ตอนที่ 3118 สุดยอดของวิเศษเซียน
ขณะเดียวกัน สิ่งที่สร้างความตระหนกแก่ผู้คนก็คือ พระอาจารย์จินกวงถึงกับบอกว่าปราชญ์อัจฉริยะหลันซูมีพรสวรรค์เหนือกว่าเขา นับว่าได้ทำให้ทุกคนต้องหวั่นไหวภายในใจ
ในทัศนะของทุกคนมองว่า ไม่ว่าจะเป็นด้านทักษะ หรือด้านพรสวรรค์ พระอาจารย์จินกวงอยู่เหนือปราชญ์อัจฉริยะหลันซู
แต่ มาวันนี้พระอาจารย์จินกวงกลับบอกว่าพรสวรรค์ของปราชญ์อัจฉริยะหลันซูอยู่เหนือตัวเขา แล้วจะไม่ทำให้ทุกคนต้องตกใจอยู่ในใจได้อย่างไรกันเล่า ขณะที่พระอาจารย์จินกวงพูดออกมานั้นไม่เหมือนเป็นคำพูดที่ถ่อมตน
เวลานี้ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน ในขณะนี้ทุกคนจึงตระหนักได้ว่า พวกเขายังคงประเมินปราชญ์อัจฉริยะหลันซูต่ำเกินไป การที่ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูถูกประเมินต่ำนั้น เกรงว่าจะมีความสัมพันธ์ยิ่งกับการที่เขาทำตัวค่อมต่ำตลอดมา
“ปราชญ์อัจฉริยะนะเนี่ย” มีระดับบรรพบุรุษหลังจากได้สติกลับมาจากคำพูดของพระอาจารย์จินกวงแล้ว กล่าวขึ้นมาเบาๆ ว่า “จะมีสักกี่คนที่สามารถได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘ปราชญ์อัจฉริยะ’ เล่า เพียงแต่ผู้คนบนโลกคิดเหลวไหลมากเกินไปเท่านั้น”
ผู้คนจำนวนไม่น้อยเหมือนตื่นจากความฝันอย่างนั้น เมื่อได้ฟังคำจากบรรพบุรุษผู้นี้แล้ว ต่างรู้สึกว่าคำพูดนี้มีเหตุผล ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘ปราชญ์อัจฉริยะ’ ลองถามดูว่า ใต้หล้านี้จะมีสักกี่คนที่สามารถได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘ปราชญ์อัจฉริยะ’ กันเล่า
การที่บุคคลผู้หนึ่งได้รับฉายาว่า ‘ปราชญ์อัจฉริยะ’ ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่าพรสวรรค์ของเขาจะมีความน่ากลัวเพียงใด
เพียงแต่ ชื่อเสียงของพระอาจารย์จินกวงโด่งดังมากกว่าปราชญ์อัจฉริยะหลันซูตลอดมา อีกทั้งทักษะก็อยู่เหนือปราชญ์อัจฉริยะหลันซู ดังนั้น จึงส่งผลให้ความรู้สึกของทุกคนต่างถูกครอบครองเอาไว้ก่อน และคิดไปว่าพรสวรรค์ของพระอาจารย์จินกวงอยู่เหนือปราชญ์อัจฉริยะหลันซู
“ความแข็งแกร่งของพี่ท่าน นับเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดเที่ข้าเคยพบมาก่อนนับแต่เข้าสู่ยุทธภพ” เวลานี้พระอาจารย์จินกวงจ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยท่าทีหนักแน่น และจริงจังมาก
“เรื่องปรกติ” หลี่ชิเย่ยิ้มๆ ท่าทางตามอารมณ์ยิ่ง และไม่ได้มีทีท่าของการถ่อมตนหรือกังวลอะไร
พระอาจารย์จินกวงก็ให้รู้สึกสงสัย และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ข้ารู้สึกแปลกใจอย่างยิ่งสำหรับชาติกำเนิดของพี่ท่าน สืบเสาะแล้วก็ไม่อาจทราบได้ นับว่าทำให้ข้าสงสัยอย่างแท้จริง”
ขณะที่พระอาจารย์พูดออกมาเช่นนี้ก็ทำให้ผู้คนเข้าใจได้ว่า พระอาจารย์จินกวงให้ความสนใจในตัวของหลี่ชิเย่มานานแล้ว เขามีรู้สึกแปลกใจในประวัติความเป็นมาของหลี่ชิเย่เป็นอย่างยิ่ง เขากระทั่งได้ทำการสืบค้น ศึกษาเกี่ยวกับชาติกำเนิดของหลี่ชิเย่มาก่อน เสียดาย กลับไม่ได้ผลแต่อย่างใด ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้พระอาจารย์จินกวงรู้สึกตระหนกอย่างยิ่ง
เนื่องจากพระอาจารย์จินกวงไม่เพียงเป็นระดับปฐมบรรพบุรุษคนหนึ่งเท่านั้น การคำนวณด้านดาราศาสตร์ การทำนายทายทักเขาก็ได้เรียนรู้มาบ้าง ทั้งยังประสบความสำเร็จได้ไม่ธรรมดาทีเดียว
“ข้าเป็นเพียงคนที่เดินทางผ่านมาคนหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ได้มีสิ่งใดน่าสนใจอะไรอยู่แล้ว” หลี่ชิเย่หัวเราะ และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ข้าเป็นเพียงคนที่เดินทางผ่านมาเท่านั้น เจ้าเข้าใจข้อนี้ก็เพียงพอแล้ว”
“ที่แท้เป็นเช่นนี้นี่เอง” แม้ว่าในใจของพระอาจารย์จินกวงได้สงสัยเช่นนี้มานานแล้ว เพียงแต่ไม่สู้จะมั่นในเท่านั้นเอง เวลานี้เมื่อหลี่ชิเย่พูดออกมาเอง จึงเข้าใจในทันทีแล้ว
ผู้คนจำนวนมากที่มองเห็นภาพของหลี่ชิเย่ กับพระอาจารย์จินกวงสนทนากันอย่างไม่สะทกสะท้าน ดูจากการสนทนาระหว่างคนทั้งสองแล้ว เสมือนดั่งเป็นสหายเก่าที่ไม่พบหน้ากันมานานอย่างนั้น ไม่มีอารมณ์ความโกรธใดๆ แม้แต่น้อย ยิ่งกว่านั้นยังไม่มีความเป็นศัตรู พลันทำให้ต้องมองตากันและกัน
เวลานี้ การสนทนาระหว่างหลี่ชิเย่และพระอาจารย์จินกวงทั้งสองคนต่างเป็นไปด้วยความสุภาพอะไรอย่างนั้น เกรงจะเป็นการบ่งบอกว่าพวกเขาคงจะไม่มีการต่อสู้เกิดขึ้น บุญคุณความแค้นต่างๆ นานาที่ผ่านมา เกรงว่าจะเลิกรากันเพียงเท่านี้
“สถานที่ตรงนี้คือพื้นที่ที่ยอดเยี่ยมอุดมสมบูรณ์” พระอาจารย์จินกวงละสายตากลับมา มองดูผืนแผ่นดินผืนนี้แล้วกล่าวว่า “พื้นที่ที่ยอดเยี่ยมอุดมสมบูรณ์แห่งนี้มีความสัมพันธ์ยิ่งกับเขาเซียนถงซานของพวกเรา”
“มันใช่จะเป็นเพียงพื้นที่ที่ยอดเยี่ยมอุดมสมบูรณ์ผืนหนึ่งเท่านั้น” หลี่ชิเย่ยิ้มบางๆ และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “นี่คือวาสนาอันยิ่งใหญ่!”
ในที่สุด ก็ได้ทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่ตื่นเต้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกโดยพลัน เมื่อหลี่ชิเย่และพระอาจารย์จินกวงได้พูดถึงผืนแผ่นดินผืนนี้ขึ้นมาแล้ว
ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างกลั้นลมหายใจขึ้นมาเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้ว ถ้าหากเมื่อใดที่พระอาจารย์จินกวงกับคนโหดอันดับหนึ่งตกลงกันไม่ได้ ไม่แน่นักก็จะต้องเข้าต่อสู้กัน
“เป็นวาสนาจริงๆ” พระอาจารย์จินกวงพยักหน้า กล่าวด้วยท่าทีจริงจังว่า “เผ่าเซียนถงพวกเรามีความเก่าแก่โบราณอย่างยิ่ง ต้นกำเนิดสามารถไล่เรียงย้อนกลับไปถึงยุคดึกดำบรรพ์ กระทั่งท้ายที่สุดแล้ว ก็ไม่สามารถไล่ย้อนไปถึงต้นกำเนิดได้ เผ่าเซียนถงพวกเราเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่ดึกดำบรรพ์มากที่สุดนับแต่อดีตถึงปัจจุบันของแดนสามเซียน”
สิ่งนี้พลันทำให้ผู้คนรู้สึกเหนือความคาดคิด เมื่อพระอาจารย์จินกวงพูดถึงเผ่าพันธุ์ของตนเองขึ้นมากะทันหัน ไม่นึกไม่ฝันว่าในเวลานี้พระอาจารย์จินกวงจะเอ่ยถึงเรื่องของเผ่าเซียนถง
แน่นอนที่สุด ทุกคนต่างก็รู้ว่า เป็นความจริงที่ว่าเผ่าเซียนถงนั้นมีความเก่าแก่โบราณยิ่ง และต้นกำเนิดเกี่ยวกับเผ่าเซียนถงก็เต็มไปด้วยตำนานต่างๆ นานา กระทั่งมีผู้คนจำนวนมากเห็นว่าเผ่าเซียนถงคือหนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่เก่าแก่ดึกดำบรรพ์ที่สุดของแดนสามเซียน มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะดึกดำบรรพ์ยิ่งกว่าเผ่าเจ๋าสือเสียอีก
“ปรัชญาเมธีแต่ละรุ่นของของเผ่าเซียนถงล้วนเคยติดตามต้นกำเนิดเกี่ยวกับเผ่าของพวกเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งปฐมบรรพบุรุษถงพวกเราได้ใช้ทั้งชีวิตเดินทางไปทั่วทุกมุมของแดนสามเซียน เพื่อหวังจะได้เรื่องราวเกี่ยวกับต้นกำเนิดเผ่าพันธุ์ของพวกเรา แต่ได้ผลไม่มาก” พระอาจารย์จินกวงกล่าวด้วยความจริงใจและจริงจัง
“ข้ารู้” หลี่ชิเย่ยิ้มบางๆ และกล่าวเรียบเฉยว่า “เป็นความจริงที่เผ่าเซียนถงเป็นเผ่าพันธุ์ที่เก่าแก่ดึกดำบรรพ์เผ่าหนึ่ง และมีวาสนากับข้าอยู่บ้าง”
หลี่ชิเย่พูดขึ้นมาเรียบๆ ใช่ว่าต้องการเชื่อมสัมพันธ์อะไรกับเผ่าเซียนถง สิ่งที่เขาพูดมานั้นเป็นความจริง เพียงแต่เบื้องหลังของเรื่องนี้กลับไม่มีผู้ใดทราบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...