ตอนที่ 3122 พลังมหาศาล
ขวานเบิกฟ้ามีอานุภาพมหาศาล ความแข็งแกร่งของมันเหนือกว่าอาวุธปฐมบรรพบุรุษทั่วไปอยู่มากทีเดียว แม้แต่อาวุธปฐมบรรพบุรุษชั้นแดนลัทธิเซียนก็ตาม
อานุภาพของขวานเบิกฟ้าที่ทรงพลังถึงเพียงนี้ช่างน่ากลัวเพียงใด และมีความสยองขวัญเช่นใด เมื่ออยู่ในมือของพระอาจารย์จินกวงและถูกจามลงมาสุดแรงเกิด หนึ่งขวานเบิกฟ้านับว่าไม่เป็นการคุยโตโอ้อวดแม้แต่น้อย
หนึ่งขวานที่จามลงมาเช่นนี้ สามารถจัดการผ่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิๆ หนึ่งที่แข็งแกร่งแยกออกเป็นสองซีกโดยสิ้นเชิง
แม้หนึ่งขวานลักษณะเช่นนี้จะผ่าแดนผีชั่วร้ายให้แยกออก แต่ว่า กลับถูกหอกปีศาจอเวจีต้านเอาไว้ได้ อีกทั้งหอกปีศาจอเวจีกลับไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อย ขณะต้านการฟันลงมาของขวานเบิกฟ้า
ความแหลมคมของขวานเบิกฟ้า อานุภาพของขวานไม่จำเป็นต้องกล่าวมากความ ต่อให้เป็นอาวุธปฐมบรรพบุรุษชั้นเดียวกัน ภายใต้การต้านรับซึ่งหน้าเช่นนี้ จะอย่างไรเสียก็ต้องถูกจามจนเป็นรอยแหว่งเล็กๆ ขึ้นมา
แต่ว่า หอกปีศาจอเวจีกลับไม่ได้รับความเสียหายเลยแม้แต่น้อย ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่า หอกปีศาจอเวจีนั้นมีความแข็งแกร่งเพียงใด วัตถุดิบที่ใช้ในการหลอมสร้างมันขึ้นมานั้นมีความสะเทือนเลื่อนลั่นเพียงใด
สามารถมองออกได้อย่างสิ้นเชิงว่า ความแข็งแกร่งของหอกปีศาจอเวจีนั้นอยู่เหนือขวานเบิกฟ้าอย่างแน่นอน
ดังนั้น จึงมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกใจหายใจคว่ำเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว ไม่มีผู้ใดทราบถึงประวัติความเป็นมาของหอกปีศาจอเวจี ชื่อเสียงของมันเทียบไม่ได้กับขวานเบิกฟ้าที่มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ว่า เวลานี้ไม่ว่าใครก็สามารถมองออกได้ว่า หอกปีศาจอเวจีเหนือกว่าขวานเบิกฟ้า
ขณะเดียวกันก็ทำให้ผู้คนคิดได้ว่า การที่คนโหดอันดับหนึ่งสามารถหยิบเอาหอกปีศาจอเวจีที่แข็งแกร่งน่ากลัวออกมาตามอารมณ์ได้เช่นนี้ ลองจินตนาการดูว่า ธาตุแท้ภายในของคนโหดอันดับหนึ่งจะมีความลึกล้ำเช่นใดเล่า?
อย่างไรก็ตาม ยอดฝีมือที่แท้จริงไม่ได้มองที่หอกปีศาจอเวจี แต่มองไปที่ตัวของหลี่ชิเย่
หอกปีศาจอเวจีไม่เพียงแต่ต้านรับการจามลงมาของขวานเบิกฟ้าที่ปราศจากผู้ต่อกรและน่ากลัวเช่นนี้เอาไว้เท่านั้น และไม่เพียงแต่หอกปีศาจอเวจีที่ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ เท่านั้น
สิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกน่ากลัวก็คือ หลี่ชิเย่ยังคงยืนหยัดอยู่ไม่มีการเคลื่อนไหวภายใต้หนึ่งขวานนี้ ขอเพียงเป็นผู้ที่มีกำลังความสามารถแข็งแกร่งล้วนเข้าใจได้ว่า หนึ่งขวานของพระอาจารย์จินกวงนั้นช่างสยองขวัญเพียงใด ลำพังแค่พลังกระแทกของหนึ่งขวานก็สามารถทำลายฟ้าดินจนพินาศย่อยยับได้
แต่ว่า ดูเหมือนหลี่ชิเย่จะไม่ได้มีการเคลื่อนไหวกระทั่งหัวไหล่ด้วยซ้ำ ก็สามารถต้านรับหนึ่งขวานที่สะเทือนเลื่อนลั่นเช่นนี้เอาไว้ได้สบายๆ ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่า กำลังความสามารถของหลี่ชิเย่นั้นแข็งแกร่งไปถึงขั้นไหนแล้ว
“ไป…” จังหวะที่หนึ่งขวานของพระอาจารย์จินกวงไร้ผลนั้น หอกปีศาจอเวจีในมือของหลี่ชิเย่งัดทีหนึ่ง พลันงัดเอาขวานเบิกฟ้าที่กดทับอยู่บนหอกออกไป
เสียงตูมดั่งสนั่นหวั่นไหว ในเสี้ยววินาทีนี้เอง หอกปีศาจอเวจีในมือของหลี่ชิเย่ง้างขึ้นมา และหวดไปที่พระอาจารย์จินกวง
การที่หลี่ชิเย่ถือโอกาสเอาหอกปีศาจอเวจีหวดเข้าไป ในขณะนี้หลี่ชิเย่ได้นำเอาหอกปีศาจอเวจีมาใช้เสมือนดั่งเป็นไม้กระบองโดยสิ้นเชิง และกระบองยาวก็ถูกยกขึ้นและหวดลงมา
หนึ่งกระบองยาวของหลี่ชิเย่ที่หวดลงมาเช่นนี้ แลดูเหมือนตามอารมณ์ยิ่งนัก แต่ว่า หนึ่งหอกที่ฟาดลงมานั้นมันช่างสยองขวัญเช่นใด
เสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว ท้องฟ้าพังถล่มลงมา พริบตาเดียวขณะที่หอกเล่มนั้นฟาดลงมา สุริยันจันทราและดวงดาว ทางช้างเผือกที่รายล้อมอยู่รอบๆ ตัวของพระอาจารย์จินกงล้วนแตกสลายไปโดยพลัน
ในเวลานี้เอง ท้องฟ้าถูกหวดจนม้วนตัวลอยไปเสมือนดั่งคลื่นยักษ์ ปรากฎเป็นพื้นที่ที่มีความพร่างพราวเป็นบริเวณกว้างที่ด้านล่างของหอกปีศาจอเวจี
“กาลเวลาไหลย้อนกลับ” บรรพบุรุษชั้นคงความอมตะตลอดกาลผู้หนึ่งถึงกับร้องเสียงแหลมขึ้น เมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว
สิ่งนี้หาใช่เป็นการสำแดงเคล็ดวิชาของหลี่ชิเย่แล้วทำให้กาลเวลาไหลย้อนกลับ แต่เป็นเพราะพริบตาเดียวที่หนึ่งหอกของเขาหวดลงมานั้น ได้ทำให้กาลเวลาที่ไหลเคลื่อนไปบริเวณที่พวกเขาอยู่ถูกหวดจนถอยกลับไป และนี่ก็คือเหตุผลว่าเพราะอะไรภายใต้หนึ่งหอกนี้จึงกลับกลายเป็นความพร่างพราวเป็นบริเวณกว้าง
“เปิด…” พระอาจารย์จินกวงที่เผชิญกับภาพที่น่าสยองขวัญสุดๆ ยากจะหาใดเทียมเช่นนี้ได้คำรามเสียงยาวขึ้นมา อานุภาพปฐมบรรพบุรุษปราศจากผู้ต่อกร ขวานเบิกฟ้าในมือยกขวางขึ้น อาศัยมือทั้งสองข้างยกขวานขึ้นไปต้านรับกับหอกปีศาจอเวจีที่หวดเข้ามา
เสียงปังดังสนั่นหวั่นไหว กาลเวลาแตกละเอียด ความพร่างพราวนับไม่ถ้วนโปรยปรายลงบริเวณที่พวกเขายืนอยู่
ในพริบตาเดียวนั่นเอง ทางช้างเผือกนับพันนับหมื่น โลกทั้งโลกของพระอาจารย์จินกวงล้วนแล้วแต่หายวับไปกับตาในพริบตา และตัวของพระอาจารย์จินกวงถูกหวดจนกระเด็นออกไป ได้ยินเสียงปังที่ดังสนั่นหวั่นไหว พระอาจารย์จินกวงได้พุ่งชนเข้ากับผนังกาลเวลาด้วยความเร็วสูง ชนผนังดังกล่าวจนละเอียด กาลเวลานับไม่ถ้วนได้เทราดลงมาเสมือนดั่งน้ำในแม่น้ำที่พลุ่งพล่าน ดูอลังการยิ่งนัก
ภาพลักษณะเช่นนี้นับว่าสร้างความหวั่นไหวต่อจิตใจมากเหลือเกิน ทำให้ผู้คนมองดูจนไม่สามารถเรียกสติกลับมาเป็นเวลานาน
ทุกคนต่างอ้าปากกว้างมากเมื่อเห็นภาพนี้ ภายใต้ถูกทำให้หวั่นไหวเช่นนี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกอึดอัด รู้สึกเหมือนหัวใจของตนพลันถูกคนเขาบีบจนช็อค แทบจะเป็นลมล้มลงกับพื้นแล้ว
ศึกระหว่างปฐมบรรพบุรุษช่างเป็นอะไรที่น่าสยองขวัญอะไรอย่างนั้น หากการศึกเช่นนี้ระเบิดขึ้นที่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิๆ หนึ่งล่ะก็ เกรงว่าพร้อมจะทำให้ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธินั้นๆ หายวับไปกับตาในพริบตา
ที่สร้างความหวั่นไหวให้ผู้คนมากไปกว่าก็คือ แค่หนึ่งกระบวนท่าพระอาจารย์จินกวงก็สู้ไม่ได้และถูกหอกยาวของคนโหดอันดับหนึ่งหวดจนกระเด็น ช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัวอะไรอย่างนั้น
พริบตาเดียวนั่นเอง ไม่รู้ว่าผู้คนจำนวนเท่าไรที่วิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง มีผู้คนในแดนลัทธิเซียนจำนวนเท่าไรที่มองพระอาจารย์จินกวงเป็นแบบอย่าง ผู้คนจำนวนเท่าไรที่เห็นว่า ด้วยผลงานในวันนี้ของพระอาจารย์จินกวงเป็นความสูงที่พวกเขาไม่สามารถก้าวล้ำแซงหน้าไปได้ชั่วชีวิต
แต่ว่า เวลานี้พระอาจารย์จินกวงกลับถูกหนึ่งหอกของหลี่ชิเย่ ฟาดจนกระเด็นออกไป ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนตนเองถูกฟาดจนแตกละเอียดไปอย่างนั้น ไม่สามารถเปรียบเปรยได้ด้วยปากกา
“หรือว่าคนโหดอันดับหนึ่งคือปฐมบรรพบุรุษชั้นลัทธิเซียนไปแล้ว” ทุกคนต่างเหม่อลอย และกล่าวด้วยท่าทีงุนงงเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...