สรุปเนื้อหา ราชันเร้นลับ 1013 : ต่างคนต่างเติบโต – ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ โดย Internet
บท ราชันเร้นลับ 1013 : ต่างคนต่างเติบโต ของ ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
แต่หลังจากสร้างใหม่ ชั้นล่างมีเฉลียงขนาดเล็กรอบทางเข้า ซ้ายขวาเป็นมุขหน้าต่างสองบานสูงจากชั้นหนึ่งถึงชั้นสอง กรอบหน้าต่างและต้นเสาหินคั่นกลางที่ถูกตกแต่งอย่างประณีต คอยค้ำจุนคานหินแนวนอนที่มั่นคงแข็งแรง ถัดขึ้นไปจากมุขหน้าต่างเป็นกำแพงอิฐสูงถึงชั้นสาม
นี่คือสถาปัตยกรรมอาคารสามชั้นที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหลายปีหลัง
ขณะจิตใจเริ่มเหม่อลอย เลียวนาร์ดรู้สึกราวกับตนมาผิดที่
มันได้สติหลังจากผ่านไปสิบวินาที ในสภาพถือไม้ค้ำเลี่ยมเงิน เลียวนาร์ดก้าวเข้าสู่อาคารหมายเลข 36 ถนนซุตแลนด์ เดินขึ้นบันไดวนจนกระทั่งเห็นประตูสีดำและป้ายแนวตั้ง
“บริษัทรักษาความปลอดภัยหนามทมิฬ”
อา… คล้ายกับมันได้รับความรู้สึกเก่าๆ กลับคืน เลียวนาร์ดเร่งความเร็ว ผลักประตูที่เปิดค้างไว้
ขณะกำลังอ่าน ‘ทิงเก็นซื่อตรง’ เมื่อสตรีผมสีน้ำตาลได้ยินเสียงฝีเท้าดังแว่ว เธอรีบขยับหนังสือพิมพ์ในมือจนเผยให้เห็นหน้าผากขาวเนียน ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน และใบหน้าน่ารักน่าเอ็นดู
“…ทิวาสวัสดิ์ โรแซน” เลียวนาร์ดทักทายด้วยความลังเลเล็กน้อย
โรแซนเผยสีหน้าตกตะลึงในตอนต้น ก่อนจะทำหน้าซึมและกล่าวเสียงเย็นชา
“ทิวาสวัสดิ์… ขอแสดงความยินดีที่ได้แก้แค้นให้หัวหน้ากับไคลน์”
เลียวนาร์ดอ้าปาก แต่ไม่รู้ว่าควรตอบสนองอย่างไร ไม่แม้แต่จะถอดหมวก ทั้งที่มันไม่ชอบใส่หมวก
มันฝืนยิ้ม พยักหน้าเล็กๆ และเดินผ่านโรแซน เข้าไปในประตูหลังฉากกั้น
ขณะจะเดินผ่านเข้าเขตสำนักงาน มันได้ยินเสียงโรแซนกล่าวแผ่วเบามาจากด้านหลัง
“ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุข…”
เลียวนาร์ดลดความเร็วลง ผงกศีรษะหนักแน่น
มาถึงเขตด้านใน เพียงไม่นานมันก็ได้พบกับฟรายที่กำลังยืนอยู่หน้าห้องหัวหน้า
ผู้เก็บซากศพยังคงมีผิวสีซีดเนื่องจากไม่ได้ตากแดดเป็นเวลานาน ผมสีดำ ตาสีฟ้า จมูกโด่งตั้งตรง ริมฝีปากบาง บรรยากาศเยือกเย็นและมืดมน
เลียวนาร์ดประสานสายตากับอีกฝ่ายสองวินาทีเต็ม ตามด้วยถอนหายใจ ยิ้มกว้างและพูด
“ไม่ได้เจอกันนาน”
“ทิวาสวัสดิ์ ไม่เจอกันนาน” ฟรายชี้ไปทางห้องทำงานของหัวหน้า “ผมได้รับโทรเลขและทราบความต้องการของคุณแล้ว จะมีเหยี่ยวราตรีสองคนออกไปทำภารกิจร่วมกับคุณ… แต่ก่อนอื่น คุณต้องกรอกเอกสารสำหรับเบิกสมบัติปิดผนึก”
เลียวนาร์ดยิ้มเล็กๆ เจือความประหลาดใจ
“คุณเป็นหัวหน้าแล้วหรือ? ไม่เงียบเหมือนเหมือนก่อนแล้วสินะ”
อันที่จริง เลียวนาร์ดย่อยโอสถนักปลอบวิญญาณเสร็จแล้ว สามารถเลื่อนเป็นลำดับ 5 จอมอาคมวิญญาณได้ทันที แต่เพื่อโอกาสในการขโมยหยดเลือดสุริยันเจิดจรัส มันจงใจรายงานเท็จและไล่ปลอบวิญญาณรอบๆ เบ็คลันด์จนหมด ในที่สุดก็มีข้ออ้างมาเยือนทิงเก็น
“ใช่” ฟรายพยักหน้า “อันที่จริง ผมก็ยังไม่ชอบพูดเหมือนเดิม แต่มันจำเป็นในฐานะหัวหน้า”
เลียวนาร์ดพยักหน้า
“คุณได้เป็นหัวหน้าตอนไหน? ผมไม่ได้ยินข่าวเลย…”
“เมื่อไม่นานมานี้เอง” ฟรายตอบห้วนในตอนต้น “หลังจากคุณออกไป ผมได้เลื่อนเป็นนักขุดสุสาน และประสบความสำเร็จในการเลื่อนเป็นผู้สื่อวิญญาณเมื่อเดือนก่อน… ประจวบเหมาะกับการที่หัวหน้าคนก่อนย้ายออกไปพอดี”
“เร็วมาก…” ยังไม่ทันจะกล่าวจบประโยค มันกำหมัดและทุบหัวตัวเองเบาๆ “ผมลืมไปได้ยังไงว่าไคลน์เคยแบ่งปันเรื่องนั้นกับทุกคนแล้ว”
มันลดมือลง หันไปยิ้มให้ฟราย
“ถ้าอย่างนั้น อนาคตของคุณค่อนข้างสดใสทีเดียว อาจไปถึงระดับอาวุโส”
ฟรายชำเลืองเล็กน้อย ถอนสายตากลับและตอบ
“ผมคิดว่าจะไม่เลื่อนลำดับอีกแล้ว”
“เพราะอะไร?” เลียวนาร์ดเดินไปข้างหน้าสองสามก้าว หยุดลงข้างๆ ฟรายด้วยสีหน้าประหลาดใจ
ฟรายแหงนมองเพดาน ตอบเสียงต่ำและเชื่องช้า
“ผมอยากอยู่ที่นี่… ปกป้องที่นี่… ตลอดไป”
เลียวนาร์ดแน่นิ่งไปพักใหญ่ ไม่มีการตอบสนองใดๆ
เมื่อมองไปรอบตัว มันพบว่าแม้ที่นี่จะถูกปรับปรุงครั้งใหญ่ แต่ลึกๆ แล้วยังมีบางสิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลง
หลังจากเงียบไปนาน ฟรายกล่าวต่อ
“ผมจะส่งคนไปกับคุณสองคน”
เสียงเพรียกที่ดังมาจาก ‘ปราชญ์เร้นลับ’ ยังคงกังวานในหัว แต่หญิงสาวกลับไม่พบว่ามันเป็นเรื่องที่น่าสยดสยองอีกต่อไป สามารถอดทนได้ดีกว่าเมื่อก่อน และในการมองเห็นปัจจุบัน ร่างมายาจำนวนมากที่ยากจะอธิบายกำลังลอยวนเวียน ซ้อนทับราวกับม่านแผ่นหนา มอบความรู้สึกคล้ายกับถูกจ้องมองจากที่ใดสักแห่ง
เมื่อเทียบกับอดีต ตัวเธอในตอนนี้สามารถมองเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่หลังม่านทึบได้ชัดเจน และยังสามารถมองเห็นหลากสีสันบนดวงจันทร์เหนือท้องฟ้า ไม่ว่าจะสีแดงเลือด สีเงิน สีน้ำตาลเข้ม สีน้ำเงินสว่าง ดูคล้ายกับดวงตาที่จ้องมองลงมายังโลก
แคทลียาพึมพำเล็กน้อยก่อนจะถอนสายตากลับ ไม่กล้ามองนาน
อาศัยการวิเคราะห์และจำแนกโลหิตของอสรพิษแห่งชะตา แคทลียาเสร็จสิ้นพิธีกรรมและได้รับเศษเสี้ยวความเป็นเทพ กลายเป็น ‘ปราชญ์พิศวง’ ลำดับ 4 แห่งเส้นทางผู้ส่องความลับ
อย่างไรก็ตาม เธอยังไม่ลืมในสิ่งที่ราชินีเงื่อนงำเตือน:
จากยี่สิบสองเส้นทางทั้งหมด ลำดับ 4 ของเส้นทางผู้ส่องความลับต้องเผชิญความเสี่ยงมากกว่าใคร เพราะมักจะได้เห็นในสิ่งที่ไม่ควร ได้ยินในสิ่งที่ไม่ควร และสัมผัสในสิ่งที่ไม่ควร
ดังนั้น หากปราชญ์พิศวงอยากมีอายุยืน ต้องรู้จักระงับความอยากรู้อยากเห็น ต้องควบคุมพฤติกรรมอย่างเคร่งครัด
หลังจากนำแว่นที่ห้อยบนเสื้อมาสวมดั้งจมูก แคทลียาพบว่า ภาพเหนือธรรมชาติที่ไม่ควรมีอยู่บนโลกความจริง มิได้เลือนหายไปจากการมองเห็น
เธอส่ายหน้าเล็กน้อย เกิดเป็นความพอใจกึ่งรำพัน ยอมรับชะตากรรมว่าแว่นตาอันนี้ไม่สามารถปิดกั้นเนตรส่องความลับได้อีกต่อไป
เธอหลับตาลงและลืมขึ้นใหม่ ดวงตาของหญิงสาวกลับไปเป็นสีเข้มตามปรกติ ปราศจากแสงสีม่วงเข้มและเงินสว่าง
ฟู่ว… แคทลียาถอนหายใจโล่งอก เดินกลับไปทางอนาคตกาลอย่างไม่รีบร้อน ประหนึ่งแค่ออกมาเดินเล่นกินลมชมวิว
หญิงสาวมิได้คิดจะประกาศตัวว่าตนกลายเป็นครึ่งเทพ และไม่รีบร้อนที่จะเลื่อนตำแหน่งไปเป็นราชาคนที่ห้าแห่งท้องทะเล เพราะสำหรับเธอ นี่เป็นหนึ่งในไพ่ตายแสนสำคัญบนโลกที่เต็มไปด้วยอันตราย หากไม่จำเป็นก็ไม่ควรรีบเผย
…
ย่านทิศใต้ของสะพานเบ็คลันด์ ถนนกุหลาบ
ขณะรถม้าของเอ็มลินเลี้ยวเข้ามาในถนน มันเห็นร่างอันพร่ามัวปรากฏขึ้นบนที่นั่งฝั่งตรงข้าม เป็นชายผมกระเซิง สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว เสื้อกั๊กสีดำ ไม่ใช่ใครนอกจากวิญญาณอาฆาตหนุ่ม
“ไม่ได้พบกันนาน มิสเตอร์มาริค” เอ็มลินเผยรอยยิ้มสงบนิ่ง
มาริคพยักหน้ารับ
“ผมมาเพื่อแจ้งว่า ทางเราพร้อมแล้ว สามารถปรึกษาแผนได้ทันที”
………………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ