดอันดับหนึ่งอวดดีมากเกินไป
แต่ว่า สำหรับระดับบรรพบุรุษบางส่วนแล้ว เรื่องเช่นนี้ถือเป็นเรื่องที่ปรกติที่สุดแล้ว ก่อนหน้านี้ทางเขาเซียนถงซานก็ได้ขับไล่คนอื่นมิใช่รึ?
เพียงแต่เวลานี้กรรมสนองมาเร็วไปนิดหนึ่งเท่านั้น คนโหดอันดับหนึ่งแค่นำเอาสิ่งที่เขาเซียนถงซานได้ทำไปมาแสดงอีกรอบหนึ่งเท่านั้นเอง
แน่นอนที่สุด สำหรับเรื่องราวเช่นนี้ที่เกิดขึ้น ไม่มีใครกล้ารู้สึกดีใจเมื่อเห็นผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน ไม่ว่าใครก็ไม่ต้องการหาเรื่องใส่ตัว ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิซีหวง หรือพระอาจารย์จินกวง กำลังความสามารถของพวกเขายังคงทำให้ยอดฝีมือในหล้าเคารพยำเกรง
“คุณชายหลี่ จำเป็นจะต้องให้เพชรตัดเพชรจริงๆ รึ?” หลังจากที่จักรพรรดิซีหวงนิ่งเงียบไปชั่วครู่ เสียงของจักรพรรดิซีหวงดังขึ้นมาอีกครั้ง
แม้ว่าจักรพรรดิซีหวงยินดีอ่อนข้อให้ และไม่ต้องการเป็นศัตรูกับหลี่ชิเย่ที่มีกำลังความสามารถระดับปฐมบรรพบุรุษ แต่ว่า สิ่งนี้มิได้หมายความว่าจักรพรรดิซีหวงกลัวใคร และไม่ได้หมายความว่าจักรพรรดิซีหวงต้องแสดงความอ่อนแอต่อหลี่ชิเย่
“ไม่ เจ้าพูดผิดแล้ว” หลี่ชิเย่หัวเราะ ส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “นี่หาใช่เป็นเพชรตัดเพชร เรื่องนี้เจ้าคิดมากไปแล้ว นี่เป็นการอาศัยไข่ไปกระทบหิน แม้ว่าข้าจะมีความรู้สึกที่ดีสำหรับคนอย่างเจ้า แต่ว่า หากขวางทางข้าล่ะก็ ฆ่าไม่มีละเว้นเช่นเดียวกัน ข้าไม่ถือสาที่จะเลือดล้างที่นี่อยู่แล้ว”
คำพูดลักษณะเช่นนี้เมื่อออกจากปากของหลี่ชิเย่แล้ว เห็นเลือดสดๆ ไหลหยดเป็นทาง พลันทำให้ผู้คนจำนวนมากใจหายใจคว่ำทันที รู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง
เวลานี้ ไม่ทราบว่ามีผู้คนจำนวนเท่าใดที่มองหน้าซึ่งกันและกัน ทุกคนล้วนรู้แล้วว่า พายุฝนฟ้าคะนองกำลังจะมาแล้ว
“สหาย คำพูดเช่นนี้ออกจะยกตนข่มท่านมากไปแล้ว” ในที่สุด ปรากฎเสียงที่แก่หง่อมเสียงหนึ่งดังออกมาจากบริเวณลึกเข้าไปในแผ่นดินผืนนี้
เสียงนี้เสมือนดั่งส่งลงมาจากเก้าชั้นฟ้าอย่างนั้น แม้ว่าจะไม่เห็นตัว ได้ยินเสียงก็ทำให้ผู้คนสั่นเทาในใจ ทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกเคารพเลื่อมใสขึ้นมาทันที
“เจ๋อหลง!” เมื่อได้ยินเสียงที่แก่หง่อมนี้แล้ว ต่อให้เป็นผู้ที่ไม่เคยพบเห็นเจ๋อหลงมาก่อน ก็รู้ว่าคนผู้นี้เป็นใครแล้ว
พลันที่ได้ยินเสียงของเจ๋อหลง ภายในใจของผู้คนจำนวนเท่าไรต้องหวั่นไหว ระดับคงความอมตะตลอดกาล ชั้นวิถีไกลผู้หนึ่ง ไม่ว่าจะอยู่ในยุคสมัยใดก็คู่ควรให้ผู้คนต้องเคารพเลื่อมใส โดยเฉพาะกล่าวสำหรับระดับเทพแท้จริงแล้ว
เจ๋อหลง ตัวเขาอยู่บริเวณลึกเข้าไปในผืนแผ่นดินผืนนี้นี่เอง ในฐานะที่เป็นระดับคงความอมตะตลอดกาล ชั้นวิถีไกลนั้น กำลังความสามารถของเขาย่อมไม่เป็นที่สงสัย ดังนั้น นาทีนี้ผู้คนจำนวนมากอดที่จะมองไปที่หลี่ชิเย่ไม่ได้
แม้ว่าพระอาจารย์จินกวงยังมาไม่ถึง แต่ว่า มีเจ๋อหลงอยู่ที่นี่ ถ้าหากคนโหดอันดับหนึ่งสู้กับเจ๋อหลงแล้ว มันจะเป็นเช่นใดกันเล่า?
……………………………………………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...