ตอน ราชันเร้นลับ 1006 : การเคลื่อนไหวสุดท้ายและบทสรุป จาก ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ราชันเร้นลับ 1006 : การเคลื่อนไหวสุดท้ายและบทสรุป คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
มันเป็นเพียงนกกระเรียนกระดาษธรรมดา โดยทันทีที่ถูกขว้างออกไป เปลวไฟสีแดงเข้มพลันลุกโชนและแผดเผาจนเริ่มกลายเป็นขี้เถ้า
ในท่าแหงนมองฟ้า อามุนด์ก้มหน้าลงและจ้องมองเปลวไฟสีแดง ตามด้วยยกมือขึ้น
ด้านหลังแว่นตาขาเดียว แสงเย็นเยียบสว่างขึ้น
เพียงพริบตา เปลวไฟที่แผดเผานกกระเรียนกระดาษหายไป พลังในการสลับตำแหน่งกับหุ่นเชิดหายไป พลังควบคุมเพลิงหายไป พลังกระโจนเพลิงหายไป พลังปืนใหญ่อัดอาการหายไป!
มันถูกขโมยพลังพิเศษทั้งสิ้นหกชนิด สี่จากหกเป็นพลังที่สำคัญมาก!
หากอามุนด์ขโมยเพิ่มได้อีกสักนิด ไคลน์อาจกลายเป็นเพียงคนธรรมดา
นี่คือ ‘การขโมย’ ระดับเทวทูต!
ท่ามกลางเปลวไฟที่ดับมอด นกกระเรียนกระดาษยังคงลอยอย่างช้าๆ
…
เบ็คลันด์ บ้านของนายแพทย์อลัน ภายในรถเข็นเด็กสีดำ
วิล·อัสติน·คริสที่ถูกห่อด้วยผ้าไหมสีเงิน เช็ดปากและดวงตา พึมพำเสียงแผ่ว
“ทำไมชีวิตมันเหนื่อยแบบนี้…”
ยังไม่ทันสิ้นเสียง มันหยิบไม้เท้าออกจากที่ใดไม่มีใครทราบ ส่วนหัวฝังพลอยสีใส
แสงที่บริสุทธิ์ค่อยๆ สร้างขึ้น เผยให้เห็นปฏิทินในห้องอย่างชัดเจน
วันนี้เป็นวันอังคาร
…
บ้านเลขที่ 160 ถนนเบิร์คลุน ภายในสวนของดอน·ดันเตส
นกกระเรียนกระดาษที่ถูกเผาไปบางส่วนจนกลายเป็นสีดำ จู่ๆ ก็ลอยค้างกลางอากาศ สัญลักษณ์สีเงินอันซับซ้อนพุ่งออกมาทีละตัว ก่อนจะกลายเป็นงูไร้เกล็ดขนาดมหึมา
บนผิวของงูยักษ์สีเงินสว่างตัวนี้ สัญลักษณ์เริ่มก่อตัวเป็นกงล้อที่เชื่อมต่อหัวถึงหาง โดยที่แต่ละกงล้อจะมีสัญลักษณ์ต่างกัน
ดวงตาสีแดงสดและเย็นเยียบมองไปรอบๆ หนึ่งครั้ง ก่อนที่งูยักษ์จะลอยสูงขึ้นไปในอากาศเหนือถนนเบิร์คลุน ขดตัวงับหางตัวเอง
เงาของมันแผ่ปกคลุมทั่วทั้งบล็อกถนน ดูคล้ายกับกงล้อมายาอันลึกลับซับซ้อน
เพียงพริบตา ไม่ว่าจะส.ส. มัคท์ในห้องนั่งเล่นของบ้านเลขที่ 39 ถนนเบิร์คลุน มาดามลีอานน่า และสาวใช้กับคนรับใช้อีกจำนวนหนึ่ง ทั้งหมดพลันหุบยิ้ม ถอดแว่นตาขาเดียวออกจากตาขวา เก็บกลับเข้าไปในมือ ก่อนที่แว่นจะกลายเป็นเพียงจุดแสงสว่าง
ทันทีหลังจากนั้น บ้างสวมแว่นตากรอบทองที่ดูคล้ายเครื่องประดับ บ้างขยี้ตา บ้างมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยท่าทีผ่อนคลาย ย้อนกลับไปยังสถานะก่อนหน้า
เฮเซลที่กำลังนั่งก้นจ้ำเบ้าบนพื้น ได้เห็นฉากตรงหน้า เธอรู้สึกราวกับโลกทั้งใบกำลังถล่ม รีบใช้มือทั้งสองข้างพยุงร่างกายให้ลุกยืนและรีบก้าวถอยหลัง
ดวงตาอันแสนเย็นชาของอามุนด์หายไปจากหุ่นเชิด ‘ผู้ชนะ’ เอ็นยูน แว่นตาขาเดียวบิดงอเล็กน้อย สายตาเอ็นยูนมิได้ดูแคลนไคลน์เหมือนในตอนต้น
นอกจากนั้น บางสิ่งถูกขับออกจากร่างของมันอย่างเชื่องช้า ไม่ใช่อะไรนอกจาก ‘หนอนกาลเวลา’ ตัวใสที่เต็มไปด้วยลวดลายหนาและชัดเจน หนอนตัวดังกล่าวปรากฏขึ้นด้านบนศีรษะ
และภายในมิติแห่งความลับนี้ หนอนกาลเวลาตัวดังกล่าวกลายสภาพเป็นชายผมดำ ดวงตาสีดำ หน้าผากกว้าง ใบหน้าผอมเพรียว
นี่ไม่ใช่ภาวะ ‘กระแสเวลา’ ในถนนเบิร์คลุนไหลถอยหลัง เพราะทั้งไคลน์และเลียวนาร์ดต่างไม่ได้รับผลกระทบ หากแต่เป็นการย้อนกลับสถานะของอามุนด์กลับไปเมื่อหลายนาทีก่อน!
อสรพิษโชคชะตา ‘เริ่มต้นใหม่’ !
แม้ว่าวิล·อัสตินจะคาดคะเนความผันผวนของชะตากรรมไว้ช้ากว่านี้เล็กน้อย แต่ท้ายที่สุดก็ปรากฏกายพร้อมกับสร้างอิทธิพลได้ทันเวลา
และเพื่อแลกกับความช่วยเหลือของอสรพิษแห่งชะตา ไม่เพียงไคลน์ต้องเตรียมไอศกรีมห้าลูกที่มีรสชาติแตกต่างกัน แต่ยังสัญญาว่าจะตอบแทนอย่างเหมาะสม ผลของการพูดคุยเบื้องต้นก็คือ ไคลน์ต้องหาสมบัติวิเศษที่จะช่วยให้วิล·อัสตินฟื้นคืนพลังกลับมาในช่วงเวลาสั้นๆ อย่างน้อยสองชิ้น
เมื่ออามุนด์เผชิญกับเหตุไม่คาดฝัน ไคลน์ไม่ลังเลที่จะชักลูกโม่ลางมรณะออกมาง้างนก เล็กปากกระบอกไปทางอีกฝ่าย
ปัง!
มันลั่นไกลางมรณะอย่างใจเย็นและเด็ดขาด ปลดปล่อย ‘กระสุนคุมวิญญาณ’ ที่เตรียมไว้นานแล้ว
ลำแสงสีเงินเข้มสว่างวาบ กระสุนพุ่งปะทะร่างอามุนด์ที่สวมหมวกปลายแหลมและชุดคลุมสีดำทรงโบราณ ทะลวงผ่านร่าง ‘หนอนกาลเวลา’ ที่มีขนาดใหญ่และคมชัดกว่า ‘หนอนกาลเวลา’ ตัวใดที่ไคลน์เคยเห็นมาทั้งหมด!
ท่ามกลางแสงกระจัดกระจาย ร่างอามุนด์ในอากาศพลันสั่นสะท้านและแข็งทื่อ ล้มเหลวในการแสดงอารมณ์ทางสีหน้า
และในขณะเดียวกัน เลียวนาร์ดที่เพิ่งมาถึงด้านบนตามคำแนะนำของชายชรา ทำการเหยียบไม้เท้าวาจาสมุทรและลอยตัวบนอากาศ เหยียดแขนเล็กน้อย ผ่อนคลายร่างวิญญาณของตน
ภายในดวงตาสีเขียวคู่นั้น แสงสว่างจางๆ ปรากฏขึ้นพร้อมกับหนอนกาลเวลาสิบสองปล้อง
หนอนกาลเวลาทั้งสองตัวต่างขดหัวชนหาง กลายเป็นรูปทรงกงล้อแนวตั้ง
กงล้อหมุนอย่างเชื่องช้า ภาพมายาที่มีร่องรอยโบราณปรากฏขึ้นด้านหลังเลียวนาร์ด
ผ่านไปไม่กี่วินาที มันกลับมาอยู่ในรูปลักษณ์เดิมอีกครั้ง ชีวิตชีวากลับมาชุ่มฉ่ำร่างกาย
พลังของเทวทูตนับว่าใกล้เคียงกับเทพมาก… เราสัมผัสโดยเพียงครู่เดียว เกือบต้องแก่ตายคาที่… ไม่แน่ใจว่าการตายแบบนี้จะคืนชีพได้ไหม… หลังจากตรวจสอบสภาพร่างกายตัวเอง ไคลน์รีบเงยหน้าคุยกับเลียวนาร์ดบนท้องฟ้า
“จะช่วยคนที่เคยถูกอามุนด์สิงได้ยังไง?”
ทันใดนั้น นาฬิกาโบราณมายาด้านหลังเลียวนาร์ด เลือนหายไปอย่างรวดเร็ว กระจัดกระจายกลายเป็นจุดแสงและกลับไปรวมในตัวนักกวีหนุ่ม
เลียวนาร์ดเอียงคอเล็กน้อย คล้ายกับกำลังตั้งใจฟังบางอย่าง จากนั้นก็กล่าว
“ตะกอนพลังของ ‘หนอนกาลเวลา’ ในร่างกายพวกเขาถูกขจัดออกไปหมดแล้ว แต่ยังหลงเหลือร่องรอยบางอย่างที่ยังไม่หมด แต่นั่นก็ส่งผลกระทบไม่มากนัก… ไม่สิ… การที่ตาแก่บอกว่าไม่มาก นั่นอาจเป็นในมุมมองของเทวทูต… สรุปโดยสั้น คุณสามารถบอกให้พวกเขาสวดวิงวอนถึงเทพที่ตัวเองศรัทธา ร้องขอการขจัดปัดเป่า แต่ถ้าไม่อธิบายให้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น เกรงว่าเทพก็คงไม่ตอบสนอง… ถ้ากังวลเกี่ยวกับปัญหาที่จะตามมา คุณสามารถพิจารณาแนะนำให้เขา… เอ่อ… สวดวิงวอนถึง… ตัวตนลึกลับ… วัตถุทุกชิ้นที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการดังกล่าว ตาแก่ยกให้พวกคุณทั้งหมด”
บางที อาจเป็นเพราะประสบการณ์การปะทะกันระหว่างเทวทูต หรือไม่ก็การได้เห็นภาพมายาของอสรพิษแห่งชะตาอย่างใกล้ชิด เลียวนาร์ดยังมิอาจขจัดอาการตื่นเต้นและสั่นคลอนภายในใจ
ชาวเมืองในละแวกนี้ส่วนใหญ่นับถือเทพธิดา แล้วจะโน้มน้าวยังไงให้สวดวิงวอนถึงเดอะฟูล? เราไม่อยากถูกลักพาตัวเข้าไปในหมู่บ้านสายหมอกนั่นอีกแล้ว… อา… เทพธิดาทราบเรื่องนี้แล้ว พระองค์น่าจะตอบสนองและช่วยเหลือ… หลังจากนั้น เราก็ขอให้มาดามอาเรียนน่าคืนซาก ‘หนอนกาลเวลา’ ที่แต่ละคนพ่นออกมาให้เรา… เอ่อ… แบ่งให้พวกเขาสักนิดด้วยดีกว่า… ท่ามกลางกระแสความคิด ไคลน์เริ่มโล่งใจ
มันถามโดยไม่มองหน้า
“หลังจากขจัดปัดเป่าอย่างสมบูรณ์ จะยังเหลือผลข้างเคียงอีกไหม?”
แม้มันจะเคยมีประสบการณ์ในกรณีของเดอะซันน้อยมาแล้ว แต่ผลลัพธ์อาจไม่เหมือนกัน เพราะเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นผู้วิเศษ
เลียวนาร์ดทำหน้าฟังสักพักก่อนจะตอบ
“ก็นิดหน่อย… เนื่องจากเป็นการ ‘สิงร่าง’ ในฐานะปรสิตโดยสมบูรณ์ ถึงคนธรรมจะถูกฟื้นฟูจนกลับเป็นปรกติ แต่ก็จะยังหลงเหลือผลกระทบบางอย่าง เช่นการชอบสวมแว่นตาขาเดียว”
“…ตกลง คุณกลับไปก่อน ผมจะจัดการที่เหลือเอง” ไคลน์พยักหน้ารับ โชคดีที่ไม่มีผู้เกี่ยวข้องคนใดใช้พลังทำลายล้างออกมา ไม่อย่างนั้น อย่าว่าแต่ถนนเบิร์คลุน เกรงว่าเขตเหนือทั้งเขตอาจถูกลบออกจากแผนที่
…
ท่าเรือพริสต์ ชายหนุ่มผมดำ ตาสีดำ ใบหน้าผอมเพรียว สวมแว่นตาขาเดียว ขี่จักรยานกลับบ้านด้วยท่าทีสบายใจ
ใบหน้าของมันกำลังเผยรอยยิ้ม หลังจากเปิดตู้จดหมาย มันนำหนังสือพิมพ์และจดหมายข้างในออกมา
ขณะเดินเข้าบ้าน ชายหนุ่มใช้มือขวาจับแว่นตาขาเดียว อีกมือหนึ่งแกะซองและอ่านจดหมาย จนกระทั่งได้พบกับจดหมายที่ไม่ได้ลงนาม
“หากพวกเราทุกคนในเบ็คลันด์ขาดการติดต่อ หมายความว่าพาลีส·โซโรอาสเตอร์ซ่อนตัวอยู่ใกล้กับถนนเบิร์คลุนทางเขตเหนือ… อย่าได้ถามว่าทำไมพวกเราถึงต้องเสี่ยง ชีวิตคนเราต้องการแรงกระตุ้น ความสนุกสนาน และความตื่นเต้นเสมอ”
………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ