สรุปเนื้อหา ตอนที่ 3119 แค่ต้องการสู้กันสักครั้ง – ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet
บท ตอนที่ 3119 แค่ต้องการสู้กันสักครั้ง ของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 3119 แค่ต้องการสู้กันสักครั้ง
พระอาจารย์จินกวงละสายตากลับมา ลักษณะท่าทางดูเป็นธรรมชาติ กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “แม้จะไม่มีสิ่งใดยิ่งใหญ่ไปกว่านี้อีกแล้วระหว่างผืนแผ่นดินผืนนี้กับแหล่งที่มาเขาเซียนถงซานของเรา ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถละทิ้งได้ แน่นอน หากพี่ท่านยินดีถอยให้ เขาเซียนถงซานพวกเรายินดีมอบสิ่งที่พี่ท่านต้องการได้ ขอเพียงเป็นสิ่งที่เขาเซียนถงซานของเราสามารถทำได้”
ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างพยักหน้าเบาๆ เมื่อได้ฟังคำพูดของพระอาจารย์จินกวง ต่างรู้สึกว่าพระอาจารย์จินกวงนับว่าเป็นผู้ที่เข้าใจและมีเหตุผลแล้ว นับว่ามีความใจกว้างเป็นอย่างยิ่ง
แน่นอนที่สุด ก็มีระดับคงความอมตะตลอดกาลที่แข็งแกร่งยิ่งไม่ได้คิดเช่นนี้ในใจ ที่ว่าเข้าใจมีเหตุผล หรือที่เรียกว่าใจกว้างนั้น มันก็แค่เป็นการถอยกันคนละก้าว เป็นการประนีประนอมซึ่งกันและกันระหว่างยอดฝีมือเท่านั้นเอง
ถ้าหากพบยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนอื่นๆ หรือพบกับสำนักอื่นๆ อย่าว่าแต่พระอาจารย์จินกวงเลย แม้แต่เขาเซียนถงซานก็ไม่จำเป็นต้องมีการต่อรอง แค่ขับไล่ออกจากผืนแผ่นดินโดยตรงก็พอแล้ว
แน่นอน พระอาจารย์จินกวงออกหน้าด้วยตนเอง ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั่วไปก็คงไม่กล้าแย่งชิงด้วย
แต่ว่า คนโหดอันดับหนึ่งนั้นแตกต่าง ความแข็งแกร่งของเขาเห็นๆ กันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการออกหน้าด้วยตนเองของพระอาจารย์จินกวง หรือว่าการลงมือของเจ๋อหลง คนโหดอันดับหนึ่งก็ไม่ได้หวาดหวั่นแต่อย่างใด ดังนั้น หากเขาเซียนถงซานคิดจะเล่นไม้แข็งกับคนโหดอันดับหนึ่งจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เป็นการรนหาที่ตายเอง
“ไม่ต้องการ” หลี่ชิเย่เพียงยิ้มๆ ส่ายหน้า และกล่าวปฏิเสธทันควัน สำหรับการยื่นขอปรับความเข้าใจและอ่อนข้อให้ของพระอาจารย์จินกวง
ผู้คนจำนวนมากต่างไม่รู้สึกเหนือความคาดคิดที่คนโหดอันดับหนึ่งปฏิเสธความหวังดีของพระอาจารย์จินกวง เหมือนว่าทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเรื่องที่อยู่ในความคาดคิดอยู่แล้ว นับตั้งแต่คนโหดอันดับหนึ่งเข้าสู่ยุทธภพเป็นต้นมา เขาเคยไว้หน้าใครบ้างล่ะ? ต่อให้เป็นศัตรูที่กล้าแข็งกว่านี้เขาก็ไม่เคยคิดว่ามีอะไรดี ดังนั้น เวลานี้แม้จะเป็นพระอาจารย์จินกวง เขาก็ไม่ไว้หน้าเช่นกัน ยังคงทำตามในปรารถนา ทำในสิ่งที่อยากจะทำ
“ความลึกซึ้งธาตุแท้ภายในพี่ท่าน ยากที่รุ่นพวกข้าสามารถจินตนาการได้” พระอาจารย์จินกวงก็ไม่ได้แสดงอาการโกรธเมื่อถูกหลี่ชิเย่ปฏิเสธทันควัน หัวเราะและกล่าวว่า “ผืนแผ่นดินผืนนี้ข้าไม่เอาก็ได้ ต้นกำเนิดเขาเซียนถงซานของข้าสามารถค่อยๆ ไล่ย้อนกันไป สำหรับสุดยอดของวิเศษเซียนรึ…”
เมื่อพระอาจารย์จินกวงเอ่ยถึงตรงนี้แล้วได้หยุดลงนิดหนึ่ง
ขณะที่คนอื่นๆ อดรู้สึกตื่นเต้นในใจขึ้นมาไม่ได้เมื่อฟังมาถึงตรงนี้ ทุกคนล้วนไม่รู้ว่าพระอาจารย์จินกวงจะเลือกอย่างใด
จะอย่างไรเสีย สิ่งนี้คือสุดยอดของวิเศษเซียนชิ้นหนึ่งที่สามารถทำให้กลายเป็นปฐมบรรพบุรุษ ชั้นแดนลัทธิเซียนได้ เปลี่ยนเป็นใครก็ตามก็ต้องอยากได้จนใจเต้นตุบๆ และจะไม่ยอมละทิ้งง่ายดาย พระอาจารย์ที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ทั่วหล้าจะมีสักกี่คนที่สามารถเป็นศัตรูกับเขาได้? เขาไม่เคยกลัวใครอยู่แล้ว ทุกคนต่างมองว่า พระอาจารย์จินกวงไม่มีความจำเป็นต้องละทิ้งอย่างสิ้นเชิง สุดยอดของวิเศษเซียนชิ้นนี้นับว่าล้ำค่ายิ่งเหลือเกิน
“แม้ว่าสิ่งนี้สามารถช่วยให้ผู้คนก้าวขึ้นสู่ลัทธิเซียน แต่ว่า นับแต่อดีตถึงปัจจุบัน มีระดับปฐมบรรพบุรุษ ชั้นลัทธิเซียนที่อาศัยสิ่งนอกกายกันเล่า?” พระอาจารย์จินกวงหัวเราะทีหนึ่ง ท่าทางดูสบายๆ ยิ่ง ขณะที่เขาหัวเราะอย่างสบายๆ เช่นนี้เปี่ยมด้วยเสน่ห์ และเปี่ยมด้วยความเชื่อมั่นในตนเอง
แม้ว่าพระอาจารย์จินกวงหาใช่เป็นสุดยอดบุรุษรูปงามในหล้า แต่ว่า ความมีเสน่ห์ของเขาหาใช่บุรุษรูปงามที่อาศัยรูปลักษณ์ภายนอกสามารถเทียบเคียงได้อยู่แล้ว
“ต่อให้ปราศจากสุดยอดของวิเศษเซียนเช่นนี้ ข้าก็มั่นใจในตนเองว่า ในอนาคตต้องสามารถขึ้นไปยังชั้นลัทธิเซียนได้” พระอาจารย์จินกวงยิ้มด้วยความมั่นใจ บุรุษที่มีความมั่นใจไม่ว่าเวลาใดก็เปี่ยมด้วยเสน่ห์ เขากล่าวโดยแฝงรอยยิ้มว่า “สุดยอดของวิเศษเซียนนี้ข้าก็ละทิ้งได้เช่นกัน”
พลันที่พระอาจารย์จินกวงพูดคำๆ นี้ออกมา ได้ทำให้ทุกคนตกใจอย่างยิ่ง ทุกคนต่างนึกไม่ถึงว่าพระอาจารย์จินกวงถึงกับละทิ้งได้กระทั่งสุดยอดของวิเศษเซียนนี้ได้ จะอย่างไรเสีย สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สามารถทำให้กลายเป็นปฐมบรรพบุรุษ ชั้นลัทธิเซียนนะเนี่ย หากเปลี่ยนเป็นผู้ใดก็ตาม ย่อมอดไม่ได้ที่จะต้องได้มาครอบครอง แต่ว่า เวลานี้พระอาจารย์จินกวงถึงกับยอมละทิ้งได้อย่างง่ายดาย
ท่าทีเช่นนี้ของพระอาจารย์จินกวงนับว่าสร้างความตระหนกแก่ผู้คนมากเหลือเกิน อีกทั้งไม่ว่าใครก็มองออกได้ว่า การที่พระอาจารย์จินกวงสามารถละทิ้งสุดยอดของวิเศษเซียนชิ้นนี้ หาใช่เป็นเพราะเขาเกรงกลัวในตัวของหลี่ชิเย่ แต่เป็นเพราะเขาสามารถเลือกทางนี้เท่านั้นเอง
“พระอาจารย์จินกวงย่อมเป็นพระอาจารย์จินกวง ด้วยความใจกว้างเช่นนี้นับว่าไร้ผู้เทียบเทียม ไม่เสียทีที่เป็นถึงระดับปฐมบรรพบุรุษปราศจากผู้ต่อกรแห่งยุค” เมื่อผู้คนได้ยินคำบอกเล่าเช่นนี้ของพระอาจารย์จินกวงแล้ว ถึงกับชมเปาะด้วยความตื่นตะลึง
หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะ ปรบมือ และกล่าวชื่นชม พยักหน้าและกล่าวว่า “พูดได้ดีมาก สัจธรรมเลื่อนลอย หากคิดจะอาศัยสุดยอดของวิเศษเซียนสักชั้นเพื่อกลายเป็นปฐมบรรพบุรุษลัทธิเซียน วิถีทางย่อมจะไม่ยาวไกล ต่อให้สามารถกลายเป็นปฐมบรรพบุรุษลัทธิเซียนได้ ก็จะทิ้งภัยพิบัติที่แฝงเร้นเอาไว้ในอนาคต”
“พี่ท่านมาที่นี่ เกรงว่าก็คงไม่ได้มาเพื่อของสิ่งนี้กระมัง?” พระอาจารย์ไม่ได้ลำพองใจ ไม่ได้หยิ่งยโส และกล่าวด้วยความจริงจัง
“ไม่” หลี่ชิเย่หัวเราะ ส่ายหน้า ท่าทางเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และกล่าวว่า “ข้าก็คือมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่ง เป็นคนเหยาะแหยะหยาบคายคนหนึ่ง เป็นความจริงที่ข้ามาด้วยสิ่งของสิ่งนี้ สิ่งของสิ่งนี้มีประโยชน์สำหรับข้า”
เมื่อหลี่ชิเย่พูดเช่นนี้ ทำให้ผู้คนบางคนจ้องมองตากันและกัน ในทัศนะของยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนบางส่วนมองว่า ระหว่างคนโหดอันดับหนึ่ง กับพระอาจารย์จินกวงสามารถตัดสินว่าใครเหนือกว่าได้แล้ว จากท่าทีในเรื่องดังกล่าวนี้
ต่อให้สุดยอดของวิเศษเซียนชิ้นนี้สามารถช่วยให้คนได้กลายเป็นระดับปฐมบรรพบุรุษชั้นแดนลัทธิเซียน พระอาจารย์จินกวงยังคงสามารถมองเป็นเรื่องธรรมดา สุดท้ายแล้วเขาก็สามารถละทิ้งได้โดยไม่ไปฝืน
แต่ คนโหดอันดับหนึ่งดันจะต้องครอบครองมันให้ได้ เหมือนว่าจะไม่เสียดายว่าจะแลกด้วยค่าตอบแทนใดๆ
ดูจากเรื่องนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นด้านน้ำใจหรือจิตใจ และหรือความใจกว้าง ดูเหมือนคนโหดอันดับหนึ่งจะเทียบไม่ได้กับพระอาจารย์จินกวง
“เข้าใจ” พระอาจารย์จินกวงกลับเข้าใจ พยักหน้า และกล่าวว่า “ในเมื่อพี่ท่านมาเอาของสิ่งนี้ ย่อมมีเหตุผลของพี่ท่านอย่างแน่นอน”
“ข้าคิดว่าเจ้าเองก็คงจะไม่จากไปเพียงเท่านี้” หลี่ชิเย่หัวเราะ ดูจะมีการเตรียมการมาอย่างดีแล้ว
“พี่ท่านรู้ใจข้า” พระอาจารย์จินกวงอดที่จะเผยรอยยิ้มออกมา ท่าทางเหมือนปิติยินดี ถูมือและกล่าวว่า “ดูท่าพี่ท่านเข้าใจถึงจุดประสงค์การมาของข้าแล้ว”
“ก็มีบ้าง” หลี่ชิเย่กล่าวตามอารมณ์
“ที่ข้ามาที่นี่ในวันนี้ ไม่ได้มาพูดเรื่องบุญคุณความแค้นกับพี่ท่าน และไม่ได้มาแย่งชิงสิ่งนี้กับพี่ท่าน ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเรื่องเล็กน้อยบนโลกมนุษย์เท่านั้นเอง ไม่ต้องไปวุ่นวายกับมันมากมายนัก” ท่าทีพระอาจารย์จินกวงจริงจังอย่างยิ่ง พูดด้วยความจริงใจยิ่งนัก
“ขอพี่ท่านได้โปรดชี้แนะด้วย” พระอาจารย์จินกวงไม่ยอมเลิกรา แสดงคารวะแบบจีน และกล่าวว่า “หากพี่ท่านไม่ยอมรู้ ไหนเลยจะให้ผู้อื่นเขายอมรับเล่า!”
หลี่ชิเย่อดที่จะหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ และกล่าวว่า “นับว่าเจ้านี่มีปณิธานการต่อสู้ที่ฮึกเหิมมาก!”
คำพูดของหลี่ชิเย่กลับทำให้ผู้อื่นรู้สึกเหนือความคาดคิด เวลานี้ ดูไปแล้วพระอาจารย์จินกวงสงบและเป็นธรรมชาติยิ่งในเวลานี้ บนตัวของเขาไม่ได้มีปณิธานการต่อสู้ที่ดั่งคลื่นยักษ์ใดๆ แต่ว่า คนโหดอันดับหนึ่งกลับบอกว่าเขามีปณิธานการต่อสู้ที่ฮึกเหิม
“อยากจะได้พบคู่ต่อสู้” พระอาจารย์จินกวงเอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า “พี่ปราชญ์อัจฉริยะเคยยกย่องพี่ท่านครั้งแล้วครั้งเล่า ดังนั้น ข้าจึงไม่เจียมตัวต้องการสู้กับพี่ท่านสักครั้ง เพื่อเปิดหูเปิดตาถึงความสูงส่งของสัจธรรม!”
“ยิ่งสูงยิ่งหนาว” หลี่ชิเย่หัวเราะ พยักหน้า สามารถเข้าใจได้สำหรับสภาพจิตใจเช่นนี้ของพระอาจารย์จินกวง
บางทียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั่วไปอาจไม่ได้มีความรู้สึกเช่นนั้น แต่ว่า บรรดาเหล่าบรรพบุรุษที่แข็งแกร่ง ระดับคงความอมตะตลอดกาลที่ปราศจากผู้ต่อกร เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้ว ต่างรู้สึกสั่นเทาในใจทีหนึ่ง
ยิ่งสูงยิ่งหนาว! นี่แหละคือพระอาจารย์จินกวง
นับแต่อดีตถึงปัจจุบัน พระอาจารย์จินกวงไม่นับเป็นผู้ที่สุดยอดปราศจากผู้เทียบเทียมในหล้า และไม่ถือเป็นปฐมบรรพบุรุษที่น่าทึ่งที่สุดนับแต่อดีตถึงปัจจุบัน
ทว่า สำหรับในยุคนี้ พระอาจารย์จินกวงเพียงพอที่จะเรียกว่าน่าทึ่งอย่างแท้จริง และเพียงพอที่จะเรียกว่าปราศจากผู้เทียบเทียมในหล้า
ทั่วหล้าในยุคสมัยนี้ หนึ่งเดียวที่สามารถเทียบเคียงกับพระอาจารย์จินกวงได้ก็คือปราชญ์อัจฉริยะหลันซูแล้ว แต่ว่า ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูนั้นอยู่อย่างสมถะตลอดมา ไม่ได้มีจิตใจที่ต้องการเอาชนะหรือแก่งแย่งใดๆ
ลองนึกภาพดู ทั่วหล้ายังจะมีผู้ใดสามารถเป็นศัตรูกับพระอาจารย์จินกวงได้เล่า?
แม้ว่าขณะที่พระอาจารย์จินกวงอายุยังน้อย ได้พบกับคู่ต่อสู้หรือศัตรูเป็นการชั่วคราว แต่ว่า จากการที่เขามีความแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ บรรดาผู้ที่เคยเป็นศัตรูกล้าแข็งเหล่านั้นล้วนแล้วแต่กลายเป็นไม่คู่ควรจะกล่าวถึงแล้ว
ความปราศจากผู้ต่อกร พระอาจารย์จินกวงในขณะนี้ก็คือผู้ปราศจากผู้ต่อกร อย่างน้อยที่สุดเขาก็ปราศจากผู้ต่อกรแล้วในยุคสมัยของตนเอง ผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ในยุคเดียวกันไม่สามารถเทียบเคียงกับเขาได้อีกแล้ว
ยิ่งสูงยิ่งหนาว ผู้ที่อยู่ในยุคสมัยเดียวกันไม่สามารถต่อกรกับเขาได้อีกแล้ว ทอดสายตามองไปโดยรอบไร้ซึ่งคู่ต่อสู้ นี่คือความเดียวดายเช่นใด!
………………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...